วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 20:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2012, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2012, 22:59
โพสต์: 12

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




3001-6.jpg
3001-6.jpg [ 55.42 KiB | เปิดดู 2559 ครั้ง ]
:b43: เราศรัทธาพระโพธิสัตว์กัน :b39: อย่างไร?

ศาสนาในประเทศจีน มีศาสนาใหญ่ๆอยู่ 3ศาสนา อันได้แก่ เต๋า ขงจื๊อ และพุทธ ศาสนาที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนเอง ส่วนศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เผยแผ่มาทางตะวันตก ศาสนาพุทธก็เป็นที่เคารพนับถือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขงจื่อและเต๋า ในแผ่นดินจีนจะมีภูเขาที่มีชื่อเสียงอยู่ 4 แห่ง ซึ่งมีปูชนียสถานทางพุทธศาสนาประดิษฐานอยู่ได้แก่ ภูเขาจิ่วฮัว มีพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่ ภูเขาอู่ไถ มีพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่ ภูเขาเอ่อเหมย มีพระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่ และภูเขาผู่ถัวมีพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมประดิษฐานอยู่ พระมหาโพธิสัตว์ทั้ง4 ก็ได้รับการยกย่องอย่างมากในพุทธศาสนามหายาน แต่พระโพธิสัตว์กวนอิมจะมีผู้นับถือมากที่สุด พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่เด็กตลอดจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ แม้แต่สตรีในศาสนาขงจื่อยังรู้จักดี ปัจจุบันพระโพธิสัตว์กวนอิมนับวันจะมีผู้นับถือมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะธรรมานุภาพของกวนอิม แต่ประชาชนส่วนใหญ่มักพระองค์ในทางหลงงมงาย ซึ่งทางตรงข้ามแล้ว จุดมุ่งหมายของพระโพธิสัตว์ต้องการให้ชาวโลกได้เข้าใจในพุทธธรรมเพื่อจะได้บรรลุถึงฝั่ง ในสัทธรรมปุณฑริกาสูตรกล่าวว่า “ สรรพสัตว์ที่ทุกข์กังวลตั้งใจสวดพระนาม พระโพธิสัตว์ก็จะเพ่งเสียงนั้น ล้วนจะได้รับหลุดพ้น พระองค์คือพระโพธิสัตว์กวนอิม ” จากอักษรไม่กี่ประโยคนี้จึงทำให้คนส่วนใหญ่หลงงมงายยิ่งขึ้น ขอเพียงให้เชื่อถือพระโพธิสัตว์กวนอิม ไม่คำนึงว่าตนเองจะประพฤติอย่างไร พระโพธิสัตว์กวนอิมก็จะมาปกป้องเขา ประทานความอยากให้พวกเขาสมหวัง ซึ่งสิ่งที่พวกเขากลัวกันมากที่สุดคือความตาย ตายแล้วก็ตกนรก ไม่ได้ไปผุดไปเกิด จึงทำให้มีการสวดพระนามของกวนอิม เพื่อให้อายุยืน มีการถือศีลกินเจ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อตายไปแล้วจะได้ไปเสพสุขที่พุทธภูมิ เพราะความโลภมากเห็นแก่ได้ของตนเองโดยไม่คำนึงสิ่งที่ตนเองได้กระทำอยู่ทุกวันล้วนเป็นบาป เพื่อสนองความศรัทธาสักการบูชา ผู้ที่อยากได้บุญวาสนาก็จะสักการะพระกวนอิมทรงจีวรขาว ผู้ที่อยากบุตรก็สักการะพระกวนอิมที่อุ้มเด็ก พวกชาวประมงที่จับปลาก็จะไหว้พระกวนอิมถือตะกร้าปลาฯ ต่างๆ เป็นต้น ทำให้รูปลักษณ์ของกวนอิมนับวันก็ยิ่งสับสนยิ่งขึ้น ซึ่งห่างไกลจากหลักธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคนที่บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงมีมากดุจขนวัว แต่ผู้ที่บรรลุธรรมมีน้อยดุจเขาวัว การที่ข้าพเจ้าได้แปลเรื่องพระโพธิสัตว์ให้ชาวไทยได้อ่านได้รู้จักเป็นประการแรก อีกประการหนึ่งก็เพื่อให้เห็นความแยบยลของพุทธธรรมทำให้ผู้หลงงมงายจะได้กระจ่างแจ้งในธรรมจะได้บรรลุถึงฝั่งนิพพาน แม้จะมีปณิธานที่สูง แต่จะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ยังไม่รู้ก่อนที่เริ่มเรื่องก็อยากพูดถึงพระธรรมกายของพระโพธิสัตว์กวนอิมว่าเป็นบุรุษหรือสตรี บ้างก็ว่าเป็นบุรุษบ้างก็ว่าเป็นสตรี เพราะยังได้สมัญญาว่พระแม่กวนอิม แต่ในหนังสือบันทึกของหูสือหลิง