วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 16:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

:b44: ต า ม ร อ ย เ บื้ อ ง พ ร ะ ยุ ค ล บ า ท :b44:
ด้วย
ท ศ พิ ธ ร า ช ธ ร ร ม
และ
ห ลั ก ก า ร ท ร ง ง า น


ตลอดระยะเวลาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญ
พระราชกรณียกิจเป็นเวลานานกว่า ๖๐ ปีในรัชกาล

เหล่าพสกนิกรชาวไทยต่างได้รู้ถึงพระราชกรณียกิจมากล้น
ที่ทรงปฏิบัติ และพระราชจริยวัตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้


ซึ่งหากเราชาวไทยสามารถเรียนรู้ข้อคิด
ประสบการณ์ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
ทั้งในส่วนของการตั้งมั่นในทศพิธราชธรรม
และหลักการทรงงานในเรื่องต่าง ๆ นั้น

ก็จะเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาชีวิต
ให้ก้าวเดินไปได้อย่างมั่นคงและถึงพร้อมด้วยประโยชน์สุขแก่ตนเองและผู้อื่น
ซึ่งปวงชนชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตตามรอยพระยุคลบาทได้


ด้วยหลักการและแนวทาง ดังต่อไปนี้


(มีต่อ)


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 28 ส.ค. 2010, 13:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b44: หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :b44:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พรั่งพร้อมด้วยทศพิธราชธรรม
ทรงตรากตรำพระวรกายเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชนในทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศ
ด้วยพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา
พระราชทานพระราชดำริเพื่อประโยชน์สุขของประชาราษฎร์
และนำมาซึ่งความผาสุก
แก่ประชาชนอย่างแท้จริง


โดยได้ประมวลหลักการทรงงานไว้ดังนี้


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๑. ทำงานอย่างผู้รู้จริง

ให้ศึกษางานที่จะทำให้ดี อย่าผลีผลาม
ความรู้จะหยุดนิ่งมิได้ ต้องขวนขวาย ต้องเก็บบันทึกไว้ แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์

“ความรู้”ต้องพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ต้องรู้หมดและรู้อย่างแท้จริง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

เช่น การที่จะพระราชทานโครงการใดโครงการหนึ่ง
จะทรงศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างรอบครอบและครบถ้วน
ทั้งจากข้อมูลเบื้องต้น จากเอกสาร แผนที่
สอบถามจากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่

เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริง
เพื่อที่พระองค์จะได้พระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง
และรวดเร็วตรงตามที่ประชาชนต้องการ

ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าเราจะทำอะไรต้องรู้จริง ศึกษาให้เข้าใจ แล้วจึงลงมือปฏิบัติ


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๒. ระเบิดจากข้างใน

คือการทำสิ่งใดต้องสร้างฐาน
ต้องเริ่มจากความพร้อม ความเห็นพ้องต้องกันในกลุ่มเล็ก ๆ ก่อน
แล้วค่อยๆ สร้าง ค่อย ๆ ก่อ จะมั่นคงถาวร

พระองค์ทรงมุ่งเน้นพัฒนาคน ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ต้องระเบิดจากข้างใน”
นั่นหมายความว่า ต้องสร้างความเข้มแข้งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนา
ให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก
มิใช่นำเอาความเจริญ หรือ บุคคลจากสังคม ภายนอกเข้าไปหาชุมชน หมู่บ้าน
ที่ยังไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๓. อดทน มุ่งมั่น

ให้รู้จักการอดทน ทำจนเป็นนิสัย
ไม่ว่าสิ่งดีๆ ที่เข้ามา ทุกข์ที่เข้ามา สุขที่เข้ามา
เราก็รับด้วยใจสงบ ไม่ตื้นเต้นหรือกังวลที่เกิดขึ้นกับตัวเรา

เหมือนดังคำว่า “ธรรมะ” ซึ่งนั่นก็คือ ธรรมชาติ ธรรมดา

นอกจากนี้ หากเกิดปัญหา เราก็ทำจิตใจให้รู้สึกท้าทายกับปัญหานั้น
เห็นปัญหาแล้วกระโดดเข้าใส่เป็นการท้าทายสติปัญญา
อย่ากลัวปัญหาและละลายปัญหาจากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย


(มีต่ิอ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๔. อ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่ายและประหยัด

ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เช่น นาฬิกาข้อพระกรที่พระองค์ทรงใช้
ไม่จำเป็นต้องราคาแพง แต่ทรงเน้นที่ประโยชน์ของการบอกเวลา

ทรงอ่อนน้อมถ่อมพระองค์มาก
เวลาที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ทรงโน้มพระวรกาย คุกเข่า
และประทับพับเพียบเข้าหาประชาชน

ในการพัฒนาและช่วยเหลือราษฎร
ทรงใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยธรรมชาติ เรียบง่ายและประหยัด
ราษฎรสามารถทำได้เอง หาได้ในท้องถิ่น
และประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในภูมิภาคนั้นมาแก้ไข
โดยไม่ต้องลงทุนสูง หรือใช้เทคโนโลยีที่ยุ่งยากนัก


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๕. ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกตัญญูต่อพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
และพระบรมวงศ์มาก

ทรงให้ความสำคัญในเรื่องความซื่อสัตย์มาก
ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า

“...ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป
พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าต้องให้มีอันเป็นไป

แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจริต และมีความตั้งใจมุ่งมั่น สร้างความเจริญ
ก็ขอต่ออายุให้ถึง ๑๐๐ ปี ...

ความสุจริตจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นอันตราย
ภายใน ๑๐ ปี เมืองไทยน่าจะเจริญ
ข้อสำคัญต้องยืดความสุจริตให้สำเร็จ และไม่ทุจริตเสียเอง...”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๖. รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเคารพความคิดที่แตกต่าง

ในทุกครั้งที่เสด็จ ฯ ในพื้นที่ต่างๆ ทรงทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) ทุกครั้ง
โดยวิธีการของพระองค์นั้น เป็นวิธีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา

โดยจะทรงอธิบายถึงวัตถุประสงค์และผลที่จะได้รับจากโครงการพัฒนา
กับพระพสกนิกรที่มาเฝ้าฯล้อมรอบอยู่
หลังจากนั้นจะทรงถามถึงความต้องการของประชาชน ความสมัครใจ
และให้ตกลงกันเองในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์
และกลุ่มที่จะต้องเสียสละในขณะนั้นเลย

พร้อมทั้งทรงกางแผนที่
เพื่อตรวจสอบถึงข้อมูลและข้อเท็จจริงของสภาพภูมิประเทศ
และหลักจากนั้น ก็จะทรงเรียกผู้นำท้องถิ่นและฝ่ายปกครอง
ให้มารับทราบและดำเนินการขั้นต้น

ก่อนที่จะพระราชทานให้หน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการในเชิงบริหารและวิชาการต่อไปจนเสร็จสิ้นโครงการ

“..มีคนบอกว่าโครงการพระราชดำริแตะต้องไม่ได้
ข้อนี้เป็นความคิดผิดหรือความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก
เพราะหากโครงการพระราชดำริแตะต้องไม่ได้ เมืองไทยไม่เจริญ..”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๗. ความตั้งใจจริงและมีความเพียร

ทำงานต้องมีความตั้งใจ อย่าทำงานไปวัน
ตั้งใจทำงานจะทำให้มีแรง มีกำลังใจ และต้องขยันหมั่นเพียร

งานบางอย่างยาก แต่ก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้

ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานข้อคิดเกี่ยวกับความเพียรในพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก”
ความตอนหนึ่งว่า

“..คนเราทำอะไรต้องมีความเพียร แม้ไม่เห็นฝั่งก็ต้องว่ายน้ำ
และมีคำตอบอยู่ว่ามีประโยชน์อย่างไร
เพราะถ้าหากไม่เพียรที่จะว่ายน้ำเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ก็จะไม่พบเทวดา

คนอื่นไม่มีความเพียรที่จะว่ายน้ำ
ก็จงเป็นอาหารของปลา ของเต่า

เพราฉะนั้น ความเพียรแม้จะไม่ทราบว่าจะถึงฝั่งเมื่อไหร่
ก็ต้องเพียรว่ายน้ำต่อไป..”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๘. กาแฟต้นเดียว : ก้าวแรกที่กล้าก้าว

เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาชาวเขา
คือเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๗

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทอดพระเนตรไร่กาแฟ
ที่ชาวกะเหรี่ยงปลูกไว้บริเวณพื้นที่บ้านอังกาน้อย ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

โดยที่ไร่แห่งนั้นมีต้นกาแฟเพียงต้นเดียว
มีพระราชกระแสกับข้าราชบริพารที่อยู่ในขบวนเสด็จฯ
ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการเสด็จฯ ข้ามเขาสูงมาเพื่อการนี้
ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาว่า

“..แต่ก่อนเขาปลูกฝิ่น เราไปพูดจาชี้แจงชักชวนให้เขามาปลูกกาแฟแทน
กะเหรี่ยงไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน
ยังดีที่กาแฟยังไม่ตายเสียหมด แต่ยังเหลืออยู่หนึ่งต้นนั้น
ต้องถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับกะเหรี่ยง..”


จึงต้องเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรจะได้แนะนำเขาต่อไปว่า
ทำอย่างไรกาแฟจึงจะเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งต้น
ปรากฏว่าปีต่อมาราษฎรชาวกะเหรี่ยงดอยอินทนนท์
ขายกาแฟได้เป็นเงินต่อไร่ต่อปีสูงกว่าที่เคยขายฝิ่นได้



(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๙. คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม

โดยต้องคิดให้ดี ให้ลึกซึ้ง
อย่างเช่นโครงการเขื่อนป่าสักฯ
เป็นการดำเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี
ที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและไม่ได้ละเลยคนส่วนน้อยที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม

เมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์อย่างมากมาย
คนส่วนรวมต้องช่วยคนกลุ่มเล็กที่เสียสละอย่างเต็มที่

“..การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ
มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมืองและประชาชนทุกคน

เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่ข้าราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทุกๆ ประการ
ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ
เพื่อผลการปฏิบัติราชการทุกอย่างจะได้บรรลุความสำเร็จอย่างสูง
และบังเกิดประโยชน์อย่างที่สุดแก่ตนเอง แก่หน้าที่และแก่แผ่นดิน..”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2010, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๑๐. เข้าใจความต้องการของประชาชน

ถ้าประชาชนไม่ต้องการอย่าไปยัดเยียดอะไรให้
ดังเช่นการดำเนินงานโครงการต่างๆ ให้แก่ประชาชนนั้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ ว่า

“..การเข้าใจถึงสถานการณ์ของผู้ที่เราจะช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การช่วยเหลือให้เขาได้รับสิ่งที่เขาควรจะได้รับตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม
จะเป็นการช่วยเหลือที่ได้ผลที่สุด..

อีกประการหนึ่ง ในการช่วยเหลือนั้น
ควรยึดหลักสำคัญว่า เราจะช่วยเขาเพื่อให้เขาสามารถช่วยตนเองได้ต่อไป..”


(ยังมีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 23:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๑๑. พึ่งตนเอง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนให้ชาวไทย
สามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้
ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งตนเอง
ทั้งทางด้านจิตใจ ที่ต้องเข้มแข็ง มีจิตสำนึกที่ดี
สร้างสรรค์ให้ตนเองและชาติโดยรวม

ด้านสังคม ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็งเป็นอิสระ

หรือแม้กระทั่งด้านเศรษฐกิจ
ที่ต้องมุ่งลดรายจ่ายเป็นสำคัญและยึดหลักพอเพียง พอกิน พอใช้
และสามารถอยู่ด้วยตนเองในระดับพื้นฐาน
ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า

“..ยืนบนขาของตนเอง (ซึ่งแปลว่าพึ่งตนเอง) หมายความว่า
สองขาของเรานี้ ยืนบนพื้นให้อยู่โดยไม่หกล้ม
ไม่ต้องไปขอยืมขาของคนอื่นมาใช้สำหรับยืน..”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๑๒. ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง

ควรให้การสนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน
เพราะคนดี คงเก่ง จะเป็นกำลังสำคัญ
ในการพัฒนาความเจริญในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ดังพระราชดำรัสที่ว่า

“..ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี
การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี
ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด

หากอยู่แต่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๑๓. การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน

ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าคิดถึงแต่ตนเอง
เห็นแก่ตัวอย่างเดียวอยู่ไม่รอด ต้องรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม

ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานดำริแก่คนไทยไว้ว่า

“..สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน
ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่..”


อีกทั้ง ทรงรับสั่งอยู่เสมอเกี่ยวกับการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ว่า

ที่พระองค์ทรงทำอยู่นั้น
ทรงใช้หลักสังฆทานความหมายนี้ลึกซึ้งมาก
คือ “ให้เพื่อให้”
พระองค์ไม่เคยนึกว่าเมื่อให้แล้วจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้

หลักสังฆทานให้โดยไม่เลือก
ในฐานะเพื่อนมนุษย์ผู้ประสบความทุกข์ยากก็มีโครงการเข้าไปช่วยเหลือ
ให้เพื่อให้จริงๆ ไม่ได้ให้เพื่อคิดหวังอะไรตอบแทน


(มีต่อ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร