ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พระของขวัญ วัดปากน้ำ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=32380
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 07 มิ.ย. 2010, 12:04 ]
หัวข้อกระทู้:  พระของขวัญ วัดปากน้ำ

พระของขวัญ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ขนาดไฟล์ 11 MB เวลา 11:51 นาที



http://www.watpaknam.org/teaching/view.php?id=7
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
1-1.jpg
1-1.jpg [ 156.85 KiB | เปิดดู 6355 ครั้ง ]
.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 6352 ครั้ง ]
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 6349 ครั้ง ]
post-4320-1263216397.jpg
post-4320-1263216397.jpg [ 46.26 KiB | เปิดดู 6347 ครั้ง ]

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 07 มิ.ย. 2010, 12:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระของขวัญ วัดปากน้ำ

ประวัติพระของขวัญ

พระของขวัญวัดปากน้ำ เป็นพระผงองค์เล็กๆ ที่หลวงพ่อพระมงคลเทพมุนีได้สร้างขึ้น มีทั้งหมด 3 รุ่น ด้วยกัน คือ รุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 พระของขวัญแต่ละรุ่นที่ท่านสร้างขึ้นนี้ท่านมิได้ปลุกเสกด้วยคาถาใดๆ เหมือนคณาจารย์อื่นๆ แต่ท่านกระทำให้สำเร็จขึ้นมาด้วยวิธีทำสมาธิภาวนา ตามหลักวิชาธรรมกายของท่าน พระของขวัญที่หลวงพ่อพระมงคลเทพมุนีได้สร้างขึ้นนี้ จึงคงความศักดิ์สิทธิ์ มีคุณานุภาพเป็นที่ประจักษ์แก่ชนโดยทั่วไป การที่หลวงพ่อท่านได้สร้างพระของขวัญขึ้นนี้ ก็เพื่อจะมอบให้เป็นของขวัญแก่ผู้ที่มาทำบุญเพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างโรงเรียนพระประยัติธรรม
พระของขวัญ รุ่น 1
พระของขวัญ รุ่น 1 นี้ สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2493 จำนวน 84,000 องค์ ซึ่งเท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ โดยที่หลวงพ่อได้ปรารถว่าต้องการที่จะรวบรวมจตุปัจจัยที่ได้ในการนี้ นำมาเพื่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยได้ริเริ่มพิมพ์ขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือน 7 ก่อนเข้าพรรษาหนึ่งเดือน เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็ได้เริ่มทำพิธีบรรจุพุทธานุภาพตามหลักวิชาธรรมกายด้วยตัวของท่านเองตลอดพรรษา คือในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ไปจนถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 รวมสามเดือน และได้เริ่มแจกในวันแรม 6ค่ำ เดิอน 11 ปีเดียวกัน ในอภิรักขิตสมัยคล้ายวันเกิดของท่าน ณ อุโบสถ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อได้ทำการแจกเรื่อยมา จนกระทั่งหมดลง เมื่อปี พ.ศ. 2497


แม่พิมพ์ รุ่น 1
พระของขวัญ รุ่น 1 นี้ มีแม่พิมพ์ทั้งหมด 10 แม่พิมพ์ เป็นแม่พิมพ์ที่ทำขึ้นจากทองเหลือง แม่พิมพ์ทองเหลืองนี้ หลวงภูมินาถสนิท (สืบ ดังคะรัตน์)ให้ช่างแกะนำมาถวายหลวงพ่อ เป็นแม่พิมพ์สี่เหลี่ยม ลักษณะขององค์พระทั้ง 10 พิมพ์ จะเหมือนๆ หรือคล้ายๆ กัน แต่จะแตกต่างกันในด้านรายละเอียดของใบหน้า การทอดแขน การวางมือ และส่วนต่างๆ ขององค์พระ


ด้านหน้า พระรุ่น 1 ด้านหลัง พระรุ่น 1

ขนาดขององค์พระทั้ง 10 พิมพ์ จะมีความกว้างประมาณ 1.4 ซม. ยาวประมาณ 2 ซม. และความหนาประมาณ 4-5 มม. พุทธลักษณะทั่วไปเป็นพระนั่งสมาธิราบ ปางปฐมเทศนา องค์พระนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วยอดแหลม พระหัตถ์เบื้องขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) มีลักษณะจีบนิ้วคือ พระดัชนี (นิ้วชี้) กับพระอังคุฐ (นิ้วหัวแม่มือ) จดกันเป็นวงกลม พระหัตถ์เลื้องซ้ายวางเหนือพระเพลา (ตัก) ข้างซุ้มทั้งสองด้านมีเส้นม่านเป็นขึดๆ เรียงตามแนวราบ เป็นลำดับลงมา ฐานเป็นบัวคว่ำ-บัวหลายสองชั้น ด้านหลังองค์พระพิมพ์เป็นอักขระขอม อ่านว่า ธรรมขันธ์

ส่วนผสมพระรุ่น 1
พระของขวัญรุ่นที่ 1 นี้ มีส่วนผสมหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นดอกมะลิแห้งซึ่งบดละเอียดดีแล้ว เส้นเกศาของหลวงพ่อ และผงวิเศษที่หลวงพ่อทำขึ้นอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ อีกตามส่วน โดยได้นำเอาส่วนผสมต่างๆ มาโขลกตำจนละเอียดเข้ากันดีแล้วจึงได้นำมาพิมพ์ แม้ในรุ่น 2 และรุ่น 3 ก็ใช้กรรมวิธีเดียวกัน

เนื้อพระรุ่น 1
พระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 1 นี้ มีทั้งชนิดที่เคลือบทาเชลแล็ก และทั้งชนิดที่ไม่ได้เคลือบทา ส่วนมากจะไม่ได้เคลือบทาไว้ และพระที่เคลือบทาเชลแล็กในรุ่นนี้ ถึงจะมีบ้างก็ส่วนน้อยเท่านั้น สีเนื้อพระโดยทั่วไปจะเป็นสีขาวบ้าง สีนวลบ้าง สีขาวอมเหลืองบ้าง และที่เป็นสีคล้ายสีน้ำตาลเข้มหรืออ่อนๆ ก็มีเหมือนกัน
เนื้อพระส่วนใหญ่ จะฟูยุ่ย ไม่ค่อยแน่นคงทน แต่พระรุ่น 1 ชนิดที่เนื้อแข็งแน่นก็มีด้วยเช่นกัน

พระของขวัญรุ่น 1 ทั้ง 10 พิมพ์ คลิก>>

อ้างอิง : พระของขวัญ วัดปากน้ำ พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2539
รวบรวมโดย พระมหาสมควร แสนมหาเกษม



ชื่อพระ : พระของขวัญ รุ่น 1 พิมพ์ที่ 1

คำอธิบายเพิ่มเติม : พระของขวัญ รุ่น 1 สร้าง ปี พ.ศ. 2493 จำนวน 84,000 องค์

- รุ่น 2 สร้าง ปี พ.ศ. 2494 จำนวน 84,000 องค์
- ทั้งหมดมีด้วยกัน 10 พิมพ์
- ขนาดองค์พระ กว้าง 1.4 ซม. ยาวประมาณ 2 ซม. หนาประมาณ 4-6 มม.
- พุทธลักษณะทั่วไปเป็นพระนั่งสมาธิราบ ปางปฐมเทศนา องค์พระนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วยอดแหลม ด้านหลังองค์พระเป็นอักขระขอม อ่านว่า ธรรมขันธ์
- ส่วนผสมมีหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นดอกมะลิแห้งที่บดละเอียดแล้ว เส้นเกศาของหลวงพ่อ และผงวิเศษที่หลวงพ่อทำขึ้นอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ อีกตามส่วน โดยได้นำเอาส่วนผสมต่างๆ มาโขลกตำจนละเอียดเข้ากันดีแล้วจึงได้นำมาพิมพ์ แม้ในรุ่น 2 และรุ่น 3 ก็มีกรรมวิธีเดียวกัน - สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้บริจาคทรัพย์สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม
- *******************************************

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 08 มิ.ย. 2010, 15:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระของขวัญ วัดปากน้ำ

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
101.gif
101.gif [ 19.65 KiB | เปิดดู 6298 ครั้ง ]

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 09 มิ.ย. 2010, 10:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระของขวัญ วัดปากน้ำ

ทำไมต้องมีบริกรรมนิมิต และบริกรรมภาวนา



นิมิตคือเครื่องหมายในเวลาทำกรรมฐาน ให้จิตกำหนดจับเป็นอารมณ์
แล้วพิจารณาจนติดตาติดใจ เหตุที่ต้องมีนิมิต ก็เพราะจิตของคนนั้น มีธรรมชาติเคลื่อนไหวแวบไปแวบมาอยู่ตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์บอกว่า “แสงเดินทางเร็วที่สุด แต่ในพระพุทธศาสนาแล้ว จิตของคนเราเดินทางเร็วไวที่สุด” ท่านบอกว่า “ไวเหมือนลิง” มิฉะนั้นพระพุทธองค์คงไม่สอนให้ควบคุมจิตให้หยุด ให้นิ่งโดยการปฏิบัติธรรมเมื่อปฏิบัติธรรมได้รู้เห็นเป็นแล้ว จิตก็จะสอดไปถึงได้ทุกที่





หลวงพ่อมีอุบายที่จะทำให้จิตหยุดนิ่ง คือเบื้องต้น จะต้องหาที่ให้จิตเกาะเกี่ยวเสียก่อน คือเพ่งดูอุคหนิมิต เป็นดวงแก้วกลมใส มีลักษณะเหมือนดวงปฐมมรรค จะได้ไม่ต้องไปเห็นภาพอื่น ที่ทำให้จิตสับส่าย ไม่เป็นสมาธิยิ่งขึ้น สำหรับบางคนใจมองดู อุคหนิมิตยังไม่พอ ยังหยุดยังนิ่งไม่ได้ ก็ต้องมีบริกรรมภาวนาควบคู่ไปด้วย บริกรรมภาวนาคือ การท่องคาถา คำบริกรรมภาวนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านให้ท่องว่า “สัมมาอะระหัง”

การที่หลวงพ่อสอนให้มีบริกรรมนิมิต คือให้นึกถึงดวงแก้วกลมใสนั้น มีบางคนไม่เข้าใจแล้วกล่าวติเตียนหลวงพ่อว่า สอนให้ติดรูป สอนให้ติดนาม สอนให้ติดนิมิต
เมื่อหลวงพ่อทราบ ท่านก็ย้อนถามว่าเมื่อไม่ติด ทำไมจึงจะรู้ว่าหลุด ท่านเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า “เหมือนกับการขึ้นบันได ถ้าเราเหยียบบันไดขั้นที่ ๑ ไม่มั่นแล้ว เราจะก้าวต่อไปให้มั่นได้อย่างไร ถ้าเราจะเหยียบบันไดขั้นที่ ๒ เราก็ต้องเหยียบบันไดขั้นที่ ๑ ให้มั่นเสียก่อน แล้วจึงก้าวต่อไปถึงขั้นที่ ๒ เมื่อจะก้าวต่อไปขั้นที่ ๓ ก็ตองเหยียบขั้นที่ ๒ ให้มั่น แล้วจึงทิ้งขั้นที่ ๒ ก้าวขึ้นขั้นที่ ๓ และเราก็ไม่ได้ติดอยู่ที่ขั้นเดียว

เรื่องการกำหนดบริกรรมนิมิตหรืออุคหนิมิตเป็นดวงแก้วกลมใสนี้ มีบางท่านสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นดวงแก้วกลมใส ถ้านึกดวงแก้วไม่ได้ จะนึกเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ นึกเห็นเป็นพระพุทธรูปได้ไหม

ความจริงนิมิตนี้ จะนึกเห็นเป็นอะไรก็ได้ เพราะเป็นอุบายจิตเพ่งพินิจนิมิตนั้นนิ่ง จนเกิดอารมณ์กรรมฐาน ชำนาญ จนอารมณ์นั้นติดตาติดใจถึงแม้จะหลับตา อารมณ์นั้นก็ยังปรากฏชัดเจนอยู่ในใจ นึกเหนี่ยวบ่อย ๆ จนทำให้นึกตรึกเอามาได้

หลวงพ่อท่านได้ทดลองแล้วว่า จะสร้างนิมิตอย่างใดจึงจะสะดวกและเหมาะสม
ท่านพบว่าการสร้างอุคหนิมิตเป็นดวงแก้วกลมใสนั้น ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะดวงธรรมประจำกายของทุกคนจะมีลักษณะอย่างนั้น กล่าวคือถ้าเห็นของจริงก็ต้องเห็นอย่างนั้น ท่านก็เลยให้กำหนดเป็นนิมิตเสียเลย ถ้าหากจะให้กำหนดเป็นองค์พระพุทธรูป ก็ยังมีปางต่าง ๆ หลายปาง มีวัสดุที่ทำแตกต่างกันและมีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน




บางท่านที่ไม่สามารถจะกำหนดเป็นดวงแก้วกลมใสได้ จะกำหนดเป็นพระพุทธรูปปางใดปางหนึ่ง กำหนดเป็นภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ เห็นเป็นกายของท่านเอง หรือเห็นเป็นดอกไม้ ใบไม้ กำหนดเป็นอะไรได้ทั้งสิ้น สำคัญว่าจะมีอุบายอย่างไรให้ใจของเราที่มีธรรมชาติดิ้นรน ว่องไวปานวานร นั้นหยุดนิ่ง ไม่นึก ไม่คิดเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้นได้สักชั่วขณะ ไม่ใช่หยุดหายใจ อย่างที่บางคนกลัวกัน





ที่มา...www.watpaknam.org/ -
http://www.watpaknam.org/%20-
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
meditation_03.jpg
meditation_03.jpg [ 22.21 KiB | เปิดดู 6286 ครั้ง ]
meditation_08.jpg
meditation_08.jpg [ 32.6 KiB | เปิดดู 6287 ครั้ง ]
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 6288 ครั้ง ]

เจ้าของ:  peacock [ 17 มิ.ย. 2010, 13:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระของขวัญ วัดปากน้ำ

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ :b8:




..........................................
รับซื้อ เศษเทียนไหว้พระทุกชนิด ทุกสภาพติดต่อได้ที่นี่
http://buycandlesale.blogspot.com/

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/