และบันทึกกวนอิมของฟ่งโจวจะบ่งชี้ว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นบุรุษ โดยมีหลักฐานอ้างอิงต่างๆนานา แต่ในพงศาวดารจีนฝ่ายเหนือได้บันทึกไว้ว่า ในความฝันของนายอวี่จื่อไฉที่พบเห็นกลับเห็นพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นสตรีงาม จักรพรรดิอู่เซินแห่งราชวงศ์ไป่ฉีก็ฝันเห็นพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นสตรีที่สวยงามเช่นกัน ปัญหานี้จึงไม่สามารถสะสางได้ง่ายนัก แต่จากหลักฐานในเรื่องราวของพระโพธิสัตว์กวนอิมก็จะสามารถอธิบายได้ ทั้งนี้เพราะพระโพธิสัตว์กวนอิมมีเมตตาห่วงใยชาวโลก จึงมักแปลงกายมาช่วยเหลือตามแต่บุญสัมพันธ์ มีการแปลงกายเป็นรูปลักษณ์ต่างๆกันถึง 33 รูปลักษณ์ตามแต่สถานการณ์ในขณะนั้น ดังนั้นเมื่อชาวบ้านในแต่ละท้องถิ่นที่ได้ประสบพบเห็นพระโพธิสัตว์ในรูปลักษณ์แบบไหน ก็มักจะสร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมตามที่ตนได้พบเห็นเพื่อสักการบูชา จึงทำให้รูปลักษณ์ของพระโพธิสัตว์กวนอิมมีอยู่ทั้งสิ้น มิใช่ในบันทึกจะเขียนแต่งเอาเองก็หาไม่ ดังจะยกตัวอย่างที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ ที่วัดเส้นหลินมีรูปปั้นของกวนอิมรูปหนึ่ง มีดวงเนตรกลมโตจมูกใหญ่ปากกว้างและหนา พระเกศาบนเศียรรกรุงรัง หูทั้งสองใหญ่โตแต่เปลือยเปล่า ในมือก็ถือตะบองทองคำ มองดูแล้วก็เหมือนหนึ่งในห้าร้อยพระอรหันต์ คนสามัญทั่งไปก็ไม่คิดจะเป็นกวนอิม แต่ที่วัดเส้าหลินตั้งรูปนี้อยู่ในหอกวนอิม พระในวัดก็บอกว่านี่คือโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งมองดูแล้วน่าแปลกใจ รูปปั้นหน้าตาแบบนี้จะเป็นโพธิสัตว์กวนอิมได้อย่างไรกัน ลองมาฟังประวัติกันดู วัดเส้าหลินมีประวัติอันยาวนานนับตั้งแต่พระโพธิธรรม (ปรมาจารย์ตั้กม้อ) ได้เริ่มก่อสร้างวัดนี้มีชื่อเสียงธรรมะแผ่ไพศาลแล้ว ยังมีวิทยายุทธ์ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในสมัยแรกที่สร้างวัดยังไม่มีหอกวนอิม พอมาในสมัยราชวงศ์หยวนพวกทหารแดงก่อการจลาจล พวกทหารเริ่มย่างเท้าเข้าสู่แผ่นดินตรงกลาง หัวหน้านายทหารแดงมีชื่อว่าลี่ฉวน ล่วงรู้ถึงความสามารถของวิทยายุทธ์วัดเส้าหลินจึงอยากที่เอาพวกพระภิกษุเหล่านั้นมาเป็นพวกด้วยจะได้มีประโยชน์แก่ตน แต่ไม่คาดคิดว่าพวกพระภิกษุของวัดเส้าหลินจะรักษาศีลวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่ยอมสวามิภักดิ์ด้วย จึงทำให้ลี่ฉวนรู้สึกเสียหน้าจึงเกิดขึ้น เลยนำกองทหารเข้าโจมตีวัด ในขณะนั้นแม้ว่าว่าพระภิกษุจะมีวิทยายุทธ์ดี แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ไม่อาจต้านทานกองทหารได้ ในภาวะที่วิกฤตเช่นนี้ก็เกิดมี่นเป็นพระพระภิกษุรูปหนึ่งในมือถือกระบองเหล็ก ทะยานเข้าใส่พวกทหารแดง หลายคนแลเห็นว่านั่นเป็นพระภิกษุที่เพ่งมาบวชใหม่ พวกตะบองเหล็กถูกยกขึ้นรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ตีจนพวกทหารล้มตายเป็นจำนวนมาก จนกะทั่งนายลี่ฉวนยอมแพ้จึงพาลูกน้องหลบหนีไป ในขณะนั้นหลายคนก็แลเห็นมีแสงทองส่องระยิบระยับมาที่ร่างของภิกษุรูปนั้น แล้วก็อันตรธานไปต่อหน้าต่อตา ทุกคนเที่ยวส่องหารอบด้านจึงมองเห็นภิกษุรูปนั้นยืนตระหง่านอยู่บนยอดเขา มีร่างกายสูงใหญ่ประมาณ 12 ฟุต แล้วบอกว่าตนเองคือพระโพธิสัตว์กวนอิม แปลงกายมาเป็นยมทูตเพื่อช่วยให้พ้นเภทภัย ดังนั้นทางวัดเส้าหลินจึงได้ปั้นรูปที่กวนอิมแปลงกายนั้น ให้เป็นรูปศักดิ์สิทธิ์เพื่อสักการะบูชา เรื่องนี้มีบันทึกอยู่วัดเส้าหลิน เรื่องนี้เป็นความจริงมิใช่แต่งขึ้น การที่พระโพธิสัตว์กวนอิมได้แปลงกายเป็นรูปลักษณ์ต่างๆกัน จึงเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์อันเป็นร่องรอยที่เหลือไว้ อยากรู้เรื่องพระโพธิสัตว์กวนอิมก็โปรดได้ติดตามตอนอ่านต่อไป
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร