ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

มงคลสูตรคำฉันท์ : สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=48262
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  สยามนุภาพ [ 24 ก.ค. 2014, 12:44 ]
หัวข้อกระทู้:  มงคลสูตรคำฉันท์ : สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พุทธานุภาพนำผลเกิดสรรพมงคลน้อยใหญ่
เทวาอารักษ์ทั่วไป ขอให้เป็นสุขสวัสดี
ธรรมานุภาพนำผล เกิดสรรพมงคลเฉลิมศรี
เทพช่วยรักษาปราณี ให้สุขสวัสดีทั่วกัน
สังฆานุภาพนำผล เกิดสรรพมงคลแม่นมั่น
เทพช่วยคุ้มครองป้อง
กัน สุขสวัสดิสันติ์ทั่วไป

ไฟล์แนป:
img03.jpg
img03.jpg [ 56.06 KiB | เปิดดู 4158 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สยามนุภาพ [ 24 ก.ค. 2014, 12:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มงคลสูตรคำฉันท์ สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต้นมงคลสูตร
สิบสองฉนำเหล่า นรอีกสุเทวา
รวมกันและตริหา สิริมังคลาใด
เทวามนุษทวี พหุภพประเทศใน
หมื่นจักระวาฬได้ ดำริห์สิ้นจิรังกาล
แล้วยังบ่รู้มง - คะละสมมโนมาลย์
ด้วยกาละล่วงนาน บ่มิได้ประสงค์สม
ได้เกิดซึ่งโกลา - หะละยิ่งมโหดม
ก้องถึง ณ ชั้นพรหม ธ สถิตสะเทือนไป
องค์โลกนาถเทศน์วรมังคะลาใด
ยังปาปะปวงให้ ทุษะเสื่อมวินาศมล
ชนหลาย บ่ พึงนับผิสดับสุมงคล
ใดแล้วและรอดพ้น พหุทุกขะยายี
เราควรจะกล่าวมง คะละอันประเสริฐที่
กอบด้วยคุณามี วรอัตถะเฉิดเฉลา

เจ้าของ:  สยามนุภาพ [ 24 ก.ค. 2014, 13:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มงคลสูตรคำฉันท์ สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

มงคลสูตร
องค์พระอานนท์ท่านเล่าว่าข้าพเจ้า
ได้ฟังมาแล้วดังนี้
สมัยหนึ่งพระผู้มี พระภาคชินสีห์
ผู้โลกนาถจอมธรรม์
ประทับ ณ เชตะวัน วิหาระอัน
อนาถะบิณฑิกไซร์
จัดสร้างอย่างดีที่ใน สาวัตถีให้
เป็นที่สถิตสุขา
ครั้งนั้นแลเทวะดา องค์หนึ่งมหา
นุภาพมหิทธิ์ฤทธี
ล่วงประถมยามราตรี เธอเปล่งรัศมี
อันเรืองระยับจับเนตร์
แสงกายเธอปลั่งยังเขต สวนแห่งเจ้าเชต
สว่างกระจ่างทั่วไป
องค์พระภควันนั้นไซร์ ประทับแห่งใด
ก็เข้าไปถึงที่นั้น
ครั้นเข้าใกล้แล้ว
จึงพลัน ถวายอภิวันท์
แด่องค์สมเด็จทศพล
แล้วยืนที่ควรดำกล เสงี่ยมเจียมตน
แสดงเคารพนบศีร์
เมื่อเทวดายินดี สมควร ณ ที่
ข้างหนึ่งดังกล่าวแล้วนั้น
จึงได้ทูลถามภควัน ด้วยถ้อยประพันธ์
เป็นพระคาถาบรรจง
เทพอีกมนุษหวัง คติโสตถิจำนง
โปรดเทศะนามง คะละเอกอุดมดี
(ฝ่ายองค์พระชินศรี ตรัสตอบวาที
ด้วยพระคาถาไพจิตร์)
หนึ่งคือ บ่ คบพาล เพราะ
จะพาประพฤติผิด
หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสพผล
หนึ่งกราบและบูชา อภิปูชนีย์ชน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี
อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล
อีกหมั่นประพฤติชอบ ณ สภาวะแห่งตน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
อีกศิลปะศาสตร์มี จะประกอบมนุญการ
อีกหนึ่งวินัยอัน นรเรียนและเชี่ยวชาญ
อีกคำเพราะบรรสาน ฤติแห่งประชาชน
ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
บำรุงบิดามา ตุระด้วยหทัยปรีย์
หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
การงานกระทำไป บ่ มิยุ่งและสับสน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ให้ทาน ณ กาลควร และประพฤติ์สุธรรมศรี
อีกสงเคราะห์ญาติที่ ปฏิบัติบำเรอตน
กอบกรรมะอันไร้ ทุษะกลั้วและมัวมล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ความงดประพฤติ์บาป อกุศล บ่ ให้มี
สำรวมวรินทรีย์ และสุรา บ่ เมามล
ความไม่ประมาทใน พหุธรรมะโกศล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
เคารพ ณ ผู้ควร จะประณตและนอบศีร์
อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้าง
และจองหอง
ยินดี ณ ของตน บ่ มิโลภทยานปอง
อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน
ฟังธรรมะโดยกา ละเจริญคุณานนท์
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
มีจิตตะอดทน และสถิต ณ ขันตี
อีกหนึ่ง บ่ พึงมี ฤดิดื้อทนงหาญ
หนึ่งเห็นคณาเลิด สมณาวราจารย์
กล่าวธรรมะโดยกาล วรกิจจะโกศล
ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
เพียรเผากิเลศล้าง มละโทษะยายี
อีกหนึ่งประพฤติดี ดุจะพรหมพิสุทธิสรรพ์
เห็นแจ้ง ณ สี่องค์ พระอะริยะสัจอัน
อาจนำมนุษผัน ติระข้ามทเลวน
อีกทำพระนิพพา นะประจักษะแก่ชน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
จิตใครมิได้ต้อง วรโลกะธรรมศรี
แล้วย่อม บ่ พึงมี จะประหวั่น ฤา กังวล
ไร้โศกธุลีสูญ และสบาย บ่ มัวมล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
เทวามนุษทำ วรมงคะลานี้
เป็นผู้ประเสริฐที่ บ่ มิแพ้ทุกแห่งหน
ย่อมถึงสวัสดี สิริทุกประการดล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/