วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 07:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2021, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


อามิสบูชาและปฏิบัติบูชา
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

รูปภาพ

ผู้ที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานผู้ที่จะเป็นพระอริยบุคคลได้ต้องมาจากผู้ปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่มีผู้ใดที่จะเป็นพระอริยบุคคลได้ด้วยการมาจากอามิสบูชา

การบูชาในพระพุทธศาสนานี้มีอยู่ ๒ รูปแบบด้วยกัน คือ ๑. อามิสบูชา และ ๒. ปฏิบัติบูชา นี่คือวิธีบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ของชาวพุทธเรา พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ ๒ รูปแบบด้วยกัน รูปแบบแรกเรียกว่า “อามิสบูชา” คือการบูชาด้วยเครื่องสักการะต่างๆ เช่น ดอกไม้ธูปเทียนหรือการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใส่บาตร การถวายสังฆทาน การถวายผ้าป่าผ้ากฐิน การสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์ สร้างกุฏิ สร้างวิหาร สร้างพระพุทธรูป สร้างถาวรวัตถุต่างๆ ให้แก่พระพุทธศาสนา คือการทำบุญทำทานด้วยวัตถุทาน นี่คือวิธีบูชาด้วยอามิสบูชา พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าการบูชาด้วยอามิสบูชานี้ได้บุญน้อยกว่าการบูชาด้วยการปฏิบัติบูชา การบูชาด้วยอามิสบูชา อานิสงส์ก็จะพาให้ผู้บูชาเวลาตายไปได้เกิดในสุคติ ไปเกิดในสวรรค์ชั้นต่างๆ ส่วนผู้ที่บูชาด้วยการปฏิบัติบูชาจะได้พระนิพพาน จะได้การหลุดพ้นจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ผู้บูชาด้วยอามิสบูชายังต้องเวียนว่ายตายเกิดในสุคติ คือตายจากมนุษย์ก็ไปเป็นเทวดา จากเทวดาลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ มาทำบุญทำทานใหม่แล้วก็กลับไปเป็นเทวดาใหม่ จะต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติบูชาก็จะได้บรรลุโลกุตตรธรรม ได้วิมุตติ ได้หลุดพ้นจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ได้เป็นพระอริยสงฆ์สาวก เริ่มตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าการบูชา ๒ รูปแบบนี้ การบูชาที่ถูกต้องที่สุดที่ดีที่สุดก็คือการปฏิบัติบูชา เพราะนี่คือเจตนารมณ์ของการประกาศพระธรรมคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าให้แก่สัตว์โลก เป้าหมายก็คือให้สัตว์โลกได้หลุดออกจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏนี้เอง เพราะถ้าไม่มีการสั่งการสอนของพระพุทธเจ้าให้แก่สัตว์โลก สัตว์โลกจะไม่รู้จักวิธีที่จะดึงใจของตนให้หลุดออกจากสังสารวัฏจากไตรภพได้เลย ดังนั้นผู้ใดอยากจะบูชาพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริงต้องบูชาด้วยการปฏิบัติบูชา ดังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งคำสอนของเรา ผู้นั้นแลคือผู้บูชาเราตถาคต ถ้าอยากจะบูชาเราขอให้บูชาด้วยการปฏิบัติบูชา แต่ถ้ายังไม่สามารถปฏิบัติบูชาได้ ก็ให้บูชาด้วยอามิสบูชาไปก่อน เพราะการบูชาด้วยอามิสบูชาจะเป็นการปูทางสู่การปฏิบัติบูชาต่อไป ดังนั้นสำหรับผู้ที่เริ่มต้นก็เริ่มต้นด้วยอามิสบูชา กราบไหว้พระพุทธรูป จุดธูปเทียน ถวายธูปเทียนดอกไม้ ถวายเครื่องสักการะต่างๆ แล้วก็ทะนุบำรุงพระศาสนาตามโอกาสตามกำลังของตน ใส่บาตรได้ก็ใส่บาตร ใส่บาตรไม่ได้ก็รอไปถวายสังฆทาน รอไปถวายผ้าป่าผ้ากฐิน หรือร่วมสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ร่วมสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์สร้างกุฏิสร้างศาลา สร้างที่ปฏิบัติธรรม สร้างห้องน้ำสร้างอะไรต่างๆ อันนี้เรียกว่าอามิสบูชา ผลก็คือได้สุคติได้เป็นเทวดา แต่ต้องไม่ทำบาปด้วย ถ้าทำบาปมากกว่าทำบุญ ผลของการทำบุญจะยังไม่เกิด เพราะจะถูกผลของบาปดึงเอาไปก่อน ดึงให้ไปเกิดในอบาย แต่ถ้าทำบุญแล้วก็ไม่ทำบาป ตายไปก็จะได้ไปสู่สุคติอย่างแน่นอน แต่ยังต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ต่อไป กลับมาแก่มาเจ็บมาตาย กลับมาทำบุญต่อแล้วก็กลับไปเป็นเทวดาต่อ หมุนเวียนไปอย่างนี้ในโลกของการเวียนว่ายตายเกิด

ถ้าอยากจะออกจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องกลับมาแก่มาเจ็บมาตายอยู่เรื่อยๆ ก็จะต้องหัดปฏิบัติบูชากัน การปฏิบัติบูชาก็เริ่มด้วยศีล สมาธิ และปัญญา เริ่มด้วยศีล ตามด้วยสมาธิ ตามด้วยปัญญา ศีลก็ต้องเพิ่มจากศีล ๕ ขึ้นไปเป็นศีล ๘ เช่น เริ่มต้นก็หัดถือศีล ๘ ในวันหยุดทำงานที่เราเรียกว่าวันพระ สมัยก่อนวันหยุดทำงานจะตรงกับวันพระ สมัยนี้บางทีวันหยุดทำงานไม่ตรงกับวันพระ เราก็ต้องถือวันหยุดทำงานเป็นวันพระเป็นวันที่เราจะไปปฏิบัติบูชากัน วันพระนี้มีไว้เพื่อปฏิบัติบูชาเพื่อที่เราจะได้มีเวลาไปวัดไปปฏิบัติศีล ศีล ๘ ไปปฏิบัติสมาธิ ไปปฏิบัติปัญญาด้วยการฟังเทศน์ฟังธรรม วันพระเป็นวันฟังธรรม วันธัมมัสสวนะ นี่แหละคือวิธีบูชาพระพุทธเจ้าที่พระพุทธเจ้าทรงต้องการให้เราบูชากัน ถ้าอยากจะบูชาพระพุทธเจ้าให้บูชาด้วยการปฏิบัติบูชา อย่าบูชาด้วยอามิสบูชาเพียงอย่างเดียว อามิสบูชาก็บูชาไปตามความเหมาะสม ตามเหตุการณ์ มีความจำเป็นจะต้องสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์ก็สร้างกันไป มีความจำเป็นจะต้องสร้างพระพุทธรูปก็สร้างกันไป แต่อย่าทำแต่อามิสบูชาเพียงอย่างเดียว ต้องทำปฏิบัติบูชาควบคู่ไปด้วยถึงจะได้บูชาพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เช่น อาทิตย์หนึ่งวันหยุดเข้าวัดกัน เข้าวัดไปปฏิบัติบูชากัน เพราะวันพระที่เราเข้าวัดนี้จะมีการปฏิบัติบูชาในวัดกัน มีอามิสบูชาด้วยใส่บาตรถวายอาหารภัตตาหารให้กับพระสงฆ์ แล้วก็ฟังเทศน์ฟังธรรมก็จะได้ปฏิบัติปัญญา แล้วก็นั่งสมาธิกัน รักษาศีล ๘ กัน ถ้าปฏิบัติในอุโบสถในโบสถ์ศีล ๘ ก็จะเรียกว่าเป็นศีลอุโบสถ แต่ก็เป็นศีล ๘ เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่สะดวกปฏิบัติที่วัดเพราะยังมีภารกิจต้องกลับไปเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหรือมีภาระอะไรที่มาค้างคืนที่วัดไม่ได้ ก็ต้องมาแบบเช้าเย็นกลับ มาทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม ถ้าไหว้พระสวดมนต์ได้ก่อนจะกลับก็ไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิ แล้วค่อยกลับไปรักษาศีล ๘ ต่อที่บ้าน แล้วก็ไปปฏิบัติต่อที่บ้าน ไปไหว้พระสวดมนต์ที่บ้าน ไปนั่งสมาธิที่บ้าน ไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่บ้านก็ได้


สมัยนี้มีธรรมไปถึงบ้านเราหลายทางด้วยกัน มีเครื่องเล่นซีดีก็เปิดฟังได้ มีเครื่องเล่นแฟลชไดร์ฟก็เปิดฟังได้ มีหนังสือธรรมะก็อ่านได้ สมัยนี้เราไม่จำเป็นจะต้องเข้าวัดเพียงอย่างเดียถึงจะได้ปฏิบัติธรรม ถ้าอยู่บ้านแล้วมีเวลาไม่มีใครมารบกวน อยู่บ้านที่สงบเงียบก็สามารถที่จะปฏิบัติบูชาได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการไปปฏิบัติบูชาที่วัด เพราะวัดนี้เป็นที่พร้อมกว่า ถ้าเปรียบก็เหมือนโรงพยาบาล รักษาตัวที่บ้านกับรักษาตัวที่โรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลนี้พร้อมมากกว่า มีเครื่องไม้เครื่องมือมีแพทย์มีพยาบาลตลอดเวลา ถ้ารักษาที่บ้านก็อาจจะมีแพทย์พยาบาลมาเยี่ยมเป็นช่วงๆ เครื่องไม้เครื่องมือก็อาจจะมีไม่ครบ ถ้าอยู่ที่โรงพยาบาลนี้จะมีทุกสิ่งทุกอย่างครบบริบูรณ์ที่จะคอยรักษาร่างกายให้หายได้ การไปวัดก็เป็นเหมือนการไปรักษาจิตใจ ที่วัดมีเครื่องมือพร้อมมากกว่าที่บ้าน รักษาจิตใจที่บ้านนี้อาจจะไม่หายแต่ถ้าไปรักษาจิตใจที่วัดนี้หายเหมือนกับการไปรักษาที่โรงพยาบาล ดังนั้นผู้ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติบูชาก็ควรเริ่มอาทิตย์ละ ๑ วัน วันที่ว่างจากภารกิจการงานต่างๆ แล้วก็ไปวัดที่มีการปฏิบัติบูชา วัดที่มีการแสดงธรรม วัดที่มีการนั่งสมาธิ วัดที่มีการรักษาศีล ๘ พอเราไปอยู่ที่สถานที่ที่มีการปฏิบัติเหล่านี้ เราก็จะได้ร่วมปฏิบัติกับผู้ที่อยู่ที่สถานที่นั้น เราก็จะได้เริ่มปฏิบัติบูชากัน

เมื่อเราได้เริ่มทำแล้วต่อไปเราก็จะอยากทำเพิ่มมากขึ้น เพราะประโยชน์สุขที่ได้จากการปฏิบัติบูชามันได้ดีกว่าได้มากกว่าประโยชน์ที่ได้จากอามิสบูชา ก็อยากที่จะมีการปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น อาจจะไปวัดเพิ่มมากขึ้น จากอาทิตย์ละ ๑ วัน ไปเป็น ๒ วัน เป็น ๓ วัน ต่อไปก็อาจจะไปอยู่วัดนานๆ หรืออยู่แบบไม่กลับเลยเพราะ “รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง” พอได้สัมผัสกับรสของธรรมที่เกิดจากการปฏิบัติบูชาแล้ว ใจจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้น ความทุกข์ความวุ่นวายใจต่างๆ จะน้อยลงไป จะทำให้ไม่อยากจะกลับไปบ้านเพราะเวลากลับไปบ้านทีไรนี้ความวุ่นวายมันกลับมาทันที กลับไปหาความวุ่นวาย พอไปอยู่วัดนี้ความวุ่นวายหายไป ก็จะเห็นคุณค่าของการไปอยู่วัดการไปปฏิบัติที่วัดก็เลยอยากจะอยู่วัดไปเรื่อยๆ บางท่านก็เลยบวชเลยจะได้ไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับการทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะเมื่อเป็นนักบวชแล้วก็จะมีผู้ยินดีที่จะสนับสนุนเรื่องการเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อยู่วัดไม่มีวันอดตาย แต่ต้องอยู่ด้วยการปฏิบัติบูชา ถ้าอยู่ด้วยหมาวัดก็จะไม่ได้ประโยชน์ หมาวัดก็ไม่อดตายเหมือนกัน แต่อยู่แบบหมาวัด คือเอาแต่กินแต่นอน ซึ่งถ้าเจ้าอาวาสรู้เข้าก็อาจจะไล่ออกจากวัดไป ถ้าใครไปอยู่วัดเพื่อหวังที่จะไปอาศัยวัดเป็นที่อยู่ที่กินที่นอนเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นที่ปฏิบัติบูชา เจ้าอาวาสรู้เข้าเจ้าอาวาสก็อาจจะขอเชิญให้กลับไปบ้าน แต่ถ้าอยู่วัดเพื่อปฏิบัติบูชาเจ้าอาวาสจะยินดีต้อนรับเสมอ จะอยากให้อยู่ไปนานๆ เพราะผู้ปฏิบัติบูชาจะทำคุณทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาได้อย่างมากมายหลังจากที่ได้บรรลุผลของการปฏิบัติแล้ว จะเป็นผู้ที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนมั่นคงอยู่เป็นเวลาอันยาวนาน ดังนั้นผู้ใดที่ไปอยู่วัดด้วยปฏิบัติบูชานี้อย่าไปคิดว่าขอวัดกินขอวัดอยู่ อันนี้ถือว่าไปบูชาพระพุทธเจ้า ไปปฏิบัติบูชา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บวชก็เหมือนกับเป็นนักบวช การบวชนี้เป็นเพียงการใส่เครื่องแบบเท่านั้นเอง คือโกนหัวแล้วก็ห่มขาวหรือห่มเหลือง แต่ถ้าไม่ปฏิบัติบูชาก็เป็นเหมือนหมาวัด ถ้าปฏิบัติบูชาถึงแม้จะไม่ได้ห่มเหลืองห่มขาว ไม่ได้โกนศีรษะก็ยังถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติบูชาอยู่ เป็นผู้ที่จะสนับสนุนสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อเป็นที่พึ่งของสัตว์โลกต่อไปอีกเป็นเวลาอันยาวนาน เพราะผู้ที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานผู้ที่จะเป็นพระอริยบุคคลได้ต้องมาจากผู้ ปฏิบัติบูชาเท่านั้น ไม่มีผู้ใดที่จะเป็นพระอริยบุคคลได้ด้วยการมาจากอามิสบูชา

สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
พระจุลนายก (พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)
วัดญาณสังวรราม วรมหาวิหาร จ.ชลบุรี
:b8: :b8: :b8:

:b47: รวมคำสอน “พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=47981


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร