วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2015, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
วัดอโศการาม
อ.เมือง จ.สมุทรปราการ



ถ้าตา หู จมูก ลิ้น ปากของเรามันเย็น ความเย็นของธาตุเหล่านี้
ก็จะซึมซาบอาบไปในภูเขา (ศีรษะ) เป็นเหตุให้ เกสา (ผมทั้งหลาย)
โลมา (ขนทั้งหลาย) นขา (เล็บทั้งหลาย) ทนฺตา (ฟันทั้งหลาย)
ตโจ (หนัง) มงฺสํ (เนื้อ) ที่เป็นอวัยวะทุกส่วน นหารู (เอ็นทั้งหลาย)
อฏฺฐี (กระดูกทั้งหลาย) อฏฺฐิมิญฺชํ (เยื่อในกระดูก) ตลอดจนอวัยวะภายในทุกส่วน
เช่น วกฺกํ (ม้าม) หทยํ (หัวใจ) ยกนํ (ตับ) กิโลมกํ (พังผืด)
ปิหกํ (ไต) ปปฺผาสํ (ปอด) อนฺตํ (ไส้ใหญ่) อนฺตคุณํ (ไส้น้อย)
จนถึง อุทริยํ (อาหารใหม่) และ กรีสํ (อาหารเก่า)

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะกลายเป็นของบริสุทธิ์
ปราศจากโทษไปทุกอย่าง เมื่อธาตุภายในร่างกายของเรา
บริสุทธิ์ไปทุกอย่างเช่นนี้ เรียกว่า "กายปริสุทฺธํ" (กายสะอาดเบา)

เหมือนกระสอบป่านเก่าๆที่อมสิ่งโสโครกไว้จนหนาและหนัก
เมื่อเราได้นำมาซักฟอกให้สะอาดและให้แห้งด้วยแดดและลมแล้ว
กระสอบเก่าผืนนั้นก็อาจจะเบาขึ้นกว่าเก่าตั้งครึ่งตัว
สมมติว่าเดิมมันหนักอยู่ ๑ กิโล มันก็อาจจะลดลงเสมอครึ่งกิโลก็ได้

เหตุนั้นนักปฏิบัติในชาดกสมัยพุทธกาลนั้น
ท่านจึงยกมากล่าวว่า บางท่านก็ดำดินไปผุดได้ไกลๆ
บางท่านก็เหาะเหินเดินอากาศได้ ทั้งนี้ก็คงเนื่องจาก
"อำนาจของความบริสุทธิ์แห่งธาตุในร่างกาย"
ซึ่งท่านได้บำเพ็ญพยายามซักฟอกด้วยคุณธรรมนั่นเอง
จึงทำให้ร่างกายท่านมีความละเอียดเบา
จนกลายเป็นผู้มีฤทธิ์อำนาจแรงกล้า

สามารถที่จะดำลงไปในแผ่นดินหรือเหาะขึ้นไปบนฟ้าก็ได้
เพราะธาตุเหล่านี้เมื่อถูกเราซักฟอกบ่อยๆ แล้ว
ก็ย่อมจะเกิดความบริสุทธิ์ เบาและเป็นไปได้ทุกอย่างตามที่เราจะนึกให้เป็น

เมื่อธาตุทุกส่วนมีความเบาแล้ว
ต่อไปความหนักเหนื่อยในร่างกายก็จะหายไป
ตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้าของเราทรงประทับนั่งสมาธิ
อยู่ถึง ๗ วัน ๗ คืน ก็ยังไม่ทรงปวดเมื่อย
เหมือนของเบานั้น เราจะถืออยู่สัก ๓ ชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเมื่อย
แต่ถ้าเป็นของหนักแล้ว เพียงถือไว้แค่ ๓ นาทีเท่านั้น
ก็คงจะทนไม่ไหว...นี่เป็นผลศักดิ์สิทธิ์ของความเบากาย


ใช่แต่เท่านั้น...ความร้อน ความหิวโหย กระวนกระวาย
หรืออ่อนเพลียเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น นี่เรียกว่า "กายปัสสัทธิ"
คือกายสงบ ถ้าจะอธิบายถึงคุณประโยชน์หรืออานิสงส์อย่างอื่นๆ
อีกทีจะมากมายนัก จึงขอกล่าวแต่เพียงเท่านี้



:b44: :b44:


คัดลอกจาก
หนังสือแนวทางปฏิบัติ วิปัสสนา-กัมมัฏฐาน เล่ม ๒
พระอาจารย์ลี ธัมมธโร

มกราคม,๒๕๕๓. หน้า ๒๖๓-๒๖๕



:: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “ท่านพ่อลี ธัมมธโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38679

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2015, 17:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2011, 14:07
โพสต์: 278


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
Kiss :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร