ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

“รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=19490
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 11 ธ.ค. 2008, 19:36 ]
หัวข้อกระทู้:  “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

รูปภาพ
[รูปหล่อทองแดงนูนต่ำภาพพระราชกรณียกิจในหลวง
ที่ด้านหน้าทางเข้าอาคารนิทรรศการ]



“รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

“... การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น
ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน
ใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ

เมื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว
จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ
และฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป

หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญยกเศรษฐกิจให้รวดเร็วแต่ประการเดียว
โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศ
และของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย
ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น
ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด
ดังเห็นได้ที่อารยะประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในเวลานี้...”


พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517


เป็นที่ซาบซึ้งกันดีว่า พระราชกรณียกิจของในหลวง
ที่ทรงทำเพื่อประชาชนนั้น มีมากมายเพียงใด
เฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ก็มีถึงกว่า 3,000 โครงการ
ซึ่งแต่ละโครงการถือกำเนิดมาจากพระอัจฉริยภาพ พระเมตตาคุณ พระกรุณาธิคุณ
ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานเพื่อเป็นแนวทางในการบำบัดปัดเป่าความเดือดร้อน
ของพสกนิกรชาวไทยในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ด้วยเหตุนี้โครงการ “ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ” อ.ท่าด่าน จ.นครนายก จึงถือกำเนิดขึ้น
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 (เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551)
เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลและกิจกรรมที่แสดงให้เห็น
โครงการอันเนื่องอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เป็นแหล่งเรียนรู้ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวในแนวคิด
“พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติมีชีวิต” ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ทรงมุ่งการพัฒนาด้วยการแก้ไขปรับปรุงคุณภาพของ คน ดิน น้ำ ป่า อย่างเป็นระบบ
โดยให้คน คือ เกษตรกร ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นแกน
ตามแนวทางคนต้องอยู่ พึ่งพา และ ดูแลป่า ดิน น้ำ

ในศูนย์ภูมิรักษ์ แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน

ส่วนแรกเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงเกี่ยวกับแนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจต่างๆ
เป็นการสรุปภาพรวมทั้งหมดของพระราชกรณียกิจ
ที่ในหลวงทรงบำเพ็ญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ส่วนที่ 2 เป็นอาคารนิทรรศการ จัดแสดงกึ่งพิพิธภัณฑ์
เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจแนวพระราชดำริได้อย่างชัดเจน
อาทิ แปลงสาธิตกลางแจ้งตามแนวพระราชดำริ

การใช้หญ้าแฝกยึดหน้าดิน การใช้พลังงานทดแทน ทฤษฎีแก้มลิง
ที่ใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมอันเปรียบจากเหมือนลิงเวลากินกล้วย
ที่จะเก็บกล้วยพักไว้ที่แก้มแล้วจึงนำมาเคี้ยวกินภายหลัง

และส่วนที่ 3 เป็นการจัดแสดงในพื้นที่ภายนอกอาคาร มีการจำลองป่า
และภูมิประเทศของประเทศไทยทั้ง 4 ภาค
ในทางการพัฒนา “ดิน น้ำ ป่า” ภายใต้แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ และวิถีพอเพียงแบบไทย
ในรูปแบบที่เน้นให้ผู้เข้าเยี่ยมชม “Play and Learn” ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินกลับไป

นอกจากนี้ในศูนย์ยังมีการนำเสนอวิถีชีวิต
และภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นต่างๆ
ซึ่งจะจัดแสดงเป็นลักษณะ “อาศรมปัญญา”
โดยทำการรวบรวมเอา “108 เซียน”
ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ที่ถือว่าเป็นปราชญ์ชาวบ้าน
ได้หมุนเวียนมาช่วยคิด และช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ให้กับผู้สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชม

สำหรับผมถือว่านี่คือแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้
ที่นอกจากกายสัมผัส ตาดูแล้ว หูยังต้องฟัง
ปากต้องถามต่อเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์
ซึ่งก็จะได้ข้อมูลเรื่องราวเบื้องลึกในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
มาเสริมส่งปัญญาเราให้กว้างและลึกมากขึ้น

รูปภาพ
[สระสาธิตการใช้อธรรมปราบอธรรม]


หลายจุดมีปรัชญาแอบแฝงอยู่ อย่างบ่อบำบัดน้ำเสีย
ที่นำมาจากพระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่ว่า “ใช้อธรรมปราบอธรรม”
อันหมายถึงการใช้ผักตบชวาที่มีตามธรรมชาติ
วัชพืชที่ดูเป็นสวะลอยน้ำในสายตาของใครหลายคน
มาช่วยดูดซึมสิ่งสกปรก สิ่งปนเปื้อนในน้ำให้สะอาดขึ้น

ในขณะที่อาคารนิทรรศการ (ส่วนที่ 2)
ภายในก็มีข้อคิดสอนใจอยู่หลายจุด อาทิ ในโซนการปลูกป่า
ที่มีข้อความพระราชดำรัสว่าของพระองค์ท่าน
เมื่อครั้งพระราชทานเมื่อเสด็จฯ ไปหน่วยงานพัฒนาต้นน้ำทุ่งจ๊อ
จ.เชียงใหม่ พ.ศ. 2519 ดังความว่า

“...เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน
แล้วคนเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดิน และรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง...”


ส่วนที่ผมประทับใจมากก็คือที่ด้านหน้าทางเข้าอาคารนิทรรศการ
ที่เป็นรูปหล่อทองแดงนูนต่ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาวที่นำชมอาคารเล่าว่า

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ขอได้พระราชทานอนุญาตหล่อขึ้นมา
โดย ดร.สุเมธ มีความประสงค์อยากให้ผู้มาเยือนศูนย์ภูมิรักษ์ “มอง”ในหลวงอย่างลึกซึ้ง
เป็นการมองไม่ใช่การ “เห็น”
โดย ดร.สุเมธ อยากให้ประชาชนมองถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทำ


สำหรับภาพนี้เป็นภาพพระราชกรณียกิจของในหลวง
พระองค์ท่านนั้นมีสายพระเนตรที่เฝ้ามองพสกนิกรชาวไทยอยู่ตลอดเวลา


นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาวยังให้สังเกตสิ่งน่าสนใจ 3 จุด ในภาพหล่อในหลวง

จุดแรกคือในกระเป๋าพระองค์ท่านมีดินสอเหน็บอยู่

“ที่ในหลวงทรงใช้ดินสอ พระองค์ท่านตรัสว่า ดินสอมีราคาถูก
ผลิตได้ในเมืองไทย และดินสอเขียนผิดสามารถลบได้
พระองค์ท่านทรงใช้ดินสอ 1 ปี ประมาณ 12 แท่ง”


เจ้าหน้าที่สาวอธิบาย ก่อนให้สังเกตจุดที่สอง คือ แผนที่ในพระหัตถ์ซ้ายและสะพายกล้อง

“พระองค์ท่านก่อนเสด็จฯ จะศึกษาภูมิประเทศจากแผนที่ก่อน
ศึกษาเรื่องของดิน น้ำ ประชาชน สภาพสังคม ศาสนา อาชีพ
ส่วนกล้องถ่ายรูปนั้น ถือเป็นการบันทึกข้อมูลอย่างหนึ่ง
และเป็นภาพที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี”


รูปภาพ
[ภาพสลักนูนต่ำฉลองพระบาทสินค้าไทย]


เจ้าหน้าที่สาวเล่าต่อว่า จุดสุดท้ายให้มองที่ฉลองพระบาท

“พระองค์ท่านสวมฉลองพระบาทเป็นรองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อ “นันยาง”
โดยพระองค์ท่านให้เหตุผลว่า มีราคาถูก เป็นสินค้าที่คนไทยผลิตได้เอง
สวมใส่นุ่มเท้า มีความคงทน เวลาเสด็จฯ ออกตามภูมิประเทศทุรกันดาร
สวมฉลองพระบาทรองเท้าผ้าใบยี่ห้อนี้จะเดินสะดวกสบาย คล่องแคล่ว”


หลังฟังคุณเจ้าหน้าที่สาวเล่า ผมอดนึกถึงสมัยเด็กๆ ไม่ได้
ตอนเด็กผมประถม มัธยม ก็ใส่รองเท้าผ้าใบยี่ห้อนี้
แต่พออยู่มหาวิทยาลัย กลับเห่อไปตามกระแสสังคม
ทิ้งนันยางไปเสียตังค์ซื้อรองเท้าคู่แพงๆ จากเมืองนอก
เพราะรู้สึกอายในการสวมรองเท้าแบรนด์คนไทย

ครั้นพอได้รับรู้ว่าในหลวงท่านสวมฉลองพระบาท
ยามเสด็จออกที่ทุรกันดารด้วยรองเท้าผ้าใบยี่ห้อนี้
ทำให้ผมอดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
และความเป็นต้นแบบแห่งความพอเพียงของพระองค์ท่านไม่ได้
ซึ่งบ้านเรานั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน
แนวคิด “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ให้กับคนไทยมาหลายสิบปีแล้ว
แต่ก็มีกลุ่มคนเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่นำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติตามหรือนำไปประยุกต์ใช้


สำหรับปีหน้า (2552) ปีเผาจริงทางเศรษฐกิจ
หากผู้ใดนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
อาจช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในปัญหาด้านเศรษฐกิจการเงินได้



:b8: :b8: :b8:

(ที่มา : http://www.manager.co.th/Travel/ViewNew ... 0000145522 โดย ปิ่น บุตรี)

เจ้าของ:  แวะมา [ 17 ธ.ค. 2008, 14:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

แบบอย่างของท่าน ข้อน้อมรับไปใช้
:b8:
Long life the king

เจ้าของ:  damjao [ 25 ส.ค. 2009, 08:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

ยุคข้าวยากหมากแพงทุกแห่งหน
แต่ละคนในบ้านเมืองมีเรื่องกลุ้ม
อัตคัตขัดสนเหมือนจนมุม
ร้อนที่สุมใครอาสาพาบรรเทา
แต่เหมือนฟ้าปราณีทุกชีวิต
ด้วยแนวคิดพึ่งพาตนพ้นความเศร้า
องค์พ่อหลวงทรงห่วงราษฎร์ช่วยชาติเรา
ร้อนที่เผาคงพัดผ่านท่านชี้ทาง

พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ........... tongue

เจ้าของ:  ดาราวรรณ [ 26 ก.ค. 2016, 13:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

กราบสาธุๆๆ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Duangtip [ 29 ต.ค. 2017, 18:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

:b39: :b44: ขอน้อมรำลึกถึงยอดมงกุฎแห่งแผ่นดินพระองค์นี้ด้วยเจ้าค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  AAAA [ 14 ม.ค. 2019, 10:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “รองเท้าพ่อ” ต้นแบบแห่งความพอเพียง

4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/