วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2008, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด

พระเหลาเทพนิมิต
พระประธานในอุโบสถ วัดพระเหลาเทพนิมิต
บ้านพนา ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ


“พระเหลาเทพนิมิต” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ประทับขัดสมาธิราบ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร สูง ๒.๗๐ เมตร
ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ
ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายใน “อุโบสถ”
วัดพระเหลาเทพนิมิต ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ


ตามประวัติ บรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมืองบ้านพนา
ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดงสูง
ริมกุดบึงใหญ่ หรือกุดพระเหลาในปัจจุบัน

“พระครูธิ” พระที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ
ได้ชักชวนให้ร่วมกันสร้างวัดบริเวณริมกุดบึงใหญ่
และให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่า “วัดศรีโพธิชยารามคามวดี”
โดยมีพระครูธิ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก

หลังสร้างวัดเสร็จในปี พ.ศ.๒๒๖๓ พระครูธิ เจ้าอาวาส
จึงได้นำศิษย์และญาติโยมเริ่มก่อสร้างอุโบสถและศาลาการเปรียญ
โดยตัวอุโบสถมีขนาดกว้าง ๙.๘๐ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ฐานอุโบสถและผนังก่อด้วยอิฐ
โครงหลังคาเป็นไม้เนื้อแข็งลดหลั่น ๒ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องไม้

พ.ศ.๒๕๑๕ ได้เปลี่ยนเป็นหลังคากระเบื้อง เพราะของเดิมทรุดโทรมมาก
หน้าบันไดด้านตะวันออกทำด้วยไม้สลักลวดลายต่างๆ
ห้องกลางมีลายเถาว์ไม้เต็มห้อง ตรงกลางเป็นรูปราหูกลืนจันทร์
ระหว่างเถาว์ไม้ยังมีรูปเทพนม และรูปหนุมานสลับเป็นช่อง
ลวดลายทั้งหมดทำด้วยปูนเพชรแกะสลักอย่างประณีต
ไม่ได้สลักลงในเนื้อไม้ พร้อมลงรักปิดทองฝังกระจกทั้งหมด


ภายในตัวอุโบสถยังใช้ไม้เนื้อแข็งทรงกลมทำเป็นเสา
ขนาดวัดรอบ ๗๖ เซนติเมตร จำนวน ๘ ต้น
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๔ ได้มีการเปลี่ยนเสาไม้เป็นเสาอิฐถือปูนรูป ๔ เหลี่ยม
และปี พ.ศ.๒๔๗๑ ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล (บุดรอด นนฺตโร)
เจ้าคณะจังหวัดกิตติมศักดิ์ จังหวัดอุบลราชธานี
ได้เขียนลายเถาว์ด้วยสีต่างๆ รอบเสา ๔ ต้น ที่อยู่ในห้องพระประธาน
ส่วนเพดานติดดาวกระจายปิดทองประดับกระจก ๔๔ ดวง
โดยพื้นเพดานเป็นสีแดงดูอร่ามตา ส่วนพื้นอุโบสถทำเป็นกระเบื้องซีเมนต์

หลังสร้างอุโบสถเสร็จ พระครูธิได้นำคณะลูกศิษย์
สร้างองค์พระประธานประจำอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ขนาดสูง ๒.๗๐ เมตร หน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร
ก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทอง แท่นพระประธานก่อด้วยอิฐถือปูน
มีชายผ้านิสีทะนะเหลื่อมพ้นออกมา
ตรงกลางผ้ามีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยท่านพระครูธิเป็นผู้ออกแบบเอง
และมอบหมายให้ภิกษุแก้วกับภิกษุอิน ลูกศิษย์เป็นช่างทำการก่อสร้าง


โดยพระครูธิ อธิบายวิธีทำให้ลูกศิษย์ทำเป็นวันละส่วน วันละตอน
หลังลูกศิษย์ทำงานเสร็จก็ให้มารายงานผลการสร้างให้ทราบทุกวัน
โดยท่านพระครูธิไม่ได้ลงไปดูแลด้วยเอง

กระทั่งถึงขั้นตอนขัดเงาลงรักปิดทอง
ท่านจึงลงไปดูและถามลูกศิษย์ที่เป็นช่างว่า
“ทำงานได้เต็มฝีมือแล้วหรือ” เหล่าช่างก็ตอบว่าได้ทำเต็มฝีมือแล้ว
แต่เมื่อพระครูธิ เห็นองค์พระประธานที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์พากันทำมา
จึงเอ่ยว่าทำงานได้งามอยู่หรอก แต่ต้องให้งามกว่านี้
บรรดาลูกศิษย์ที่เป็นช่างยอมรับว่าหมดฝีมือที่จะทำแล้ว
คงไม่สามารถทำให้พระประธานงามได้มากกว่านี้

ขณะเดียวกัน มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ “ซาพรหม”
ซึ่งอยู่ในทีมช่างที่ก่อสร้างองค์พระ
ได้แสดงตนว่า สามารถทำให้องค์พระงามกว่านี้ได้
พระครูธิจึงมอบหมายให้พระซาพรหมเป็นผู้แก้ไข
และพระซาพรหมก็ทำองค์พระพุทธรูปได้สวยงามสมคำพูด
โดยเฉพาะใบหน้าองค์พระประธานมีลักษณะงดงามสมส่วนทุกประการ

รูปภาพ

รูปภาพ

กล่าวกันว่า “พระเหลาเทพนิมิต” เป็นพระพุทธรูป
ที่มีพระพุทธลักษณะงดงามที่สุดในภาคอีสาน

ตามแบบฉบับศิลปะลาว สกุลช่างเวียงจันทร์
ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะช่างล้านนาและมีฝีมือช่างท้องถิ่นปรากฏอยู่มาก
เช่น เค้าพระพักตร์ เปลวรัศมีที่ยืดสูงขึ้น สัดส่วนของพระเพลาและพระบาท
คล้ายคลึงกับองค์พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๓-๒๕

จากลักษณะขององค์พระพุทธรูปที่งดงาม
เวลาเข้าไปกราบนมัสการจะเหมือนท่านยิ้มต้อนรับ
คนทั่วไปจึงตั้งชื่อให้ท่านว่า “พระเหลา”
ที่มีความหมายว่า “งดงามคล้ายเหลาด้วยมือ”

ต่อมา วัดศรีโพธิชยารามคามวดี ที่ใช้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระเหลา
ได้เปลี่ยนชื่อเรียกตามความนิยมในตัวองค์พระเป็นวัดพระเหลา
หมู่บ้านที่ตั้งได้เปลี่ยนชื่อตามเป็นบ้านพระเหลาด้วย

จนถึง พ.ศ.๒๔๔๑ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี และภาคอีสาน
ได้เสริมนามต่อท้ายให้กับองค์พระเป็น “พระเหลาเทพนิมิต”
ซึ่งมีความหมายว่า “พระพุทธรูปที่งามคล้ายเหล่าดุจเทวดานิมิตไว้”

สำหรับพระเหลาเทพนิมิต นอกจากจะมีความงดงามตามพุทธศิลปะแล้ว
มีคำเล่าลือกันว่า ทุกคืนวันพระ ๗ ค่ำ, ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ, ๑๕ ค่ำ
องค์พระพุทธรูปพระเหลาเทพนิมิต จะแสดงพุทธานุภาพให้เกิด
ลำแสงสีเขียวแกมขาวขจีลอยออกจากพระอุโบสถในเวลาเงียบสงัด

ทั้งนี้ การเข้ากราบนมัสการพระเหลาเทพนิมิต
ผู้ต้องการบนบานขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยเฉพาะคนที่ไม่มีบุตร มีการกล่าวกันว่า
เมื่อมาบนบานขอจากพระเหลาเทพนิมิตแล้ว จะประสบความสำเร็จสมดังที่ตั้งใจ
ส่วนสิ่งของที่ใช้บนบานสานกล่าวก็คือ ดอกไม้ธูปเทียน และปราสาทผึ้ง


ปัจจุบัน วัดพระเหลาเทพนิมิต มี พระครูอุดมวิหารกิจ เป็นเจ้าอาวาสวัด
ส่วนวัดพระเหลาเทพนิมิต ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กิโลเมตร
และอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพนาเพียง ๒ กิโลเมตร มีเส้นทางคมนาคมสะดวก

สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระเหลาเทพนิมิต
วัดจะจัดงานทุกวันเพ็ญเดือน ๓ หรือในวันมาฆบูชาทุกปี

รูปภาพ
ประตูด้านหน้าวัดพระเหลาเทพนิมิต อ.พนา จ.อำนาจเจริญ

รูปภาพ
อุโบสถ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระเหลาเทพนิมิต”


:b44: หนังสือไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด
กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน


:b8: ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ
http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?t=32693
http://www.pdamobiz.com/forum/forum_pos ... 1&get=last

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2015, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


ไปสักการะมาแล้ว องค์พระงามมากค่ะ โดยรอบวัดก็งามไม่แพ้กัน อยากไปเยือนอีกครั้งค่ะ Kiss


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร