วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2020, 08:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ควรเดินจงกรมอย่างไร
วิสัชนาธรรมโดย...หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร

จาก...หนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, เดือนกันยายน ๒๕๕๓
:b8: :b8: :b8:


รูปภาพ

:b49: :b50: ปุจฉา :
การเดินจงกรม ควรเดินอย่างไร ควรกำหนดบริกรรมหรือไม่อย่างไร...
ความยาว (ก้าว) ของทางประมาณกี่เมตร
เวลาเดินไปสุดทางจงกรมใช้หมุนตัวกลับแล้วเดินต่อเลยหรือไม่
ในขณะเดินจงกรมมีบางช่วงหยุดเดินแต่ยังบริกรรมอยู่ คล้ายกับรำพึงมีหรือไม่ครับ
การเดินจงกรมกับนั่งสมาธิอย่างไหนดีกว่ากันครับ
หลวงปู่กรุณาอธิบายโดยละเอียดด้วยครับ (ควรเดินเร็ว ช้าขนาดไหน)


:b49: :b50: วิสัชนา :
การเดินจงกรม ถ้าที่เดินอำนวยก็เดินไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก แล้วให้เข้าทางจงกรมทิศตะวันตกผินหน้ามาทางทิศตะวันออก แล้วยกมือใส่หัว ส่วนความนึกคิดก็หวังจะทำเพื่อพระนิพพาน คือเจตนาที่เดินจงกรมเบื้องแรก และการเดินเอามือซ้ายเหยียดลงที่ใต้ท้องน้อย แบมือขวาหย่อนลงมาประกบกัน เงยหน้าพอดี จะก้าวขาขวาหรือซ้ายก่อนก็แล้วแต่สะดวก แต่ขอให้มีสติอยู่ว่าเราก้าวขวาหรือซ้าย ส่วนก้าวยาวหรือสั้นนั้นก็ก้าวพอดีๆ เราดีๆ นี้เอง เร็วหรือช้าก็พอดีเราและก็มีตาทอดลงพอควร

ทางนั้นยาวหรือสั้นข้อนี้แล้วแต่สถานที่จะอำนวย แต่ไม่สั้นเกินไปเพราะจะกลับวกเวียนลำบาก เวลากลับซ้ายหรือขวาก็แล้วแต่สะดวก แต่ขอให้มีสติรู้ตัวว่าเรากลับซ้ายหรือขวา เวลาเดินจะยกขาซ้ายหรือขาขวาก่อนก็ไม่เป็นปัญหา แต่ขอให้รู้ว่าเรายกขาขวาหรือขาซ้ายก่อน โดยใจความก็คือให้สติติดอยู่กับตัวไม่ได้หลงทำ...การกำหนดบริกรรมก็บริกรรมในกรรมฐานที่เราชอบนั่นเอง

ส่วนทางยาวนั้นในพระไตรปิฎก บางแห่งยาว ๖๐ ศอกก็มี แต่บางแห่งบางกรณีกอดต้นเสากุฏิเดินเวียนก็มีและก็ได้สำเร็จพระอรหันต์ด้วย ที่ว่านี้หมายความว่าภิกษุณีบางองค์ ชะรอยในเวลานั้นคงจะมีการขัดข้องไม่สะดวก จึงได้กอดต้นเสาเดิน หรือหากท่านขัดข้องอะไรก็ไม่บอกชัด และทางเดินจงกรมนั้นนอกจากทิศตะวันออกตรงไปทางทิศตะวันตกแล้ว ก็มีทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สองทางเท่านั้น ให้เข้าใจว่าถ้าที่ไม่อำนวยก็ต้องเดินไปได้ทุกทิศ เวลาเดินไปสุดทางจงกรมใช้หมุนตัวกลับแล้วเดินต่อ แต่ไม่หมุนกลับแบบทหารปึงปังหรือไม่รีบกลับ จะยืนพิจารณาอยู่บ้างก็ได้ ในขณะเดินจงกรมมีบางช่วงหยุดเดินแต่ยังบริกรรมอยู่คล้ายกับรำพึง วิธีนี้ก็มีอยู่บ้าง

การเดินจงกรมกับนั่งสมาธิจะว่าอันไหนดีกว่านั้น มันก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละราย แต่ท่านทรงสรรเสริญว่าผู้เก่งทางเดินจงกรม ร่างกายจะกระปรี้กระเปร่า เดินทางไกลได้ทน เพราะเป็นการบริหารอยู่ในตัว สมาธิที่เกิดขึ้นในทางเดินจงกรมตั้งอยู่ได้นาน อาพาธก็จะมีน้อย และพระบรมศาสดาพระองค์ท่านกล่าวว่าเราตถาคตเดินก็ดี ยืนก็ดี นั่งก็ดี นอนก็ดี (หมายถึงนอนไม่หลับ) ภาวนาได้เสมอกันทั้งนั้น ส่วนสาวกสาวิกาบางจำพวกบางบุคคล เก่งทางยืนภาวนา เดินภาวนา นั่งภาวนา แปลว่าได้อิริยาบถ ๓ บางบุคคลได้แต่เดินกับนั่งกับนอน (นอนไม่หลับ ส่วนหลับก็ให้เป็นเรื่องของการหลับไปซะ) บางท่านนอนภาวนาไม่ได้ พอล้มนอนลงก็หลับไปซะ ไม่นานพอห้าหรือสิบนาที


มีปัญหาถามพิเศษว่า ยืน เดิน นั่ง นอน ทำชั่วได้หรือไม่ ขอตอบว่าทำชั่วได้เหมือนกัน เพราะสามารถนึกถึงกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตกได้ เมื่อเป็นดังนี้ก็ได้ความชัดว่ายืนเดินนั่งนอนภาวนาได้ทั้งนั้น ส่วนหลับแล้วมันเป็นเรื่องของหลับไม่ต้องปรารภ เช่น ฝันว่าได้บุญมันก็ไม่ได้ ฝันว่าได้บาปมันก็ไม่ได้ แต่ฝันบางชนิดเกี่ยวกับธรรมะก็มีอยู่มาก เช่นพระบรมศาสดาฝันว่านอนผินหัวไปทางทิศเหนือ ทางหัวจรดขอบจักรวาล ทางเท้าจรดขอบจักรวาล มือด้านหนึ่งก็จรดขอบจักรวาล ด้านหนึ่งอีกก็จรดขอบจักรวาล และปรากฏว่าได้เดินจงกรมในภูเขาหนอน แต่เท้าของพระองค์ไม่เปื้อนมูตรคูถ และมีนกมาเคารพทั้ง ๔ ทิศ ในเวลาจวนจะสว่าง (ได้แก่พุทธบริษัททั้ง ๔ จะเคารพพระองค์ ตอนเมื่อตรัสรู้แล้ว จะได้เทศนาสั่งสอนเอาตามบุญกรรมแต่ละท่าน) คงเป็นระหว่างตี ๓ แล้วพระองค์ทายตนเองว่าจะได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า แล้วก็เป็นจริงดังที่ท่านแก้เอง แปลว่าก่อนรับข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาหนึ่งวัน

:b8: :b8: :b8: อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่...
••• นางสุชาดา เอตทัคคะในทางผู้ถึงสรณะก่อน
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7472

••• นางสุชาดา เสนิยธิดา (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=50297

**********

:b50: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44660

:b50: รวมคำสอน “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38521

:b50: ประมวลภาพ “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” วัดภูจ้อก้อ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=44375


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2020, 09:17 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2023, 20:48 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร