ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระพุทธโลกนาถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46274 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 16 ก.ค. 2013, 08:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระพุทธโลกนาถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) |
ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด พระพุทธโลกนาถ พระประธานในพระวิหารทิศตะวันออกมุขหลัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) “วัดโพธิ์” หรือ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” เดิมชื่อว่า “วัดโพธาราม” เป็นวัดโบราณเก่าแก่ ซึ่งราษฎรสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แม้ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างวัดโพธารามที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นหลังจากปีพุทธศักราช ๒๒๓๑ ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาต่อกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวัดราษฎร์ขนาดเล็กอยู่ในเขตตำบลบางกอก ปากน้ำเจ้าพระยา เมืองธนบุรี ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า “วัดโพธิ์” มาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้ ภายใน พระวิหารทิศตะวันออกมุขหลัง บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนประดิษฐานอยู่ นามว่า “พระพุทธโลกนาถ” หรือนามทางการว่า “พระพุทธโลกนาถ ราชมหาสมมตวงศ องคอนันตญาณสัพพัญญู สยัมภูพุทธบพิตร” พระพุทธโลกนาถซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติองค์นี้มีขนาดสูง ๒๐ ศอก เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในพระราชวังพระนครศรีอยุธยา แต่เมื่อกรุงแตก วัดต่างๆ ถูกเผาทำลายรวมถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์ด้วย ดังนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ ทรงสถาปนาวัดพระเชตุพนฯ ขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ พระพุทธโลกนาถจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในพระราชวังพระนครศรีอยุธยา มาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารทิศตะวันออกมุขหลังจนปัจจุบัน พระพุทธรูปพระองค์นี้มีพระนามมาแต่เดิมว่า “พระโลกนาถสาสดาจารย์” เข้าใจว่าเป็นพระพุทธรูปซึ่งพระเจ้าแผ่นดินครั้งกรุงศรีอยุธยาทรงสร้างขึ้น แต่จะได้สร้างขึ้นเมื่อใดนั้นมิได้ปรากฏ เดิมประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในพระราชวังพระนครศรีอยุธยา เมื่อพระนครศรีอยุธยาเสียแก่พม่าฆ่าศึก เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ ครั้งนั้นพวกพม่าได้เก็บทรัพย์สมบัติและผู้คนไปเมืองพม่าเสียเป็นอันมาก และยังซ้ำเผาพระมหาปราสาทพระราชมณเฑียรและวัดพระศรีสรรเพชญ์ ตลอดถึงบ้านเรือนราษฎรในพระนครนั้นด้วย ในเวลาที่พระนครศรีอยุธยาเสียแก่พม่าฆ่าศึกนั้น เจ้าตากจึงได้ไปตั้งรวบรวมรี้พลที่เมืองจันทบุรี แล้วยกกองทัพเข้ามาชิงพระนครศรีอยุธยาได้จากพวกพม่า แต่ในเวลานั้นหัวเมืองไทยที่มิได้เสียแก่พม่านั้น ต่างเมืองต่างก็ยังตั้งเป็นอิศรแก่กันอยู่ เจ้าตากคงจะเห็นว่าพระนครศรีอยุธยาใหญ่โตมาก กำลังรี้พลที่มีอยู่ไม่พอที่จะตั้งรักษาต่อสู้ฆ่าศึกได้จึงลงมาตั้งเมืองธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี แต่เรื่องที่ปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดารนั้นว่า “เมื่อเจ้าตากได้พระนครศรีอยุธยาจากพม่าฆ่าศึกแล้ว ก็ดำริที่จะบำรุงพระนครให้ปรกติดีดังเก่า จึงได้เข้าไปพักแรมอยู่ ณ พระที่นั่งทรงปืน อยู่คืนหนึ่ง จึงนิมิตรฝันว่าพระมหากษัตริย์แต่ปางก่อนมาขับไล่เสียบมิให้อยู่” ดังนี้ เจ้าตากจึงได้อพยพผู้คนพลเมืองลงมาตั้งเมืองธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๑ ตกลงคงปล่อยให้พระราชวังในพระนครศรีอยุธยา เป็นพระราชวังร้างตั้งแต่นั้นมา ส่วนพระโลกนาถสาสดาจารย์ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ และต้องเพลิงเผาผลาญตั้งแต่ครั้งเสียพระนครแก่พม่าฆ่าศึกนั้น ก็ย่อมชำรุดปรักหักพังทั้งต้องตรำฝนทนแดดอยู่ในที่นั้นช้านานตลอดสมัยรัชกาลกรุงธนบุรี ครั้นถึงกรุงรัตนโกสินทรฯ พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงสถาปนาวัดพระเชตุพนฯ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๒ ครั้งนั้น จึงโปรดฯ ให้เชิญพระโลกนาถสาสดาจารย์ลงมาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ ทรงปฏิสังขรณ์สำเร็จแล้ว ทรงบรรจุพระบรมธาตุแล้วเชิญประดิษฐาน เป็นพระประธานในพระวิหารทิศตะวันออกมุขหลังดังปรากฏอยู่บัดนี้ อนึ่ง พระโลกนาถสาสดาจารย์พระองค์นี้ ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นชรอยมหาชนจะนิยมกันว่า เป็นพระพุทธรูปซึ่งทรงอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่างหนึ่ง จึงเป็นมูลเหตุสืบมาในชั้นหลัง คือเจ้าจอมแว่นพระสนมเอกในรัชกาลที่ ๑ กราบทูลความปรารถนาใคร่จะอธิษฐานขอบุตร จึงโปรดฯ ให้สลักศิลาเป็นรูปกุมารกุมารี ประดับไว้ที่ฝาผนังพระวิหารเป็นพะยานปรากฏอยู่ทุกวันนี้ และมีโคลงจารึกไว้กับรูปกุมารกุมารีดังต่อไปนี้ รจนาสุดารัตนแก้ว กุมารี หนึ่งฤา เสนอธิบายบุตรี ลาภได้ บูชิตเชฐชินศรี เฉลาฉลัก หินเฮย บุญส่งจงลุได้ เสร็จด้วยดังถวิล กุมารหนึ่งพึงฉลักตั้ง ติดผนัง สถิตย์อยู่ทิศเบื้องหลัง พระไว้ คุณเสือสวาดิหวัง แสวงบุตร ชายเอย เฉลยเหตุธิเบศร์ให้ สฤษดิแสร้งแต่งผล โคลงจารึกไว้กับรูปกุมารกุมารีทั้ง ๒ บทนี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพทรงพระวินิจฉัยไว้ดังต่อไปนี้ พระนิพนธ์ โคลงจารึกไว้กับภาพกุมารในวิหารพระโลกนาถนั้น มักเข้าใจกันว่าเป็นพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ข้าพเจ้าได้พิจารณาดูเห็นเป็นแน่ว่า เป็นพระนิพนธ์สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส จึงสันนิษฐานว่า ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อเจ้าจอมแว่นพระสนมเอก ซึ่งเรียกกันว่าคุณเสือ กราบทูลความปรารถนาใคร่จะอธิษฐานขอบุตรนั้น โปรดฯ ให้ทำแต่รูปกุมารติดไว้ เรื่องเดิมของรูปกุมารเป็นแต่บอกเล่ารู้กันมา ชรอยพระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงพระราชดำริเกรงคนทั้งหลายภายหลังเห็นว่า รูปกุมารไม่เกี่ยวข้องกับพระศาสนา จะรื้อทำลายเสีย จึงอาราธนาสมเด็จกรมพระปรมานุชิตฯ ให้ทรงพระนิพนธ์โคลงบอกเรื่องของภาพกุมารไว้ เห็นเป็นในคราวเดียวกับเมื่อทรงขนานนามพระพุทธรูปในพระวิหารทิศ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตฯ จึงทรงใช้นามในโคลงว่าคุณเสือ ตามซึ่งพระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเรียกก่อน แล้วคนทั้งหลายเรียกตามจนชินปากต่อมา ถ้าเป็นพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็จะหาทรงใช้นามว่าคุณเสือเช่นนั้นไม่ อันนี้เป็นหลักสำคัญในข้อวินิจฉัย ครั้นถึง รัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายสร้อยพระนามพระโลกนาถสาสดาจารย์ว่า “พระพุทธโลกนาถ ราชมหาสมมตวงศ องคอนันตญาณสัพพัญญู สยัมภูพุทธบพิตร” ดังนี้ แล้วโปรดฯ ให้จารึกพระนามลงในแผ่นศิลาประดับไว้ที่ฝาผนังดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้ “พระพุทธโลกนาถ” ในพระวิหารทิศตะวันออกมุขหลัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) คัดลอกเนื้อหาบางตอนมาจาก :: วัดประจำรัชกาลที่ ๑ : วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19426 |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 09 ก.ย. 2013, 07:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธโลกนาถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) |
ไปกราบมาแล้วค่ะ องค์พระพุทธรูปในวัดโพธิ์งดงามทุกองค์เลยค่ะ |
เจ้าของ: | daoduan [ 29 ส.ค. 2015, 11:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธโลกนาถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) |
สาธุๆๆค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |