วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 19:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ณ ทุ่งมะขามหย่อง

:b39:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังทุ่งมะขามหย่อง ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นี้ เพื่อทรงติดตามโครงการในพระราชดำริ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการในพระราชดำริที่ทรงสร้างไว้ และนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘

หมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน ณ ทุ่งมะขามหย่อง ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลศิริราช

และในเวลา ๑๗.๓๐ น.
จะเสด็จฯ ถึง พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย บริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าพนักงานราชพิธีอัญเชิญพวงมาลัยเข้าถวาย แล้วพระราชทานไปถวายสักการะที่โต๊ะหมู่หน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย เสร็จแล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งทอดพระเนตรบริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ ไปยังศาลากลางน้ำทอดพระเนตร การแสดงสื่อผสม “ทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ” โดยใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที แล้วจึงเสด็จต่อไปยังพระตำหนักสิริยาลัย พักผ่อนพระอิริยาบถและเสวยพระกระยาหารค่ำ ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยามอบหมายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จัดทำกระทงสายจำนวน ๒,๕๐๐ กระทงลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะไหลผ่านหน้าพระตำหนักสิริยาลัย ตรงข้ามกับวัดไชยวัฒนาราม

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมทางด้านการแสดงพื้นที่บริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ประชาชนที่เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯ ขอให้ไปรวมตัวกันที่ทุ่งภูเขาทอง ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา ก่อนเที่ยงของวันที่ ๒๕ พฤษภาคม โดยทางจังหวัดจะมีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ จากนั้นจะมีรถบริการรับส่งประชาชนผู้ที่จะมาเข้าเฝ้าฯ ไปยังทุ่งมะขามหย่อง ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้เตรียม “สูจิบัตร” อันทรงคุณค่าโดยมีหมายเลขกำกับ รวมจำนวน ๑๐,๐๐๐ ชุดไว้แจก ภายในสูจิบัตรจะมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดประตูระบายน้ำผันน้ำจากทุ่งมะขามหย่องเข้าแปลงนา เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๓๙, พระบรมฉายาลักษณ์ทรงเกี่ยวข้าวและทอดพระเนตรกิจการต่อเนื่องในโครงการผลการทำนา เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๓๙ และยังมีพระบรมฉายาลักษณ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จะเป็นสูจิบัตรที่ทรงคุณค่าประชาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ทางด้าน พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเตรียมกำลังไว้พร้อม โดยใช้กำลังตำรวจจากปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ตำรวจน้ำ ตำรวจสรรพาวุธ ตำรวจนครบาล ตำรวจ ๑๙๑ และตำรวจสันติบาล รวม ๒,๐๐๐ นาย กระจายกำลังตั้งแต่ถนนเขตติดต่อจากจังหวัดปทุมธานี จนถึงพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย บนถนนสาย ๓๔๗

นอกจากนี้ภายในบริเวณพระราชานุสาวรีย์ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสำรวจพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ ๒๔ พฤษภาคม จนถึงวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จถึงและกลับ กำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งมีหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรตลอดเส้นทางสำหรับประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากทุกอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงให้นำรถไปจอดที่บริเวณทุ่งภูเขาทอง ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา ทางจังหวัดจะมีรถบริการรับส่ง เริ่มเที่ยวแรกตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยรับมาส่งที่ทุ่งมะขามหย่อง


:b8: ที่มา... หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์


.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 19:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ภาพประวัติศาสตร์
ในหลวง-พระราชินี...เสด็จฯ ณ ทุ่งมะขามหย่อง
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙




ย้อนวันเสด็จฯ...ทุ่งมะขามหย่อง
“ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ”

ย้อนภาพความทรงจำของปวงชนไทยเมื่อเกือบ ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๖.๕๒ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย บริเวณทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทอดพระเนตรการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังที่ใช้น้ำเพาะปลูกจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่รอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแนวพระราชดำริ

ภายหลังจากที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรงเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๓๘ ทำให้บริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่งให้ปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ทั้งหมดของพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย เพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ถูกน้ำท่วม และเป็นการกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้งอีกทางหนึ่ง

สำหรับน้ำที่เก็บกักไว้ในอ่างเพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ตามแนวพระราชดำริด้านเกษตรกรรมในฤดูแล้ง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้สนองพระราชดำริ ส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎรรวม ๔ โครงการ คือ โครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวนาปรัง โครงการส่งเสริมอาชีพปลูกพืชอายุสั้นและไม้ผล โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงปลา และโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน ผลการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการใช้น้ำที่ได้รับพระราชทาน ให้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วม เป็นการผ่อนคลายความเดือดร้อนของราษฎร

ในการเสด็จพระราชดำเนินเมื่อครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “ทรงเกี่ยวข้าวในนา” ซึ่งเป็นการส่งเสริมการปลูกข้าวนาปรัง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำนา รวมถึง ทอดพระเนตรการเก็บเกี่ยวข้าว พร้อมทั้งทรงเยี่ยมและมีพระราชปฏิสันถารถึงสภาพความเป็นอยู่กับราษฎรอย่างทั่วถึง โดยพื้นที่ดังกล่าวยังมีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังทอดพระเนตรอ่างเก็บน้ำบริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ที่ได้มีพระราชดำริให้กรมชลประทาน กรมโยธาธิการ และกรมพัฒนาที่ดิน ปรับปรุงอ่างเก็บน้ำโดยขุดดินก้นอ่างให้มีความลึกโดยเฉพาะประมาณ ๑ เมตร เพื่อกักเก็บน้ำให้มากกว่าเดิม โดยดินที่ขุดได้ส่วนหนึ่งให้นำไปทำทางสัญจรทางด้านทิศเหนือขนานไปกับคันกั้นน้ำให้ประชาชน ให้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างถนนริมแม่น้ำกับถนนสายใหญ่ ดินอีกส่วนหนึ่งให้นำไปทำถนนเสริมคันกั้นน้ำเดิมให้สูงถึงระดับ ๖.๒ เมตร กรณีที่มีน้ำไหลหลากมากเหมือนปี พ.ศ. ๒๕๓๘ จะได้ระบายน้ำเข้ามาในอ่างเก็บน้ำ ทำให้มีน้ำกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริเวณพื้นที่ทุ่งภูเขาทอง ต.ลุมพลี และทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา เป็น “พื้นที่แก้มลิง” เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และยังเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย

ดังนั้น ทางจังหวัดจึงตั้งชื่อพื้นที่ทั้งสองแห่งนี้ว่า “ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ” เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความคืบหน้าและการรับมือการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียง


ด้วยเหตุนี้การเสด็จพระราชดำเนินทุ่งมะขามหย่อง วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นี้ ทางจังหวัดได้เตรียมนำ “เคียว” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เกี่ยวข้าวเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ทูลเกล้าฯ ถวายให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร ก่อนที่จะขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการที่จะนำไปประดิษฐานที่ พระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเกี่ยวข้าว อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี ทุ่งหันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แทนเคียวจำลองที่อยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ “เคียว” เล่มที่พระองค์ทรงใช้เกี่ยวข้าวเป็นเคียวสเตนเลส ด้ามมุก บนใบเคียวมีตราสัญลักษณ์ครองราชย์ครบ ๕๐ ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่ด้ามมีข้อความจารึกคำว่า “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” เก็บรักษาอยู่ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ต้นธารแห่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้พสกนิกรเจริญรอยตามแนวพระราชดำริ อย่างเช่น โครงการ “ปลูกข้าวกินเอง” โดยให้ประชาชนในอำเภอต่างๆ ทั้ง ๑๖ อำเภอ หาที่ดินเพื่อร่วมโครงการ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


:b8: ที่มา... หนังสือพิมพ์คมชัดลึกออนไลน์

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2012, 01:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณครับที่นำมาบอก ละเอียดดีมาก

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2012, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

รูปภาพ

ภาพประวัติศาสตร์อีก ๑ หน้า (ภาพถ่ายมุมสูง)
พสกนิกรทั่วสารทิศเฝ้าฯ รอรับเสด็จ “ในหลวง”
บริเวณทุ่งมะขามหย่อง
ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา


ณ วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕


:b8: ขอขอบพระคุณภาพที่มาของภาพ fb. NNA NEWS

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2012, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๓๐ น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารบก
เสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช
ไปยังทุ่งมะขามหย่อง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ท่ามกลางพสกนิกรที่มารอเฝ้าจำนวนมาก
พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้อง


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2012, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ณ โรงพยาบาลศิริราช

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2012, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ณ ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา

รูปภาพ
รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆ
เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี


รูปภาพ
หลากหลายพระอิริยาบท ณ ทุ่งมะขามหย่อง

:b44: :b47: :b44:

วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๔๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ชุดคอพับแขนยาว หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมระยะทาง ๘๕ กิโลเมตร ใช้เวลา ๖๐ นาที

การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ รศ.นายแพทย์ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (หรือ SiPH) เป็นผู้ถวายการรถเข็นพระที่นั่ง

จากนั้นเมื่อเวลา ๑๗.๕๕ น. รถยนต์พระที่นั่งถึงพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ระหว่างที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินผ่าน พสกนิกรกว่าห้าหมื่นคนทั่วทั้งบริเวณพระราชานุสาวรีย์ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง ในขณะที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆ เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อย่างใกล้ชิด ประชาชนที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในชุดฉลองพระองค์เครื่องแบบอันสง่างาม ต่างปลื้มปีติจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมก้มกราบลงกับพื้น และโบกธงชาติ ธงพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลือง ธงพระนามาภิไธย ส.ก. สีฟ้า และธงพระนามาภิไธย ส.ธ. สีม่วง อย่างปลิวไสว

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยกกล้องส่วนพระองค์ขึ้นมาฉายรูปประชาชน พร้อมโบกพระหัตถ์ และทรงแย้มพระสรวล ตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน ส่วนประชาชนที่ได้เห็นภาพพระองค์ผ่านทางจอโปรเจ็กเตอร์ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญ

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญพวงมาลัยเข้าถวาย แล้วพระราชทานไปถวายสักการะที่โต๊ะหมู่หน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งทอดพระเนตรบริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน และผลิตผลทางการเกษตร โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นางวิภาดา สีตบุตร ภริยาแม่ทัพภาคที่ ๑, นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายสุระ อนันต์สุขเสรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ พร้อมประชาชนทุกหมู่เหล่า เฝ้ารับเสด็จฯ

ในการนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, นางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนางวิภาดา สีตบุตร ภริยาแม่ทัพภาคที่ ๑ ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร ได้ทูลเกล้าฯ ถวายโฉนดที่ดินแปลงนาจำนวน ๗ ไร่ ๒ งาน ๑๔ ตารางวา ราคา ๒๐ ล้านบาท แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๐๐๙ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่บริเวณหน้าทุ่งมะขามหย่อง และเป็นที่ดินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยเกี่ยวข้าว เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙ เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย และนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทูลเกล้าฯ ถวายเงินจำนวน ๙,๙๙๙,๙๙๙ บาท โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เข้าห้องรับรอง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลากลางน้ำ ที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่สวยงามด้วยผ้าขาวม้าทอพื้นเมืองของกลุ่มอาชีพแม่บ้านในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแนะนำอาชีพมาก่อน จนชาวบ้านนำแนวพระราชดำรัสไปตั้งเป็นกลุ่มทอผ้าขาวม้าและผ้าพื้นเมืองจนประสบความสำเร็จ จากนั้นทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม “ทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินทองแห่งพระมหากรุณาธิคุณ” เป็นเวลาประมาณ ๔๕ นาที

นายประดิษฐ สมดังเจตน์ ในฐานะผู้กำกับการแสดงแสงสีเสียง งาน “ทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินทองแห่งพระมหากรุณาธิคุณ” เปิดเผยรายละเอียดการแสดงว่า ในเวลา ๑๘.๐๐ น. มีขบวนช้างทรงและขบวนทหารกองเกียรติยศสวนสนามเลียบอ่างเก็บน้ำ มายังพลับพลาพิธีเพื่อถวายพระเกียรติ จากนั้นมีการแสดงเพลงแห่เรือ โดยมีขบวนเรือพายออกมาประจำตำแหน่ง ซึ่งมีเนื้อหาการสรรเสริญเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงทำให้แผ่นดินนี้อุดมสมบูรณ์ มีน้ำใช้ตอนหน้าแล้ง มีทางน้ำไหลตอนน้ำท่วม

จากนั้น เป็นการแสดงชุด “๑๖ ปีแห่งความหลัง ณ ทุ่งมะขามหย่อง” ซึ่งการแสดงนี้ นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงขลุ่ยเพลง “ความฝันอันสูงสุด” ซึ่งมีนักแสดงในชุดชาวบ้านออกมาแสดงประกอบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ ๔ นาที ตามด้วยการแสดงชื่อชุด “หลั่งเลือดทาบทา ปกปักรักษาแผ่นดิน” โดยมีวีทีอาร์เทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีสุริโยทัย มีช้าง ๔ เชือกสวมเครื่องทรงออกศึก และทำท่าต่อสู้กันอยู่บริเวณกลางสะพาน ๒ ด้านข้างเวที สื่อถึงเนื้อหาของการเสียสละของพระมหากษัตริย์ไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล

ตามด้วยการแสดงชื่อชุด “สายน้ำหลั่งไหล น้ำตาหลั่งริน ชีวีสูญสิ้น” โดยมี นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงเสียงขลุ่ยประกอบการอ่านบทกวีจาก นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความทุกข์ยากของประชาชนที่เกิดขึ้นจากการประสบอุทกภัยในหลายครั้งหลายครา

จากนั้นเป็นการแสดงชื่อชุด “น้ำพระทัยขับไล่น้ำตา” เป็นการประมวลภาพของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและชาวบ้าน ที่สำนึกในพระมหากรุณาคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามด้วยการแสดงชื่อชุด “บทกวีเทิดพระเกียรติ” โดย นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงเสียงขลุ่ยประกอบการอ่านบทกวีจาก นางจิระนันท์ พิตรปรีชา ซึ่งมีเนื้อหาการสรรเสริญพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงช่วยเหลือประชาชน และการแสดงชื่อชุด “ระบำสายน้ำ ลำนำแห่งแผ่นดินทอง” ซึ่งเป็นการแสดงประกอบเพลง “แผ่นดินทอง” ที่มีเรือกว่า ๑๐๐ ลำ ถูกจำลองเป็นตลาดน้ำ เป็นวิถีชีวิตชาวบ้าน ซึ่งเมื่อครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ มาทอดพระเนตรวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะปิดท้ายการแสดงด้วยบทเพลงเทิดพระเกียรติ “เพลงผู้ปิดทองหลังพระ” โดยมีการแสดงวิถีชีวิตชาวบ้านมาร่วมแสดง จากนั้นได้บรรเลงเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจบการแสดง

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ต่อไปยังพระตำหนักสิริยาลัย ในฝั่งเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ฝั่งตรงข้ามวัดไชยวัฒนาราม เพื่อทรงพักผ่อนพระอิริยาบถและเสวยพระกระยาหารค่ำ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับโรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น. ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จัดทำกระทงสายจำนวน ๒,๕๐๐ กระทง ลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยาและไหลผ่านมาหน้าพระตำหนักสิริยาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีพสกนิกรเรือนแสนมาจับจองพื้นที่โดยรอบพระราชานุสาวรีย์พระสุริโยทัย ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อรอชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างใกล้ชิด บางคนเดินทางมาตั้งจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕

“ในหลวง” ทรงมีพระราชประสงค์ให้คนไทยเข้าใจเรื่อง “น้ำ”

ในวันเดียวกันนี้ นายดิศธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง กล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินที่ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา รอบนี้ เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการทอดพระเนตรพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก แต่สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยการบริหารจัดการน้ำที่ดี และมีพระราชประสงค์ให้คนไทยทุกคนเห็นประโยชน์ของน้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง เพราะถ้ามีการบริหารจัดการน้ำที่ดี น้ำก็จะไม่สร้างปัญหาให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน และยังมีน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งอีกด้วย

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำในฤดูน้ำหลาก และปล่อยน้ำในฤดูน้ำแล้ง และในปี ๒๕๓๘ ที่น้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย และที่ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำกำลังจะทะลักเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งให้เปิดประตูอ่างเก็บน้ำเพื่อให้น้ำลดลงมา ๔ เซนติเมตร และเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อน้ำลดลงมาในระดับปกติ จึงมีรับสั่งให้ปิดประตูอ่างเก็บน้ำทุ่งมะขามหย่อง พระองค์ทรงยอมให้ระบบไฟฟ้าภายในอ่างเก็บน้ำเสียหาย เพื่อรักษาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและบริเวณโดยรอบไว้

จากนั้นในวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ มาทรงเปิดคันบังคับน้ำเพื่อปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำทุ่งมะขามหย่องไปยังพื้นที่การเกษตรโดยรอบ ต่อมาในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ปีเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ มาทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนาบริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย



:b8: ที่มา... ASTVผู้จัดการออนไลน์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2012, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

รูปภาพ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พร้อมกันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร ได้ทูลเกล้าฯ
ถวายโฉนดที่ดินแปลงนาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเป็นที่ดินตั้งอยู่บริเวณหน้าทุ่งมะขามหย่อง
และเป็นที่ดินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเคยเกี่ยวข้าวเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙


รูปภาพ

นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์,
นางจิระนันท์ พิตรปรีชา และนายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)




ในหลวงเสด็จฯ ถึงทุ่งมะขามหย่อง
และทรงสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย




เวทีทุ่งมะขามหย่อง



ผู้ปิดทองหลังพระ โดย แอ๊ด คาราบาว
ทุ่งมะขามหย่อง “ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ”

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2012, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากเลยครับ ดูแล้วปลื้มปีติที่เห็นพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงดี
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2012, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

“ทุ่งมะขามหย่อง” แก้มลิงใต้พระบารมี

“ทุ่งมะขามหย่อง” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่นี่นับเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย นับจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยในสมัย “สมเด็จพระมหาจักพรรดิ” พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๑๕ แห่งกรุงศรีอยุธยา หลังพระองค์ขึ้นครองราชย์ได้ประมาณ ๗ เดือน พม่าได้ยกทัพนำโดยพระเจ้าหงสาวีตะเบงชะเวตี้ เข้ามารุกราน การศึกครั้งนั้น “สมเด็จพระสุริโยทัย” พระอัครมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ได้แต่งพระองค์อย่างมหาอุปราช ทรงช้างออกมาทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปร แต่ความที่เป็นสตรีทำให้พระองค์พลาดท่าเสียที ต้องพระแสงของ้าวของพระเจ้าแปรสิ้นพระชนม์บนคอช้าง แต่การศึกครั้งนั้นไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะกัน

ด้วยวีรกรรมในครั้งนั้น ครั้นเมื่อเวลาผ่านเลยมาจนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้าง “พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย” ขึ้น ณ บริเวณทุ่งมะขามหย่อง เพื่อเฉลิมพระเกียรติมาวีรกษัตริย์ไทย และเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๓๔ ครั้นเมื่อพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระสุริโยทัย ในวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๓๘

เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ทางการสู้รบอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ เหตุการณ์หลังจาก “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ทรงประกาศอิสรภาพได้ ๒ ปี พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้ให้มังมอดราชบุตรยกทัพมาตั้งที่ทุ่งมะขามหย่อง และทัพพระเจ้าหงสาวดีตั้งค่ายหลวงบริเวณขนอนปากคู่ ซึ่งอยู่ถัดจากทุ่งมะขามหย่องลงมาทางใต้ การศึกครั้งนี้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำไพร่พลขึ้นปล้นค่ายข้าศึกด้วยพระองค์เองหลายครั้งหลายครา โดยทรงคาบพระแสงดาบ ปีนเสาระเนียดเข้าค่ายพม่า และได้รับชัยชนะทุกครั้งไป จนพระแสงดาบนั้นได้รับการเรียกขานว่า “พระแสงดาบคาบค่าย”

นอกจากจะเป็นพื้นที่ในการรบทัพจับศึกแล้ว ด้วยชัยภูมิที่ตั้งของ “ทุ่งมะขามหย่อง” และ “ทุ่งภูเขาทอง” ที่เป็นท้องทุ่งขนาดใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานแนวพระราชดำริ ให้พัฒนาพื้นที่ทุ่งทั้งสองเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำ หรือ “แก้มลิง” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง

เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จฯ มาที่แปลงนาสาธิตทางทิศเหนือของทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งทั้งสองพระองค์นอกจากเสด็จมาทรงงานแล้ว ยังทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิต ยังความปลายปลื้มแก่พสกนิกรจำนวนมากหลายหมื่นคนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ

สำหรับทุ่งมะขามหย่อง ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๕๐ ไร่ มีการจัดทำเป็นอ่างเก็บน้ำ (แก้มลิง) จำนวน ๑๘๐ ไร่ สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง ๒,๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำยามน้ำหลาก ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ส่วนยามหน้าแล้งก็ได้น้ำจากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ไปในการเกษตร

นอกจากนี้ด้วยความที่ทุ่งมะขามหย่องมีสภาพพื้นที่สวยงาม มีอ่างเก็บน้ำ มีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย และกลุ่มประติมากรรมประกอบ และมีสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งชาวกรุงเก่าได้พร้อมใจกันขนานนามท้องทุ่งทั้งสอง คือ ทุ่งมะขามหย่องและทุ่งภูเขาทอง ว่าเป็น “ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ”

นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ใต้พระบารมี ใต้พระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่แม้จะทรงเหน็ดเหนื่อยตรากตรำแค่ไหน แต่พระมหากษัตริย์และพระราชินีทั้งสองก็ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของพระองค์


:b8: ที่มา... ASTVผู้จัดการออนไลน์ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2012, 13:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์
...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


รูปภาพ

หน้า ๑ หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕


รูปภาพ

หน้า ๑ หนังสือพิมพ์ The Nation
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕


รูปภาพ

หน้า ๑ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์รายวัน
ประจำวันเสาร์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕


:b8: กระทู้เกี่ยวเนื่องกัน >>>

:b44: ชัยชนะของคนไทย ที่ทุ่งมะขามหย่อง
(พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=42240

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2012, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
ทรงเครื่องแบบหน่วยรบพิเศษของกองทัพบก


เกร็ดความรู้จากฉลองพระองค์ของในหลวง

พระองค์ทรงเครื่องแบบในฐานะจอมทัพไทย (ทหารบก)
เครื่องแบบปกติสีเขียว คอพับแขนยาว
มีพระมาลา (หมวก) เบเรต์สีแดงสอดไว้ที่ใต้อินทรธนูด้านซ้าย
ทรงประดับสายยงยศสีแดง
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยรบพิเศษของกองทัพบก
ยังความปลาบปลื้มกับหน่วยรบพิเศษเป็นอย่างยิ่ง

ทรงฉลองพระยศจอมพลแห่งกองทัพบกไทย
ตามสถานะของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นจอมทัพไทย
และทรงพระยศจอมพล, จอมพลเรือ, จอมพลอากาศ

หน่วยรบพิเศษ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือกองกำลังพิเศษ
เป็นทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีโดยกองทัพ
ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นสามารถปฏิบัติภารกิจพิเศษ
อย่างเช่น การลาดตระเวนพิเศษ
สงครามนอกแบบ และการต่อต้านการก่อการร้าย

การที่พระองค์ทรงเครื่องแบบเช่นนี้
แสดงถึงการมีพระพลามัยที่สมบูรณ์ของพระองค์
ที่สื่อถึงพสกนิกรชาวไทย


:b8: ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร