ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41483 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 10 มี.ค. 2012, 20:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
[พระพุทธเจ้าประทับยืน ปางประทานอภัย ขนาบด้วยพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร ขนาด ๑.๐๓ x ๒.๙๒ เมตร ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร] พระบฏ : ภู มิ ปั ญ ญ า ไ ท ย ในจิตรกรรมไทยประเพณี เมื่อพูดถึงหรือนึกถึง พระบฏ ดูจะเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า หมายถึง ภาพเขียนพระพุทธเจ้า หรือภาพเล่าเรื่องในพระพุทธประวัติ พระมาลัย หรือทศชาติชาดก ลงบนผืนผ้าขนาดยาว ที่แขวนห้อยอยู่ภายในอาคารศาสนสถาน เช่น ศาลาการเปรียญ วิหาร และอุโบสถ ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยากเต็มที [พระพุทธประวัติ ตอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ขนาด ๐.๗๖ x ๑.๖๖ เมตร ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป] คำว่า พระบฏ ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง ผืนผ้าที่มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้นและแขวนไว้เพื่อบูชา คำว่า บฏ มาจากคำในภาษาบาลีว่า "ปฏ" (อ่านว่า ปะ-ตะ) แปลว่า ผ้าทอ หรือ ผืนผ้า หลักฐานการกล่าวถึงพระบฏในดินแดนประเทศไทยที่เก่าที่สุด ปรากฏในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย หลักที่ ๑๐๖ พบที่วัดช้างล้อมจึงเรียกว่า จารึกวัดช้างล้อม ระบุปีพุทธศักราช ๑๙๒๗ กล่าวถึง นักบวชรูปหนึ่งชื่อว่า พนมไสดำ ได้สร้างพระบฏขนาดใหญ่สูงถึง ๗ เมตร เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ไปให้แก่พระมหาธรรมราชา และนอกจากนี้ในจารึกยังกล่าวถึงพระบฏจีน ที่มีขนาดเล็กกว่า และใช้ในการประดับตกแต่งภายในอาคาร [พระพุทธเจ้าปางลีลา ฝีมือช่างล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๐] คติการสร้างพระบฏตั้งแต่ครั้งสุโขทัยได้มีการสืบทอดต่อกันมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ พระบฏที่เก่าแก่ที่สุดที่พบ คือ พระบฏที่พบได้จากกรุพระเจดีย์ วัดดอกเงิน อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดสูง ๓.๔๐ เมตร และกว้าง ๑.๘๐ เมตร เป็นฝีมือสกุลช่างล้านนา อายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ คือ สมัยอยุธยาตอนกลาง เป็นภาพพระพุทธเจ้าปางลีลาขนาดใหญ่ กึ่งกลางผ้า ด้านข้างเป็นแถวของเทพชุมนุม ด้านบนเป็นพระเจดีย์ทอง ส่วนด้านล่างเป็นแถวของภิกษุ กษัตริย์และชาวเมือง ซึ่งเป็นเรื่องราวในพระพุทธประวัติตอนเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระบฏที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นพระบฏที่เขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นต้นมา [ช่วงบนเป็นภาพพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ คือพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระสมณโคดม และพระศรีอาริยเมตไตรย ใต้ล่างภาพพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ มีสัตว์ประจำในแต่ละกัปป์ คือไก่ นาค เต่า วัว และเสือ ตามลำดับ] (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 10 มี.ค. 2012, 20:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
[พระพุทธเจ้าประทับยืน ปางประทานอภัย ขนาบข้างด้วยพระอัครสาวก] ความมุ่งหมายของการสร้าง พ ร ะ บ ฏ การสร้างพระบฏในคติดั้งเดิมนั้น สร้างเป็นพุทธบูชาด้วยการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อการประดับตกแต่งอาคารศาสนสถาน บ้างใช้บูชากราบไหว้แทนองค์พระปฏิมา แต่ในระยะหลังนั้น เป็นการสร้างขึ้นเพื่อเป็นอานิสงส์ให้แก่ผู้สร้างเอง และบุคคลในครอบครัว ที่บริเวณส่วนล่างของผืนผ้ามักมีคำเขียนอุทิศ บอกชื่อผู้สร้างและวันเดือนปีไว้ด้วย พระบฏ มีความแพร่หลายและเป็นที่นิยมกันมากในสมัยรัชกาลที่ ๕ นอกจากจะมีการสร้างอุทิศถวายให้แก่วัดแล้ว ยังมีไว้บูชาภายในบ้านอีกด้วย ในความเปลี่ยนแปลงจุดมุ่งหมาย ทำให้รูปลักษณ์ของพระบฏเปลี่ยนไปด้วย ทั้งเรื่องราวที่เขียน และวัสดุที่ใช้ทำ เปลี่ยนจากการเขียนลงบนผืนผ้า เป็นการเขียนแบบ แล้วส่งไปตีพิมพ์บนกระดาษที่ต่างประเทศ [พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์ ขนาด ๑.๐๖ x ๒.๕๙ เมตร ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป] สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงมีลายพระหัตถ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ทรงพระดำริทำพระบฏเล็กๆ ขาย ให้พระวรรณวิจิตร (ทอง) เขียนตัวอย่างเป็นปางมารประจญ แล้วส่งออกไปตีพิมพ์ที่เมืองนอก ครั้น ได้เข้ามาก็ส่งไปจำหน่ายตามร้านเป็นที่ต้องตา ต้องใจคนมาก ขายดี เล่าลือจบทราบถึงพระกรรณ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ตรัสถามถึงลักษณะพระบฏนั้น ฉันจึงไปซื้อมาถวายแผ่นหนึ่ง ก็พอพระราชหฤทัย ต่อมากรมหลวงสรรสาตรศุภกิจ เห็นว่าขายดีมีกำไรมาก จึงทรงจัดให้ช่างเขียนขึ้นหลายแบบส่งออกไปทำเข้ามาอีก แล้วคนอื่นก็สั่งทำเข้ามาขายด้วย ต่างคิดค้นหาแบบเก่าใหม่ที่หวังว่าคนจะชอบส่งไปเป็นตัวอย่าง เป็นการแย่งขายแย่งประโยชน์กันตามเคย พระบฏต่างๆ จึงมีทะยอยๆ กันเข้ามามาก...” (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 10 มี.ค. 2012, 21:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
[พระมาลัยไปไหว้พระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ขนาด ๐.๙๒ x ๒.๑๕ เมตร ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป] การศึกษาพัฒนาการทางรูปแบบของ พ ร ะ บ ฏ ที่พบในประเทศไทย การศึกษาพัฒนาการทางรูปแบบของพระบฏครั้งนี้ เป็นการศึกษาจากพระบฏ จำนวน ๖๖ ชิ้น ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี และหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้ แบบแรก เป็นภาพพระพุทธเจ้าองค์เดียว หรือ ภาพพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอัครสาวกประทับยืนเขียนเต็มทั้งผืนผ้า แบบที่สอง เป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับยืนพระองค์เดียว หรือขนาบข้างด้วยพระอัครสาวก ในเนื้อที่ ๓ ใน ๔ ของผืนผ้าด้านบนหรือด้านล่าง ขนาด ๑ ใน ๔ เขียนภาพเล่าเรื่องในพระพุทธประวัติ พระมาลัย หรือทศชาติ แบบที่สาม ตรงกลางผืนผ้ายังคงเป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับยืน พร้อมด้วยพระอัครสาวกแต่มีขนาดเล็กลงกว่าแบบที่ ๑ และแบบที่ ๒ เพราะให้ความสำคัญแก่ภาพเล่าเรื่องมากขึ้น ที่นิยมกันมาก คือ เรื่องพระมาลัยและพระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เขียนไว้ช่วงบน ส่วนช่วงล่างเป็นตอนสำคัญๆ ในพระพุทธประวัติ และชาดก แบบที่สี่ เป็นภาพเล่าเรื่องเต็มทั้งผืน เช่น พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระพุทธมารดาและเสด็จลงจากดาวดึงส์ มารผจญ ทศชาติชาดก พระมาลัย แบบที่ห้า เขียนภาพเล่าเรื่องเป็นตอนๆ ในพระพุทธประวัติ หรือชาดกลงบนผืนผ้าขนาดเล็ก ประมาณ ๗๐ x ๘๐ เซนติเมตร หรือ ขนาด ๕๐ x ๕๐ เซนติเมตร ที่นิยมกันมาก คือ เวสสันดรชาดก ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ เขียนเล่าเรื่องเป็นตอนๆ บนผืนผ้าแต่ละผืน [เวสสันดรชาดก กัณฑ์ทศพร ขนาด ๐.๕๕ x ๐.๗๕ เมตร ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี] (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 10 มี.ค. 2012, 21:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
[เวสสันดรชาดก กัณฑ์มหาพน ตอนที่พระฤาษีชี้ทางไปยังเขาวงกตแก่ชูชก ขนาด ๐.๔๘ x ๐.๗๗ เมตร ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป] ช่างเขียนพ ร ะ บ ฏ ในหนังสือทูลเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ทำให้ทราบว่าช่างเขียนพระบฏในสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่สำคัญ คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ - พระเทวาภินิทมิตร - พระยาจินดารังสรรค์ (พลับ) - พระวรรณวาศวิจิตร (ทอง) - พระพรหมพิจิตร (ใจ) - หลวงเพศวกรรม (เล็ก) อย่างไรก็ตาม ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น ปรากฏช่างเขียนเป็นจำนวนมากที่ล้วนมีฝีมือ ผลงานที่สำคัญคือ ภาพเขียนที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สันนิษฐานว่า ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ก็คือช่างเขียนพระบฏในสมัยรัชกาลที่ ๕ ด้วย ช่างเขียนที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม คือ พระอาจารย์ลอย วัดสุวรรณาราม (แม่กองร่างภาพ) - พระอาจารย์แดงวัดหงส์รัตนาราม - อาจารย์ยมวัดราชบูรณะ - พระสินวัดระฆัง - พระครูธรรมธาดา (เที่ยง) - นายรอด - หลวงเพศวกรรม (เล็ก) - พระพรหมพิจิตร (ใจ) - ม.จ.ประวิช ชุมสาย - พระยาจินดารังสรรค์ (พลับ) -พระวิทยะบรรจง (จ่าง) - พระวรรณวาศวิจิตร (ทอง) - พระยาอนุศาสตร์จิตรกร (จันทร) - ขุนศรีศุภหัตถ์ (นึก) - หลวงวัฒนศิลป์ - หมื่นศิรธัช - กรมหมื่นวรวัฒน์ และ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระบฏ เป็นมรดกทางศิลปะและภูมิปัญญาของไทยมาแต่โบราณกาล ที่นับวันใกล้จะสูญหายและเสื่อมสภาพไป โดยที่คุณค่าและความสำคัญของพระบฏ ยังไม่เป็นที่เปิดเผยและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งนัก หากไม่มีการศึกษา รวบรวมและเก็บรักษาไว้ คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อนุชนคนไทยจะไม่มีโอกาสได้รับรู้ และชื่นชมมรดกอันล้ำค่านี้ (ข้อมูลอ้างอิง : จารุณี อินเฉิดฉาย, พระบฏ ภูมิปัญญาไทยในงานจิตรกรรมไทยประเพณี. ศิลปากร, นิตยสารรายสองเดือน, กรุงเทพฯ : เอ.พี.กราฟิค ดีไซน์และการพิมพ์ จำกัด, พ.ศ.๒๕๔๕, หน้า ๒๕-๔๕. http://www.oknation.net/blog/phaen/2007/08/07/entry-1 |
เจ้าของ: | Duangtip [ 07 ก.ค. 2018, 13:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | AAAA [ 04 เม.ย. 2019, 07:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
เจ้าของ: | อุบาสกน้อย [ 23 มิ.ย. 2020, 21:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระบฏ : ภูมิปัญญาไทยในจิตรกรรมไทยประเพณี |
ขออนุโมทนาครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |