วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 04:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 17:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


อบรมการเดินจงกรม

รูปภาพ

ธรรมโอวาท
ของ
พระญาณสิทธาจารย์
(หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)

วัดถ้ำผาปล่อง ต.บ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


ใช้ระเบียบหลวงปู่มั่น

รูปภาพ
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

รูปภาพ
ทางเดินจงกรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ณ วัดป่าภูริทัตตถิราวาส (วัดป่าบ้านหนองผือ)
บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร


:b42: :b42:

ต้นพรรษาปี ๒๕๓๒ หลวงปู่กำหนดให้ลูกศิษย์ตั้งข้อวัตร
ให้แต่ละรูป แต่ละองค์ "เดินจงกรมให้ได้สองชั่วโมง"
เป็นอุบายอันเฉียบขาดในการสู้กับกิเลส
โดยเฉพาะความง่วงเหงาหาวนอน
โดยยกระเบียบหลวงปู่มั่น (พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต)
เป็นหลักฐานอ้างอิง


"...ระเบียบหลวงปู่มั่นนั้น
ตั้งแต่ฉันน้ำฮ้อนน้ำอุ่น อาบน้ำแล้ว
เพิ่นก็เข้าใส่ทางจงกรมแล้วนะ
บ่แม่นไปคุยกันในโรงน้ำร้อนนะ
ต้องเข้าทางจงกรม เดินจงกรม
แล้วท่านเดินตั้งแต่
สมมติว่าเดินตั้งแต่ ๖ โมงถึง ๗ โมงถึง ๘ โมงอย่างนี้เป็นต้น
เรียกว่า เดินจงกรมสองชั่วโมง
แล้วท่านก็ขึ้นไหว้พระสวดมนต์
ไหว้พระสวดมนต์นั่งกรรมฐานก็อยู่ในขั้นสองชั่วโมงเหมือนกัน
อีกสองชั่วโมงเป็น ๔ ทุ่ม
เมื่อถึง ๔ ทุ่ม จากนั้นไปท่านก็พักผ่อนละ เรียกว่า จำวัด

จำวัดนี้ก็อยู่ในขั้นสี่ชั่วโมง
๔ ทุ่ม ๕ ทุ่ม ๖ ทุ่ม ก็เที่ยงคืน ตี ๑ ตี ๒ ท่านก็ตื่นละ
มันเป็นวรรคตอนของท่านภาวนานะ
พอตี ๒ นี้ก็ตื่นมาละ ล้างหน้าล้างตา
ถ้าวันไหนลงเดินจงกรมมา ก็ตี ๓ ตี ๔
๒, ๓, ๔ นี้ นี้ถ้าเดินจงกรมก็เดินสองชั่วโมง
๕, ๖ ขึ้นมานี้ก็มาไหว้พระสวดมนต์นั่งภาวนา
พอแจ้งสว่างได้เวลาบิณฑบาต

ท่านทำอยู่เวลาท่านมีชีวิตอยู่
จนท่านไม่ต้องใช้นาฬิกาเหมือนพวกเราสมัยนี้หรอก
เอานาฬิกาธรรมนั่นเอง
ต้องมี ระเบียบธรรม น่ะจึงเป็นไปได้"


พอถึงกลางพรรษา
ในช่วงทำวัตรสวดมนต์เย็นคืนหนึ่ง
หลวงปู่ก็ลุกขึ้นมาติดตามผลงาน
โดยจี้ถามสมาชิกทุกรูปนามประมาณกว่า ๓๐
ที่จำพรรษา ณ ถ้ำผาปล่อง ในปีนั้น

ไล่เรียงตั้งแต่หัวแถวจรดท้ายแถวเลยทีเดียว
บรรยากาศของการประเมินผลในคืนนั้น
มีตัวอย่างให้สัมผัสได้พอสมควร
อย่างน้อยก็คงเป็นที่รื่นรมย์สำหรับองค์ผู้ประเมิน
เพราะบ่อยครั้งท่านซักไซ้ไล่เรียงไปพลางหัวเราะหึๆ

"เป็นอย่างไรล่ะ ได้ปฏิบัติอะไรบ้าง ?"
หลวงปู่ทักถามลูกศิษย์ซึ่งมีที่พำนักอยู่ที่ถ้ำโสดา


"เรื่องทางจงกรมเรื่องภาวนา
ได้ทำดีขึ้นมา รึว่าบ่ได้สองชั่วโมงซี
โธ่...บ่ได้เรื่อง ต้องได้สองชั่วโมง
ทำเล่นๆ อยู่บ่ได้ความแต่อย่างใด
ต้องเหมือนว่า จากนี้ไปหลังทำวัตรสวดมนต์"

"จากนี้ไปเดินให้ได้สองชั่วโมง
จึงค่อยไหว้พระสวดมนต์ด้วยตนเอง
แล้วก็นั่งภาวนา
นี่ถ้าจะเดินจงกรมนี่ซักสิบนาทีถึงหรือบ่ถึง ?
รึทางจงกรมลายหรือบ่ลายก็บ่ฮู้
ต้องตั้งใจใหม่ ไปทำอย่างนี้บ่ได้นะ"


:b44:

"การเดินจงกรมนี้เป็นอุบายสำคัญ
คือ ร่างกายสะดวกสบาย ไปนั่งอย่างเดียว
คือ ท่องหนังสือก็ได้แต่หนังสืออย่างเดียวพอละ มันบ่ได้
ต้องมีข้อวัตรประจำ
การเดินบ่ต้องพยายามอะไรมากเด้อ
เดินไปถึงกุฏิก็เอาสิ่งของไว้
มีบ่ ทางจงกรมตรงนั้นมีไหมล่ะ ?
มันจะตกลงซีถ้ำโสดาน่ะ
เห็นว่าทางขึ้นมันลื่น ฝนตกน่ะที่ลื่น ลื่นมาก ทางขึ้นไปน่ะ
ถ้าฝนไม่ตกล่ะ มันจะบ่ได้สำเร็จโสดาก่อน
เวลามันเพริดลงภูเขาน่ะ โสดาตายแล้ว มันตกภูเขา
มันเป็น (ท่านหัวเราะ) โซดาขวดเน้อ...ระวังไว้"


:b44:

"...ทางจงกรมยาวแค่ไหน ทางนั้น โอ้ ยี่สิบกว่าก้าว
มันก็ดีแล้ว หาบ่ได้ละในเมืองโสดา
มันได้ขนาดนั้น นึกว่าไปขดอยู่
บ่ได้ ต้องให้มีทางจงกรม
ต้องพยายามจุดไฟบ้าง อย่าไปเหยียบงู ไม่ได้
ถ้าเหยียบหัวมันก็บ่เป็นหยัง ปากมันงับลง
ถ้าไปเหยียบหางละบ่ได้ อันตราย
ต้องตั้งใจขึ้นมาเน้อ
ท่านว่าเอาพิธีเดินจงกรมเข้าแก้ (มันก็แก้บ่ได้ละ)
ง่วงเหงาหาวนอน แก้ให้มันได้"


:b44:

"...ลุกจากนี้ไปแล้วละได้เดินจงกรมไหม
คือว่า ต้องทำให้เป็นวัตรนะ จึงจะได้
บังคับตัวเองให้เป็นวัตร
คือว่า ทุกคืนทุกวันน่ะ หลวงปู่มั่นท่านทำนะ
โน่นถามดู รูปเพิ่นอยู่นั่น ถามหลวงปู่มั่นให้ดีว่า
หลวงปู่ได้เดินจงกรมอย่างหลวงปู่สิมว่าไหม
ถามเพิ่นก็ได้ ถ้าเพิ่นนิ่ง บ่ปากละ เออ...ถูก มันแม่นละ
ถ้าบ่ถูก ท่านว่าเอา อูย...บ่ถูก ท่านว่าไป"


:b44:

"ต้องตั้งใจลงไป อธิษฐานใจลงไปแล้วมันจึงทำได้
ถ้าไปทำลอยๆ อย่างนั้นบ่ได้
ลอยไปลอยมาหนักเข้าก็ได้แต่ ชะยา สะนา กะตา พุทธา
แล้วก็นอน (หลวงปู่ท่านหัวเราะ)

พอจบพุทธาแล้วก็นอนลงไปเลย
บ่ได้เรื่องละเน้อ
ต้องตั้งใจขึ้นมาใหม่ เอาให้ได้"


:b44:

คัดลอกเนื้อหาจาก
หนังสือละอองธรรม
สิงหาคม, ๒๕๕๕. หน้า ๕๓-๕๖


:b42: :b42:

:: รวมคำสอน “หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=42673

:: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21573

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2015, 18:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2011, 14:07
โพสต์: 278


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2015, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุการค่ะ onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2020, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร