ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น (สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=38507 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 10 มิ.ย. 2011, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น (สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ) |
พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น คัดลอกจากหนังสือเรื่อง วิธีการของพระพุทธเจ้า (หัวข้อ พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น) พระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (สุวฑฺฒนมหาเถระ) พิมพ์น้อมถวายเป็นวิทยาทานโดยมหามงกุฏราชวิทยาลัย ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ หน้า ๒๔-๒๕ พระพุทธเจ้าได้ตรัสสรรเสริญกิจ ๒ อย่างว่า ควรทำ คือ พูดถูกต้อง หรือ นิ่งอย่างประเสริฐ ได้ทรงปฏิบัติเองและได้ทรงสั่งสอนให้ปฏิบัติกิจทั้งสองอย่างนี้ ตรัสเรียกว่าเป็น กรณียะ คือ ข้อที่ควรทำทีเดียว นึกถึงคนมีปากก็จะต้องพูด ถึงไม่พูดก็จะต้องคิด เพราะมีใจที่จะคิด จึงยากจะห้ามปากคนได้ ทั้งคนโดยมากย่อมพูดกันโดยไม่สำรวมระวัง เป็นเหตุให้เกิดความกระเทือนใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่ผู้ที่เป็นบัณฑิตมีใจเข้มแข็ง พระพุทธเจ้าเองก็ได้เคยทรงถูกกระพือข่าวนินทาว่าร้าย โดยมีต้นตอมาจากศัตรูแห่งพระศาสนาสร้างเรื่องขึ้น แต่ได้ตรัสว่า เสียงนี้จักมีไม่นาน จักมีประมาณ ๗ วันเท่านั้น และได้ตรัสสอนให้พวกภิกษุตอบในเมื่อถูกพวกคนด่าว่า “คนที่พูดด้วยคำพูดไม่จริงจะไปนิรยะ (นรก)” เป็นต้น ฝ่ายพวกคนที่ได้ฟังคำตอบนั้นก็เกิดสะกิดใจคิดว่า จะไม่จริงกระมัง แล้วก็เริ่มประหยัดถ้อยคำจนถึงสงบเงียบไปเอง ภายใน ๗ วันตามพุทธดำรัสตรัสกำหนดไว้ พระพุทธองค์ได้ทรงปรารภถึงปากคนนี้ จึงได้ตรัสอุทานขึ้นว่า “คนที่ไม่สำรวมย่อมพูดทิ่มแทง (คนอื่น) ด้วยวาจา ภิกษุฟังถ้อยคำหยาบคายที่คนอื่นๆ เปล่งออกมาพึงมีจิตไม่ขุ่นเคือง ทำใจให้ยับยั้ง อดกลั้นเหมือนอย่างช้างที่เข้าสงคราม” เรื่องที่ศัตรูพระศาสนาก่อขึ้นกระพือข่าวใส่ร้ายพระศาสดาครั้งนั้นร้ายแรง เพื่อให้คนทั้งปวงหมดศรัทธาเลื่อมใสในพระศาสนา การตอบที่ทรงใช้ก็มีทั้ง ๒ วิธีดังกล่าวข้างต้น คือ นิ่งกับพูด การที่ไม่พูดโต้แบบต่อคำ หรือตรงต่อเรื่อง เรียกได้ว่า นิ่ง การที่ตอบด้วยวาจาที่สะกิดใจให้ได้คิดว่า จะไม่จริงกระมังจนถึงตกลงใจว่า ไม่จริง เรียกว่า พูด การนิ่งหรือพูดชนิดที่ได้ผลดีเป็นกิจที่ควรทำ คนที่จะทำได้จะต้องเป็นคนฉลาด ที่ใช้ความคิดใช้ ปัญญา ให้รอบคอบแยบคาย ถ้าทำอย่างไม่ฉลาดก็จะเสียผล เช่น นิ่งในคราวที่ไม่ควรนิ่งจะกลายเป็นรับในเรื่องที่ไม่ต้องการรับ หรือปฏิเสธในเรื่องที่ไม่ต้องการปฏิเสธไปเสีย หรือพูดไม่ถูกไม่เหมาะจะกลายเป็นช่วยต่่อเรื่องให้ยาวให้ดังไกลออกไปอีก ฉะนั้นจึงต้องการปัญญาในการตัดสินว่า จะพูดหรือจะนิ่ง หรือจะพูดหรือจะนิ่งอย่างไร ปัญญาที่ต้องการก็อยู่ที่ความคิดนี่เอง ซึ่งทุกๆ คนมีอยู่ แต่อาจจะมีเครื่องทำให้เผลอปัญญา หรือทำให้ปัญญาพิการไปแม้ชั่วคราว ได้แก่ ตัณหา ความดิ้นรนทะยานอยากและความยึดถือ อยากจะได้สิ่งที่ชอบใจเข้ามา อยากจะเป็นในภาวะที่ชอบใจ อยากจะผลักสิ่งหรือภาวะที่ไม่ชอบใจออกไปให้พ้น ความยึดถือย่อมตรึงจิตอยู่ในสิ่งที่อยากนั้น... นี้เองเป็นเครื่องบังปัญญา เป็นผงเข้าตา ฉะนั้นจึงต้องระงับตัณหาดังกล่าวเสียก่อน ปัญญาจะแจ่มใส จิตใจจะมีสุข เรื่องพูดหรือเรื่องนิ่งไม่เป็นปัญหาอะไรต่อไป พระนิพนธ์ “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (เจริญ สุวฑฺฒโน)” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=43452 สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ กับ วงศ์พระกรรมฐาน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=43558 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 06 พ.ย. 2016, 23:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น : สมเด็จพระญาณสังวรฯ |
เจ้าของ: | Hanako [ 25 ก.ค. 2018, 20:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พุทธปฏิปทาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |