วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 12:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2008, 10:18
โพสต์: 185


 ข้อมูลส่วนตัว


ม้าอาชาไนย และบุคคลอาชาไนย


ธรรมะ แปลว่า สภาวธรรมที่รักษาบุคคลไม่ให้ตกไปทางที่ชั่ว อุปมาเหมือนการที่เราจะข้ามฟากเราต้องอาศัยเรือ เรือจะรองรับคนที่ข้ามฟาก

ธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเดียว บุคคลที่มีใจเป็นธรรมะนั้นย่อมไม่ตกไปในที่ชั่ว ฉันใดก็ฉันนั้น เราควรน้อมนำมาเมื่อได้ยินก็ดี เมื่อได้เห็นก็ดี เมื่อเห็นคนอื่นก็ดี ให้คิดว่าชีวิติของเราไม่แน่นอนเราต้องปลง ปลงว่าชีวิตไม่แน่นอน พยาธิจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และเวลาตายนี้เมื่อไร ตอนเช้า หรือตอนค่ำป่าช้าของกูนี่จะอยู่ที่ไหนหนอ อีกอย่างที่แน่นอนมีทางเดินอยู่ 3 ทางที่จะไปคือ จะไปนรก หรือสวรรค์ หรือมรรคผล นิพพาน ธรรมะที่มีอยู่ทั่วไปทั้งภายในและภายนอก พระพุทธองค์ก็ได้เอาสิ่งภายนอกมาเปรียบเทียบ เช่น ม้าอาชาไนย ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ได้แสดง แก่พระภิกษุทั้งหลายว่า “จัตตาโรเม ภิกขะเว ภัทรา อัสสาชานียา สันโต สังวิชชะมานา โลกัสะมิง” ม้าอาชาไนยซึ่งเป็นม้าที่ดีในโลกนี้มี 4 จำพวก

ม้าอาชาไนยนี้เป็นม้าที่ฉลาดมากแต่ว่าเมื่อเกิดมาแล้วแม่ตาย แต่ม้าอาชาไนยนี้มีความฉลาด ฉลาดยังไง

ตัวที่ 1 เวลาเจ้าของยกไม้แส้ขึ้นก็รู้แล้วว่าให้ทำอะไร
ตัวที่ 2 คือเงื้อมือแล้วก็ลงแส้ต้องที่ปลายขนแล้วจึงไป
ตัวที่ 3 ต้องแส้ลงที่ขุมขนมันจึงจะไป
ตัวที่ 4 จะต้องลงถึงกระดูกมันถึงจะไป


พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบม้า 4 จำพวกนี้กับพระภิกษุทั้งหลายว่า “จัตตาดรเม ภกขะเว ภัทราปุริสาอาชานียา สันโต สังวิชชะมานา โลกัสะมิ่ง”

บางคนได้ยินเท่านั้นเองก็รู้สึกแล้วว่าต้องทำอะไร แค่ได้ยินข่าว เช่น ได้ยินสิ่งที่ไม่ดีว่าฆ่ากันที่ในเมืองบ้าง รถยนต์ชนกันที่กรุงเทพฯตายได้ยินเท่านั้นเองก็รีบทำความดี รีบปฏิบัติ รีบศึกษาธรรมะ รีบทำประโยชน์ไว้ นี้พระพุทธองค์เรียกว่าอาชาไนยชั้น 1 เลย ได้ยินแล้วรีบทำ

คนที่ 2 เห็นกับตารถชนกันเห็นเขาคอหักแขนหักเกิดสติสังเวชขึ้นมา ก็ลงมือทำความดีปฏิบัติธรรม ฟังธรรม

คนที่ 3 เห็นญาติตัวเองเป็นโรค ประสพเรื่องร้ายแรง ก็คิดว่ามันจะต้องมาหาสักวัน ก็รีบทำความเพียร รีบศึกษา รีบปฏิบัติเลย

คนที่ 4 เป็นตัวเองภัยมาถึงตัวแล้ว นี้แหละไม่นึกไม่ฝันว่าเป็นอย่างนี้ เกิดความกังวลขึ้นมาว่าเวลาตายไปแล้วจะเอาอะไรไปเป็นที่พึ่งรีบทำความดีให้ศาสนา และสังคม

เราควรน้อมนำมาเมื่อได้ยินก็ดี เมื่อได้เห็นก็ดี เมื่อเห็นคนอื่นก็ดี ให้คิดว่าชีวิตของเราไม่แน่นอนต้องปลง ปลงว่าชีวิตไม่แน่นอนพยาธิจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และเวลาตายนี้เมื่อไร ตอนเช้า หรือตอนค่ำป่าช้าของกูนี่จะอยู่ที่ไหนหนอ อีกอย่างที่แน่นอนมีทางเดินอยู่ 3 ทางที่จะไปคือ จะไปนรก หรือสวรรค์ หรือมรรคผล นิพพาน

http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/D ... ma1/18.htm


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2014, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร