วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 10:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ

7.ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนี หรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า 'แม่'



44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต
มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า
พอแม่หลับจึงเสด็จฯ กลับ
เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว
ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง
ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน
ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง


รูปภาพ

ในหลวงทรงเก็บพระอัฐิสมเด็จย่า

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 16:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


63. ห้องทรงงานของในหลวง
อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯ
เป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร
คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล
ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


รูปภาพ


.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 04:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 03:11
โพสต์: 27

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากเว็บเด็กดีด๊อทคอม ครับ ฝากด้วย ...


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19
ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)








นิตยสารฟอร์บ เสนอบทความราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าพระมหากษัตริย์ของไทยมีพระราชทรัพย์มากที่สุดในบรรดา 15 ราชวงศ์ที่อยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์) โดยพระราชทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนี้สืบเนื่องจากความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์



ลำดับที่ 2 คือ ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน แห่งอาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มีพระราชทัพย์ประมาณ 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ความมั่งคั้งของพระองค์เกิดจากการที่เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันสำรองคิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้นอาบูดาบียังมีชื่อเสียงเนื่องมาจากการลงทุนระดับแนวหน้าโดยบรรษัทที่รัฐเป็นเจ้าของนั่นคือเงินลงทุน 7.5 พันล้านเหรียญฯ ในบริษัท Citibank



จากรายงานของฟอร์บส์นั้น พบว่าพระมหากษัตริย์หลายพระองค์มีพระราชทรัพย์ลดลง เนื่องจากผลกระทบที่ต่างๆ ไป เช่น สุลต่านแห่งบรูไน ซึ่งเป็นกษัตริย์จากเอเชียอีกเพียงประเทศเดียวที่เข้าทำเนียบราชวงศ์ที่รำรวยของฟอร์บ ราชทรัพย์ของสุลต่านแห่งบรูไน (ทรัพย์สิน 20 พันล้านเหรียญฯ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องลดอัตราการผลิตน้ำมันเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันในประเทศบรูไนลดลง โดยฟอร์บระว่า กิจการน้ำมันนั้นเป้นมรดกตกทอดของราชวงศ์บรูไนซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี



กษัตริย์โมฮัมมัดที่ 6 แห่งประเทศโมร็อกโก ขณะนี้มีทรัพย์สินรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญฯ เนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชะลออยู่ที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์



อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่กล่าวมานั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับ 6 ราชวงศ์จากประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งทำเงินส่วนใหญ่จากการค้าน้ำมัน



อันดับที่ 5 ชีค โมฮัมมัด บิน ราชิด อัล มาคทูม แห่งดูไบ ทรงมีพระราชทรัพย์สุทธิ 18 พันล้านเหรียญฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Dubai Holding ซึ่งมีการลงทุนใหญ่ๆ ในหลายบริษัท เช่น โซนี่ และบริษัทผลิตอาวุธ EADS และเมื่อเร็วๆ นี้กองทุนรวมเพื่อการลงทุนของชีคพระองค์นี้ได้ใช้เงิน 5 พันล้านเหรียญฯ เพื่อถือหุ้นในบริษัท MGM Mirage และ 825 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อกิจการค้าปลีก Barneys New York



อันดับ 6เจ้าชายฮันส์ อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ มีพระราชทรัพย์ทรัพย์ประมาณการ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่ LGT Bank ซึ่งเป็นหล่งทุนหลักของพระองค์ (บริหารโดยราชวงศ์มากว่า 70 ปี)ตกเป็นเป้าในคดีหลีกเลี่ยงภาษีอันอื้อฉาว ซึ่งบริษัทของพระองค์ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือลูกค้าฐานะดีหลายรายในการ "ซุกซ่อน" ทรัพย์สิน จากการสืบสวนของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ พบว่าพระอนุชาของพระองค์ (เจ้าชายฟิลิป) มีส่วนเกี่ยวข้องในการนี้ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานของ LGT



เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ยังไม่อภิเษกสมรส และถูกร่ำลือว่าทรงส่งแฟนสาวของของพระองค์เข้าเรียนคอร์สติวเข้มภาษาฝรั่งเศส พระองค์มีพระราชทรัพย์ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญฯ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นส่วนกิจการคาสิโนในโมนาโก พร้อมทั้งทรงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ของประเทศ (ซึ่งมีขนาดเท่ากับ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:smarttags" />Central Park ในนิวยอร์ก) โดยการสร้างเขตปกครองใหม่ในทะเลซึ่งจะตั้งอยู่บนเสาขนาดมหึมา โครงการดังกล่าวนี้สร้างความวิตกกังวลแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่พอสมควร



กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่ไม่ได้มีมีดินแดนครอบครอง (ในฐานะประมุขแห่งรัฐ) ก็คือ อากาข่าน (ทรงเป็นนักขี่ม้า) ถือเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวมุสลิมอิสไมลิยาห์ (Ismaili Muslims) กว่า 15 ล้านคนที่กระจายอยู่ทั่วโลก มีพระราชทรัพย์สุทธิอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเร็วๆ นี้พระองค์ได้ซื้อหุ้นในบริษัทประมูลม้าที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ



พระราชินี 2 พระองค์ที่ติดอยู่มนทำเนียบของฟอร์บ กำลังถูกกล่าวขวัญเกี่ยวกับการสละราชสมบัติ โดยมีข่าวลือว่า พระราชินีบีทริกซ์แห่งเบลเยียม (อันดับที่ 14) จะสละราชบังลังก์เพื่อพระราชโอรส ในขณะที่พระราชินีอลิซาเบธแห่งอังกฤษ (อันดับที่ 12) ทรงวางแผนที่จะคำรงตำแหน่งต่อไป บดบังความหวังของพระราชโอรสอย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่มุ่งจะครองราชบัลลังก์ในระยะเวลาอันใกล้นี้



ฟอร์บระบุว่า การประเมิณทรัพย์สินของราชวศ์นั้นต้องใช้ทั้ง ศาตร์และศิลป์ประกอบกันไป เนื่องด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งของบุคคลกับรัฐนั้นมีลักษณะเฉพาะของแตกต่างกันไป



ตัวอย่างเช่น กษัตริย์มัสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ (อันดับที่ 15 ของโลก) เป็นผู้สืบทอด 2 กองทุนรวมที่สร้างขึ้นโดยพระราชบิดาในนามของ Swazi nation ในขณะที่พระองค์ทรงอยู่ในอำนาจนั้นพระองค์มีพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะใช้จ่ายทรัพย์สิน ซึ่งนี่เองทำให้พระองค์ทรงสามารถสร้างพระราชวังสำหรับพระมเหสีแต่ละพระองค์รวม 13 พระองค์ และทรงจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างสุดเหวี่ยงในหลายๆ วโรกาส หนึ่งในนั้นคือการฉลองครบรอบพระชนมายุ 40 พรรษาเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งมีรายงานว่าใช้เงินมูลค่ากว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (85 ล้านบาท)



ในประเทศอังกฤษ สินทรัพย์บางอย่างของราชวงศ์ เช่น พระราชวังบักกิ้งแฮม และเครื่องเพชรของราชวงศ์อังกฤษ (the British crown jewels) ให้ถือว่าเป็นของ British nation ไม่ใช่ของพระราชินีอลิซาเบธ ซึ่งสิ่งของที่กล่าวไปนั้นไม่ถูกนับรวมในโภคทรัพย์สุทธิของพระองค์ เพราะที่จริงแล้ว ความมั่งคั่งของพระองค์มาจากทรัพย์สินในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ งานจิตรกรรมและประติมากรรม เครื่องประดับ และแสตมป์สะสมที่รวบรวมโดยพระอัยกา



ฟอร์บระบุว่าได้ติดตามสถานะของราชวงศ์ระดับแนวหน้าจำนวนหนึ่งมาหลายปี (เช่น พระราชินีแห่งอังกฤษ และสุลต่านแห่งบรูไน) แต่การนำเสนอผ่านบทความดังกล่าวเป็นเพียงครั้งที่ 2 ที่เผยแพร่ทำเนียบราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดอย่างละเอียด แต่สถาบันกษัตริย์ของประเทศอย่างสเปนและญี่ปุ่นกลับพลาดที่จะเข้าร่วมการจัดอันดับไปอย่างน่าเสียดาย



15 ราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกซึ่งอยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ ยังคงถือครองความมั่งคั่ง แม้จะมีข้อตั้งแต่การหลีกเลี่ยงภาษี จนกระทั่งการยุบสภาผู้แทนราษฎรในประเทศสวาซิแลนด์และคูเวต โดยที่กลุ่มราชวงศ์เหล่านี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีที่ผ่านมามีพระราชทรัพย์รวมกันประมาณการที่ 95 พันล้านเหรียญฯ



ฟอร์บระบุว่า แม้ว่าราชวงศ์ต่างๆ จะถือครองความมั่งคั่ง แต่ก็พบว่าสาเหตุแห่งความมั่งคั่งนั้นหากไม่มาจากมรดกตกทอดก็มาจากพระราชอำนาจซึ่งผูกโยงกับความเป็นชาติและดินแดน และความมั่งคั่งนี้ก็จะกระจายไปในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ นี่เป็นเหตุผลที่การจัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกที่ฟอร์บทำอยู่เป็นประจำไม่นำเอากรณีของราชวงศ์ต่างๆมาจัดอันดับด้วย ไม่ว่าราชวงศ์เหล่านี้จะมีพระราชทรัพย์สุทธิสูงเพียงใดก็ตาม



ทั้งนี้ ในช่วงต้นของบทความ ฟอร์บรายงานสถานะของกษัตริย์คเยนทรา แห่งเนปาลว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประชาชนเนปาลได้ลงมติยกเลิกระบอบกษัตริย์ทั้งมีการกดดันให้กษัตริย์เคยนทราย้ายออกจากพระราชวังในกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากพระราชวังดังกล่าวจะถูกใช้ทำพิพิธภันฑ์



ที่มา:

The World's Richest Royals (Tatiana Serafin, www.forbes.com, 20 August 2008)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19
ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)


นับว่ายังเป็นความเข้าใจที่ยังคลาดเคลื่อนของคนไทยรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
ที่เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์


ขอแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระราชภารกิจของบุรพกษัตริย์ทุกพระองค์ที่ผ่านมา
ที่สำคัญพระราชภารกิจขององค์พระประมุขของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงพระองค์ปัจจุบัน
:b8:

รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
อย่างถี่ถ้วนเสียก่อนค่ะ

:b8: :b8: :b8:

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัด ตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 และได้ยกฐานะขึ้นเป็นนิติบุคคล เมื่อปี 2491. โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้มีคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย ์ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ โดยตำแหน่งและกรรมการอื่นอีก ไม่น้อยกว่า 4 นาย ซึ่งพระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้ง และในจำนวนนี้ จะได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หนึ่งคน ให้คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอำนาจหน้าที่ดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจกรรมของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอำนาจหน้าที่ตามคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบหมาย

เดิม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ในความดูแลรักษาของสำนักงานพระคลังข้างที่ ในสังกัดสำนักพระราชวัง ต่อมา มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการยกเว้นภาษีอากรเกี่ยวกับทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2477 เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2478 โดยบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ได้แบ่งแยกทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

* ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีอากร
* ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งจะต้องเสียภาษีอากร


หลัง จากนั้น ในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 เพื่อแบ่งแยก"ทรัพย์สินส่วนพระองค์" "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" และ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน" ออกจากกัน โดยเฉพาะ "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง และได้จัดตั้งสำนักงานขึ้นโดยให้ชื่อว่า "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" โดยให้มีฐานะเทียบเท่ากอง สังกัดกรมคลัง (ปัจจุบันคือ กรมธนารักษ์) กระทรวงการคลัง และรับโอนหน้าที่การงานตลอดจนข้าราชการบางส่วนมาจากสำนักงานพระคลังข้างที่ รวมทั้งได้ขอใช้สถานที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานพระคลังข้างที่ ในพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ทำการสำนักงานด้วย

ต่อ มามีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฯ อีก 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยประกาศใช้ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2484 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2491 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 โดยยกฐานะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขึ้นเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่ดูแลรักษาและจัดประโยชน์อันเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่า 4 นาย ซึ่งพระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้ง และในจำนวนนี้จะได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระ มหากษัตริย์ 1 ท่าน ให้คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอำนาจหน้าที่ดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีอำนาจหน้าที่ตามที่ คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบหมาย รวมถึงมีอำนาจลงนามเป็นสำคัญผูกพันสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ย้ายที่ทำการ 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2489 ย้ายมาอยู่ที่ "วังลดาวัลย์" หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า "วังแดง" จนกระทั่งปัจจุบัน และให้ถือเอาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันสถาปนาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

:b8: :b8: :b8:

แนะนำศึกษาเพิ่มเติม:
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

http://www.crownproperty.or.th/th/main.php


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 01 ส.ค. 2010, 16:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 03:11
โพสต์: 27

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กุหลาบสีชา เขียน:
อ้างคำพูด:
พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19
ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)


นับว่ายังเป็นความเข้าใจที่ยังคลาดเคลื่อนของคนไทยรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
ที่เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์


ขอแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระราชภารกิจของบุรพกษัตริย์ทุกพระองค์ที่ผ่านมา
ที่สำคัญพระราชภารกิจขององค์พระประมุขของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงพระองค์ปัจจุบัน
:b8:

รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
อย่างถี่ถ้วนเสียก่อนค่ะ




นิตยสารฟอร์บ เป็นนิตยสารระดับโลก ปีๆหนึ่งคนอ่ื่านหลายล้านคนครับ เขาจัดอันดับกษัตริญ์ที่รวยที่สุดในโลก 10 อันแรกมาครบสามปีแล้ว ของเราติดอันดับหนึ่งมาโดยตลอด ล่าสุดปี 2010 ก็ประกาศผลออกมาแล้วว่าอันดับหนึ่ีงเหมือนเดิม




มันไม่เกี่ยวกับว่าผมต้องกลับไปดูประวัติศาสตร์หรือ อะไรๆที่คุณว่ามาเลยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
กุหลาบสีชา เขียน:
อ้างอิงคำพูด:
พระ บาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19
ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)


นับว่ายังเป็นความเข้าใจที่ยังคลาดเคลื่อนของคนไทยรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
ที่เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์

ขอแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระราชภารกิจของบุรพกษัตริย์ทุกพระองค์ที่ผ่านมา
ที่สำคัญพระราชภารกิจขององค์พระประมุขของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงพระองค์ปัจจุบัน :b8:

รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
อย่างถี่ถ้วนเสียก่อนค่ะ


11:11 เขียน:
นิตย สารฟอร์บ เป็นนิตยสารระดับโลก ปีๆหนึ่งคนอ่ื่านหลายล้านคนครับ เขาจัดอันดับกษัตริญ์ที่รวยที่สุดในโลก 10 อันแรกมาครบสามปีแล้ว ของเราติดอันดับหนึ่งมาโดยตลอด ล่าสุดปี 2010 ก็ประกาศผลออกมาแล้วว่าอันดับหนึ่ีงเหมือนเดิม

มันไม่เกี่ยวกับว่าผมต้องกลับไปดูประวัติศาสตร์หรือ อะไรๆที่คุณว่ามาเลยครับ


รับทราบใน "เจตนา" ของคุณ 11:11 ค่ะ

และรับทราบในเจตนา และข้อเท็จจริง (Fact)
ที่ไม่จำเป็นต้องความจริง (Truth)
ที่สื่อมวลชนต่างชาติฉบับนี้รายงานตลอดมาค่ะ

จึงขอแนะนำอีกเว็บไซต์เพิ่มเิติมนะคะ :
http://www.raorakprajaoyuhua.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 01:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 03:11
โพสต์: 27

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กุหลาบสีชา เขียน:
อ้างคำพูด:
กุหลาบสีชา เขียน:
อ้างอิงคำพูด:
พระ บาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19
ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)


นับว่ายังเป็นความเข้าใจที่ยังคลาดเคลื่อนของคนไทยรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย
ที่เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์

ขอแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระราชภารกิจของบุรพกษัตริย์ทุกพระองค์ที่ผ่านมา
ที่สำคัญพระราชภารกิจขององค์พระประมุขของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงพระองค์ปัจจุบัน :b8:

รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
อย่างถี่ถ้วนเสียก่อนค่ะ


11:11 เขียน:
นิตย สารฟอร์บ เป็นนิตยสารระดับโลก ปีๆหนึ่งคนอ่ื่านหลายล้านคนครับ เขาจัดอันดับกษัตริญ์ที่รวยที่สุดในโลก 10 อันแรกมาครบสามปีแล้ว ของเราติดอันดับหนึ่งมาโดยตลอด ล่าสุดปี 2010 ก็ประกาศผลออกมาแล้วว่าอันดับหนึ่ีงเหมือนเดิม

มันไม่เกี่ยวกับว่าผมต้องกลับไปดูประวัติศาสตร์หรือ อะไรๆที่คุณว่ามาเลยครับ


รับทราบใน "เจตนา" ของคุณ 11:11 ค่ะ

และรับทราบในเจตนา และข้อเท็จจริง (Fact)
ที่ไม่จำเป็นต้องความจริง (Truth)
ที่สื่อมวลชนต่างชาติฉบับนี้รายงานตลอดมาค่ะ

จึงขอแนะนำอีกเว็บไซต์เพิ่มเิติมนะคะ :
http://www.raorakprajaoyuhua.com/




ผมชอบเข้าเว็บที่สามารถพูดอะไรตรงไปตรงมาได้ครับ



ข้อมู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2011, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 10:28
โพสต์: 439


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน :b8:

.....................................................
สรรพสิ่งทุกอย่าง ล้วนมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

.................................................................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุและผลอยู่ในตัว
การกระทำของตนย่อมเป็นกรรมที่ตนกำหนดเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2012, 11:34
โพสต์: 74


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืืนนาน

:b8: :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2012, 23:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืืนนาน
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร