ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=41724
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 11 เม.ย. 2012, 00:00 ]
หัวข้อกระทู้:  ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย”

รูปภาพ
[ภาพเขียนสีน้ำมัน “บุษบาแต่งองค์” จากวรรณคดีเรื่อง “อิเหนา”
ฝีมือสร้างสรรค์โดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต]



:b47: ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย” :b47:

ในสังคมไทยสมัยโบราณ การใช้เครื่องหอมได้สอดแทรกอยู่ในประเพณีต่างๆ
ควบคู่กับการดำเนินชีวิต เช่น ประเพณีการโกนผมไฟ พิธีสรงน้ำพระ
การรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์ ตลอดถึงการรดน้ำศพ

เครื่องหอมมีหลายชนิด เช่น น้ำอบ น้ำปรุง สีผึ้ง แป้งร่ำ ดินสอพอง ฯลฯ
แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ น้ำอบ ใช้เป็นเครื่องประทินผิว

หลักฐานการใช้น้ำอบไทยหรือเครื่องหอมแบบไทยมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
และต่อเนื่องมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย สมัยรัตนโกสินทร์


รูปภาพ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
ทรงโปรดปราณการใช้น้ำอบ น้ำปรุงมาก
คงจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงให้เห็นถึง
ความนิยมในการใช้เครื่องประทินผิวของคนในสมัยนั้น
ความนิยมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยสมัยก่อน
มักจะออกมาจากในพระราชสำนัก สู่สามัญชน การใช้เครื่องหอมก็เช่นเดียวกัน

“น้ำอบ” เป็นคำที่เรียกใช้เครื่องหอมที่เป็นน้ำ
ในสมัยก่อน การทำน้ำอบจะใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอม
เช่น ดอกมะลิ ดอกแก้ว ดอกชมนาด ฯลฯ
เนื้อไม้ ยางไม้ เช่น ผิวมะกรูด แก่นไม้จันทร์ เปลือกชลูด
โดยนำมาอบ ร่ำ ในน้ำให้มีกลิ่นหอมเย็นเป็นธรรมชาติ


ซึ่งการทำน้ำอบแบบนี้ เป็นการทำในปริมาณไม่มากนัก
ทำใช้กันในครัวเรื่อน และจะทำใช้กันวันต่อวัน
เพราะถ้าทิ้งไว้นาน กลิ่นของดอกไม้สดจะเปลี่ยน

รูปภาพ

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ได้มีการนำเอาหัวน้ำหอมจากต่างประเทศ
เข้ามาประยุกต์ใช้กับเครื่องหอมโบราณของไทย
ทำให้เกิดลักษณะของการทำน้ำอบเป็น ๒ อย่าง
คือ น้ำอบไทย กับน้ำอบฝรั่ง
ทำให้ค่านิยมของการใช้น้ำอบไทยลดลง

“น้ำอบไทย” คือน้ำที่อบด้วยควันกำยาน หรือเทียนอบ
(ทำจากผิวมะกรูด กำยาน น้ำตาลแดง ขี้ผึ้ง และจันทร์เทศ)
และน้ำมาปรุงด้วยเครื่องหอม มีสักษณะเป็น น้ำใสสีเหลืองอ่อนๆ
ซึ่งมีความแตกต่างจากน้ำหอม หรือน้ำอบฝรั่ง
ทั้งลักษณะของกลิ่นและขบวนการผลิต


ปัจจุบันความนิยมของคนรุ่นใหม่ต่อน้ำอบไทย
ในลักษณะของเครื่องประทินผิวหรือเครื่องสำอางลดน้อยลงมาก

แต่น้ำอบไทยก็ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับสังคมไทย
เพราะจะนำไปใช้ในพิธีกรรมต่างๆ
เช่น งานมงคลสมรส งานสงกรานต์ งานขึ้นปีใหม่ สรงน้ำพระ
การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และใช้ในงานศพ เป็นต้น


ซึ่งการใช้น้ำอบไทยในงานประเพณีต่างๆ
เป็นเครื่องแสดงถึงการสืบทอดวัฒนธรรม
และเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสังคมไทย


รูปภาพ
[ขอขอบคุณภาพ : น้ำอบน้ำปรุงจากวังวรดิศ
http://www.prince-damrong.moi.go.th/fragrant_water.htm]

:b8: :b8: :b8:

ที่มา : http://www.facebook.com/nangloy?sk=note ... att=iframe

:b50: นางสงกรานต์ คำพยากรณ์...คติในตำนาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=21352

เจ้าของ:  saletea [ 11 เม.ย. 2012, 00:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเป็นมาของ "น้ำ อ บ ไ ท ย"

ขอบคุณสำหรับสาระดี ๆ ค่ะ ปัจจุบันจะได้ใช้น้ำอบก็คงเป็นเทศกาลสงกรานต์เดียวนี่หล่ะมั๊ง :b6:

เจ้าของ:  bluebird [ 26 เม.ย. 2012, 08:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเป็นมาของ "น้ำ อ บ ไ ท ย"

แต่น้ำอบไทยก็ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับสังคมไทย
เพราะจะนำไปใช้ในพิธีกรรมต่างๆ
เช่น งานมงคลสมรส งานสงกรานต์ งานขึ้นปีใหม่ สรงน้ำพระ
การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และใช้ในงานศพ เป็นต้น

ซึ่งการใช้น้ำอบไทยในงานประเพณีต่างๆ
เป็นเครื่องแสดงถึงการสืบทอดวัฒนธรรม
และเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสังคมไทย

ใช่ค่ะขอบคุณที่นำข้อความดีๆ มาเผยแพร่
น้ำอบไทย เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทย

:b45: :b8: :b45:

เจ้าของ:  Duangtip [ 07 พ.ย. 2019, 09:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย”

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  น้องพลอย [ 23 ก.ค. 2021, 20:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย”

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 10 เม.ย. 2024, 09:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเป็นมาของ “น้ำ อ บ ไ ท ย”

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/