ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ภวังคจิต ในพุทธศาสนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=24914
หน้า 4 จากทั้งหมด 7

เจ้าของ:  ม่านหมอก [ 29 ก.ย. 2009, 07:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

กบนอกกะลา เขียน:
ไอ้ที่รับจากพ่อกะแม่..มันเป็นรูป..ไม่ใช่ปฎิสนธิจิต..และแค่เซลเดียวเท่านั้น..

และเซลตัวนั้น..มันก็ไม่ได้อยู่กับคุณ..จนคุณตายหรอก..อย่าฉลาดน้อยไปหน่อยเลย..

..มันสลายไปตั้งแต่การแบ่งเซลแรก ๆ แล้วละคุณเอ๋ย.. :b12: :b12: :b12:

และการที่คุณไปลาก..ภวังคจิต..ให้มาอยู่ระหว่าง..ปฏิสนธิ..กับ..จุติ..อะไรนี้..มันผิดสิ้นดีเลยละ..

:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:


คำพูดง่ายดีนะครับ... จริง ๆ ผมอยากคุยกับคุณในเรื่องนี้ต่อ แต่... :b5: หลังไมค์ ไหวรึเปล่าครับ
ผมส่งข้อความไปแล้วครับ... :b12:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 29 ก.ย. 2009, 20:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

กบนอกกะลา เขียน:
ไอ้ที่รับจากพ่อกะแม่..มันเป็นรูป..ไม่ใช่ปฎิสนธิจิต..และแค่เซลเดียวเท่านั้น..

และเซลตัวนั้น..มันก็ไม่ได้อยู่กับคุณ..จนคุณตายหรอก..อย่าฉลาดน้อยไปหน่อยเลย..

..มันสลายไปตั้งแต่การแบ่งเซลแรก ๆ แล้วละคุณเอ๋ย.. :b12: :b12: :b12:

และการที่คุณไปลาก..ภวังคจิต..ให้มาอยู่ระหว่าง..ปฏิสนธิ..กับ..จุติ..อะไรนี้..มันผิดสิ้นดีเลยละ..

:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:


ฮา.....ฮา......ฮา.....ฮา
ใครไปลากภวังคจิตให้มาอยู่ระหว่าง ปฏิสนธิ กับ จุติ ตรงไหนที่ลาก
จุติหมายถึงอะไร ขอรับ ผู้ใช้ชื่อว่า"กบฯ"
คุณว่าที่ได้รับจากพ่อแม่ เป็นรูป คุณเรียนมาจากที่ไหน โรงเรียนไหน หรือตำราเล่มไหนสอนคุณ ศาสนาไหนสอนคุณหรือขอรับ
บอกแล้วให้คุณหัดใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์ จะได้มีความรู้เพื่มขึ้น

จิตหมายถึงอะไรหรือขอรับ ลองชึ้หรือธิบายมาซิขอรับ

ข้าพเจ้าจะสอนให้อีกหน่อยก็ได้ ปฏิสนธิ เกิดขึ้น เมื่อเซลล์สองตัวผสมกันหรือจิตสองดวงผสมกัน คือ เซลล์ของบิดา กับมารดา หรือจิตของบิดามารดา แล้วเกิดเป็นเซลล์ใหม่หรือจิตดวงใหม่ นั่่นคือการปฏิบัติสนธิ จิตของคุณก็เริ่มมีตอนนั้น จากเซลล์ใหม่เซลล์เดียว หรือ จิตดวงใหม่ดวงเดียวนั่นแหละ ฯลฯ ก็เกิดวิวัฒนาการเมื่อได้รับอาหารจากแม่ของคุณ ก็จะเกิดเป็นอวัยวะต่างๆขึ้นมา อยากรู้ว่าเกิดอวัยวใดก่อนก็หาอ่านเอา
แต่เอ คุณไม่ได้เกิดจากเซลล์ของบิดามารดา คือไม่ได้เกิดจากจิตของบิดามารดา คงเกิดจาก,,,,,,,,ละมั้ง ฮ่าฺ ฮ่า ฮา

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 29 ก.ย. 2009, 21:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

Buddha เขียน:

จิตหมายถึงอะไรหรือขอรับ ลองชึ้หรือธิบายมาซิขอรับ

ข้าพเจ้าจะสอนให้อีกหน่อยก็ได้ ปฏิสนธิ เกิดขึ้น เมื่อเซลล์สองตัวผสมกันหรือจิตสองดวงผสมกัน คือ เซลล์ของบิดา กับมารดา หรือจิตของบิดามารดา แล้วเกิดเป็นเซลล์ใหม่หรือจิตดวงใหม่ นั่่นคือการปฏิบัติสนธิ จิตของคุณก็เริ่มมีตอนนั้น จากเซลล์ใหม่เซลล์เดียว หรือ จิตดวงใหม่ดวงเดียวนั่นแหละ ฯลฯ ก็เกิดวิวัฒนาการเมื่อได้รับอาหารจากแม่ของคุณ ก็จะเกิดเป็นอวัยวะต่างๆขึ้นมา อยากรู้ว่าเกิดอวัยวใดก่อนก็หาอ่านเอา
แต่เอ คุณไม่ได้เกิดจากเซลล์ของบิดามารดา คือไม่ได้เกิดจากจิตของบิดามารดา คงเกิดจาก,,,,,,,,ละมั้ง ฮ่าฺ ฮ่า ฮา


อยากจะขำ..จัง

:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 29 ก.ย. 2009, 21:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

ม่านหมอก เขียน:

คำพูดง่ายดีนะครับ... จริง ๆ ผมอยากคุยกับคุณในเรื่องนี้ต่อ แต่... :b5: หลังไมค์ ไหวรึเปล่าครับ
ผมส่งข้อความไปแล้วครับ... :b12:


จะไป..หลังมง..หลังไมค์..หลังเวที..ทำอะไร :b12:

บนเวทีนี้แหละ..ดีแล้ว.. :b12:

ของดีไม่มีอาย..ของไม่ดีลับ ๆ ล่อ ๆ

:b16: :b16: :b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 30 ก.ย. 2009, 20:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

กบนอกกะลา เขียน:
Buddha เขียน:

จิตหมายถึงอะไรหรือขอรับ ลองชึ้หรือธิบายมาซิขอรับ

ข้าพเจ้าจะสอนให้อีกหน่อยก็ได้ ปฏิสนธิ เกิดขึ้น เมื่อเซลล์สองตัวผสมกันหรือจิตสองดวงผสมกัน คือ เซลล์ของบิดา กับมารดา หรือจิตของบิดามารดา แล้วเกิดเป็นเซลล์ใหม่หรือจิตดวงใหม่ นั่่นคือการปฏิบัติสนธิ จิตของคุณก็เริ่มมีตอนนั้น จากเซลล์ใหม่เซลล์เดียว หรือ จิตดวงใหม่ดวงเดียวนั่นแหละ ฯลฯ ก็เกิดวิวัฒนาการเมื่อได้รับอาหารจากแม่ของคุณ ก็จะเกิดเป็นอวัยวะต่างๆขึ้นมา อยากรู้ว่าเกิดอวัยวใดก่อนก็หาอ่านเอา
แต่เอ คุณไม่ได้เกิดจากเซลล์ของบิดามารดา คือไม่ได้เกิดจากจิตของบิดามารดา คงเกิดจาก,,,,,,,,ละมั้ง ฮ่าฺ ฮ่า ฮา


อยากจะขำ..จัง

:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:


อ้าว ทำไมไม่ตอบละขอรับ คุณผู้ใช้ชื่อว่า "กบฯ" ตอบไม่ได้ก็บอกตอบไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ลองตอบมาซิ เผื่อจะเข้าตำรา นะขอรับ ......อิ อิ อิ อิ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 30 ก.ย. 2009, 21:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

:b12: :b12: :b12: :b12:
อิ..อิ..อิ..

คุณ Buddha ครับ

คุณมีพี่น้อง..ร่วมท้องเดียวกัน..พ่อแม่เดียวกัน..กี่คนครับ

ถ้ามีหลายคน..ก็อ่านต่อไปนะครับ

แล้ว..พี่..น้อง..รวมถึง..คุณ..เหมือนกันหมดทุกอย่างไหมครับ?..ถ้าไม่..ก็อ่านต่อนะครับ

หาก..ในเมื่อ..จิตลูก ๆ ได้รับหรือเกิดจาก..จิตพ่อกะแม่มารวมกัน..พ่อก็คนเดียวกัน..แม่ก็คนเดียวกัน..แล้วทำไมได้ลูกมา..จึงต่างกันได้ละครับ..

ผมว่าคุณนะ..รู้..แต่แกล้งโง่ไปยังงั้นแหละ..

ผมจึงอยาก..จะขำ..งัยละ

:b12: :b12: :b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 01 ต.ค. 2009, 20:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

ฮา..ฮา.....ก๊ากๆๆๆๆๆๆ
คุณผู้ใช้ชื่อว่า"กบฯ" น่าจะใช้ชื่อว่า "เจ้ากบอยู่ในกะลานะขอรับ
ู้ข้าพเจ้าอ่านที่คุณเขียนมา เกิด วิตก, วิจาร, เมื่อเข้าใจที่คุณเขียน ละ,หรือขจัดซึ่ง วิตก,วิจาร มีสติ หวนระลึก ตามระลึกถึงความรู้ เกิดปีติสุข ละหรือขจัดซึ่ง ปีติสุข เหลือความวางเฉย เป็นเอกัคคตา ใจมีสมาธิ สติเกิดตามมาอึก และมีคำถาม ถามคุณย้อนกลับว่า
บิดา และมารดาของคุณ มีจิต (ในที่นี้จะไม่กล่าวศัพท์ทางการแพทย์) อันวิวัฒนาการไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง กิริยาท่าทาง การพูด การชอบ การไม่ชอบ การเดิน และอืนๆอีกมาก เหมือนกันหรือไม่ ถ้าไม่เหมือน ลูกทุกคน ไม่ว่าจะมีกี่คนก็ตาม ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะ บางคนอาจแสดงจุดด้อยของจิตแห่งบิดา และมารดา ของคุณ บางคนอาจแสดง จุดเด่นของจิตแห่งบิดาและมารดาของคุณ หรืออาจมีจุดเด่นของ ปู่ ย่า ตา ยาย ปู่ทวด ย่าทวด ตาทวด ยายทวด ก็ได้
ลูกบางคน อาจเหมือนบิดา ลูกบางคน อาจเหมือนมารดา หรือ ลูกบางคน อาจเหมือนทั้งบิดาและมารดา อาจจะเหมือนทางด้านร่างกาย บ้างเหมือนบิดา หรือเหมือนมารดา คนละซึก หรือคนละด้าน หรือ ทางด้านจิตใจ หรือพฤติกรรม ก็แล้วแต่ว่า จิตของบิดา หรือจิตของมารดา อันไหนจะแข็งแรง มีอิทธิพลเหนือกว่ากันและกัน อนึ่งความไม่เหมือนกันของแต่ละบุคคลนั้น อาจเกี่ยวพันหรือเกี่ยวข้อง หรือเกิดเพราะปัจจัยสิ่งแวดล้อมทางสังคม ฯลฯ

ฮ่า...ฮ่า....ฮ่า.... ขำจริงๆ ขอรับ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เหมือนไก่เลยนะเนี่ย)ฮาๆๆๆๆ
รู้

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2009, 22:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

:b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32:

ขำ..พวกไม่ประสา

:b22: :b22: :b22: :b22:

นักวิทย์..เนี้ยเอง....หลงคิดว่าคุยกับนักพุทธ..อิ..อิ..อิ

:b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 04 ต.ค. 2009, 05:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ตอบแบบไม่อายเลยนะขอรับ ผู้ใช้ชื่อว่า "กบฯ"
คุณรู้ตัวว่า "ไม่ประสา" ก็ดีแล้ว แก้ไขตัวซะนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 06 ต.ค. 2009, 10:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

เนื่องจากในบทความ มีบางประโยคที่อ่านแล้วเกิดความสับสน ข้าพเจ้าจึงได้แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีความหมายของภาษาที่สมบูรณ์ ขอรับ

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 13 ต.ค. 2009, 13:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

ภวัง ขณะทีท่านทั้งหลาย กำลังประกอบกิจกรรมใดใดก็ตาม จะมีผลทีแตกต่างจากกัน
ภวัง ขณะ ในบางท่าน อาจสร้างผลที่ดีมีประสิทธิภาพ
ภวัง ขณะ ในบางท่าน อาจสร้างที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
ภวัง ขณะ ในบางท่าน อาจสร้างสภาพสภาวะจิตใจที่ดี
ภวัง ขณะ ในบางท่าน อาจสร้างสภาพสภาวะจิตใจที่ไม่ดี

เจ้าของ:  พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 13 ต.ค. 2009, 14:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

ในทางพระพุทธศาสนาการได้องค์ความรู้ขั้นแตกฉานท่านเรียกว่า "ปฏิสัมภิทา" มี ๔ อย่าง คือ (๑) อรรถปฏิสัมภิทา ความรู้แตกฉานในผล (๒) ธรรมปฏิสัมภิทา ความรู้แตกฉานในเหตุ (๓) นิรุตติสัมภิทา ความรู้แตกฉานในภาษา (๔) ปฏิภาณสัมภิทา ความรู้แตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ
ภาษาคือสิ่งที่เราสมมติมาใช้เรียกให้ตรงกันเท่านั้น โดยเฉพาะในพระพุทธศาสนาคำ ๆ เดียว มีหลายความหมาย เช่น "ธรรม" มีหลายความหมาย คือ ธรรมชาติ ธรรมดา คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทรงไว้ หรือคำหลายคำมีความหมายอย่างเดียวกัน เช่น จิต มโน วิญญาณ มีความหมายเดียวกัน การเข้าใจภาษาธรรมแล้วไม่ต้องวิเคราะห์ คือ รู้ว่าเป็นสิ่งนี้ ลักษณะนี้ และจะปฏิบัติกับสิ่งนี้ ลักษณะนี้อย่างไร
แต่ขออนุโมทนาทุกท่านที่ใฝ่รู้ใฝ่ธรรม พยายามหาเหตุผลหักล้างกัน ซึ่งจัดอยู่ใน "เวทัลละ" การถามตอบที่ทำให้คิดนำมาสู่องค์ความรู้ใหม่ เป็นหนึ่งใน "นวังคสัตถุศาสน์" คือ ลักษณะคำสอน ๙ อย่าง แต่ขอให้มีวิตก คือยกจิตเข้าสู่กุศลธรรม และวิจาร คือประคองจิตให้อยู่ในกุศลธรรม ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง

เจริญในธรรมของพระพุทธศาสดา
เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม
พระอาจารย์แสนปราชญ์

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 14 ต.ค. 2009, 12:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

พระอาจารย์แสนปราชญ์ เขียน:
ในทางพระพุทธศาสนาการได้องค์ความรู้ขั้นแตกฉานท่านเรียกว่า "ปฏิสัมภิทา" มี ๔ อย่าง คือ (๑) อรรถปฏิสัมภิทา ความรู้แตกฉานในผล (๒) ธรรมปฏิสัมภิทา ความรู้แตกฉานในเหตุ (๓) นิรุตติสัมภิทา ความรู้แตกฉานในภาษา (๔) ปฏิภาณสัมภิทา ความรู้แตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ
ภาษาคือสิ่งที่เราสมมติมาใช้เรียกให้ตรงกันเท่านั้น โดยเฉพาะในพระพุทธศาสนาคำ ๆ เดียว มีหลายความหมาย เช่น "ธรรม" มีหลายความหมาย คือ ธรรมชาติ ธรรมดา คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทรงไว้ หรือคำหลายคำมีความหมายอย่างเดียวกัน เช่น จิต มโน วิญญาณ มีความหมายเดียวกัน การเข้าใจภาษาธรรมแล้วไม่ต้องวิเคราะห์ คือ รู้ว่าเป็นสิ่งนี้ ลักษณะนี้ และจะปฏิบัติกับสิ่งนี้ ลักษณะนี้อย่างไร
แต่ขออนุโมทนาทุกท่านที่ใฝ่รู้ใฝ่ธรรม พยายามหาเหตุผลหักล้างกัน ซึ่งจัดอยู่ใน "เวทัลละ" การถามตอบที่ทำให้คิดนำมาสู่องค์ความรู้ใหม่ เป็นหนึ่งใน "นวังคสัตถุศาสน์" คือ ลักษณะคำสอน ๙ อย่าง แต่ขอให้มีวิตก คือยกจิตเข้าสู่กุศลธรรม และวิจาร คือประคองจิตให้อยู่ในกุศลธรรม ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง

เจริญในธรรมของพระพุทธศาสดา
เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม
พระอาจารย์แสนปราชญ์


ขออธิบายเพ่ิ่มเติม ในข้อความที่กล่าวไว้ว่า "แต่ขอให้มีวิตก คือยกจิตเข้าสู่กุศลธรรม และวิจาร คือประคองจิตให้อยู่ในกุศลธรรม ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง"
คำว่า ยกจิต เข้าสู่กุศลธรรม หรือ ยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ คงมีหลายๆท่าน รวมไปถึง พวกเจ้าสำนัก ที่ไม่รู้จริงไม่รู้แจ้งในข้อนี้ ก็ให้จดจำเอาไว้ว่า
หมายถึง ความมีสติ สัมปชัญญะ คือ มีความระลึกได้ ความหวนระลึก ,ไม่หลงลืม รู้สึกตัวอยู่เสมอ ขอรับ

เจ้าของ:  บัวศกล [ 14 ต.ค. 2009, 21:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

สวัสดีครับคุณ Buddha

ฉัพพรรณรังษี ที่คุณกล่าวถึง ว่ามีปรากฏอยู่กับตัวคุณหนะ

มีปรากฏอยู่เป็นปกติทุกเวลา หรือว่าเฉพาะบางเวลา

และคนทั่วไปสามารถมองเห็นด้วยตารึเปล่าครับ

หรือว่าต้องใช้จิตดู จึงมองเห็น


ขอบคุณครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 14 ต.ค. 2009, 21:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภวังคจิต ในพุทธศาสนา

Buddha เขียน:

ขออธิบายเพ่ิ่มเติม ในข้อความที่กล่าวไว้ว่า "แต่ขอให้มีวิตก คือยกจิตเข้าสู่กุศลธรรม และวิจาร คือประคองจิตให้อยู่ในกุศลธรรม ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง"

คำว่า ยกจิต เข้าสู่กุศลธรรม หรือ ยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ คงมีหลายๆท่าน รวมไปถึง พวกเจ้าสำนัก ที่ไม่รู้จริงไม่รู้แจ้งในข้อนี้ ก็ให้จดจำเอาไว้ว่าหมายถึง ความมีสติ สัมปชัญญะ คือ มีความระลึกได้ ความหวนระลึก ,ไม่หลงลืม รู้สึกตัวอยู่เสมอ ขอรับ


ที่ขีดเส้นใต้..เอาใว้..นี้มันตัวท่านเอง..ชัด ๆ :b12: :b12: :b12:

หน้า 4 จากทั้งหมด 7 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/