วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


พรรษาที่ ๑

รูปภาพ

สัปดาห์แรกแห่งการตรัสรู้

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทับนั่งด้วยบัลลังก์อันเดียว
ที่โพธิรุกขมูลตลอด ๗ วันนั้น สถานที่นั้นชื่อ รัตนบัลลังก์เจดีย์

โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า แรกตรัสรู้ประทับอยู่
ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ในอุรุเวลาประเทศ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งด้วยบัลลังก์เดียว
เสวยวิมุตติสุข ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ตลอด ๗ วัน
และทรงมนสิการปฏิจจสมุปบาทเป็นอนุโลมและปฏิโลม
ตลอดปฐมยามแห่งราตรี



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๒ แห่งการตรัสรู้

พระผู้มีพระภาคเจ้าออกจากสมาบัติในวันที่ ๘ แล้ว
ประทับยืนจ้องดูด้วยพระเนตรมิได้กะพริบซึ่งพระบัลลังก์และโพธิพฤกษ์
อันเป็นสถานที่แห่งผลแห่งพระบารมี
ที่ทรงสร้างมาตลอด ๔ อสงไขยิ่งด้วยแสนกัปป์
ให้สัปดาห์ ๑ ผ่านพ้นไปทางด้านทิศอุดรเฉียงไปทางทิศปราจีน
(ทิศอิสาน) แต่พระบัลลังก์สถานที่นั้นชื่อ อนิมิสเจดีย์



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๓ แห่งการตรัสรู้

ลำดับนั้น เสด็จจงกรม ณ รัตนจงกรม อันยาวยืดไปข้างหน้าและข้างหลัง
ระหว่างพระบัลลังก์ (รัตนบัลลังก์เจดีย์) กับที่เสด็จประทับยืน (อนิมิสเจดีย์)
สัปดาห์ ๑ ผ่านพ้นไป สถานที่นั้นชื่อ รัตนจงกรมเจดีย์



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๔ แห่งการตรัสรู้

ต่อจากนั้น เทวดาทั้งหลายนิรมิตเรือนแก้วขึ้นทางด้านทิศประจิม
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จนั่งขัดสมาธิ ณ เรือนแก้วนั้น
ทรงพิจารณาพระอภิธรรมปิฎก ๗ คัมภีร์
คือ ธรรมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตถุ ยมก
และสมันตปัฏฐาน อนันตนัยโดยพิศดาร
พระฉัพพรรณรังสีก็แผ่ออกจากพระวรกายของพระองค์
สุดขอบเขตหมื่นโลกธาตุด้วยความลึกซึ้ง
สุขุมคัมภีรภาพ แห่งอรรถะของสมันตปัฏฐานอนันตนัยนั้น
ตลอดสัปดาห์ ๑ นั้น สถานที่นั้นชื่อ รัตนฆรเจดีย์



พระวินัยปิฏก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๕ แห่งการตรัสรู้

ในสัปดาห์ที่ ๕ จึงเสด็จจากควงโพธิพฤกษ์เข้าไปยัง ต้นอชปาลนิโครธ
ทรงนั่งพิจารณาพระธรรมและเสวยวิมุตติสุขอยู่ ณ ต้นอชปาลนิโครธ
แม้นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งด้วยบัลลังก์เดียวเสวยวิมุตติสุข
ณ ควงไม้อชปาลนิโครธตลอด ๗ วัน



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๖ แห่งการตรัสรู้

ครั้นล่วง ๗ วัน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงออกจากสมาธินั้น
เสด็จจากควงไม้อชปาลนิโรธเข้าไปยัง ต้นไม้มุจจลินท์
แล้วประทับนั่งด้วยบัลลังก์เดียวเสวยวิมุตติสุข
ณ ควงไม้มุจจลินท์ ตลอด ๗ วัน

ครั้งนั้น เมฆใหญ่ในสมัยมิใช่ฤดูกาลตั้งขึ้นแล้ว
ฝนตกพรำเจือด้วยลมหนาวตลอด ๗ วัน
ครั้งนั้น มุจจลินทนาคราชออกจากที่อยู่ของตน
ได้แวดวงพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า
ด้วยขนด ๗ รอบได้แผ่พังพานใหญ่เหนือพระเศียร
สถิตอยู่ด้วยหวังว่า ความหนาวอย่าเบียดเบียนพระผู้มีพระภาคเจ้า
ความร้อนอย่าเบียดเบียนพระผู้มีพระภาคเจ้า
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้น ว่าดังนี้

ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้สันโดษ มีธรรมปรากฏแล้วเห็นอยู่
ความไม่พยาบาท คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก
ความปราศจากกำหนัด คือ ความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ เป็นสุขในโลก
การกำจัดอัสมิมานะเสียได้นั้นแล เป็นสุขอย่างยิ่ง



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๗ แห่งการตรัสรู้

ครั้นล่วง ๗ วัน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงออกจากสมาธินั้น
เสด็จจากควงไม้มุจจลินท์เข้าไปยัง ต้นไม้ราชายตนะ
แล้วประทับนั่งด้วยบัลลังก์เดียวเสวยวิมุตติสุข
ณ ควงไม้ราชายตนะ ตลอด ๗ วัน

ครั้งนั้น ตปุสสะและภัลลิกะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วถวายบังคม ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงรับสัตตุผงและสัตตุก้อน
ของข้าพระพุทธเจ้าทั้งสอง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์
เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนาน


ครั้งนั้น ตปุสสะและภัลลิกะได้ทูลคำนี้
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าและพระธรรมว่าเป็นสรณะ
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าทั้งสอง
ว่าเป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป



พระวินัยปิฎก มหาวรรค

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


แก้ไขล่าสุดโดย SOAMUSA เมื่อ 06 มี.ค. 2013, 18:15, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัปดาห์ที่ ๘ แห่งการตรัสรู้

ครั้นล่วง ๗ วัน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงออกจากสมาธินั้น
แล้วเสด็จจากควงไม้ราชายตนะเข้าไปประทับอยู่
ควงไม้อชปาลนิโครธ
และพระองค์เสด็จไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่
ได้มีพระปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า

"ธรรมที่เราได้บรรลุแล้วนี้ เป็นคุณอันลึก เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก
เป็นธรรมสงบ ประณีต ไม่หยั่งลง สู่ความตรึก ละเอียด
เป็นวิสัยของบัณฑิตจะพึงรู้แจ้ง
ฐานะคือความที่อวิชชาเป็นปัจจัยแห่งสังขารเป็นต้นนี้
เป็นสภาพอาศัยปัจจัยเกิดขึ้นนี้ แม้ฐานะคือธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง
เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่สิ้นกำหนัด เป็นที่ดับสนิท
หากิเลสเครื่องร้อยรัดมิได้ นี้ก็แสนยากที่จะเห็นได้
ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม สัตว์เหล่าอื่นก็จะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเรา
ข้อนั้นจะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อยเปล่าแก่เรา
จะพึงเป็นความลำบากเปล่าแก่เรา"

ลำดับนั้น ท้าวสหัมบดีพรหม ได้หายจากพรหมโลก
มาปรากฏ ณ เบื้้องพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ดุจบุรุษมีกำลังเหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียดฉะนั้น
ครั้นแล้วห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า
คุกชาณุมณฑล (เข่า) เบื้องขวาลงบนแผ่นดิน
ประณมอัญชลีไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

"พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าได้โปรดทรงแสดงธรรม
ขอพระสุคตได้โปรดทรงแสดงธรรม
เพราะสัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีในจักษุน้อยมีอยู่
เพราะไม่ได้ฟังธรรมย่อมเสื่อม ผู้รู้ทั่วถึงธรรมจักมี"



พุทธวรรค อปทาน
พระวินัยปิฎก มหาวรรค


จากหนังสือ ธัมมเจติยะ พระบรมศาสดา
นายพรชัย เจริญดำรงเกียรติ
นายณรงค์-ดร.ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์
ในนามคณะผู้จัดทำ

:b8: :b8: :b8:

สัปดาห์ที่ ๑-๔


:b47: :b47:

สัปดาห์ที่ ๕


:b47: :b47:

สัปดาห์ที่ ๖-๘

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอโมทนาบุญค่ะ ขอบคุณมากนะคะ :b8: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2014, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ
:b44: :b44: :b44:

:b42: ประวัติพระอภิธรรมปิฎก
จากหนังสือประตูสู่พระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ อชว.
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=47582

พระอรรถกถาจารย์เล่าความเป็นมาของพระอภิธรรมปิฎกไว้มีใจความว่า หลังจากพระผู้มีพระภาคตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ๓ สัปดาห์

ในสัปดาห์ที่ ๔ ทรงพิจารณาพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์นี้ติดต่อกันตลอด ๗ วัน ณ รัตนฆรเจดีย์ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ หลังจากตรัสรู้แล้ว ๗ พรรษาทรงแสดงยมกปฏิหาริย์ ณ ควงไม้คัณฑามพฤกษ์ เขตกรุงสาวัตถี แล้วเสด็จไปจำพรรษาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประทับ ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของท้าวสักกะ ซึ่งอยู่ภายใต้ต้นปาริชาต ได้ทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์โปรดพระพุทธมารดาที่ไปอุบัติเป็นสันตุสิตเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต และทวยเทพจากหมื่นจักรวาล ตลอดไตรมาสคือ

ทรงแสดงธัมมสังคณี ๑๒ วัน
ทรงแสดงวิภังค์ ๑๒ วัน
ทรงแสดงธาตุกถา ๖ วัน
ทรงแสดงปุคคลบัญญัติ ๗ วัน
ทรงแสดงกถาวัตถุ ๑๐ วัน
ทรงแสดงยมก ๑๒ วัน
ทรงแสดงปัฏฐาน ๒๕ วัน

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร