วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 17:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 04:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2010, 12:28
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือหนูยังเป็นนักเรียนอยู่น่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีการสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
แล้วหนูรู้สึกว่า หนูอ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงอยากทำสมาธิเผื่อว่ามันจะช่วยให้จำได้มากขึ้น

อยากให้อธิบายเป็นขั้นตอนง่ายๆ เข้าใจง่ายว่าก่อนทำต้องทำยังไงบ้างแล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร
แล้วจำเป็นที่จะต้องทำต่อหน้าพระพุทธรูปมั้ยคะ?

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 07:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตท่านเปรียบเหมือนลิง คือว่ามันยุกยิกๆๆ ไม่หยุดนิ่งคือแวบไปโน่นมานี่ คือมันจะวิ่งไปรับรู้อารมณ์ที่กระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทุกเมื่อเชื่อวันจนชิน เมื่อเป็นดังนี้ มันจะหมดศักยภาพ เพราะฟุ้งซ่าน เหมือนกระแสน้ำที่พุ่งออกหลายทางฉะนั้น


ดูเทคนิคการฝึกลิง จนใช้งานได้


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวเรา เขียน:
คือหนูยังเป็นนักเรียนอยู่น่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีการสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
แล้วหนูรู้สึกว่า หนูอ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงอยากทำสมาธิเผื่อว่ามันจะช่วยให้จำได้มากขึ้น

อยากให้อธิบายเป็นขั้นตอนง่ายๆ เข้าใจง่ายว่าก่อนทำต้องทำยังไงบ้างแล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร
แล้วจำเป็นที่จะต้องทำต่อหน้าพระพุทธรูปมั้ยคะ?

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะคะ


การฝึกจิตนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด แล้วก็ไม่มีทางลัด ดังนั้นผู้ฝึกจะต้องอาศัยความอดทนค่อยๆฝึกไป

เอาขั้นหยาบๆมองเห็นได้ก็คือเอางานที่ทำเรานี่แหละเป็นที่ฝึก เช่นเรากำลังดูหนังสืออยู่ ก็เอาหนังสือที่อ่านที่ดูนั่นแหละเป็นอุปกรณ์สำหรับฝึก ควบคุมจิตให้สนใจอยู่กับตัวอักษรเนื้อหาสาระของบทความที่เราอ่าน

เอางานประจำวัน เช่น ขณะกำลังกินข้าว กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า อาบน้ำ แต่งตัว ใส่รองเท้า เดินไปนั่นมานี่ ... เป็นต้นเหล่านี้ ใช้เป็นอุปกรณ์ฝึกจิตเจริญสมาธิได้ทั้งนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 08:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวเรา เขียน:
อยากให้อธิบายเป็นขั้นตอนง่ายๆ เข้าใจง่ายว่าก่อนทำต้องทำยังไงบ้าง แล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร
แล้วจำเป็นที่จะต้องทำต่อหน้าพระพุทธรูปมั้ยคะ?


จะทำตรงไหนก็ได้

เท่าที่บอกไปนั่นว่าง่ายหรือยากครับ :b12:

พอมองเห็นแนวทางการฝึกจิตไหม :b10:

ต้องทำยังไงบ้าง แล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร

ยังไม่แนะนำให้ทำอย่างที่ถาม
เบื้องต้นนี้ก็อย่างที่บอกคือใช้งานประจำวันฝึกทำไปก่อน คือฝึกให้จิตเกาะงานซึ่งกำลังทำเดี๋ยวนั้นขณะนั้นไปก่อนแล้วจิตมันจะค่อยๆเชื่อง ความจำจะค่อยๆเจริญงอกงามขึ้นๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตที่เป็นสมาธิหรือมีคุณภาพดี มีสมรรถภาพนั้น มีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้

1. แข็งแรง มีพลังมาก ท่านเปรียบไว้ว่าเหมือนกระแสน้ำ ที่ถูกควบคุมให้ไหลพุ่งไปในทิศทางเดียวย่อมมีกำลังแรงกว่าน้ำ ที่ถูกปล่อยให้ไหลพร่ากระจายออกไป

2. ราบเรียบ สงบซึ้ง เหมือนสระ หรือ บึงน้ำใหญ่ ที่มีน้ำนิ่ง ไม่มีลมพัดต้อง ไม่มีสิ่งรบกวนให้กระเพื่อมไหว

3. ใส กระจ่าง มองเห็นอะไรๆได้ชัด เหมือนน้ำสงบนิ่ง ไม่เป็นริ้วคลื่น และฝุ่นละอองที่มีก็ตกตะกอนนอนก้นหมด

4. นุ่มนวล ควรแก่งาน หรือเหมาะแก่การใช้งาน เพราะไม่เครียด ไม่กระด้าง ไม่วุ่น ไม่ขุ่นมัว ไม่สับสน ไม่เร่าร้อน ไม่กระวนกระวาย

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 68#msg1868

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 10:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวเรา เขียน:
คือหนูยังเป็นนักเรียนอยู่น่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีการสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
แล้วหนูรู้สึกว่า หนูอ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงอยากทำสมาธิเผื่อว่ามันจะช่วยให้จำได้มากขึ้น

อยากให้อธิบายเป็นขั้นตอนง่ายๆ เข้าใจง่ายว่าก่อนทำต้องทำยังไงบ้างแล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร
แล้วจำเป็นที่จะต้องทำต่อหน้าพระพุทธรูปมั้ยคะ?

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะคะ

สมาธิระดับขั้นไหนก็ตามสำคัญหมด ควรจะทำให้เกิดมีในภายในจิตใจตน เพราะคนเรานี้มีการงานที่ยุ่งเกี่ยวข้องกัน งานที่ทำเป็นกิจนั้นแหละ ฝึกให้รู้ระลึกตาม ควบคุมอารมณ์ด้วยสติ ไม่ต้องรีบ ความเร่งรีบ จะทำให้ร้อน วุ่นวาย ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำให้จิตสลัดจากความคิดฟุ้งซ่าน ก้เปนสมาธิได้ๆ
http://www.arip.co.th/blog.php?blogger= ... id=1245===>กท.นี้ดีๆๆ :b40: :b40:
http://health2u.exteen.com/20090921/entry-1 :b43:
http://www.youtube.com/watch?v=SPqky32G ... ure=relmfu :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 03:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวเรา เขียน:
คือหนูยังเป็นนักเรียนอยู่น่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีการสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
แล้วหนูรู้สึกว่า หนูอ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงอยากทำสมาธิเผื่อว่ามันจะช่วยให้จำได้มากขึ้น

อยากให้อธิบายเป็นขั้นตอนง่ายๆ เข้าใจง่ายว่าก่อนทำต้องทำยังไงบ้างแล้วจะออกจากสมาธิทำอย่างไร
แล้วจำเป็นที่จะต้องทำต่อหน้าพระพุทธรูปมั้ยคะ?

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะคะ


ก่อนนั่งควรจะทำจิตใจให้สงบลง เช่น ไม่ดูหนังทีวีเสร็จใหม่ๆแล้วมานั่งสมาธิเลย แต่ควรสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นด้วยการอาจหนังสือธรรมะ หรือนั่งในห้องพระ(ถ้ามี)

นั่งในสถานที่เงียบๆ เสียงรอบตัวไม่ดังเกินไป ไม่มีคนพลุกพล่าน ควรนั่งตอนเช้าตรู่ (ประมาณตี4 ตี5)ในห้องนอนนั่นแหละครับ เพราะความสงบจากการนั่งจะมีผลต่อการเรียนตลอดทั้งวันนั้น

นั่งตอนเช้าจะช่วยให้เกิดความสงบตลอดทั้งวัน เรียนหรืออ่านหนังสือจะดีมาก ส่วนนั่งตอนดึกจะช่วยให้นอนหลับดี

ควรเริ่มที่อานาปาณสติ คือกำหนดรู้การหายใจเข้าออกครับ ตามดูหน้าอกยุบหนอพองหนอ(ไม่ต้องท่องครับ)ไม่ต้องจับสติที่ลม แต่จับสติที่อกตัวเอง พอผ่านไปประมาณไม่ถึงนาที จะรู้สึกถึงความอึกอัด และหัวใจเต้นแรง ไม่ต้องตกใจหรือ คิดว่าตัวเองไม่สงบครับ แต่มีสติจับที่อกต่อไปสังเกตุว่าความอึดอัดนั้นที่แท้คือขันธ์5ที่แสดงออกมา เพราะมีเหตุคือมีร่างกาย(ขันธ์5นั้นเอง) ความอึดอัดที่ปรากฎเรียกว่าเวทนาครับ(นามในขันธ์5) หากปรากฎชัดเจนแล้วเรากำหนดรู้อาการนั้นเรียกว่ากำหนดรู้นามรูปตามความเป็นจริงด้วยสติ (ความอึดอัดคือธรรมที่เป็นของจริง จึงเรียกว่าปัจจุบันอารมณ์) พอสักพักหนึ่งจะเกิดสมาธิขึ้นครับ ทีนี้ก็กำหนดรู้ต่อไปตรงอกเราเหมือนเดิม จะสังเกตุถึงความนิ่งลง สงบลง จนเหมือนลมหายใจหายไป แต่ยังมียุบพองของ อกอยู่ หากมีสติอาการยุบพองต้องดำรงอยู่ (อาศัยการที่ใจยังจดจ่ออยู่ที่อกครับ) แม้ลมหายใจจะละเอียดแค่ไหน ต้องเห็นอาการยุบหนอพองหนอครับ

เมื่อพร้อมที่จะออกจากสมาธิก็คลายความจดจ่อที่อกตนเองไป อาจจะพิจารณาร่างกายส่วนอื่นๆ แล้วก็ลืมตาครับ หากมีคาถาท่องก็ท่องก่อนครับ แต่ถามว่าจำเป็นไหม ก็แล้วแต่บุคคลครับ ส่วนตัวผมไม่เคยท่องครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร