ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระเหลาเทพนิมิต วัดพระเหลาเทพนิมิต จ.อำนาจเจริญ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19285 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 01 ธ.ค. 2008, 10:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระเหลาเทพนิมิต วัดพระเหลาเทพนิมิต จ.อำนาจเจริญ |
ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด พระเหลาเทพนิมิต พระประธานในอุโบสถ วัดพระเหลาเทพนิมิต บ้านพนา ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ “พระเหลาเทพนิมิต” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร สูง ๒.๗๐ เมตร ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายใน “อุโบสถ” วัดพระเหลาเทพนิมิต ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ตามประวัติ บรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมืองบ้านพนา ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดงสูง ริมกุดบึงใหญ่ หรือกุดพระเหลาในปัจจุบัน “พระครูธิ” พระที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ ได้ชักชวนให้ร่วมกันสร้างวัดบริเวณริมกุดบึงใหญ่ และให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่า “วัดศรีโพธิชยารามคามวดี” โดยมีพระครูธิ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลังสร้างวัดเสร็จในปี พ.ศ.๒๒๖๓ พระครูธิ เจ้าอาวาส จึงได้นำศิษย์และญาติโยมเริ่มก่อสร้างอุโบสถและศาลาการเปรียญ โดยตัวอุโบสถมีขนาดกว้าง ๙.๘๐ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ฐานอุโบสถและผนังก่อด้วยอิฐ โครงหลังคาเป็นไม้เนื้อแข็งลดหลั่น ๒ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องไม้ พ.ศ.๒๕๑๕ ได้เปลี่ยนเป็นหลังคากระเบื้อง เพราะของเดิมทรุดโทรมมาก หน้าบันไดด้านตะวันออกทำด้วยไม้สลักลวดลายต่างๆ ห้องกลางมีลายเถาว์ไม้เต็มห้อง ตรงกลางเป็นรูปราหูกลืนจันทร์ ระหว่างเถาว์ไม้ยังมีรูปเทพนม และรูปหนุมานสลับเป็นช่อง ลวดลายทั้งหมดทำด้วยปูนเพชรแกะสลักอย่างประณีต ไม่ได้สลักลงในเนื้อไม้ พร้อมลงรักปิดทองฝังกระจกทั้งหมด ภายในตัวอุโบสถยังใช้ไม้เนื้อแข็งทรงกลมทำเป็นเสา ขนาดวัดรอบ ๗๖ เซนติเมตร จำนวน ๘ ต้น ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๔ ได้มีการเปลี่ยนเสาไม้เป็นเสาอิฐถือปูนรูป ๔ เหลี่ยม และปี พ.ศ.๒๔๗๑ ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล (บุดรอด นนฺตโร) เจ้าคณะจังหวัดกิตติมศักดิ์ จังหวัดอุบลราชธานี ได้เขียนลายเถาว์ด้วยสีต่างๆ รอบเสา ๔ ต้น ที่อยู่ในห้องพระประธาน ส่วนเพดานติดดาวกระจายปิดทองประดับกระจก ๔๔ ดวง โดยพื้นเพดานเป็นสีแดงดูอร่ามตา ส่วนพื้นอุโบสถทำเป็นกระเบื้องซีเมนต์ หลังสร้างอุโบสถเสร็จ พระครูธิได้นำคณะลูกศิษย์ สร้างองค์พระประธานประจำอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดสูง ๒.๗๐ เมตร หน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทอง แท่นพระประธานก่อด้วยอิฐถือปูน มีชายผ้านิสีทะนะเหลื่อมพ้นออกมา ตรงกลางผ้ามีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยท่านพระครูธิเป็นผู้ออกแบบเอง และมอบหมายให้ภิกษุแก้วกับภิกษุอิน ลูกศิษย์เป็นช่างทำการก่อสร้าง โดยพระครูธิ อธิบายวิธีทำให้ลูกศิษย์ทำเป็นวันละส่วน วันละตอน หลังลูกศิษย์ทำงานเสร็จก็ให้มารายงานผลการสร้างให้ทราบทุกวัน โดยท่านพระครูธิไม่ได้ลงไปดูแลด้วยเอง กระทั่งถึงขั้นตอนขัดเงาลงรักปิดทอง ท่านจึงลงไปดูและถามลูกศิษย์ที่เป็นช่างว่า “ทำงานได้เต็มฝีมือแล้วหรือ” เหล่าช่างก็ตอบว่าได้ทำเต็มฝีมือแล้ว แต่เมื่อพระครูธิ เห็นองค์พระประธานที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์พากันทำมา จึงเอ่ยว่าทำงานได้งามอยู่หรอก แต่ต้องให้งามกว่านี้ บรรดาลูกศิษย์ที่เป็นช่างยอมรับว่าหมดฝีมือที่จะทำแล้ว คงไม่สามารถทำให้พระประธานงามได้มากกว่านี้ ขณะเดียวกัน มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ “ซาพรหม” ซึ่งอยู่ในทีมช่างที่ก่อสร้างองค์พระ ได้แสดงตนว่า สามารถทำให้องค์พระงามกว่านี้ได้ พระครูธิจึงมอบหมายให้พระซาพรหมเป็นผู้แก้ไข และพระซาพรหมก็ทำองค์พระพุทธรูปได้สวยงามสมคำพูด โดยเฉพาะใบหน้าองค์พระประธานมีลักษณะงดงามสมส่วนทุกประการ กล่าวกันว่า “พระเหลาเทพนิมิต” เป็นพระพุทธรูป ที่มีพระพุทธลักษณะงดงามที่สุดในภาคอีสาน ตามแบบฉบับศิลปะลาว สกุลช่างเวียงจันทร์ ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะช่างล้านนาและมีฝีมือช่างท้องถิ่นปรากฏอยู่มาก เช่น เค้าพระพักตร์ เปลวรัศมีที่ยืดสูงขึ้น สัดส่วนของพระเพลาและพระบาท คล้ายคลึงกับองค์พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๓-๒๕ จากลักษณะขององค์พระพุทธรูปที่งดงาม เวลาเข้าไปกราบนมัสการจะเหมือนท่านยิ้มต้อนรับ คนทั่วไปจึงตั้งชื่อให้ท่านว่า “พระเหลา” ที่มีความหมายว่า “งดงามคล้ายเหลาด้วยมือ” ต่อมา วัดศรีโพธิชยารามคามวดี ที่ใช้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระเหลา ได้เปลี่ยนชื่อเรียกตามความนิยมในตัวองค์พระเป็นวัดพระเหลา หมู่บ้านที่ตั้งได้เปลี่ยนชื่อตามเป็นบ้านพระเหลาด้วย จนถึง พ.ศ.๒๔๔๑ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี และภาคอีสาน ได้เสริมนามต่อท้ายให้กับองค์พระเป็น “พระเหลาเทพนิมิต” ซึ่งมีความหมายว่า “พระพุทธรูปที่งามคล้ายเหล่าดุจเทวดานิมิตไว้” สำหรับพระเหลาเทพนิมิต นอกจากจะมีความงดงามตามพุทธศิลปะแล้ว มีคำเล่าลือกันว่า ทุกคืนวันพระ ๗ ค่ำ, ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ, ๑๕ ค่ำ องค์พระพุทธรูปพระเหลาเทพนิมิต จะแสดงพุทธานุภาพให้เกิด ลำแสงสีเขียวแกมขาวขจีลอยออกจากพระอุโบสถในเวลาเงียบสงัด ทั้งนี้ การเข้ากราบนมัสการพระเหลาเทพนิมิต ผู้ต้องการบนบานขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะคนที่ไม่มีบุตร มีการกล่าวกันว่า เมื่อมาบนบานขอจากพระเหลาเทพนิมิตแล้ว จะประสบความสำเร็จสมดังที่ตั้งใจ ส่วนสิ่งของที่ใช้บนบานสานกล่าวก็คือ ดอกไม้ธูปเทียน และปราสาทผึ้ง ปัจจุบัน วัดพระเหลาเทพนิมิต มี พระครูอุดมวิหารกิจ เป็นเจ้าอาวาสวัด ส่วนวัดพระเหลาเทพนิมิต ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพนาเพียง ๒ กิโลเมตร มีเส้นทางคมนาคมสะดวก สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระเหลาเทพนิมิต วัดจะจัดงานทุกวันเพ็ญเดือน ๓ หรือในวันมาฆบูชาทุกปี ประตูด้านหน้าวัดพระเหลาเทพนิมิต อ.พนา จ.อำนาจเจริญ อุโบสถ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระเหลาเทพนิมิต” หนังสือไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?t=32693 http://www.pdamobiz.com/forum/forum_pos ... 1&get=last |
เจ้าของ: | ร่มเย็นเป็นสุข [ 11 ก.พ. 2015, 17:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระเหลาเทพนิมิต วัดพระเหลาเทพนิมิต จ.อำนาจเจริญ |
ไปสักการะมาแล้ว องค์พระงามมากค่ะ โดยรอบวัดก็งามไม่แพ้กัน อยากไปเยือนอีกครั้งค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |