หลวงปู่คำดี ปภาโส
วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย
การฝึกหัดจิตนะ นั่งสมาธินะ มือขวาทับมือซ้ายจะนั่งขัดสมาธิก็ได้ นั่งพับเพียบก็ได้ไม่เป็นปัญหานะ วางตัวให้ตรงนะ แล้วกายวิเวก ๑ กายวิเวก ความสงัดทางกายนั่นประการหนึ่ง วจีวิเวก ๑ ห้ามพูดคุยกัน (ฯลฯ) มโนวิเวกแล้วทีนี้น่ะ คือ หมายความว่า โอปนยิโก น้อมพระคุณของพระพุทธเจ้าเข้ามาในดวงจิตนะ บริกรรมพุทโธๆๆ หนึ่งอยู่นะ หนึ่งอยู่ในพุทโธทีเดียว ความหนึ่งอยู่นี่แหละสำคัญนัก ความเป็นหนึ่งนะ ความหนึ่งอยู่นะ ความสงบนะ ต้องการไอตัวนี้มากที่สุดทีเดียว
และอีกประการหนึ่งไอ้ความหนึ่งอยู่เช่นนั้น ทีนี้ปัญญาของสมถะมันส่อเข้ามาในดวงจิตนะ ส่อเข้ามาทีเดียว ความหนึ่งอยู่แล้วมันส่อเข้ามาทีเดียว ความอัศจรรย์ “ธรรมะ” เกิดขึ้นในดวงจิตนะ สิ่งไม่รู้ก็รู้ขึ้นมา สิ่งที่ไม่เห็นก็เห็นขึ้นมา มันม้วนมันส่อขึ้นมานะ นี่แหละกำหนดไว้ ขอให้เกิดขึ้นในดวงจิตทีเดียวเขาเรียกว่า “ปัญญาสมถะ” ปัญญาสมถะนะ เป็นกรณีที่แวดล้อม แวดล้อมน่ะ รักษาสมถะให้มั่นคงทีเดียว สมถะนะที่นี่
ทีนี้ไอ้ความสมาธิมีสามชนิด ขณิกสมาธิ ๑ อุปจารสมาธิ ๑ อัปปนาสมาธิ ๑ คือ ความเป็นหนึ่งนั่นเองแหละ ไม่ใช่อื่นไกล มีกรณีแวดล้อมหัวใจของเราสมถะนะ และอีกตอนหนึ่งนะให้ระวัง คือ เวลาตอนเกิดเป็นหนึ่งแล้วอย่าตั้งอยู่ในความเป็นหนึ่งนะ ยกจิตขึ้นสู่ “วิปัสสนา” ทีเดียว วิปัสสนาน่ะทีนี้คือหมายถึงว่า ทีนี้ตรวจดูอวัยวะร่างกายสังขารนั่น ทีนี้ตรวจดูอวัยวะร่างกายสังขาร ตามหนังสือวิมุตโตทัย ท่านพระอาจารย์มั่นนะ อัฐิ กระดูก อัฐิกระดูกนะ พิจารณาอัฐิกระดูกทีเดียว กระดูกขายังไง กระดูกอย่างไร กระดูกศีรษะหรือที่ไหน แล้วแต่จะถูกจริตของตัวนะ กำหนดู แล้วก็อย่าไปทิ้งทุกขัง อนิจจัง อนัตตานะ ให้กำหนดฯ นี่แหละฉันใดต้องตรวจตราดูอวัยวะร่างกายสังขารนะ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตาของชีวิตนะของธาตุขันธ์ของเรานะ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“หลักการภาวนา”
◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่คำดี ปภาโส” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=40903