วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 21:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระราชดำรัสสมเด็จฯ
“พระพุทธศาสนากับรัฐธรรมนูญ”


โดย คำนูณ สิทธิสมาน 29 เมษายน 2555


คงจะจำกันได้นะว่ามีการรณรงค์ทั้งในช่วงปี 2540 และ 2550 ขณะที่มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับให้บรรจุหลักการ “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ไว้ในรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 2 บททั่วไป อย่างกว้างขวาง แต่ไม่สำเร็จ

ปีนี้ 2555 เป็นปี “พุทธชยันตี 2,600 ปี” มีหรือจะไม่มีการรณรงค์ดั่งว่าซ้ำอีก !

การรณรงค์ในปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้าตลอดช่วง 240 วันของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญจะมีแนวร่วมกว้างขวางมาก ทั้งในส่วนของพระเถะชั้นผู้ใหญ่ที่มีบทบาทสูงในมหาเถรสมาคม องค์กรพระพุทธศาสนาทั้งเก่าและใหม่ และที่สำคัญคือวัดพระธรรมกายที่ระยะหลังเข้ามามีบทบาทกับกิจการบ้านเมืองมากขึ้น

พระพุทธศาสนากับสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมากในระยะหลังๆ โดยเฉพาะการเน้นความยิ่งใหญ่อลังการ เน้นจำนวน มีพิธีกรรมใหม่ประยุกต์ให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ หรือที่อยากจะเรียกว่าเอาวิชาการตลาดมาใช้กับพระพุทธศาสนา มีธุดงค์กลางเมือง มีตักบาตรพระเป็นหมื่นรูปกลางเมืองหลวงและกลางหัวเมืองจังหวัดต่างๆ ไปทั่ว การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาเป็นไปอย่างเข้มข้น

อย่าว่าแต่ประเด็นรณรงค์จุหลักการ “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ไว้ในรัฐธรรมนูญเลย อีกประเด็นที่จะรณรงค์คู่ขนานกันไปก็คือการผลักดันร่างกฎหมายสำคัญ

“ร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. ....”

อ่านแล้วก็หนาวครับ หลักการและรายละเอียดต่างๆ มีมาก แต่ขอเรียกสั้นๆ เพื่อสื่อความเข้าใจง่ายๆ ว่า...

“มาตรา 112 ภาคพระพุทธศาสนา”

2 ประเด็นในการรณรงค์ที่เล่ามาโดยสังเขปนี้ จะสร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นในสังคมไทยมากขนาดไหนคงไม่ต้องพูดให้มากความ ไม่มีใครขัดขวางพระพุทธศาสนาหรอก แต่ที่ไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ผลักดันใน 2 ประเด็นนี้ ก็เพราะไม่เชื่อว่าจะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองจริง และเพราะเชื่อในหลักการประชาธิปไตยพื้นฐานในประเด็นเสรีภาพในการนับถือศาสนาและลัทธิความเชื่อ

คงไม่ต้องพูดถึงประเด็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยนะครับ

อย่าว่าแต่ในสังคมไทยจะขัดแย้งกันเลย แม้ในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกันเองก็มีความเห็นต่างกันคนละขั้วในประเด็นนี้

คุณทักษิณ ชินวัตร จะตีธงเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในประเด็นนี้ก็เป็นปัญหาทั้งนั้น และจะเป็นปัญหากระทบโดยตรงไปยังประเด็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พยายามจะแก้ไขโดยการพูดคุยอีกด้วย

มีหลากหลายมิติที่เราจะต้องทำความเข้าใจกัน เพราะแม้จะเป็นประเด็นพระพุทธศาสนา แต่ในบางมิติสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ ก็กระทบไปยังประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย การรณรงค์ประเด็นบรรจุหลักการใหม่ไว้ในรัฐธรรมนูญที่กำลังเข้มข้นยุติลงเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2550 หลังจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสออกมาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2550

ไม่บ่อยครั้งนักครับที่จะมีพระราชดำรัสเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ และการเมือง

หากไม่นับครั้งสำคัญเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนเมื่อเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2517 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตั้งข้อสังเกตร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 ผ่านราชเลขาธิการลงมารวม 3 ประการแล้ว ผมว่าพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ วันที่ 11 สิงหาคม 2550 ถือว่าสำคัญยิ่ง

ขออนุญาตอัญเชิญเฉพาะตอนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเผยแพร่

“ข้าพเจ้าได้พบปะกับนักเรียนไทยประมาณ 4,000 คนได้ ข้าพเจ้าก็ไม่คิดว่าจะถูกถามเรื่องพระพุทธศาสนากับรัฐธรรมนูญ ข้าพเจ้าก็อธิบายว่า ข้าพเจ้าคิดเองว่า พระบวรพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด สูงส่งแล้ว และได้รับการสนับสนุนมาตลอด ตั้งแต่จากสมัยสุโขทัยจากคนไทยทั้งชาติ พระบวรพุทธศาสนาเป็นของที่สะอาด สูงสุด ทุกคนคิดว่าไม่อยากให้เข้าไปพัวพันกับคำว่าการเมือง ข้าพเจ้าพูดเช่นนั้นต่อหน้านักเรียนไทย ควรเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า เพราะเป็นแสงสว่างในหัวใจของคนไทยทั้งหลาย

“การเมืองบางครั้งก็มีผิดพลาด บางครั้งก็มัวหมองได้หลายเรื่อง เพราะฉะนั้นไม่ควรนำพระบวรพุทธศาสนาไปไว้กับกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย คือรัฐธรรมนูญ ควรจะทิ้งพระบวรพุทธศาสนาไว้เช่นนี้ ที่ถูกเทิดทูนโดยประชาชนทั้งชาติ

“พอข้าพเจ้าพูดจบ ข้าพเจ้าได้รับการปรบมืออย่างดังสนั่นลั่นไปหมดเลย


“ในเมืองไทย ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนนับถือมากกว่า 90% คงจะไม่ให้ใครมาแตะได้ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าการเมืองบางครั้งก็มีอะไรหลายๆ อย่างไม่ค่อยตรงไปตรงมานัก เพราะฉะนั้นดีแล้วที่พระบวรพุทธศาสนาแยกไปเสียให้พ้นจากการเมืองจะดีกว่า ไม่ทราบว่าทุกท่านในที่นี้เห็นอย่างเดียวกับข้าพเจ้าหรือเปล่า อันนี้ข้าพเจ้าถามนักเรียนไทย ผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์บอกว่าพระบวรพุทธศาสนาเป็นศาสนาของชาวไทยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย พระเจ้าแผ่นดินองค์แรกๆ ของสุโขทัยเวลาจะขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก็จะต้องกล่าวคำปฏิญาณว่าจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้ด้วยชีวิต ซึ่งเดี๋ยวนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ก็เช่นกัน ก็ยังถือธรรมเนียมเหมือนอย่างคนไทยทั้งหลาย

“ถือว่าพระบวรพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ล้ำค่าของชีวิตคนไทย ที่จะพึ่งพาเวลามีปัญหาเกิดขึ้นอะไรกับชีวิต พระบวรพระพุทธศาสนาเป็นแสงสว่าง เพราะฉะนั้นไม่มีวันให้สลายหรือล่มลงไปเป็นอันขาด และดินแดนของชาวพุทธนี้ ชาวพุทธได้ทำชื่อเสียงมากมาย เช่น ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าได้ที่ข่าวว่า เชลยศึกสมัยที่ตอนนั้นทางญี่ปุ่นได้ยึดครองประเทศไทย เชลยศึกต่างชาติได้รับการช่วยชีวิต ได้รับการป้อนน้ำ เสี่ยงกับชีวิตตนเอง และป้อนอาหาร ซ่อนตัวเขาด้วย ที่พูดอย่างนี้ไม่อยากจะทำให้ใครต้องเสียใจ แต่พูดให้ทราบความจริงว่า บรรพบุรุษของไทยเรา แม้แต่ที่ผ่านมาไม่เท่าไร ไม่กี่ปี ก็ยังปฏิบัติตนทำให้ต่างประเทศชื่นชมและนับถือประเทศไทย และน้ำใจของคนไทยที่มีความเมตตากรุณา และมีความกล้าหาญ ที่จะเเสดงความเมตตากรุณาด้วย อันนี้ขอให้ท่านคิดดูดีๆ และชาวต่างประเทศมาพูดกับข้าพเจ้า ที่เขาชอบกรุงเทพมหานครเหลือเกิน เพราะว่าเมืองหลวงของประเทศไทยน่ามหัศจรรย์ โบสถ์พุทธ โบสถ์พราหมณ์ โบสถ์คริสต์ สุเหร่าอิสลาม ทุกศาสนาอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่เคยมีใครคิดไปวางระเบิดหรือไปรบกวนศาสนาอื่นเลย ให้อิสระ สิทธิเสรีภาพในการจะนับถือศาสนาใดก็ได้ ซ้ำสนับสนุน นี่แหละฝรั่งเขาบอก คือการปฏิบัติต่อกันของคนที่มีความเจริญอย่างแท้จริง เจริญสุดทางด้านจิตใจ อันนี้น่าชื่นใจมาก ถึงเวลาสวดของใคร ใครก็ไป ถึงเวลาใครทำพิธีของใครก็ไป โดยไม่ไปรังแกซึ่งกันและกัน อันนี้ต่างประเทศเขาบอก ยอดสุดๆ คนไทย...”


ประเด็นนี้เราต้องคิดกันให้รอบคอบครับ

:b8: :b8: :b8:


ขอขอบพระคุณที่มาของข้อมูล : http://www.manager.co.th

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2015, 16:56 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร