วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 14:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2009, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




64.jpg
64.jpg [ 82.35 KiB | เปิดดู 4057 ครั้ง ]
วัดความก้าวหน้าในทางปฏิบัติ คุณรินวัดได้จากตนเอง ว่าก่อนการปฏิบัติกรรมฐาน

กับหลังจากปฏิบัติว่าเป็นบวก หรือ ลบ ไม่ต้องคิดถึงศัพท์แสงทางบาลีให้มากความ

เช่นเมื่อปฏิบัติแล้ว สุขภาพกายใจดีกว่าแต่ก่อน พึงปฏิบัติต่อไป

แต่เมื่อปฏิบัติเช่นนี้แล้ว ทำให้สุขภาพกายใจแย่กว่าเดิมหยุดครับ เลิกเสียไม่ควรทำต่อไป :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 04 ก.ย. 2009, 20:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2009, 22:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
วัดความก้าวหน้าในทางปฏิบัติ คุณรินวัดได้จากตนเอง ว่าก่อนการปฏิบัติกรรมฐาน

กับหลังจากปฏิบัติว่าเป็นบวก หรือ ลบ ไม่ต้องคิดถึงศัพท์แสงทางบาลีให้มากความ

เช่นเมื่อปฏิบัติแล้ว สุขภาพกายใจดีกว่าแต่ก่อน พึงปฏิบัติต่อไป

แต่เมื่อปฏิบัติเช่นนี้แล้ว ทำให้สุขภาพกายใจแย่กว่าเดิมหยุดครับ เลิกเสียไม่ควรทำต่อไป :b1:



คุณกรัชกายคะ :b8:

ก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติ หนูต้องทานยาทุกวันเลยนะคะ วันละ 2 ครั้ง ไม่งั้นมันจะตึง ๆ เหมือนที่เคยเล่าให้ฟัง แต่ระยะนี้ไม่ได้ทานยามาหลายวันแล้ว เพราะอยากลองดูว่าถ้าไม่ทานผลจะเป็นยังไง เพราะความจริงยาก็มีผลข้างเคียงด้วยค่ะ หมอก็ไม่อยากให้ทานเยอะค่ะ

ผลคืออาการก็เหมือนตอนที่ทานยา คือไม่แย่ลงกว่าเดิม ทำอะไรคล่องตัวมากขึ้น (และเคยเล่าเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้อาการดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว) ไม่ได้สรุปว่าที่อาการดีขึ้นเป็นเพราะปฏิบัติกรรมฐานนะคะ

ส่วนสุขภาพใจช่วงนี้ คงเป็นเพราะใกล้จะเรียนจบมั้งคะ สำหรับหนู ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปหลายอย่าง
ที่จริงก็ทราบนะคะว่าไม่ควรกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ก็อดคิดไม่ได้ค่ะ

เป็นเพราะปฏิบัติไม่ได้หรือคะ คุณกรัชกายจึงพูดทำนองนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว :b10: :b5: :b3:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 05 ก.ย. 2009, 12:23, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2009, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




25.jpg
25.jpg [ 84.39 KiB | เปิดดู 3989 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
เป็นเพราะปฏิบัติไม่ได้หรือคะ คุณกรัชกายจึงพูดทำนองนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว



คุณรินถามซื่อๆน่าเอ็นดูเหมือนเด็กนะขอรับ :b12:

ส่วนตัวคุณรินเองปฏิบัติได้ดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำ แล้วก็ก้าวหน้ามาโดยลำดับ

ถามว่า วัดจากอะไรที่ว่า ก้าวหน้า
คำตอบ คุณลองนึกย้อนกลับไปก่อนหน้า อารมณ์ภายใน (จิตใจ) เป็นอย่างไร
เขาดูที่สิ่ง (มีนิมิต เป็นต้น) ที่ปรากฏแก่โยคีขณะปฏิบัตินั่น เป็นตัววัดความรู้สึก
วัดใจคุณริน

แต่เดี๋ยวนี้สิ่งเหล่านั้น เกือบหมดแล้ว จิตใจก็นิ่งขึ้น แปลว่า ภายในคุณสะอาดพอสมควร คือว่า
องค์ธรรมมีสติสัมปชัญญะสมาธิ เป็นต้น ที่เจริญขึ้นๆ จากการตามดูรู้ทันอารมณ์นั่นแหละ
ช่วยทำความสะอาดให้

แล้วต่อๆไป จะเหลือแต่อารมณ์กรรมฐาน คือ ลมเข้าออก (พองยุบ) กับความคิดล้วนๆ
ที่ตามดูรู้ทันตัวมันเองด้วย ตามดูรู้ทันอาการพองยุบ ด้วย ได้นิ่งนานยิ่งๆขึ้นเป็นลำดับๆ
โดยไม่มีอารมณ์ขยะรบกวนเหมือนที่แล้วๆมา


ดังกล่าว (ที่คุณว่าพูด ๒ หนแล้ว) กรัชกายพูดเปิดทางไว้
เพราะอะไร ?
เพราะตรงนี้เป็นที่สาธารณะ มิใช่มีเพียงคุณ ที่ดูอยู่อ่านอยู่

บางคนก็กำลังปฏิบัติโดยวิธีนี้ บางคนอ่านเพื่อศึกษาหาแนวทาง บางคนอ่านเพื่อจับผิด ฯลฯ
มีนานาทัศนะครับ

ไว้วันหนึ่งเมื่อเขาเหล่านั้น ไปปฏิบัติที่ไหนสำนักใด หากผู้สอนประจำสำนักนั้น
บอร์ดนั้น แนะนำวิธีปฏิบัติเขาเข้าแล้ว แล้วมีผลกระทบทางลบต่อกายใจ เขาควรเลิกเสีย
อย่าฝืนทำต่อไป เพราะการปฏิบัติผิดมีโทษอยู่
หากสอนผิด ภาวนาไปๆโดยไม่รู้จุดหมาย หรือ แก้สภาวะอารมณ์นั้นๆไม่ถูกธรรม
ไม่สอดคล้องธรรมชาติคือกายกับใจนี้ ผลเสียย่อมมีแก่ผู้ปฏิบัติเอง

แล้วก็อย่ายึดติดหรืออยากมีอยากเป็นโสดาบัน หรือพระอรหันต์ หรืออยากได้อยากไปนิพพาน เป็นต้น
จากคำชักจูงของใครๆ หรือ แม้จากความคิดของตน โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจความหมายหรือ
ภาวะของสิ่งนั้นๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2009, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรินเดินจงกรมระยะที่ ๔ (ระยะที่ ๔ อย่างเดียว) ได้แล้วครับ


ระยะที่ ๔

ยกซ่นหนอ… (ยกเฉพาะซ่นเท้าขึ้น)

ยกหนอ … (ยกเท้าขึ้น)

ย่างหนอ ...(ก้าวเดิน)

เหยียบหนอ... (เหยียบพื้น)


viewtopic.php?f=2&t=20691

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2009, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณรินถามซื่อๆ น่าเอ็นดูเหมือนเด็กนะขอรับ :b12:



ที่ถามซื่อ ๆ ตรง ๆ (รวมทั้งที่ผ่าน ๆ มาด้วย) เพราะอยากรู้ว่าความจริงแล้วสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลงทางค่ะ :b3:



คืนนี้หายใจเร็วและแรงมากค่ะ หัวใจเต้นแรงตั้งแต่เริ่มนั่ง ที่จริงรู้สึกว่าหัวใจเต้นตั้งแต่เดินจงกรมระยะที่ 1 แล้วค่ะ และรู้สึกว่าหัวใจเต้นในร่างกายหลายจุดมากกว่าก่อนหน้านี้ ตัวขยับขึ้นลงเร็วและแรงตามจังหวะของการหายใจค่ะ เวลาเป็นแบบนี้มักได้ยินเสียงผู้ชายว่า "ดีแล้ว" หรือรู้สึกว่ามีคนยิ้ม เป็นมาหลายวันแล้วค่ะ ตอนเริ่มนั่งมีตัวโยกเล็กน้อยประมาณ 1- 2 นาทีค่ะ พอหายใจเร็วแรงและหัวใจเต้นแรงมาก ๆ เข้า ตัวก็ไม่โยกแล้ว แต่ขยับขึ้นลงแทนค่ะ กำหนดตามนั้นทุกอย่างค่ะ

รายงานเท่านี้ค่ะ :b8:


****************************

เพิ่งเห็นว่าต้องเปลี่ยนการเดินจงกรมเป็นระยะที่ 4 ค่ะ :b1:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 05 ก.ย. 2009, 22:45, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2009, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ที่ถามซื่อ ๆ ตรง ๆ (รวมทั้งที่ผ่าน ๆ มาด้วย) เพราะอยากรู้ว่าความจริงแล้วสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลงทางค่ะ



แนะนำให้หลงไม่อยากหรอก ง่ายนิดเดียว จะให้คุณถึงนิพพาน (นิพพานแบบที่มีคนไปคนถึงกัน
เกลื่อนกลาดนั่น) ตั้งแต่เห็นนิมิตพระปางต่างๆ แล้วก็มีเสียงคนมาบอกก่อนหน้านี้แล้ว


อ้างคำพูด:
คืนนี้หายใจเร็วและแรงมากค่ะ หัวใจเต้นแรงตั้งแต่เริ่มนั่ง ที่จริงรู้สึกว่าหัวใจเต้นตั้งแต่เดินจงกรมระยะที่ 1 แล้วค่ะ และรู้สึกว่าหัวใจเต้นในร่างกายหลายจุดมากกว่าก่อนหน้านี้ ตัวขยับขึ้นลงเร็วและแรงตามจังหวะของการหายใจค่ะ



สภาวะยังเกิดแรงอยู่ กำหนดจิตตามอาการ กำหนดรู้ตามนั้นแล้วปล่อย เกาะจับพองยุบ
พองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ เป็นต้น ต่อไป


อ้างคำพูด:
เวลาเป็นแบบนี้มักได้ยินเสียงผู้ชายว่า "ดีแล้ว" หรือรู้สึกว่ามีคนยิ้ม เป็นมาหลายวันแล้วค่ะ
ตอนเริ่มนั่งมีตัวโยกเล็กน้อยประมาณ 1- 2 นาทีค่ะ พอหายใจเร็วแรงและหัวใจเต้นแรงมาก ๆ
เข้า ตัวก็ไม่โยกแล้ว แต่ขยับขึ้นลงแทนค่ะ กำหนดตามนั้นทุกอย่างค่ะ




เวลาเป็นแบบนี้มักได้ยินเสียงผู้ชายว่า "ดีแล้ว" หรือรู้สึกว่ามีคนยิ้ม เป็นมาหลายวันแล้วค่ะ



คุณรินอยากหลงไหมล่ะ จะแนะนำให้หลง

สังขารพวกนี้จะลวงหลอกให้โยคีหลงได้ทุกขั้นตอน
กำหนดตามที่นามรูปมันเป็นครับ

ตัวอย่างเช่น ได้ยินเสียง “เสียงหนอๆ ” “ดีแล้วหนอๆ”
รู้สึกว่า มีคนยิ้ม "ยิ้มหนอๆ" ก็ได้ “รู้หนอๆๆ” จบ กำหนดแล้วปล่อยวางอารมณ์นั้นอาการนั้น
มาเกาะจับพองยุบ ตามพองหนอ ยุบหนอ ฯลฯ ต่อไป

หายใจเร็วแรงหัวใจเต้นแรง เพราะสภาวะเกิดแรง เป็นธรรมดาของมัน กำหนดสะด้วย
(กันอุปาทาน) กำหนดตามนั้นแล้วปล่อย พองหนอ ยุบหนอ ฯลฯ ต่อไป

สาธุ ในวิริยะอุตสาหะ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 00:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:20
โพสต์: 70

ชื่อเล่น: pmam
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตเรานี้สุดยอดของความไวเหลือเกิน พยายามไม่คิดหนอ....เลยอยู่กับเฉย...เลยเฉยมาตลอดหลุดได้ยากจังเลย...พอเราเฉยก้อเลยหยุด..ไปต่อไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 05:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติ หนูต้องทานยาทุกวันเลยนะคะ วันละ 2 ครั้ง ไม่งั้นมันจะตึง ๆ เหมือนที่เคยเล่าให้ฟัง แต่ระยะนี้ไม่ได้ทานยามาหลายวันแล้ว เพราะอยากลองดูว่าถ้าไม่ทานผลจะเป็นยังไง เพราะความจริงยาก็มีผลข้างเคียงด้วยค่ะ หมอก็ไม่อยากให้ทานเยอะค่ะ

ผลคืออาการก็เหมือนตอนที่ทานยา คือไม่แย่ลงกว่าเดิม ทำอะไรคล่องตัวมากขึ้น (และเคยเล่าเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้อาการดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว) ไม่ได้สรุปว่าที่อาการดีขึ้นเป็นเพราะปฏิบัติกรรมฐานนะคะ


ข้ามไปประเด็นหนึ่ง เรื่องยา
คุณรินมีโรคประจำตัวอะไรก่อนหน้าที่จะปฏิบัติกรรมฐานหรือครับ
แล้วที่ว่าตึงๆ อะไรตึงๆ ร่างกายเส้นเอ็นหรือความรู้สึก


เสริม เดินจงกรมนิดหนึ่ง เผื่อจะเป็นประโยชน์ทั่วๆไป คือ ขณะที่เดินจงกรม ไม่พึงก้มหน้าดูเท้าที่ก้าวไปๆ นะครับ หมายความว่า เราใช้ความรู้สึกจับเกาะอาการของเท้าที่ก้าวเดินแต่ละก้าว ๆ
ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตามองดูเท้าแต่ละก้าวๆ
เดินตัวตรงสายตาทอดลงพอดีสบายๆ สำหรับตนเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pmam เขียน:
จิตเรานี้สุดยอดของความไวเหลือเกิน พยายามไม่คิดหนอ....เลยอยู่กับเฉย...เลยเฉยมาตลอดหลุดได้ยากจังเลย...พอเราเฉยก้อเลยหยุด..ไปต่อไม่ได้



คุณ pmam ปรารภให้ฟังเฉยๆ หรือ มีเจตนาปรึกษาปัญหาด้วยครับ
หากต้องการปรึกษาขอแนะนำเบื้องต้นว่า เดินจงกรมระยะต่ำๆ ให้มาก เดินเร็วๆนิดหนึ่ง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ก.ย. 2009, 05:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 05:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ข้ามไปประเด็นหนึ่ง เรื่องยา
คุณรินมีโรคประจำตัวอะไรก่อนหน้าที่จะปฏิบัติกรรมฐานหรือครับ
แล้วที่ว่าตึงๆ อะไรตึงๆ ร่างกายเส้นเอ็นหรือความรู้สึก


เสริม เดินจงกรมนิดหนึ่ง เผื่อจะเป็นประโยชน์ทั่วๆไป คือ ขณะที่เดินจงกรม ไม่พึงก้มหน้าดูเท้าที่ก้าวไปๆ นะครับ หมายความว่า เราใช้ความรู้สึกจับเกาะอาการของเท้าที่ก้าวเดินแต่ละก้าว ๆ
ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตามองดูเท้าแต่ละก้าวๆ
เดินตัวตรงสายตาทอดลงพอดีสบายๆ สำหรับตนเอง



เส้นเอ็นค่ะ

เวลาเดินจงกรม ปกติก็มองตรงไปข้างหน้าค่ะ ทำตามที่คุณกรัชกายโพสต์ไว้ในกระทู้ "อุบายหรือวิธีเดินจงกรม" ค่ะ (พยายามทำตามคำแนะนำค่ะ) :b8:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 06 ก.ย. 2009, 06:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 06:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




18.jpg
18.jpg [ 79.33 KiB | เปิดดู 3878 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
เส้นเอ็นค่ะ


หากก่อนหน้าไม่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาตามแพทย์สั่ง

แต่เมื่อมาทำกรรมฐาน มีเดินจงกรมบ้าง นั่งขัดสมาธิ (สะหมาด) บ้าง จึงทำให้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อเส้นเอ็น ใช้ยาทาภายนอก เช่น ยาหม่อง เป็นต้น ได้
แต่ห้ามกินยาแก้ปวดแก้เมื่อยนะครับ
ที่มันเป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่เคยทำ ไม่เคยนั่งอย่างนั้นมาก่อน (พูดให้เห็นภาพก็เหมือนๆคุณหนูที่ไม่เคยทำงานใช้แรงกายหนัก หรือเหมือนฝรั่งต่างชาติ ที่ไม่เคยนั่งขัดสมาธิมาก่อน ย่อมปวดเมื่อยกะโดกกะเดกเป็นธรรมดา) ระยะแรกๆ ร่างกายเส้นเอ็นกำลังขยายตัวปรับตัว อาจปวดเมื่อยบ้าง เป็นธรรมดาสามัญ แต่เมื่อฝึกนั่งเดินอย่างนั้นบ่อยๆ อาการนั้นจะหายไปเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ก.ย. 2009, 07:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณริน :b1:

กระทู้นี้หลายหน้าแล้วเริ่มโหลดช้า กรัชกายเองก็ใส่รูปไว้หลายอันเหมือนอืดขึ้นอีก (เจตนาก็เพื่อพัก

สายและคลายเครียดบ้าง) คุณตั้งกระทู้ใหม่นะครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณริน :b1:

กระทู้นี้หลายหน้าแล้วเริ่มโหลดช้า กรัชกายเองก็ใส่รูปไว้หลายอันเหมือนอืดขึ้นอีก (เจตนาก็เพื่อพัก

สายและคลายเครียดบ้าง) คุณตั้งกระทู้ใหม่นะครับ




ตั้งใหม่ที่กระทู้นี้ค่ะ :b8: :b1:

viewtopic.php?f=2&t=25475

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดีแล้วค่ะ เกิดอะไรตอนนั่งสมาธิก็บอกตัวเองว่า นั่นหนอ นี่หนอ แสดงว่ารู้ตัวเองและใจจดจ่อกับการกระทำนั้น เป็นการสร้างสมาธิค่ะ

แต่จุฬาภินันท์ขอแนะนิดหน่อย ถ้าหากฝืนบังคับให้กายตรง อยู่กับที่นิ่งๆได้ ก็ลองทำดูค่ะ เป็นการทำสมาธิเหมือนกันค่ะ

โชคดีนะคะ สมาธิเกิดได้เสมอเมื่อใจเราตั้งมั่นที่สิ่งที่ทำน่ะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2009, 01:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เมื่อวานนี้ ขณะนั่งกำหนดลมหายใจ "พองหนอ" "ยุบหนอ" ได้ประมาณ 10 กว่านาที รู้สึกเหมือนร่างกายด้านซ้ายขวาถูกบีบเข้าหากัน หลังจากนั้นตัวก็โยกไปมาซ้ายขวาอย่าง ๆ ช้า คอก็โยก (โยกจริง)เหมือนตัวอ่อนคออ่อนมากเลย จึงกำหนดว่า "โยกหนอ ๆ" เมื่อครบ 20 นาที จึงอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาก็ยังโยกอยู่ ตอนเลิกนั่งใหม่ ๆ ก็ยังรู้สึกว่าโยก และประมาณ 3-4 นาทีก่อนหมดเวลา จะไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ ๆ"


นั่งยุบหนอพองหนอ ดีแล้วค่ะ ระหว่างนั่งก็รู้ตัวตลอดเวลาว่าเกิดอะไรกัยอวัยวะเรา แค่รู้ก็พอค่ะ เพราะการรู้แบบนั้น เรียกว่า สมาธิ

อาการใดๆที่เกิด เป็นเพียงสิ่งที่จิตหลอกหลอนไปเอง จิตมีอำนาจมากนะคะ อยู่ใต้สำนึกนั่นแหละค่ะ กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เลย การที่คุยรู้ว่าโยกหนอๆ ดีแล้วค่ะ รู้ตัวเข้าไว้ ที่รู้สึกว่าไม่หายใจ เพราะเราไม่ได้เอาความคิดไปอยู่ที่มันน่ะค่ะ จริงๆแล้ว ร่างกายต้องการอ๊อกซิเจน ยังไงก็ต้องหายใจ แต่อาจสั้นยาว ดังหรือเบา ต่างกัน ขุ้นอยู่กับความจุของปอดค่ะ แต่โดยมาก จะเบาลงและแผ่วค่ะ เพราะจิตเริ่มสงบ หัวใจก็ไม่ต้องใช้อ๊อกซิเจนมากนัก อวัยวะต่างๆก็สงบ ลมหายใจเลยแผ่วค่ะ


Quote Tipitaka:
วันนี้ตอนที่เริ่มนั่งใหม่ ๆ กำหนดลมหายใจได้ประมาณ 6-7 นาที ก็ไม่รู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ" ผ่านไปประมาณนาทีที่ 14-15 ตัวค่อย ๆ อ่อนค้อมลงไปช้า ๆ จนหัวแตะพื้น ไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงจึงดึงตัวกลับขึ้นมานั่งตามเดิม กำหนด "นั่งหนอ ๆ" ได้ 4-5 ครั้ง ตัวก็ค้อมลงไปอีก คราวนี้ไม่ได้ดึงตัวกลับขึ้นมา แต่กำหนดว่า "ตัวค้อมหนอ" จนครบ 20 นาที ระหว่างการแผ่อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตา มีตัวโยกคอโยกเล็กน้อย เลิกนั่งสักพักจึงหาย


ตัวค้อมลงไปเพราะจิตสั่งค่ะ จิตคุณคงบอกว่ารู้พระคุณของพระรัตนตรัย จิตก็สั่งสมองให้ออกคำสังกับร่างกายน่ะค่ะ ดึงตัวกลับน่ะ ดีแล้วค่ะ แม้ว่าจะเป็นการเคารพพระรัตนตรัย เราก็ควรยกตัวขึ้น ค่ะ

การฝึกสมาธิ เป็นการฝึกเพื่อให้จิตแข็งแรง จิตแข็งแรงเป็นระดับ
๑ สมาธินิ่ง ความคิดจดจ่ออยู่เพียงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะที่นั่งสมาธ (คุณได้แล้ว)
๒ ฝึกแบบเดิม จนตัวคุณนิ่ง เพราะจิตนิ่งตาม
๓ ปัญญาเกิด ปัญญาญานน่ะค่ะ ปัญญาที่ทำให้รู้ถึงสัจธรรม (นายแค่ไหนถึงจะได้ ขึ้นอยู่กับผลบุญที่คุณสะสมมาแต่ปางก่อนๆ นั่นไม่สนหรอกค่ะ เพราะเราไม่รู้ สิ่งที่ต้องสนคือ อย่ามีกิเลส ไม่หวังอะไรทั้งนั้น รอไปเฉยๆ ปัญญามาเมื่อไหร่ คุณจะรู้เอง ขอเพียง เพียรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และด้วยใจที่เบิกบาน มีศีล และคุณธรรมในใจ)
๔ คุณทำวิปัสสนาไปพร้อมกันได้กับสมถะสมาธิ หลักสติปัฐาน 4 ค่ะ รู้กาย รู้ความรู้สึก รู้อารมณ์ รู้ความคิด บนพื้นฐานของสัจธรรมและพระธรรมของพระพุทธองค์
๕ ปัญญาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

*******สิ่งที่เน้นคือ อย่ามีกิเลสในการฝึกสมาธิ อย่าไปสนใจว่าได้ญานเมื่อไหร่ ต้องมีอาการไหนมาก่อนมาหลัง สนอย่างเดียว คือ รู้ตัวเองตลอดเวลาค่ะ ใช้วิธีแบบคุณก็ได้ ...หนอๆ

ขอให้โชคดีค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร