วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 09:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2013, 00:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
แม่น้ำเนรัญชรา ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “ลิลาจัน”


แม่น้ำเนรัญชรา
แม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติ

ตำบลพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

:b47: :b45: :b47:

แม่น้ำเนรัญชรา แม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติ ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “ลิลาจัน” มาจากคำสันสกฤตว่า “ไนยรัญจนะ” แปลว่า แม่น้ำที่มีสีใสสะอาด แม่น้ำทั้งสายกว้างราว ๑ กิโลเมตร แต่จริงๆ แล้วแม่น้ำเนรัญชรามีแต่ทรายเป็นเส้นทางสีชาใส่นมสายคดเคี้ยวเต็มไปหมด ทางน้ำไหลก็ตื้นเขินมาก และผู้คนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้ จะมีน้ำไหลหลากก็เฉพาะฤดูฝน ว่ากันว่าเป็นเพราะการสูบน้ำบาดาลทำให้แม่น้ำเปลี่ยนทางเดิน ขณะที่รถวิ่งไปตามถนนตอนเช้า แล้วมองออกไปสองข้างทางท้องทุ่ง จะเห็นแขกนั่งถ่ายกันเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นธรรมดาทั่วไป แขกบ้านนอกจะไม่มีส้วม ก็คงจะเหมือนกับประเทศไทยในชนบทสมัยก่อน

ในสมัยพุทธกาล แม่น้ำเนรัญชราไหลผ่านเมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำเนรัญชรา อันเป็นภูมิสถานที่สงบน่ารื่นรมย์ พระมหาบุรุษทรงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียร ทรงประทับอยู่ ณ ที่นี้ นานถึง ๖ ปี พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาและเปลี่ยนมาทรงดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทา จนได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราแห่งนี้

ขณะที่พระพุทธองค์บำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ที่เขาดงคสิริ ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม อยู่ไม่ห่างไกลกับบ้านนางสุชาดา ซึ่งเป็นธิดาของคหบดีผู้มั่งคั่งในตำบลนั้น มีบ้านอยู่บนเนินเขา อยู่ริมฝั่งทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเนรัญชรา ภิกษุทั้ง ๕ รูป คือ ปัญจวัคคีย์ ก็คอยเฝ้าปฏิบัติบำรุง หวังไว้ว่าเมื่อตรัสรู้แล้วจะได้แสดงธรรมโปรดตน ต่อมาพระสิทธัตถะทรงพิจารณาเห็นชัดว่า ทุกรกิริยาไม่ใช่ทางแห่งการตรัสรู้แน่นอน จึงกลับเสวยพระกระยาหารตามเดิม แล้วหันมาบำเพ็ญเพียรทางจิต ปัญจวัคคีย์เห็นเช่นนั้นเลยเข้าใจว่า พระองค์คงจะละความเพียรพยายาม หมดหวังในการตรัสรู้ จึงพากันละทิ้งพระองค์ไปอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี นางสุชาดาได้นำข้าวมธุปายาสใส่ถาดทองคำจนเต็มไปถวายพระพุทธองค์ ซึ่งประทับอยู่ที่โคนต้นไทร หันพระพักตร์ทางทิศตะวันออก พระสิทธัตถะได้เสวยจนหมด แล้วทรงถือถาดลงไปสู่แม่น้ำอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า “ถ้าหากข้าพเจ้าจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดนั้นจงลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป”

ด้วยอานุภาพบารมีของพระองค์ ถาดทองคำก็ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไปประมาณ ๑ เส้น แล้วจมลงในเส้นดิ่งตรงกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ ซึ่งอยู่บนฝั่งทางทิศตะวันตกบริเวณ “พระมหาโพธิเจดีย์” ซึ่งเป็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมจะอยู่ภายในกำแพง ผู้ที่จะเข้าไปก็ต้องถอดรองเท้าไว้ที่ประตูชั้นนอก พระเจดีย์มีความสูงถึง ๑๗๐ ฟุต และตัวพระเจดีย์ก็อยู่ลึกกว่าพื้นดินอีกประมาณ ๕ เมตร พระเจดีย์ชั้นนอกเป็นที่สำหรับบูชาธูปเทียน ส่วนชั้นในเป็นที่ประดิษฐานขององค์พุทธปฏิมา ซึ่ง ณ บริเวณนั้นเสียงเงียบกริบ บรรยากาศเย็นสนิท มีชาวธิเบต (ซึ่งทำการกราบ ๕ จุดอยู่) พม่า ญี่ปุ่น ไต้หวัน ตลอดจนชาวตะวันตกเป็นจำนวนมากได้มาเคารพบูชาสถานที่นี้

เมื่อออกจากพระมหาโพธิเจดีย์แล้วไปทางขวามือ อ้อมไปด้านหลังก็จะมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมี “พระแท่นวัชรอาสน์” หรือโพธิบัลลังก์ เป็นแท่นหินทรายคั่นอยู่ระหว่างกลาง เมื่อมองดูก็ทำให้รู้สึกว่า พระเจดีย์สร้างเบียดกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ จึงทำให้กิ่งของต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้องโน้มไปทางทิศตะวันตก ต้นพระศรีมหาโพธิ์มีลำต้นใหญ่ขนาด ๓ คนโอบ ทุกวันนี้รัฐบาลอินเดียให้การเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้อายุยืนที่สุด โดยให้มีนักพฤกษศาสตร์ตรวจตราดูทุก ๗ วัน กับทั้งจัดสร้างกำแพงกั้นล้อมต้นพระศรีมหาโพธิ์เอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามผู้เข้ามานมัสการก็สามารถเข้าไปถึงพระแท่นวัชรอาสน์และต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ มีอายุยืนถึงทุกวันนี้กว่า ๑๓๓ ปีเท่านั้น เป็นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ ๔ โดยที่ต้นที่ ๒ และ ๓ ก็เป็นหน่อที่ขึ้นตรงที่ต้นเดิมทุกต้น บริเวณรอบพระเจดีย์ก็จะมีผู้คนและนักบวชเป็นจำนวนมากจากประเทศต่างๆ กำลังสวดมนต์ กราบไหว้บูชา เดินจงกรม และบางคนก็นำก้อนกรวดขนาดต่างๆ กันมาทำการขัดก้นภาชนะทองเหลืองจนเห็นเป็นมันวาว ทั้งนี้เพื่อเปรียบเสมือนการขัดเกลากิเลสที่อยู่ในจิตใจให้เบาบางลง



:b39: ที่มา >>> พุทธสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2015, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4A ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร