วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 05:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




new61.gif
new61.gif [ 1.3 KiB | เปิดดู 4160 ครั้ง ]
:b8: รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
สะเทือนใจ เพราะไม่รู้
ต้องอิงอาศัยธาตุ ก็เพราะไม่รู้

รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร


ขอบคุณท่านเอ็นไลท์เท็ด ที่แนะนำ
โคตรภู เห็นด้วยว่าตัวเองตอนนี้ยังต้องอาศัยธาตุอยู่ครับ


----------------------------------
sirisuk เขียน:
รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร


smiley

ท่านสิริสุข เข้ามาแล้วไม่แสดงความคิดเห็นให้ โคตรภู
ได้ทราบด้วยหรือครับ ว่าธรรมะคืออะไร เพื่อ...ธรรมอันใดที่โคตรภูมิยังไม่รู้ จะได้รู้ครับ


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


๑๘๙. ธาตุ ๑๘๑ มีอะไรบ้าง ธาตุ ๑๘ คือ
๑. ธาตุคือตา (จักขุธาตุ)
๒. ธาตุคือรูป (รูปธาตุ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตา)
๓. ธาตุคือความรู้อารมณ์ทางตา (จักขุวิญญาณธาตุ)
๔. ธาตุคือหู (โสตธาตุ)
๕. ธาตุคือเสียง (สัททธาตุ)
๖. ธาตุคือความรู้อารมณ์ทางหู (โสตวิญญาณธาตุ)
๗. ธาตุคือจมูก (ฆานธาตุ)
๘. ธาตุคือกลิ่น (คันธธาตุ)
๙. ธาตุคือความรู้อารมณ์ทางจมูก (ฆานวิญญาณธาตุ)
๑๐. ธาตุคือลิ้น (ชิวหาธาตุ)
๑๑. ธาตุคือรส (รสธาตุ)
๑๒. ธาตุคือความรู้อารมณ์ทางลิ้น (ชิวหาวิญญาณธาตุ)
๑๓. ธาตุคือกาย (กายธาตุ)
๑๔. ธาตุคือสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยกาย (โผฏฐัพพธาตุ)
๑๕. ธาตุคือความรู้อารมณ์ทางกาย (กายวิญญาณธาตุ)
๑๖. ธาตุคือใจ (มโนธาตุ)
๑๗. ธาตุคือสิ่งที่รู้ได้ด้วยใจ (ธัมมธาตุ)
๑๘. ธาตุนี้ความรู้อารมณ์ทางใจ (มโนวิญญาณธาตุ)
นี้เรียกว่าธาตุ ๑๘.

วิภังค์ อภิธัมมปิฎก ๓๕/๕๔๒


ที่มา(ลอกมาส่วนหนึ่งจาก)....พระอาจารย์วิทยา กิจจวิชโช
วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ตำบลแม่นาวาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ 50280
โทร(โทรสาร) 0-5347-3382


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 09:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต



๒. ธาตุสูตร
[๒๒๙] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธาตุ ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน คือ รูปธาตุ ๑ อรูปธาตุ ๑
นิโรธธาตุ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธาตุ ๓ อย่างนี้แล ฯ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาค
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
ชนเหล่าใดกำหนดรู้รูปธาตุแล้ว ไม่ดำรงอยู่ในอรูปธาตุ
น้อมไปในนิโรธ ชนเหล่านั้นเป็นผู้ละมัจจุเสียได้ พระสัมมา-
สัมพุทธเจ้าผู้หาอาสวะมิได้ ถูกต้องอมตธาตุอันหาอุปธิมิได้
ด้วยนามกาย แล้วกระทำให้แจ้งซึ่งการสละคืนอุปธิ ย่อม
แสดงบทอันไม่มีความโศก ปราศจากธุลี ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๒
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๔๑๘ - ๕๔๓๒. หน้าที่ ๒๓๘ - ๒๓๙.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 12:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




new61.gif
new61.gif [ 1.3 KiB | เปิดดู 4160 ครั้ง ]
โคตรภู เขียน:
enlighted เขียน:
สะเทือนใจ เพราะไม่รู้
ต้องอิงอาศัยธาตุ ก็เพราะไม่รู้

รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร


ขอบคุณท่านเอ็นไลท์เท็ด ที่แนะนำ
โคตรภู เห็นด้วยว่าตัวเองตอนนี้ยังต้องอาศัยธาตุอยู่ครับ


----------------------------------
sirisuk เขียน:
รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร


smiley

ท่านสิริสุข เข้ามาแล้วไม่แสดงความคิดเห็นให้ โคตรภู
ได้ทราบด้วยหรือครับ ว่าธรรมะคืออะไร เพื่อ...ธรรมอันใดที่โคตรภูมิยังไม่รู้ จะได้รู้ครับ


เจริญในธรรมครับ


:b8: ธรรมะคือธรรมชาติ คือสัจจธรรมสากล มีอยู่แล้วในใจทุกคน

แล้วแต่ว่าใครจะเข้าถึงก่อน เข้าถึงระดับไหน อยู่ที่เหตุปัจจัยของแต่ละบุคคลค่ะ

เจริญธรรมค่ะ

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ธรรมะเป็นของกลางตะหาก


ธรรมะก็เป็นเงาของจิต :b1:


เหอๆ

ธรรมะสำหรับปุถุชนนั่นแหละ ที่มีเงาจิต


คุๆๆ
ปุถุชนก็เป็นเงาของจิต

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirisuk เขียน:
ธรรมะคือธรรมชาติ คือสัจจธรรมสากล มีอยู่แล้วในใจทุกคน

แล้วแต่ว่าใครจะเข้าถึงก่อน เข้าถึงระดับไหน อยู่ที่เหตุปัจจัยของแต่ละบุคคลค่ะ


smiley

ขอบคุณท่านสิริสุขที่ร่วมแสดงความเห็นครับ

ธรรมะคืออะไร
1. ธรรมะคือ ธรรมชาติ...... เป็นอีกท่านที่มายืนยันว่าคือธรรมชาติ
2. ธรรมะคือ สัจจธรรมสากล มีอยู่แล้วในใจทุกคน


เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต



๗. ธาตุสูตร


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๒๔๒ - ๕๒๗๔. หน้าที่ ๒๓๑ - ๒๓๒.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b18: :b41: :b41: :b41: :b42: :b43: :b39: :b39: :b44:
:b29: :b30: :b35: :b36: :b37: :b38: :b39: :b40:
:b41: :b42: :b43: :b44: :b45: :b46: :b47: :b48: :b49: :b50: :b51:
:b51: :b53: :b54: :b55:

...................
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




45.gif
45.gif [ 47.54 KiB | เปิดดู 4128 ครั้ง ]
ศรีสมบัติ เขียน:
:b18: :b41: :b41: :b41: :b42: :b43: :b39: :b39: :b44:
:b29: :b30: :b35: :b36: :b37: :b38: :b39: :b40:
:b41: :b42: :b43: :b44: :b45: :b46: :b47: :b48: :b49: :b50: :b51:
:b51: :b53: :b54: :b55:

...................
เจริญในธรรม :b8:


:b8: :b12: :b4: :b17: :b20: :b16:

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 14:01
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: เรียนท่านโคตรภูครับ :b42:
ท่านทราบดีว่าจะเกิดวจีกรรมในกระทู้นี้ เช่นนั้น กรรมช้อนกรรมก็คงหนีไม่พ้นนะครับ
โชคดีครับทุกๆท่าน :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
:b25: :b41: :b41: :b41: :b42: :b43: :b39: :b39: :b44:
:b29: :b30: :b35: :b36: :b37: :b38: :b39: :b40:
:b41: :b42: :b43: :b44: :b45: :b46: :b47: :b48: :b49: :b50:
:b51: :b51: :b53: :b54: :b55:


smiley
ขอบคุณท่านศรีสมบัติ ครับที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น
ธรรมะของท่านศรีสมบัติที่แสดงด้วยรูปภาพ โคตรภู ก็ไม่กล้าฟันธงว่าจะสรุปได้
ใกล้เคียงกับที่ท่านต้องการสื่อหรือเปล่า...... พออนุมานได้ว่าคือธรรมะชาติ
หรือเปล่า..... หรือยังยืนด้วยรูปภาพเหมือนเดิม


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต



๑๐. ชาคริยสูตร
[๒๒๕] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุพึงเป็นผู้มีความเพียรเป็นเครื่องตื่น มีสติสัมปชัญญะ
มีจิตตั้งมั่น เบิกบาน ผ่องใส และพึงเป็นผู้เห็นแจ้งในกุศลธรรมทั้งหลาย
สมควรแก่กาลในการประกอบกรรมฐานนั้นเนืองๆ เถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อภิกษุมีความเพียรเป็นเครื่องตื่น มีสติสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น เบิกบาน
ผ่องใส เห็นแจ้งในกุศลธรรมทั้งหลายสมควรแก่กาลในการประกอบกรรมฐาน
นั้นเนืองๆ
พึงหวังผล ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ความเป็นพระอนาคามี ฯ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาค
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
เธอทั้งหลายตื่นอยู่ จงฟังคำนี้ เธอเหล่าใดผู้หลับแล้ว
เธอเหล่านั้นจงตื่น ความเป็นผู้ตื่นจากความหลับเป็นคุณ
ประเสริฐ เพราะภัยย่อมไม่มีแก่ผู้ตื่นอยู่ ผู้ใดตื่นอยู่
มีสติสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น เบิกบาน และผ่องใส
พิจารณาธรรมอยู่โดยชอบโดยกาลอันควร
ผู้นั้นมีสมาธิ
เป็นธรรมเอกผุดขึ้นแล้ว พึงกำจัดความมืดเสียได้ เพราะ
เหตุนั้นแล
ภิกษุพึงคบธรรมเครื่องเป็นผู้ตื่น ภิกษุผู้มีความ
เพียร มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน มีปรกติได้ฌาน ตัด
กิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ด้วยชาติและชราได้แล้ว พึงถูก-
ต้องญาณอันเป็นเครื่องตรัสรู้อย่างยอดเยี่ยมในอัตภาพนี้แล ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๓๑๖ - ๕๓๔๐. หน้าที่ ๒๓๔ - ๒๓๕.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 22:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 22:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


klinhom เขียน:
:b42: เรียนท่านโคตรภูครับ :b42:
ท่านทราบดีว่าจะเกิดวจีกรรมในกระทู้นี้ เช่นนั้น กรรมช้อนกรรมก็คงหนีไม่พ้นนะครับ
โชคดีครับทุกๆท่าน :b29:


smiley

สวัสดีอีกครั้งครับ ท่านกลิ่นหอม
โคตรภู มีความประสงค์ต้องการสำรวจความคิดเห็น ความเข้าใจเรื่องธรรมะของผู้ปฏิบัติ
เพื่อ ธรรมใดที่โคตรภูทราบแล้ว.. จะได้ทราบยิ่งขึ้น
ธรรมใดที่โคตรภูยังไม่รู้... ก็จะได้รู้


ส่วนวิวาทะที่เกิดในกระทู้... ก็เป็นเรื่องปกติไม่ได้มีแต่ในกระทู้นี้ของโคตรภู
.......กรรมเป็นเรื่องของการกระทำ.....
.......เป็นเรื่องปกติของการทำงานของขันธ์ทั้ง 5.....
.........กุศลธรรม ...อกุศลธรรม จะเกิดขึ้นในจิตของใครก็สุดแล้วแต่....


"สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา
จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชติระโส ยะถา"
คำแปล
"ขอความดำริทั้งปวงของท่าน จงได้ผลเต็มที่
เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณี "โชติรส" (แก้ววิเศษชนิดหนึ่ง) อันมีรัศมีรุ่งเรื่อง"

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 22:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต



๗. สมาธิสูตร
[๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีปัญญารักษาตน มีสติเจริญ
สมาธิหาประมาณมิได้เถิด เมื่อเธอมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิหา
ประมาณมิได้อยู่ ญาณ ๕ อย่าง ย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตน
ญาณ ๕ อย่างเป็นไฉน
คือ ญาณย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตนว่า สมาธินี้มีสุขในปัจจุบัน และมีสุขเป็นวิบาก
ต่อไป ๑ สมาธินี้เป็น อริยะ ปราศจากอามิส ๑ สมาธินี้อันคนเลวเสพไม่ได้ ๑
สมาธินี้ละเอียด ประณีต ได้ด้วยความสงบระงับ
บรรลุได้ด้วยความเป็นธรรม
เอกผุดขึ้น
และมิใช่บรรลุได้ด้วยการข่มธรรมที่เป็นข้าศึก ห้ามกิเลสด้วยจิตอัน
เป็นสสังขาร ๑ ก็เราย่อมมีสติเข้าสมาธินี้ได้ มีสติออกจากสมาธินี้ได้ ๑ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิอันหาประมาณ
มิได้เถิด เมื่อเธอทั้งหลายมีปัญญารักษาตน มีสติ เจริญสมาธิอันหาประมาณมิได้
อยู่ ญาณ ๕ อย่างนี้แล ย่อมเกิดขึ้นเฉพาะตน ฯ
จบสูตรที่ ๗
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๕๑๕ - ๕๒๗. หน้าที่ ๒๓ - ๒๔.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 23:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร