ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=31229
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Bwitch [ 30 เม.ย. 2010, 15:44 ]
หัวข้อกระทู้:  มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี

รูปภาพ

9-14 เมษายน 2553

ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่เกิดการชุมนุมขึ้นตรงใจกลางเมืองหลวงของประเทศ
ฉันปักหลักอยู่ในวัดที่โอบล้อมด้วยป่าเขา ธรรมชาติโน้มน้าวให้ซึมซับบรรยากาศ
โปร่ง โล่ง เบา (แต่ก็เคร่งครัดด้วยข้อวัตรปฏิบัติให้เกิดความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา)
หลับตานึกถึงช่วงค่ำๆ ยิ่งมืดก็ยิ่งเห็นดาวอยู่เต็มฟ้า สถานที่ทำวัตรเย็นคือพระอุโบสถ
ที่มีลักษณะคล้ายเรือสำเภาใหญ่ลอยแล่นอยู่กลางมหาสมุทร
เรือลำนี้บรรทุกเอาผู้ปฏิบัติภาวนาข้ามทะเลคือสังสารวัฏฏ์มุ่งสู่นิพพาน
ตามเจตนารมณ์ของ พระอาจารย์อนันต์ อกิญจโน
(เจ้าอาวาสวัดมาบจันทร์ ปี 2539-ปัจจุบัน)


รูปภาพ

คืนวันที่ 11 เมษา หลังจากเดินจงกรมตรงระเบียงอุโบสถมาเกือบ 2 ชั่วโมง
ฉันนั่งลงพักและพิงเสาดูดาวบนฟ้า แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่ติดตัวมา
ส่งข้อความผ่าน twitter ว่า

รูปภาพ

บางคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ อาจจะคิดว่าน่าละอายก็ได้
เพราะระหว่างพิมพ์ข้อความฉันยังไม่รู้เลยว่า
ก่อนหน้านั้นมีการปะทะกันระหว่างทหารกับผู้ชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิต
คนอื่นเขาเครียดกัน แต่ฉันยังนั่งชมเดือนดาวอยู่ได้ แต่พอรู้หลังจากนั้นฉันก็ยังโชคดีอีกนั่นแหละ
ที่อยู่ในสถานที่และเวลาอันอำนวย ให้สามารถทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิต
ผ่านการสวดบังสุกุลโดยพระสุปฏิปันโนในวัดป่าเป็นจำนวนหลายสิบรูป

อาจจะล่าช้าและดูเหิมเกริมไปสักหน่อยที่จะนำบรรยากาศเย็นๆ มาแบ่งปันกันตอนนี้
แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย จริงไหม : )
ไปด้วยกันตั้งแต่วันสำรวจวัดก่อนไปขออนุญาตเข้าพักปฏิบัติธรรมกันเลยดีกว่านะคะ


อังคารที่ 6 เมษายน 53 >> สำรวจวัด

เราออกเดินทางตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงเมืองระยองเมื่อประมาณ 10 โมงเช้า
ไปแวะที่บิ๊กซีระยองก่อนหาของมาเตรียมถวายเป็นสังฆทาน เลือกของโดยใช้เซ้นส์ที่พอมี
ของถวายสำหรับวัดป่าไม่ใช่แค่ 'อะไรก็ได้'
เหมือนกับเรามีโอกาสเข้าไปหว่านพืชในนาสักผืน
และรู้ว่านาผืนนี้ปลูกอะไรก็ขึ้น ก็อย่าเหมาเอาว่า
งั้นปลูกอะไรก็ได้ กลับกันเลยนะ โอกาสมาหว่านพืชในนาผืนนี้
ไม่ใช่ใครๆ ก็มี แม้แต่ตัวเราเอง เกิดมาตั้งกี่ปีกี่ชาติ
กว่าจะได้มีโอกาสอย่างนี้ จะทำวัตร จะถวายอะไร
ก็อยากให้ออกมาประณีตนิดนึง และโดยแทบไม่ต้องหวังผล
บุญสำเร็จแล้วด้วยใจตั้งแต่ยังไม่ถวายเลย : )

มาดูรายการของที่ซื้อไปถวายกัน


รูปภาพ

ของถวาย 06/04/2010

ทิชชู่ 2 โหล (24 ม้วน)
โลชั่นยาทากันยุง 1 ขวดพร้อมซองพกพาได้
ถ่านขจัดกลิ่นสำเร็จรูป 1 ก้อน
น้ำยาล้างจาน 1 กระปุก
ฟองน้ำล้างจานพร้อมกล่องบรรจุ 6 ชิ้น

ไปถึงก็เอารถจอดอยู่หน้าวัดแล้วขนของเก้ๆ กังๆ ลงไป
มีพระภิกษุ 2 รูปนั่งอยู่ด้านหน้าเห็นเราเดินจากรถจะเข้าวัด
ท่านก็เมตตาบอกว่า เอารถขึ้นไปเลย ที่ถวายขึ้นเขาไปอีกกิโลกว่าๆ
เรากะกิโลไม่เป็น เลี้ยวรถเข้าวัดเจอที่จอดรถก็จอดอีก
รอบนี้เลยมีพี่ผู้หญิงอีกคนนึงเดินมาทัก และพาขึ้นไปถวายของด้านบน
(ไม่ได้พบพระอาจารย์อนันต์นะ ท่านไม่อยู่ ได้ถวายของกับครูบารูปหนึ่ง
ลืมถามชื่อท่านด้วย -_-" แต่ได้กราบเรียนท่านไปว่าจัดของมาถวาย
ไม่ได้มากชิ้น แต่ถ้าชิ้นไหนเห็นว่าทางวัดได้ใช้ ก็จะจัดหามาเพิ่มเติมด้วยเจ้าค่ะ
อย่างถ่านขจัดกลิ่นสำเร็จรูป ตอนนี้เขาทำออกมาสวยและน่าใช้มาก
น่าจะช่วยขจัดกลิ่นตามห้องน้ำหรืออาคารภายในวัดได้
ครูบาท่านก็บอกว่า ดีเลย ถ้าอย่างนั้นจะลองใช้ในห้องพัก
ของพระอาจารย์ใหญ่ (พระอาจารย์อนันต์) ดู ฮ้า..เป็นปลื้มเลยอะ : )

ส่วนพี่สาวคนที่เพิ่งรู้จักกัน พี่เขาเห็นทิชชู่แล้วดีใจมาก
บอกว่า ช่วงนี้ห้องน้ำ (เฉพาะห้องน้ำหญิงก็เกือบ 20 ห้อง)
กำลังขาดแคลนทิชชู่อยู่พอดีเลย (เย่)
น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำโรงครัวคงได้ใช้อยู่แล้วล่ะ
ดีใจๆ เพราะมาครั้งแรกตั้งใจแค่ว่า มาดูสถานที่ ขอเข้าพักช่วงสงกรานต์
มากราบพระสุปฏิปันโน ถึงไม่ได้เจอพระอาจารย์อนันต์ แต่ได้เห็นวัด
และได้กราบลูกศิษย์ของท่าน ก็เหมือนได้กราบท่านครึ่งนึงแล้วนะ
นี่ได้ถวายของที่เป็นประโยชน์ต่อวัดด้วย

ข้างล่างนี้เป็นข้อวัตรเพื่อเตรียมตัวไปพักปฏิบัติ (สอบถามและค้นเอาจากเว็บ)

วัดมาบจันทร์ (สุภัททบรรพต) สาขาวัดหนองป่าพงที่ 73
8/1 หมู่ที่ 7 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง 21160
โทรศัพท์ 038-617-546


เจ้าอาวาส พระครูวินัยธรอนันต์ อกิญจโน

แนวการปฏิบัติ ใช้การบริกรรมพุทโธ อานาปานสติ
ตามแนวของพระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)

กฎระเบียบ

1. ไม่เข้าไปในเขตสังฆาวาสโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ทานมื้อเดียว แต่ถ้าใครต้องการทาน 2 มื้อ
ก็ต้องเก็บอาหารจากช่วงเช้าไว้ทานตอนเที่ยง
แต่ห้ามเก็บอาหาร ปานะ ไว้ในที่พัก (ฝากโรงครัวได้)
3. กิจวัตรประจำวันคร่าวๆ
5.00 น. ทำวัตรเช้าที่หอฉัน
8.00 น. ภัตตาหารเช้า
15.00 น. ทำกิจวัตรส่วนรวม กวาดลานวัด
16.30 น. ปานะ (สำหรับฆราวาส มีมุมเครื่องดื่มที่โรงครัว
หรือถ้าเป็นฆราวาสชาย สามารถลงไปดื่มน้ำปานะได้ที่โรงย้อมในเขตสังฆาวาส)
19.00 น. ทำวัตรเย็นที่พระอุโบสถ
4. เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไปด้วย ดังนี้ ยาทากันยุง ไฟฉาย ของใช้ส่วนตัว
5. ถ้ามีรถก็ดี จะได้ขับขึ้นไปที่พระอุโบสถได้
6. สถานที่ปฏิบัติเหมาะสำหรับผู้ที่พอรู้วิธีปฏิบัติแล้วอยู่บ้าง
7. ที่พัก ฆราวาสชายพักที่ห้องพักรวมชั้นล่างศาลาหอฉัน
ฆราวาสหญิงพักที่เรือนพักในเขตอุบาสิกา
8. การเตรียมตัว เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ยากันยุง
ไฟฉาย เครื่องแต่งกายให้นุ่งขาวห่มขาว
9. ไม่มีการจองกุฏิไว้ล่วงหน้า พอไปถึงวัด ให้แจ้งโยมที่ดูแล
ซึ่งจะจัดหาที่พักให้ มีทั้งอาคารที่พักรวม ซึ่งสะอาดและปลอดภัย
ส่วนกุฏิที่อยู่ในป่า (เราไม่ได้เข้าไปดู จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่น่ามีทางเดินจงกรม
การเดินจงกรมจะเดินกันรอบอุโบสถกลาง) สามารถแจ้งความประสงค์ได้
หากกุฏิว่างผู้ดูแลก็จะจัดหาให้ แต่ส่วนใหญ่โยมก็พักที่อาคารรวมกัน
เพราะสะดวกในการตื่นขึ้นมาช่วยทำงานวัดและมาทำวัตรได้ง่ายกว่า

ความเห็นส่วนตัว :
เราว่ามาบจันทร์เหมือน "บ้านพี่" ของบุญญาวาสนะ สงบ สง่างาม มีวินัย
ครูบาที่ไปกราบท่านเช้านี้ เมตตาเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์อนันต์ได้มาสร้างวัดที่นี่ก่อน
แล้วพระอาจารย์ตั๋นก็ได้ไปสร้างวัดที่บุญญาวาสในภายหลัง
บุญญาวาสจำเป็นต้องมีทางเดินจงกรมประจำกุฏิ เพราะไม่มีอุโบสถกลาง
พระอาจารย์ตั๋นเคยเทศน์ครั้งหนึ่ง (น่าจะในงานกฐิน) ว่าเมื่อบุญญาวาสมีความพร้อม
ท่านก็จะสร้างที่พักสำหรับโยมเพิ่มขึ้น และเปิดให้ฆราวาสได้มาทำวัตรเช้าและเย็น
(น่าจะภายหลังจากอุโบสถที่กำลังสร้างเสร็จแล้ว) อันนี้เราก็เข้าใจว่า บุญญาวาส
ดำเนินตามรอยของวัดมาบจันทร์นี่ล่ะ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ศุกร์ที่ 9 เมษายน 53 >> เข้าพักปฏิบัติ

ได้อยู่กุฏิ 6 ค่ะ ลึกที่สุดในบรรดากุฏิหญิง


รูปภาพ

อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้จึงไม่พ้นไฟฉายที่ต้องมีติดตัวเพื่อจะเดินฝ่าความมืดเข้าไปให้ถึงกุฏิ
แต่พอฟันฝ่าเข้าไปได้ ก็จะมีน้ำ-ไฟพร้อมค่ะ ไม่ต้องกังวล ^^

หลังจากนั้นก็ปฏิบัติภาวนาในส่วนของตนพร้อมกับการทำข้อวัตรตามกฏระเบียบที่ยกมาข้างต้น
แต่ที่พิเศษกว่านั้น คือวันที่ 13 เมษาเป็นวันสงกรานต์ มีญาติโยมฝากทำบุญด้วยดอกไม้
ไม่ได้ฝากถวายด้วยดอกไม้ช่อสองช่อ แต่ฝากมาหอบใหญ่!! (น่าจะหลายกระบุง)
ให้สาวๆที่มาพักปฏิบัติ ได้ช่วยกันจัดพาน+แจกัน เตรียมงานสำหรับสรงน้ำพระในวันรุ่งขึ้น!


รูปภาพ

จัดกันไปตามเรื่องตามราวค่ะ สวยตามธรรมชาติ (ไม่ลงโทษ ^^)

รูปภาพ

ชมบรรยากาศการสรงน้ำพระอาจารย์อนันต์ (ท่านเจ้าอาวาส)
รองเจ้าอาวาส และพระเถระ ได้ที่นี่ค่ะ

http://video.yahoo.com/watch/7327598/19142013

น่ายินดียิ่งกว่านั้น คืนวันเดียวกัน เป็นวันพระใหญ่ เราได้มีโอกาสฟังพระสวดปาฏิโมกข์
และเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันได้บางส่วนด้วยค่ะ

http://video.yahoo.com/watch/7327895/19143201

เป็นปริศนาที่อยากรู้มานาน ว่าพระท่านสวดปาฏิโมกข์กันอย่างไร
ปรากฏว่าสวดเพียงรูปเดียว รูปอื่นนั่งฟัง และรูปที่สวดอยู่นี้เป็นพระฝรั่ง
และอายุยังน้อยอยู่เลย! ฟังใหม่ๆ ก็อมยิ้ม ท่านสวดแบบแร็พเลยค่ะ
แต่ฟังไปนานๆ ทึ่งท่านมากๆ เลยนะคะ เพราะบทสวดยาวมาก
และต้องสวดอย่างรวดเร็ว (เหมือนว่าเป็นกุศโลบายให้เร่งความเพียร
เพื่อเผากิเลสและปฏิบัติภาวนาให้จบกิจในเร็วพลันด้วยค่ะ)

นับเป็นคืนสุดท้าย กลับจากฟังพระสวดปาฏิโมกข์ ได้แรงมาเยอะมาก
21.30 น. ยังชวนเพื่อนที่อยู่กุฏิใกล้ๆ กันจุดเทียนเดินจงกรมยกสุดท้ายได้อีกเป็นชั่วโมง


รูปภาพ

บรรยากาศดียิ่งกว่านั่งดินเนอร์ในโรงแรมหรูๆ อีกค่ะ : )

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

พุธที่ 14 เมษายน 53 >> กราบลาพระอาจารย์ เดินทางออกจากวัด
เอาบุญมาฝากเพื่อนๆ ย้อนหลังไม่นานนะคะ (สิบกว่าวันเอง)
ขอให้ความสงบร่มเย็นปรากฏในใจเพื่อนพี่น้องที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทุกคน
ผลบุญจากการแบ่งปันความร่มเย็นนี้ ขอได้เป็นส่วนหนึ่ง
ในการช่วยแบ่งเบาความเร่าร้อนของบ้านเมืองไปตามลำดับด้วยคนค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ดุสิตธานี [ 30 เม.ย. 2010, 18:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี

:b8:
สาธุ ...เพื่อนฝูงกลุ่มภาวนา ชักชวนไปเหมือนกันแต่ยังไม่ถึงเวลาเสียที

เจ้าของ:  enlighted [ 30 เม.ย. 2010, 19:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี

อนุโมทนาสาธุคร๊าบ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 เม.ย. 2010, 19:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 14 ก.ค. 2014, 17:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาบจันทร์ในรอยจำ โดย วิลาศินี

:b8: ขออนุโมทนาค่ะ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/