วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท
ด้านความสามัคคี และความเสียสละ


กระแสพระราชดำรัส
พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๔๙๔
วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๓


"...ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฎตลอดว่า
ชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป
ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม
แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ
ประหัสประหารซึ่งกันและกัน

บางพรรคบางพวกถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรู
มาจู่โจมทำลายชาติของตนดังนี้

ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย
ให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ
ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จงหนัก
แล้วถือเอาความสามัคคี
ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ
เป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ

จึงขอให้ชาวไทยทั้งหลาย
จงบำเพ็ญกรณียกิจของตนแต่ละคนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ
แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว
ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเค้นเป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ
ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้..

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


กระแสพระราชปราศรัยแด่ประชาชนในวันปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๕

"...อันสถานะการณ์ของโลกทั่วไป และของบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร
ก็ย่อมเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว
ทางที่จะช่วยให้ประเทศเราผ่านพ้นภัยพิบัติ
มีความวัฒนาถาวรไปได้ก็โดยที่เราชาวไทยทุกคน
มีน้ำใจรักชาติอย่างแท้จริง

ไม่ถือเอาประโยชน์ของตนและพรรคพวกแต่ฝ่ายเดียว
มุ่งบำเพ็ญกรณียกิจหน้าที่ด้วยความสุจริต ขยันหมั่นเพียร
เพื่อคุณประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ
และพร้อมที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว สามัคคีก็ย่อมจะแผ่ขยายกว้างขวางออกไป
ในระหว่างพี่น้องชาวไทยด้วยกัน
ทำให้กำลังของชาติส่วนต่างๆ ประสานกันเป็นบึกแผ่น
สิ่งที่เคยยากก็จะกลายเป็นง่าย
และสิ่งที่ไม่เคยทำได้ก็กลับจะบรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม
ด้วยอานุภาพแห่งความสามัคคี

เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราชาวไทยจงยึดมั่นในศีลธรรม
ซึ่งบิดามารดาและครูบาอาจารย์ได้พร่ำสอนเรามาแต่เล็กแต่น้อย
และพยายามประพฤติปฏิบัติตาม
ในอันจะส่งเสริมสามัคคีธรรมให้มั่นคง
แผ่ขยายในระหว่างพี่น้องชาวไทยทั้งปวง
เพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติสืบไป..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


กระแสพระราชปราศรัยแด่ประชาชนในวันปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๖

"...ในขวบปีที่ผ่านมา
แม้บ้านเมืองของเราต้องประสบภัยทางธรรมชาติบ้าง
และแวดล้อมด้วยสถานะการณ์อันเคร่งเครียดของโลกทั่วไป
แต่ก็นับว่าได้สามารถผ่านสถานะการณ์เหล่านั้นมาด้วยดี

ทั้งนี้ย่อมเป็นิมิตหมายว่า
เราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคข้างหน้าต่อไปอีก

จริงอยู่ทุกสิ่งทุกอย่างจะให้ดีขึ้นทันอกทันใจ
สมดังที่ต้องการที่เดียวนั้นย่อมไม่ได้
ซึ่งอย่อมต่องการเวลา เปรียบประดุจการเยียวยารักษาไข้
ซึ่งย่อมต้องการเวลาเช่นกัน

ข้าพเจ้าจึงมีความหวังเป็นอย่างมากว่า
อาศัยความสามัคคีร่วมมือร่วมใจของท่านทั้งมวล
ประเทศชาติของเราจะเข้าสู่ฐานะเจริญก้าวหน้า

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่
พุทธศักราช ๒๔๙๗ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๖


"...พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า
บุคคลใดประกอบความดี
คุณความดีนั้นย่อมต้องสนองตอบ

ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนแต่ละท่าน
ให้พยายามบำเพ็ญความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธ์

แม้บางโอกาสอาจจะต้องเสียสละบ้าง
ก็จงมานะอย่าท้อถอย

จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี
ทั้งนี้เพื่อความสุขสวัสดีของท่าน
และเพื่อความวัฒนาถาวร
ของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย..."


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


กระแสพระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๑ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๐


"...ในขวบปีที่ล่วงมา
ได้มีเหตุการณ์ต่างๆ อันมีความสำคัญแก่ชาติบ้านเมือง
ดังที่ได้ทราบกันอยู่แล้วนับได้ว่าประชาชาติของเรา
ได้ผ่านหัวเลี้ยวสำคัญขั้นหนึ่งแล้ว

ต่อไปนี้ จึงเป็นหน้าที่เราทั้งปวงที่จะต้องช่วยกันประคับประคอง
ให้กิจการงานของชาติบ้านเมืองดำเนินไปด้วยดี
เพื่อความเจริญผาสุกของประเทศชาติ

ในการนี้ความสามัคคีประนีประนอมซึ่งกันและกัน
เป็นสิ่งจำเป็นและพึงปราถนายิ่งนัก
ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความหวังว่า
ชาวไทยทุกๆ คนจะพยายามรักษาความสามัคคี

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่
พุทธศักราช ๒๕๔๕ วันจันทร์ ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๔


"...ประเทศของเราต้องประสบกับวิกฤตการณ์ด้านต่างๆ
ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี
แต่ด้วยความรู้เท่าทันและความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน
ที่ช่วยกันประคับประคองแก้ไข
บ้านเมืองของเราจึงยังมั่นคงเป็นปรกติอยู่

ใครจะไปไหนมาไหนก็ยังทำได้สะดวก
การทำมาหากินก็ยังไม่ถึงกับฝืดเคีองนัก

ทำให้มั่นใจได้ว่าหากจะมีอุปสรรค ปัญหา
หรือเหตุไม่ปรกติใดๆ
เกิดขึ้นคนไทยเราจะร่วมกันคิดอ่าน
และช่วยกันปฏิบัติ แก้ไข
ให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลุล่วงไปได้อย่างแน่นอน

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๔๕
วันอังคาร ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕


"...ในขวบปีที่แล้ว มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ควรกล่าวถึงเป็นพิเศษ
ก็คือการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย
เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ที่คนไทยทุกคน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน
ต่างร่วมมือร่วมใจกันโดยพร้อมพรัก
ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น แม้เป็นชาวต่างชาติต่างภาษา
ก็พากันชื่นชมยกย่อง

ข้าพเจ้าเองก็มีความปีติเต็มตื้นใจที่ได้เห็นน้ำใจของทุกคนเช่นนี้
เพราะเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงคุณธรรมข้อหนึ่ง
ที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ

การให้ การให้นี้ ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก้ผู้ใด
โดยสถานใดก็ตามล้วนเป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง
เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคล
และทำให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม


นอกจากนั้น การให้ยังเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอีกด้วย
กล่าวคือ ผุ้ให้ก็มีความสุข มีความอิ่มเอิบใจ
ผู้รับก็มีความสุข มีกำลังใจ
สังคมส่วนรวมตลอดถึงประเทศชาติ
ก็มีความผาสุกมีความร่มเย็น..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๔๘
วันศุกร์ ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๗


ประชาชนชาวไทยทั้งหลายบัดนี้ถึงวาระขึ้นปีใหม่
ข้าพเจ้าขอส่งความปราถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทั้งหลายทั่วกัน
และขอขอบใจท่านเป็นอย่างยิ่ง
ที่มีไมตรีจิตสนับสนุนข้าพเจ้าในภารกิจทั้วปวงด้วยดีเสมอมา

ตลอดปีที่แล้ว มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายอย่างที่ดี
ก็คือการที่นักกีฬาของเราได้รับเหรียญรางวัลหลายประเภท
ในการแข่งขันโอลิมปิก
แต่ไม่ดีก็มีอยู่มาก เราต้องประสบกับเหตุไม่ปรกติต่างๆ
จนทำให้เกิดความวิตกห่วงใยกันอยู่ทั่วไป
ใกล้ถึงสิ้นปีก็เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
ทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง

เราคงจะต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกข์
และฟื้นฟูสถานะของบ้านเป็นการใหญ่
รวมทั้งหาทางป้องกันเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามเหตุต่างๆ ทั้งนั้น
ได้ทำให้เห็นแจ้งดถึงน้ำใจของพวกเราอย่งเด่นชัดว่า
ทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือน
มีความสามัคคีกัน ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง
ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติสุขและเมื่อเกิดภัยพิบัติ

คนไทยไม่ทิ้งกัน ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันที
ด้วยความเสียสละ และเมตตาจริงใจ
ไม่เลือกว่าเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ

ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำแก่ท่านทั้งหลาย
เหมือนดังที่เคยกล่าวมาเมื่อหลายปีก่อนว่า
วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้
จะต้องมีทุกข์ มีภัย ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น

ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกคนรักษาความสามัคคี
และจิตใจอันดีนี้ไว้เป็นนิจ เพราะสิ่งนี้คือคุณลักษณะพิเศษ
ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองของเราอยู่รอดปลอดภัย

และช่วยให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน
ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาคุณลักษณะนี้ไว้ได้
ก็มั่นใจได้ว่าชาติบ้านเมืองของเราจะดำรงมั่นคงอยู่ตราบนั้น

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรัรัตนตรัย
และสิ่งศักดิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา
จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย
ให้มีความสุขกายสุกขใจ และประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์
ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่
กลุ่มชาวไร่หมู่บ้านตัวอย่างโครงการไทย-อิสราเอล
จังหวัดเพชรบุรี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๑๓


"...ความสามัคคีนี้ หมายถึงว่ามีสิ่งใดที่อาจ
ขัดแย้งซึ่งกันและกันบ้าง
ก็ต้องปรองดองกันเสีย และหา
ทางออกโดยที่ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง กัน
เพราะความสามัคคีเป็นกำลังอย่างสูงสุดของ หมู่ชน..."

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่
ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจิณ
พระตำหนักจิตรดารโหฐาน ๒๓ มกราคม ๒๕๑๓


"...ความพอพระราชหฤทัยของพระราชาอยู่ที่ว่า
แต่ละคนจะทำหน้าที่ของตัวด้วยความตั้งใจ
มีความ คิดพิจารณาที่รอบคอบ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง กัน
ส่งเสริมความสามัคคี และปฏิบัติงานเพื่อประโยนช์ส่วน รวม..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัสพระราชทานแก่
คณะกรรมการบริหารและอาสาสมัครมูลนิธิราชประจำนุเคราะห์ฯ
ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร ๓๐ ตุลาคม ๒๕๐๘


"...ชาติของเรารักษาเอกราชอธิปไตย
มาได้จนถึงทุกวันนี้ด้วยความสามัคคี
ผู้ใดเดือดร้อนก็ได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนนี่
เป็นหลักสำคัญของการปกครอง ประเทศไทยมาแต่โบราณกาล..."

พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสเสด็จฯ
ออกให้ประชาชนเฝ้า ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ๑๙ มกราคม ๒๕๐๔


"...ประเทศไทยถ้าประชาชนพลเมือง
มีความสามัคคีกลมเกลียว กันดี มีระเบียบวินัย
ประเทศนั้นก็เจริญและอยู่
ในฐานะดีจึงเห็นได้ว่าความสามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างคนในชาติ
และ ความเข้าใจรักษาระเบียบวินัยเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง
ที่จะช่วยนะประเทศชาติสู่ความวัฒนาถาวร..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระบรมราโชวาท ในพิธีตรวจพลสวนสนาม
เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๐๔


"...การที่ประเทศของเราได้รักษาอธิปไตย
และดำรงฐานะมา ด้วยดีได้ตลอดมานั้น
ก็ด้วยความร่วมมือ ของทุกๆ ฝ่าย
ต่างช่วยกันปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
ด้วย ความสามัคคีและความพร้อมที่จะเสียสละ
เพื่อประโยชน์ ของส่วนรวม..."

พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีประดับยศนายตำรวจชั้นนายพล
ณ พระตำหนักจิตรดารโหฐาน ๑๕ มกราคม ๒๕๑๙


"...สามัคคี คือการเห็น แก่บ้านเมือง
และช่วยกันทุก วิถีทางเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง
ด้วย การเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างตรงไปตรงมา
นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม เพราะประโยชน์ส่วนรวม นั้น
คือความมั่นคงของบ้านเมือง..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีพระราชทาน
ธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดขอนแก่น
ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙


"...เมืองไทยนี้อยู่ได้ด้วยความสามัคคี
ด้วยความเข้ม แข็ง ด้วยความเสียสละ
อาศัยความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน
และถ้ารักษาความ เห็นอกเห็นใจนี้แล้ว
ประเทศชาติของเราก็จะ เป็นที่อาศัยที่อุดมสมบูรณ์
และน่าสบายต่อไปชั่วกาลนาน..."

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะประชาชนจังหวัดราชบุรี
พระตำหนักจิตรดารโหฐาน ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๑


"...บ้านเมืองไทยสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้โดยดี
เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี
ถ้าตราบใด เรารักษาความสามัคคี
ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกัน และกันไว้ได้
เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุข สุดตราบนั้น..."

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่
คณะกรรมการจัดงานสุรสีห์รำลึก
ณ พระตำหนักจิตรดารโหฐาน ๒๑ มีนาคม ๒๕๒๒


"...ความสามัคคีนั้นหมายถึงความเห็นใจซึ่งกันและกัน
ทั้งในทางส่วนบุคคลทั้งในด้านวิชาการ
ด้องเห็นใจว่าแต่ละคนมีหน้าที่ มีความรู้ในวิชาการของแต่ละคน
ถ้าดำเนินวิชาการนั้นๆ ไปตามลำพัง หรือตามแนวเดียว เท่านั้นเอง
ก็จะไม่สามารถที่จะดำเนินได้โดยดี..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม
งานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐


"...ความสามัคคีนี้ เป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง
ซึ่งหมู่ชน อยู่รวมกันจำเป็นต้องมี ด้องถนอมรักษา
และ ต้องนำมาใช้อยู่สม่ำเสมอ
ถ้าแต่ละฝ่ายเข้ามาร่วมกันทำงานด้วยความตั้งใจดี
ด้วยความสามัคคี ความรู้ความสามารถ
ด้วยความคิดที่สร้างสรรค์งาน
ก็สำเร็จสมบูรณ์งดงามตามประสงค์ทุกอย่าง..."

พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามทหารรักษาพระองค์
ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๐๕


"...ตราบใดที่ชาวไทยมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่ง
ในเดียวกัน ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อประเทศชาติแล้ว
ชาติก็ได้รอดพ้นจากภัยพิบัติสู่ความสุขความ เจริญ
แต่คราวใดที่ขาดความสามัคคีกลมเกลียวกัน
ก็ต้อง ประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ
จึงเป็นหน้าที่ของ เราทั้งหลาย
ที่จะต้องร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ ให้ดีที่สุด..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในรัฐเยอรมันฯ
เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในหนังสือ เพื่อนไทย สิงหาคม ๒๕๒๑


"...ความสามัคคีพร้อมเพรียงแห่งหมู่คณะที่จะเกิดมี ขึ้นได้นั้น
ย่อมจะเนื่องมาจากความผิด ความเห็น
และใจจริงที่มุ่งหมายและยึดมั่นในสิ่งใดสิ่ง หนึ่งรวมกัน..."

พระบรมราโชวาท ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ
และสวนสนามทหารรักษาพระองค์
ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๓๔


"...ประเทศของเรารักษาเอกราช อธิปไตยและอิสระภาพ
ให้ สมบูรณ์มั่นคงมาได้จนถึงทุกวันนี้
เพราะคนไทย ทุกหมู่เหล่ารู้จักความสามัคคี
และรู้จักทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้ประสานส่งเสริมกัน
เมื่อทุกคนมุ่งใจปฏิบัติดังนี้ ความถูกต้องเรียบร้อย ความพัฒนาก้าวหน้า
และความมั่นคง เป็นปึกแผ่นจึงบังเกิดขึ้น..."

(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อ
เชิญไปอ่านในการประชุมใหญ่ของสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร
ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๑๒


"...ประเทศชาติกำลังพัฒนาในทุกด้านและต้องการ
ความสามัคคีความเรียบร้อย
ผลดีทั้งปวงดังกล่าวจะ เกิดขึ้นได้ด้วยประชาชนมีหลักของใจอันมั่นคง
มีศรัทธาและปัญญาอันถูกต้อง
ปฏิบัติคนอยู่ในทาง ที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม..."

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ
ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาสาดุสิตตาลัย ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖


"...สามัคคีหรือการปรองดองกันไม่ได้หมายความว่าคน
หนึ่งพูดอย่างหนึ่งคนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด
ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน
แต่ต้องทำงานให้สอด คล้องกัน
แม้จะขัดกันบ้างแต่ต้องสอดคล้องกัน..."

พระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๓๒


"...ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียว
กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้องสอง
ประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย
ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ
และเจริญมั่นคงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน..."

(มีต่อ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร