ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19709 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 21 ธ.ค. 2008, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” |
บรรยากาศตะวันลับฟ้า ที่ด้านหน้าองค์พระประธานแห่งพุทธมณฑล ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” “พุทธมณฑล” จ.นครปฐม ดินแดนธรรมที่เป็นดังปูชนียสถานและศูนย์กลางทางพุทธศาสนา ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นที่จัดงานในวันสำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว พุทธมณฑลยังเป็นสถานที่พักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นกุศล ในบรรยากาศที่ร่มรื่นน่าเที่ยวไม่น้อย โดยในเนื้อที่ 2,500 ไร่ ของพุทธมณฑลนั้น จะโดดเด่นด้วยองค์ประธานของพุทธมณฑล ที่เปรียบดังสัญลักษณ์ของพุทธมณฑล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานนามว่า “พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ ที่ประยุกต์มาจากพระพุทธรูปปางลีลาของสมัยสุโขทัย ออกแบบสร้างโดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี องค์พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะสำริดมีขนาดสูง 2,500 กระเบียด (1 กระเบียดเท่ากับ 1/4 นิ้ว) วิหาร อาคารที่สร้างเป็นหลังแรกในพุทธมณฑล นอกจากนี้ภายในบริเวณพุทธมณฑลยังมี คือ วิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดเท่าต้นแบบ เป็นอาคารที่สร้างเป็นหลังแรกในพุทธมณฑล ส่วนด้านทิศเหนือมี หอประชุมทางพุทธศาสนา ใช้เพื่อการประชุมทางพุทธศาสนา มีห้องประชุมใหญ่บรรจุได้ถึง 1,250 ที่นั่ง ถัดไปก็เป็น พิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่บริเวณสวนธรรม ซึ่งใช้เป็นสถานที่แสดงโบราณวัตถุ จัดนิทรรศการ การบรรยายธรรม เสวนาธรรม และการบริการต่างๆ แต่ขณะนี้ยังขาดโบราณวัตถุที่จะนำมาจัดแสดง ซึ่งหากผู้ใดอยากจะบริจาคศิลปวัตถุทางพุทธศาสนาเพื่อเป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่นก็สามารถจะบริจาคได้ พระมหาวิหาร ส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ไปพุทธมณฑล ควรจะต้องไปชม พระมหาวิหาร ที่ประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก จารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ บนหินอ่อนขนาดใหญ่จำนวน 1,418 แผ่น รวมทั้ง มีภาพวาดพุทธประวัติอยู่ด้านบนโดยรอบ มีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าแผ่นดินกำเนิดพระบรมศาสดา ถือเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดได้ไปกราบไหว้สังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือสถานที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ถือว่าเป็นผู้มีบุญ เพราะเหตุนี้ในแต่ละปีจึงมีชาวพุทธทั่วโลกหลั่งไหลกันไปนมัสการสถานที่เหล่านั้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเดินทางไปไกลได้ถึงประเทศอินเดียและเนปาล จึงได้มีการจำลองสถานที่สังเวชนียสถาน 4 ตำบลมาไว้ที่พุทธมณฑล เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบไหว้และระลึกถึงพระพุทธเจ้า โดยสังเวชนียสถาน 4 ตำบลนั้น สร้างอยู่รอบองค์พระประธานพุทธมณฑลตามทิศทางพุทธประวัติ มีพื้นที่ตำบลละ 50 ไร่ ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้ที่ร่มรื่นสวยงาม ธรรมจักรศิลาที่ตำบลปฐมเทศนา ตำบลแรกอยู่ด้านขวามือของพระพุทธรูปคือ ตำบลตรัสรู้ สร้างเป็นดอกบัวที่ประทับนั่ง มีรอยแยก 4 รอย เพื่อให้ระลึกว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อริยสัจ 4 เป็นหมวดธรรมแรกในพระพุทธศาสนา ถัดจากนั้นเป็น ตำบลปฐมเทศนา สร้างเป็นธรรมจักรศิลาแทนการแสดงธรรมครั้งแรกคือ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร และรูปแท่นที่นั่งของปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ตำบลถัดไปคือ ตำบลประสูติ ทำด้วยศิลาขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปดอกบัวกำลังแย้มบาน 7 ดอก ช่วงบนแกะสลักลายรูปพระพุทธบาท กลางฝ่าพระบาทสลักชื่อแคว้นต่างๆ 7 แคว้น ที่พระพุทธองค์ทรงประกาศพระธรรมคำสั่งสอนรวม 7 แคว้น และสุดท้ายที่ ตำบลปรินิพพาน สร้างเป็นพระแท่นไสยาสน์ทำด้วยศิลา ด้านข้างแกะสลักเป็นดอกและใบสาละร่วง ซึ่งเปรียบเหมือนร่วงมาจากสวรรค์ ด้านหน้ามีรูปแท่นที่นั่งของพระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก และสุภัททะปริพาชก สาวกองค์สุดท้ายของพระพุทธเจ้า ใครที่ไปยังตำบลนี้อย่าเผลอคิดว่าเป็นแท่นนั่งกราบพระพุทธเจ้าล่ะ พระไตรปิฎกหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนบริเวณอื่นๆ ของพุทธมณฑลที่น่าสนใจก็มีสวนไม้ไทยต่างๆ เช่น สวนสมเด็จ สวนสมุนไพร สวนเวฬุวัน สวนตะโก สวนตาล ฯลฯ ซึ่งมีทั้งความสวยงามและความร่มรื่นสงบเงียบเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ต้นไม้ในพุทธมณฑลทั้งหมดมีประมาณห้าหมื่นกว่าต้น ล้วนแต่เป็นต้นไม้ที่อยู่ในพุทธประวัติ ต้นไม้ต้นแรกที่ปลูกคือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อปี 2526 โดยสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ตำบลตรัสรู้ นอกจากนี้จะเห็นป้ายชื่อของสถาบันต่างๆ ที่มาร่วมปลูกต้นไม้ตั้งเรียงรายตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณ ณ ที่นี่ยังมีเกาะสุนัข ซึ่งเป็นส่วนที่ดูแลสุนัขที่เจ้าของเอามาปล่อยไว้ ปัจจุบันมีสุนัขอยู่จำนวนมาก เห็นสภาพแต่ละตัวแล้วก็น่าสงสาร แม้จะผู้มีจิตเมตตาบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าอาหารและค่ายารักษา แต่ก็ยังไม่พอกับจำนวนของสุนัขที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของสุนัขที่กำลังคิดจะตัดหางปล่อยวัดสัตว์เพื่อนยากอยู่ก็น่าจะคิดทบทวนความดีก่อนจะทิ้งพวกเขา ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เป็นภาระของพุทธมณฑลหรือคนอื่นๆ หอประชุมทางพระพุทธศาสนา แต่อย่างที่บอกว่าพุทธมณฑลเป็นมากกว่าสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงได้เห็นผู้คนมากมายหลากหลาย ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติ ไปที่พุทธมณฑลปีละหลายล้านคน สถิติเมื่อปี พ.ศ.2546 ที่ผ่านมามีมากถึง 4 ล้านกว่าคน โดยส่วนใหญ่จะมาเป็นหมู่คณะเพื่อสักการะองค์พระ ทัศนศึกษา ปฏิบัติธรรม ที่มาแบบครอบครัว หรือมาเดี่ยวมาคู่ก็มาก จึงได้เห็นภาพผู้คนในอิริยาบถต่างๆ ในบริเวณทั่วไปของพุทธมณฑล ทั้งพักผ่อนรับอากาศสดชื่น ให้อาหารปลา ทานข้าวปิคนิค หรือแม้แต่ออกกำลังกาย แม้ว่าพุทธมณฑลจะเปิดกว้างต้อนรับทุกๆ คนที่ต้องพักผ่อน ดังนั้นคนที่มาก็จึงต้องพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นกุศล ไม่สร้างความเดือดร้อนเสียหายหรือสร้างความเสื่อมเสียแก่สถานที่ เพียงเท่านี้ก็ย่อมจะได้รับความอิ่มใจจากการได้ทำบุญ ความร่มรื่นในบรรยากาศพักผ่อนที่แสนสบาย และความรู้จากสถานที่พุทธประวัติต่างๆ ช่วยเติมเต็มให้วันหยุดนี้เป็นวันที่มีความสุขได้อย่างล้นเหลือไปอีกนาน... ทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนจำนวนมากจะมาเวียนเทียนกันที่พุทธมณฑล พุทธมณฑล สร้างในสมัยนายกรัฐมนตรี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองพระพุทธศาสนาครบ 2,500 ปี ในวันวิสาขบูชา พ.ศ.2500 เพื่อให้เป็นดังปูชนียสถานและศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในเขตตำบลศาลายา อ.พุทธมณฑล และเขตตำบลบางกระทึก อ.สามพราน อยู่ห่างจากตัวเมืองนครปฐมไปทางถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ประมาณ 30 กิโลเมตร มีรถโดยสารประจำทางสาย 124, 125, 84, 84 ก, ปอ.84 ก, ปอ.16, ปอ.539 ผ่าน สอบถามเส้นทางได้ที่ 184 และมีรถตู้ผ่านโดยขึ้นที่พาต้าปิ่นเกล้า ลงหน้าพุทธมณฑล ค่ารถ 15 บาท เปิดตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 นาฬิกา ขอแนะนำสักนิดว่าพื้นที่ของพุทธมณฑลค่อนข้างจะกว้างขวาง ดังนั้นถ้ามีรถส่วนตัวก็จะสะดวกในการเที่ยวชมยิ่งขึ้น และสำหรับผู้ที่เข้าไปยังพุทธมณฑล มีข้อพึงปฏิบัติโดยหลักใหญ่ก็คือ ควรให้ความเคารพแก่สถานที่ แต่มีข้อกำหนดพิเศษเพิ่มด้วยว่า ที่นี่ห้ามนำรถทุกชนิดเข้ามาหัดขับ และควรจะขับรถในความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และยังเป็นกุศโลบายที่ให้ทุกคนได้มองเห็นและอ่านป้ายต่างๆ ได้โดยไม่เลยผ่านออกนอกเส้นทาง เหล่าผู้มาเยือนพุทธมณฑล ไหว้พระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับโรงเรียนที่จัดทัศนศึกษาหรือคณะต่างๆ ที่ต้องการเข้าเที่ยวชม สามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อขอวิทยากรบรรยายพิเศษได้ที่สำนักงานพุทธมณฑล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้พุทธมลฑลยังได้จัดโครงการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยชัยมงคล และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่ทรงพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยจัดต่อเนื่องระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี ณ ลานพุทธมณฑล ทุกวันเสาร์ เวลา 17.00-18.00 นาฬิกา ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานพุทธมณฑล โทรศัพท์ 0-2441-9009 และ 0-2441-9012-3 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2547 10:12 น. * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * พระศรีศากยะทศพลญาณฯ : พระประธานพุทธมณฑล http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19724 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 23 ก.พ. 2009, 22:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” |
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 15 ก.ย. 2009, 23:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” |
ว่างๆเร็วๆนี้จะไปเก็บรูปภาพมาฝากครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ |
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 25 ต.ค. 2009, 01:46 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” | ||
นำรูป...มา Update จ้า ลานธรรมจักร...ตอนพระอาทิตย์ตก
|
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 25 ต.ค. 2009, 01:47 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” | ||
อีกรูป
|
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 25 ต.ค. 2009, 01:48 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” | ||
องค์พระ...
|
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 25 ต.ค. 2009, 01:48 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” | ||
|
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 25 ต.ค. 2009, 17:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่องแดนธรรม ที่ “พุทธมณฑล” |
หามาอีกนะครับ ท่านตักบาตรถามพระ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |