ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=26435
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 00:55 ]
หัวข้อกระทู้:  พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รูปภาพ

พ ร ะ ร า ช ปุ จ ฉ า ใ น รั ช ก า ล
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

~ พระราชปุจฉาที่ ๑ ~
(ไม่พบพระราชปุจฉา มีแต่คำถวายวิสัชนา)

:b42: เรื่องแปลศัพท์พระนิพพาน :b42:

แปลศัพท์พระนิพพาน ตามโวหารพระราชาคณะหลายพระองค์
โดยพระราชปุจฉาเมื่อปีระกาเบญจศกศักราช ๑๒๓๕

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 00:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช

• สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
ครั้งยังดำรงพระยศเป็นกรมพระ


o นิพพานนั้น คือความดับไม่เหลือแห่งอวิชชาแลตัณหา
ความไม่รู้และความทะเยอทะยานอยาก
จนขันธ์ทั้งห้าไม่มีไม่เป็นต่อไป
ความที่อวิชชาแลตัณหาดับไม่เหลือ
ด้วยอริยมรรคสมุจเฉทปหานนี้แลชื่อว่านิพพาน

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 00:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช

• หม่อมเจ้าพระญาณวราภรณ์ วัดบพิตรภิมุข

o นิพพาน ศัพท์นั้น แปลว่าสิ้นราคะ โทสะ โมหะทั้งปวง
สมด้วยเนื้อความในชมพูชาทกสูตร
พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรแสดงธรรมเทศนาแก่ภิกษุทั้งปวงว่า
สิ้นราคะ โทสะ โมหะ ได้ชื่อว่านิพพานประการหนึ่ง

นิพพานนั้นแปลว่า ธรรมเป็นที่ดับทุกข์ทั้งปวง
สมดังถ้อยคำที่สมเด็จพระผู้มีพระภาค
ตรัสพระธรรมเทศนาในสัจจวิภังค์
ว่าดับซึ่งตัณหาด้วยอริยมรรคทั้ง ๔
มีโสดาปัตติมรรคเป็นต้น มีอรหันตมรรคเป็นที่สุด
ไม่มีเศษได้ชื่อนิพพาน
เป็นที่ดับทุกข์ทั้งปวงประการหนึ่ง

นิพพานนั้นแปลว่าธรรมชาติออกจากตัณหา
สมด้วยบทวิคหะว่าธรรมชาติโดยออกจากตัณหา
เป็นเครื่องพันผูกไว้ในไตรภพทั้งสาม
คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เป็นสามประการฉะนี้

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 01:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช

• หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์
ครั้งยังเป็นหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปีลันทน์
วัดระฆังโฆสิตาราม


o วานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ อถวา วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนตํ
นิพฺพานํ นิพฺพาติ เอเตนาติ นิพฺพานํ


แปลว่า ธรรมชาติออกจากธรรมร้อยไว้ซึ่งสัตว์ ชื่อว่านิพพาน
นัยหนึ่งว่า ธรรมชาติออกจากตัณหา อันกล่าวคือวานะชื่อนิพพาน

อีกนัยหนึ่ง นิพพานํ แปลว่า ธรรมเป็นเครื่องดับแห่งเพลิง คือราคะ เป็นต้น

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 01:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช

• หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดา
วัดบวรนิเวศ


o นิพพานํ นั้น คือเป็นเครื่องดับเพลิงกิเลส
แลเพลิงทุกข์ทั้งสิ้นแลสรรพสังขารทั้งหมด
ดับสนิทสิ้นเชื้อหาเศษมิได้
แปลตามสติปัญญาโดยสังเขปเท่านี้

:b8: :b8: :b8:

(มีต่อ)

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• สมเด็จพระวันรัต (ทับ) วัดโสมนัสวิหาร
ครั้งยังเป็นพระพิมลธรรม


o นิพพานะ แปลว่าดับเหตุเกิดทุกข์ ดับทุกข์เสียหมด
จึงเป็นสุขอย่างยิ่ง

ผู้ใดทำให้แจ้งนิพพาน ด้วยความรู้ความเห็นเองแล้ว
ผู้นั้นก็ดับทุกข์สิ้นทุกข์หมด


แปลนิพพานนี้ไม่ยากนักดอก
แต่ความทำให้แจ้งด้วยความรู้ความเห็นจริงนั้นยากนักเทียว
ผู้ที่หลงงมอยู่ไม่รู้จักทุกข์
แล้วไม่ชอบไม่อยากได้นิพพานเลย
ถึงจะพูดถึงนิพพานเล่าก็ไม่มีเห็นจริง

เหมือนกับคนที่มีจักษุบอดแต่กำเนิด
ไม่รู้ไม่เห็นอะไรก็พูดไปตามเขาที่พูดกันฉะนั้น นั้นแล


:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• สมเด็จพระสังฆราช วัดราชประดิษฐ์
ครั้งยังเป็นพระสาสนโสภณ ที่ พระธรรมวโรดม


o นิพพานศัพท์ ว่าดับ คือดับเครื่องร้อนเครื่องเผา
ท่านผู้ทำเครื่องร้อนเครื่องเผาให้ดับได้แล้ว
เป็น นิพฺพุโต สีตูโต ผู้ดับแล้วเป็นผู้เย็นแล้ว

หนึ่งท่านแยกเป็น ๒ นิ วานะ
นิ ว่า ออก ว่า ไม่มี วานะ ว่าผู้ร้อยไว้ ผู้เย็บไว้
คือตัณหา อาเทศ อักษร เป็น อักษรสัมฤทธิรูป เป็น นิพฺพานํ
ประกอบความว่า นิพฺพานํ
เป็นเหตุเป็นเครื่องไม่มี วานะ ตัณหา ดังนี้ เป็นนัยวีหนึ่ง

ก็แต่นัยว่า นิพพานํ ดับ คือดับเครื่องร้อนเครื่องเผา
ได้ยุติกว่านัยที่แยกเป็น ๒ คือ นิ ๑ วานะ ๑


:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ศรี) วัดปทุมคงคา

o นิพพานํ ธรรมชาติไม่มีแห่ง วานะ คือ ตัณหา

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระพรหมมุนี (เหมือน) วัดบรมนิวาส
ครั้งยังเป็นพระอริยมุนี


o นิพพานํ นั้น ก็คือคำว่า นิพพานํ นี้มีมาก
เมื่อประสงค์สังขตธรรมวิสังขาร ซึ่งไม่มีสังขตลักษณะ
คือความเกิดขึ้นดับไปตั้งอยู่แปรไปแลไม่มี

ตัวอย่างที่จะแสดงให้เห็นชัดแล้ว
นิพพานํ แปลว่า ธรรมเป็นที่ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์
หรือแปลว่าธรรมเป็นที่ไม่มี วานะ ของร้อยรัดคือตัณหา

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระเทพกระวี (นิ่ม) วัดเครือวัลย์
ครั้งยังเป็นพระสุคุณคณาภรณ์


o นิพพานศัพท์ คือ นิพฺพานํ
แปลว่า ธรรมชาติเป็นที่ออกจากตัณหา ละกิเลสทั้งปวง

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) วัดประยูรวงศาวาส

o นิพพาน แปลว่า ออกจากตัณหา
ตัณหานั้น คือ ความอยากได้ ความปรารถนา

วิญญาณดวงใจ ไม่มีความอยากได้ ความปรารถนา
เป็นวิญญาณบริสุทธิ์ ดุจอากาศไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้อง ติดค้างอยู่ได้
วิญญาณดวงนั้นแลเป็นนิพพาน
เพราะเป็นวิญญาณสะอาดไม่ติดอยู่ด้วยมลทินโทษสิ่งใด
ก็จะพ้นจากความเกิดความตายทุกข์ภัยทั้งปวง

รับพระราชทานพิจารณาเห็นอย่างนี้
ควรมิควรสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรด

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• สมเด็จพระวันรัต (สมบุญ) วัดพระเชตุพนฯ

o ข้อถามที่ว่า นิพพานศัพท์แปลว่ากะไรนั้น

อาตมภาพ ทราบว่า เดิมเป็น นิ ๑ วานะ ๑
ครั้นปริยายเอา เป็น แล้วทเวภาพเป็นสอง
สำเร็จรูปเป็นนิพพานะ แปลว่า ธรรมเข้าไประงับสิ้นไม่เหลือหลง

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระพิมลธรรม (อ้น) วัดพระเชตุพนฯ
ครั้งยังเป็นพระธรรมไตรโลก อยู่วัดสุทัศน์


o นิพฺพานํ นั้น ตามพยัญชนะ ว่าออกจากตัณหา
เป็นเครื่องเย็บร้อยไว้
อย่างหนึ่ง แปลว่า ดับ
คือ ธรรมอันดับเพลิง ราคะ โทสะ โมหะ

แม้นพระสารีบุตรกล่าวว่า

ความสิ้นราคะ โทสะ โมหะ ชื่อ นิพพาน

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 16:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระธรรมเจดีย์ (เนียม) วัดกัลยาณมิตร
ครั้งยังเป็นพระเทพโมลี


o วิสัชชนา นิพพานศัพท์
ตามนัยแห่ง พระอรรถกถา สัตตมสูตร วรรคที่ ๔ คัมภีร์อิติวุตกะ ว่า

วนํ วุจฺจติ ตฺณหา

ความว่า ตัณหา พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วานะ

บทวิเคราะห์ว่า

นิกฺขนฺตํ วานโต นตฺถิ เอตฺถ วานํ อิมสฺมึ วา
อธิคเต วานสฺส อภาโวติ นิพฺพานํ


แปลว่า

ธรรมชาติอันใดออกจากตัณหาชื่อว่า วานะ
เพราะฉะนั้น ธรรมชาตินั้นชื่อว่านิพพาน

นัยหนึ่งตัณหาชื่อว่า วานะ ไม่มีในธรรมชาตินั้น
เพราะฉะนั้น ธรรมชาติชื่อว่า นิพพาน
นัยหนึ่ง ในเมื่อธรรมชาตินี้บุคคลได้แล้ว
ความที่หามิได้แห่งตัณหาชื่อว่า วานะ ปรากฏ

เพราะฉะนั้น ธรรมชาตินี้ชื่อนี้ชื่อ นิพพาน
ธรรมชาติที่ออกจากตัณหาชื่อว่า วานะ นั้น คือ พระอรหัตผล


:b8: :b8: :b8:

(มีต่อ)

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ต.ค. 2009, 19:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระธรรมไตรโลก (ทอง) วัดอรุณราชวราราม
ครั้งยังเป็นพระเทพมุนี


o ในบทคือนิพพานนั้นว่าดับโดยไม่เหลือ

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/