ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ (หลวงปู่หล้า)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=49944
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  sirinpho [ 18 เม.ย. 2015, 07:56 ]
หัวข้อกระทู้:  ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ (หลวงปู่หล้า)

การปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ
วิสัชนาธรรมโดย...หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร


รูปภาพ

:b45: ปุจฉา - เมื่อต้นเดือน...นี้ดิฉันได้สูญเสียพ่อบุญธรรม ผู้มีพระคุณสูงสุดไป (อายุ ๙๐ ปี) ซึ่งในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ดิฉันก็ได้บริจาคและทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อท่านทุกครั้ง ทั้งยังได้บอกกล่าวให้ท่านยกมืออนุโมทนาด้วยทุกครั้ง บุญทานในส่วนนี้ไม่ทราบว่าท่านจะได้รับหรือเปล่าเจ้าคะ

หลังจากที่คุณพ่อท่านล่วงลับไปแล้ว ได้ตั้งใจว่าจะปฏิบัติบูชาเพื่ออุทิศกุศลผลบุญอันพึงมีพึงได้ให้กับคุณพ่อของลูกอย่างเต็มส่วนตลอดชีวิต ตั้งใจจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ตลอดไป และภาวนาพุทโธให้ต่อเนื่องเท่าที่จะสามารถทำได้ และหลังจากคลอดบุตรแล้วดิฉันจะเริ่มปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างจริงจังด้วยความตั้งใจมั่น ขอบารมีท่านอาจารย์ได้โปรดแผ่เมตตาให้ความตั้งใจของดิฉันสมหวัง ให้ดิฉันมีจิตใจที่มั่นคง มีวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติบูชาเบื้องหน้าสืบไปด้วยเจ้าค่ะ



:b44: วิสัชนา - ส่วนที่ทำบุญให้ท่านผู้เป็นพ่อตอนยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านก็ได้อนุโมทนาเต็มภูมิแล้วและท่านก็ได้บุญเต็มภูมิอีกด้วย ส่วนปฏิปทาและเจตนาของลูกๆ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันถูกแล้วในด้านกับบิดามารดา เพราะพระบรมศาสดาทรงส่งเสริมว่า

๑. ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ทำกิจธุระของท่าน
๓. ดำรงวงศ์ตระกูล
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน


และในตอนนี้ก็ถูกแล้ว แต่ยังสามารถจะพยายามปฏิบัติศีลธรรมต่อไปอีกไม่ท้อถอย ก็ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ดำรงในสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ เป็นหลักของหัวใจแล้ว ผู้ถือว่ามีบุญมีบาปก็ได้บุญอยู่ไม่มีกลางวันกลางคืน ยิ่งสละทรัพย์เป็นทานแล้วก็ยิ่งเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งผู้ที่ล่วงลับไปนั้น ไม่ใช่คนขี้บาปจนถึงจะไปตกนรกเลย ถ้าหากว่าคนขนาดพวกเราไปตกนรกแล้ว สวรรค์เล่าจะให้โจรให้มารไปอยู่หรือ เท่านี้ก็พอแล้ว

อนึ่ง ด้านศีล ๕ เป็นศีลของฆราวาสโดยตรงๆ อยู่แล้ว ท่านผู้ใดไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดศีล ๕ ไม่เสียดายอยากถือศาสดาอื่น ไม่เสียดายอยากถือฤกษ์ดียามดี ไม่เสียดายอยากจะผูกเวรท่านผู้ใด ไม่เสียดายอยากล่วงอบายมุข ไม่เสียดายอยากค้าขายเครื่องประหาร ไม่เสียดายอยากค้าขายมนุษย์ ไม่เสียดายอยากค้าขายสัตว์เป็นและเนื้อสัตว์ที่ตัวฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ไม่เสียดายอยากค้าขายน้ำเมา ไม่เสียดายอยากค้าขายยาพิษ เหล่านี้เป็นต้น ก็รู้จักอยู่แล้วว่าท่านผู้นั้นถึงพระโสดาบันแล้ว

ขอให้เข้าใจชัดต่อไปว่า สิ่งทั้งปวงสิ่งใดเราเห็นโทษชัดแล้วไม่เสียดายอยากล่วงละเมิด สิ่งเหล่านั้นก็ไม่เป็นของยากแก่จิตใจเลย เมื่อถึงพระโสดาบันแล้ว พระสกาทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ก็เปิดประตูไปในตัว เพราะเป็นหนทางเส้นเดียวกัน ประตูเดียวกัน

อนึ่ง ขอให้เข้าใจว่าผู้เลื่อมใสพระพุทธศาสนาเหนือสิ่งใดๆ ทั้งปวงในโลกแล้ว แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นสร้างบารมีแก่กล้ามาแล้ว เป็นคนดีพอจะสนเข็มได้แล้ว และเป็นผู้ปิดประตูนรก สัตว์เดรัจฉาน และเปรตทุกจำพวกได้แล้ว มีธรรมเป็นเครื่องอบอุ่นอยู่ในใจก็ว่าได้ จิตใจย่อมเอนไป โอนไป โน้มไปในพระนิพพานอยู่ในตัว เพราะเหตุใดเล่า เพราะเหตุว่าสรรพโลกทั้งปวงไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน มีแต่สรรพทุกข์ทั้งปวงอันเห็นชัดด้วยตาปัญญา แม้ตานอกๆ ก็เห็นแล้วเพราะเหตุว่าความแก่ เจ็บ ตาย ไม่มีอันใดปิดบัง เห็นทั้งตานอกทั้งตาในอยู่แล้ว เหตุนั้นจิตใจจึงเอนไปโอนไปหาพระนิพพานดังกล่าวแล้วนั้น

เห็นอนิจจังขณะจิตเดียวก็เห็นสรรพโลกรอบแล้ว เพราะสรรพโลกเต็มไปด้วยอนิจจังความไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นก็เป็นทุกข์อยู่ในตัวด้วย แล้วก็เห็นโลกลึกลงไปอีกด้วยว่า สิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์แล้ว สิ่งนั้นก็ไม่อยู่ในอำนาจวาสนาของใครเลย ก็เรียกว่าเห็นโลกชัดลงไปอีกเป็นตอนที่ ๓ เมื่อเห็นโลกชัดลงไปตอนที่ ๓ แบบลึกซึ้งแล้ว ความเพลินและหลงในโลกทั้งปวงก็แตกกระเจิงตั้งอยู่ไม่ได้ ในดวงใจมีแต่พระสติพระปัญญารู้ตามเป็นจริงเท่านั้น ความหลงๆ เหลงๆ จะขี่ช้างสูบบุหรี่มาจากประตูใดเล่า

ขอให้เข้าใจว่า โดยสังเขปพวกที่หลงโลกก็มีหลงอยู่ ๔ ประการ
๑. หลงของไม่เที่ยงว่าเป็นของเที่ยง คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบที่สมมติว่าเป็นเราๆ นี้
๒. หลงของเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบนี้อีกล่ะ
๓. หลงของไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตนเอาจริงๆ จังๆ จนแกะไม่ได้คลายไม่ออก
๔. หลงหนังหุ้มอยู่โดยรอบอันเป็นของบูดราเปื่อยเน่าว่าเป็นของสวยงาม


ถ้าเราไม่หลงสิ่งเหล่านี้แล้ว ภพชาติของเราก็จบใน ณ ที่นี้เอง จะภาวนาหรือไม่ภาวนามันก็จบอยู่ในตัวแล้ว แม้จะภาวนา ๗ วัน ๗ คืนไม่กินอาหารก็ตาม ถ้าหากว่าหลงของ ๔ ประการดังกล่าวมาแล้วนี้อยู่ ก็ยังข้ามภาพข้ามชาติไม่ได้ การข้ามภพชาติก็เอาสติปัญญาเท่านั้นข้าม จะข้ามด้วยเครื่องบินหรือจรวดอะไรๆ ข้ามตั้งล้านๆ ปีก็ข้ามไม่ได้ หวังว่าคงเข้าใจดี

และขอให้เข้าใจอีกว่าความสำเร็จอยู่กับความพยายาม แม้เขาพยายามไปทางโจรทางมาร เช่นปล้นสะดมเป็นต้น บางรายเขาทำสำเร็จอยู่แต่ก็ให้ผลเป็นทุกข์ ไม่เหมือนพยายามทางโลกุตรธรรม ปรารภมามากแล้วก็คงสมควรแก่เวลา ด้วยเดชพระพุทธศาสนา อันทรงพระคุณค่าไม่มีประมาณ และก็ทรงมีอยู่ทุกกาลด้วย ไม่ขึ้นอยู่กับผู้รู้และไม่รู้ เมื่อเป็นดังนี้ พวกเราทั้งหลายจงพ้นจากทะเลหลง คือกองทุกข์ทั้งปวงโดยไม่เหลือทุกเมื่อเทอญ

-----------------------------------------
คัดมาจาก...หนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, กันยายน ๒๕๕๓
:b8: :b8: :b8:


:b50: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44660

:b50: รวมคำสอน “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38521

:b50: ประมวลภาพ “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” วัดภูจ้อก้อ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=44375

เจ้าของ:  Hanako [ 18 เม.ย. 2015, 11:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ : หลวงปู่ห

:b46: :b8:

เจ้าของ:  ลูกหว้า [ 19 เม.ย. 2015, 09:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ : หลวงปู่ห

Kiss

เจ้าของ:  ศิษย์หลวงปู่ทา [ 15 พ.ค. 2015, 05:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ : หลวงปู่ห

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Duangtip [ 07 พ.ย. 2019, 08:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ (หลวงปู่หล

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  น้องพลอย [ 23 ก.ค. 2021, 20:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ (หลวงปู่หล

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/