วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 18:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 202 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 00:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กระผมแค่..ไม่ต้องการมีร่างกาย...เพราะนำความทุกข์หลายอย่างมาให้ผม...

เลยคิดง่าย ๆ แค่ว่า..

ทุกข์ทั้งหลายมีเพราะมีร่างกาย
ร่างกายมี..เพราะมีเกิด
เมื่อไม่เกิด..ร่างกายย่อมไม่มี..ทุกข์ก็ย่อมไม่มีตามไปด้วย

กระผมคิดแค่นี้...จึงได้สนใจธรรมจริง ๆ มาจนถึงทุกวัน

แล้วก็มาเจอในปฏิจจฯ..อย่างที่คุณ flame..ยกมานั้นแหละ

มันก็เหมือน ๆ กัน..เพียงแต่คุณ flame อาจจะกลัวคำว่า..แน่ ๆ..มากไป
( เดียวมันจะไม่ไปสอดคล้องกับกฎไตรลักษณ์ใช่มัย :b12: )

แต่กระผม..ไม่กลัว..เพราะมันคือจุดมุ่งหมาย

คือการ..ไม่มีทุกข์อีกตราบอนัตตกาล...ภาษาชาวบ้านก็คือ..ไม่มีทุกข์อีกแน่ ๆ...

หากวิชชาของพระพุทธเจ้า...ไม่ได้นำสู่การพ้นทุกข์อย่างจริงแท้แน่นอน...แล้วมันจะต่างอะไรจากสมาบัติ 8 ของ อุทกดาบส อาฬารดาบส..ละ

คุณ flame ว่ามั้ย?? :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 00:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กระผมแค่..ไม่ต้องการมีร่างกาย...เพราะนำความทุกข์หลายอย่างมาให้ผม...

เลยคิดง่าย ๆ แค่ว่า..

ทุกข์ทั้งหลายมีเพราะมีร่างกาย
ร่างกายมี..เพราะมีเกิด
เมื่อไม่เกิด..ร่างกายย่อมไม่มี..ทุกข์ก็ย่อมไม่มีตามไปด้วย

กระผมคิดแค่นี้...จึงได้สนใจธรรมจริง ๆ มาจนถึงทุกวัน

แล้วก็มาเจอในปฏิจจฯ..อย่างที่คุณ flame..ยกมานั้นแหละ

มันก็เหมือน ๆ กัน..เพียงแต่คุณ flame อาจจะกลัวคำว่า..แน่ ๆ..มากไป
( เดียวมันจะไม่ไปสอดคล้องกับกฎไตรลักษณ์ใช่มัย :b12: )

แต่กระผม..ไม่กลัว..เพราะมันคือจุดมุ่งหมาย

คือการ..ไม่มีทุกข์อีกตราบอนัตตกาล...ภาษาชาวบ้านก็คือ..ไม่มีทุกข์อีกแน่ ๆ...

หากวิชชาของพระพุทธเจ้า...ไม่ได้นำสู่การพ้นทุกข์อย่างจริงแท้แน่นอน...แล้วมันจะต่างอะไรจากสมาบัติ 8 ของ อุทกดาบส อาฬารดาบส..ละ

คุณ flame ว่ามั้ย?? :b16: :b16:



ขอให้คุณกบ.ถึงฝั่งพระนิพพานอันเกษม หยั่งลงสู่อมตะ อันไม่แก่ ไม่ตาย
ปราศจาคความทุกข์ชั่วนิรันดร์ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 00:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 03:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กษมมาตา เขียน:
:b48: อีกหนึ่งสภาวะที่กำลังประสบอยู่ขณะนี้ค่ะ ที่อยากเล่าให้ฟัง ไม่อยากไปตั้งกระทู้ใหม่ คือตอนนี้มีสภาวะที่แปลกใหม่ คือ ร่างกายมันหลับค่ะ แต่จิตมันตื่น เบิกบานไม่ยอมหลับซะงั้น เป็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆค่ะ

:b48: อยากถามว่า มีใครเป็นเช่นดิฉันบ้าง

ดีครับ
สติ แปลว่า ระลึกได้ สัมปัชฌัญญะ แปลว่า รู้สึกตัว...ทั่วพร้อม...
การปฏิบัติธรรม จะเจริญสติอย่างเดียว ก็ไม่ใช่ สมาธิอย่างเดียวก็ไม่ใช่

คิดว่า คุณคงจะกำหนดเพ่งนิมิตใดนิมิตนึงได้(พระพุทธรูป ดวงแก้ว ดวงไฟ น้ำ วงแสงสว่างๆลๆ แล้ว ให้จำภาพนิมิตนั้นๆ ไว้
ให้มั่น น้อมเข้ามาตรงกลางกายจุดตัดตรงสะดือกลางกั๊ก เอาให้นิ่งๆนานๆ ไปเลย เดี๋ยวก็จะสัมผัสสิ่งที่เป็นอจิณไตยได้ ไม่มากก็น้อย อย่าดีใจเสียใจอบ่าตื่นเต้น
อย่ากลัวตายหากเจอกับสภวะ ดิ่ง วูบ(ตกศูนย์)
ลองหาเวลานั่งสมาธิที่ห้องพระสวดมนต์ให้ดีๆ ลองดู
ขอให้ได้ฌาณสูงๆและทรงไว้ได้ตลอด :b8: อนุโมทนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 04:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FLAME เขียน:
เพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เพราะชาติเป็นปัจจัย
จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
เพราะสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
ไม่มีเกิดก็ไม่มีตาย


FLAME เขียน:
เพราะสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
ไม่มีเกิดก็ไม่มีตาย

คุณครับ บางครั้งการไม่เข้าใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างถ่องแท้ แล้วเอามาปฏิบัติ
มันอาจทำให้หลงทางได้ อย่างเช่นคุณเป็นต้นครับ

ผมดูแล้วคุณยังขาดความเข้าใจในเรื่องปฏิจสมุบาทกับเรื่องของอิทัปปัจจยตา
ผมจะบอกให้นะครับว่า ในวงของปฏิจฯถ้าเรายังมีอวิชชาเป็นเหตุ มันย่อมมีผลที่ตามมา
จนครบวงแห่งปฏิจฯครับ มันขึ้นอยู่กับหลักของอิทัปปัจจยตาหรือเหตุปัจจัยแห่งการเกิด
เมื่อมีสิ่งหนึ่งย่อมต้องมีสิ่งหนึ่งแบบหลีกเลี่ยงได้

ที่คุณบอกเพราะชาติดับ ชรามรณะฯลฯจึงดับด้วย
อันนี้แหล่ะครับเป็นความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก
ผมจะบอกให้ครับ ถ้าภพยังอยู่ ชาติย่อมต้องมีครับ
อุปทานยังมี ภพและชาติก็ยังอยู่ครับ
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ที่คุณบอกเพราะชาติดับ ชรามรณะฯลฯจึงดับด้วย
อันนี้แหล่ะครับเป็นความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก
ผมจะบอกให้ครับ ถ้าภพยังอยู่ ชาติย่อมต้องมีครับ
อุปทานยังมี ภพและชาติก็ยังอยู่ครับ
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย



ถ้าชาติไม่มี แล้วภพมาจากไหน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
FLAME เขียน:
เพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เพราะชาติเป็นปัจจัย
จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
เพราะสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
ไม่มีเกิดก็ไม่มีตาย


FLAME เขียน:
เพราะสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
ไม่มีเกิดก็ไม่มีตาย

คุณครับ บางครั้งการไม่เข้าใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างถ่องแท้ แล้วเอามาปฏิบัติ
มันอาจทำให้หลงทางได้ อย่างเช่นคุณเป็นต้นครับ

ผมดูแล้วคุณยังขาดความเข้าใจในเรื่องปฏิจสมุบาทกับเรื่องของอิทัปปัจจยตา
ผมจะบอกให้นะครับว่า ในวงของปฏิจฯถ้าเรายังมีอวิชชาเป็นเหตุ มันย่อมมีผลที่ตามมา
จนครบวงแห่งปฏิจฯครับ มันขึ้นอยู่กับหลักของอิทัปปัจจยตาหรือเหตุปัจจัยแห่งการเกิด
เมื่อมีสิ่งหนึ่งย่อมต้องมีสิ่งหนึ่งแบบหลีกเลี่ยงได้

ที่คุณบอกเพราะชาติดับ ชรามรณะฯลฯจึงดับด้วย
อันนี้แหล่ะครับเป็นความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก
ผมจะบอกให้ครับ ถ้าภพยังอยู่ ชาติย่อมต้องมีครับ
อุปทานยังมี ภพและชาติก็ยังอยู่ครับ
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย


โฮฮับอย่าบ้องตื้น

การแสดงปมเด่นว่าตนมีมุมมองที่เหนือกว่าคนอื่น นั่นคือปมด้อย

พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนไว้ถูกแล้วดีแล้ว อย่าบิดเบือน

คุณflameกล่าวมาถูกต้องแล้ว

อย่าทลึ่งเกินไป

ให้รู้จักที่ต่ำที่สูงบ้าง

ธรรมะไม่ใช่ของดึงลงมาเล่นได้


อย่าทำตัวให้น่าสมเพชไปกว่านี้เลย



.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย




ยกหลักฐานจากพุทธพจน์มาแสดงด้วย

อย่ากล่าวลอยๆ ทลึ่งไปวันๆ

เป็นพวกจิตวิปลาส

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ที่คุณบอกเพราะชาติดับ ชรามรณะฯลฯจึงดับด้วย
อันนี้แหล่ะครับเป็นความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก
ผมจะบอกให้ครับ ถ้าภพยังอยู่ ชาติย่อมต้องมีครับ
อุปทานยังมี ภพและชาติก็ยังอยู่ครับ
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย


ปฏิจจสมุปปบาท ไม่มีมูลการณ์

อันดับแรกมาจากไหน

ใครเป็นผู้สร้าง

และไม่ใช่ศาสนาพุทธ

ผมจึงต้องลุกขึ้นมาบอกว่า

ถ้าโฮฮับมีความรู้บ้องตืนเพียงแค่นี้

จงอ่านเถิด

อย่าพยายามแสดงอะไรให้เสื่อมเสียเลย

ที่เสื่อมเสียคือ ศาสนาพุทธ และ ตัวโฮฮับเอง



.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ บรรทัดที่ ๑ - ๑๑๕. หน้าที่ ๑ - ๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 12:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
โฮฮับอย่าบ้องตื้น
การแสดงปมเด่นว่าตนมีมุมมองที่เหนือกว่าคนอื่น นั่นคือปมด้อย

ผมว่าไอ้คำว่าบ้องตื้น มันเหมาะสำหรับคุณมากกว่าครับ
ธรรมเข้ามีไว้ให้พิจารณาด้วยไม่ได้มีไว้ให้อ่านแต่อย่างเดียว

คนเขารู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ แต่ตัวกลับมาตีโพยตีพายแบบนี้
เด็กๆแถวบ้านผมเรียกว่าบ้องตื้นครับ
มันเป็นอาการที่จะปกปิดความไม่รู้ของตัวเอง จิตแพทย์เขาว่าเป็นปมด้อย
mes เขียน:
พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนไว้ถูกแล้วดีแล้ว อย่าบิดเบือน

คุณเม็ด ใครไปบิดเบือนครับ พระพุทธเจ้าสอนอะไรต่อมิอะไรไว้มากมาย
เขารู้ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมากกว่าคุณ คุณมาว่าเขาบิดเบือน ลักษณะแบบคุณ
ผมว่ามันเหมาะสมกับคำว่า กบในกะลาหรือรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง คุณไปเลือกเอาครับ
หรือจะเอาทั้งสองก็ได้เพราะมันเข้ากับคุณทั้งสองครับ
mes เขียน:
คุณflameกล่าวมาถูกต้องแล้ว
อย่าทลึ่งเกินไปให้รู้จักที่ต่ำที่สูงบ้าง
ธรรมะไม่ใช่ของดึงลงมาเล่นได้
อย่าทำตัวให้น่าสมเพชไปกว่านี้เลย

ที่ว่าถูกมันถูกอย่างไรครับ ไม่เห็นบอกเลย
เห็นมีแต่อ้างโน้น ขู่นี้
ธรรมะเขาไม่ได้มีไว้ใช้ด่าคนอื่นนะ คุณเม็ด
อย่าทำตัวให้น่าสงสารไปกว่านี้เลย ผมไม่อยากเสียน้ำตาเพราะสงสารคุณครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 12:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
อ้างคำพูด:
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย

ยกหลักฐานจากพุทธพจน์มาแสดงด้วย
อย่ากล่าวลอยๆ ทลึ่งไปวันๆ
เป็นพวกจิตวิปลาส

ไปดูเอาเอง แป๊ะยู๋เขาลากลิ้งไว้ให้แล้ว
ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนค่อยมาถาม
mes เขียน:
อ้างคำพูด:
ที่คุณบอกเพราะชาติดับ ชรามรณะฯลฯจึงดับด้วย
อันนี้แหล่ะครับเป็นความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก
ผมจะบอกให้ครับ ถ้าภพยังอยู่ ชาติย่อมต้องมีครับ
อุปทานยังมี ภพและชาติก็ยังอยู่ครับ
จากคำพูดที่ว่า ไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่เกิด ความหมายที่แท้จริง
ก็คือ การไม่มีอวิชาเป็นอันดับแรกครับ ถ้ายังมีอวิชาอยู่
ปฏิจฯมันก็ยังมีแถมมีครบเสียด้วย

ปฏิจจสมุปปบาท ไม่มีมูลการณ์

อันดับแรกมาจากไหน

ใครเป็นผู้สร้าง

และไม่ใช่ศาสนาพุทธ

ผมจึงต้องลุกขึ้นมาบอกว่า

ถ้าโฮฮับมีความรู้บ้องตืนเพียงแค่นี้

จงอ่านเถิด

อย่าพยายามแสดงอะไรให้เสื่อมเสียเลย

ที่เสื่อมเสียคือ ศาสนาพุทธ และ ตัวโฮฮับเอง



คุณเม็ด คุณรู้หรือเปล่าว่า ความทุกข์มันเกิดจากอะไร
การดับทุกข์ต้องทำอย่างไร
ถามหน่อยรู้จัก อริยสัจจ์สี่มั้ยครับ อริยสัจจ์สี่เป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์หรือเปล่า
แล้วผมจะบอกให้ว่า การไม่รู้อริยสัจสี่ มันเป็นอวิชชาในปฏิจจสมุบาทครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิจจสมุบาทเป็นวงจร ไม่มีต้นไม่มีปลาย



ขอเตือนอีกครั้งว่า

อย่าเอาธรรมะมาเล่นคะนอง

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
ปฏิจจสมุบาทเป็นวงจร ไม่มีต้นไม่มีปลาย
ขอเตือนอีกครั้งว่า

อย่าเอาธรรมะมาเล่นคะนอง

ซ้ำซากย้ำคิดย้ำทำอยู่นั้นแหล่ะ
ใครมันเล่นกับนายกัน
เราไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ

พูดแล้วไม่รู้ฟัง แกล้งแถไปเรื่อย
ตลกดีนี่ เป็นวงจร แต่ดันบอกไม่มีต้นไม่มีปลาย
เอางี้มันไม่มีต้นไม่มีปลายอย่างไรช่วยบอกมาหน่อยซิ

ถ้าไม่รู้ก็ถามมาจะตอบให้เอาบุญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
mes เขียน:
ปฏิจจสมุบาทเป็นวงจร ไม่มีต้นไม่มีปลาย
ขอเตือนอีกครั้งว่า

อย่าเอาธรรมะมาเล่นคะนอง

ซ้ำซากย้ำคิดย้ำทำอยู่นั้นแหล่ะ
ใครมันเล่นกับนายกัน
เราไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ

พูดแล้วไม่รู้ฟัง แกล้งแถไปเรื่อย
ตลกดีนี่ เป็นวงจร แต่ดันบอกไม่มีต้นไม่มีปลาย
เอางี้มันไม่มีต้นไม่มีปลายอย่างไรช่วยบอกมาหน่อยซิ

ถ้าไม่รู้ก็ถามมาจะตอบให้เอาบุญ


ใหนกาสรโฮฮับลองตอบดู

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 202 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร