วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 23:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 14:42
โพสต์: 121


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ต้องขอโมทนาสาธุกับ K กรัชกาย ด้วยค่ะ ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็ใช้พองหนอ ยุบหนอ แต่ คำว่า
นั่งหนอไม่ได้ซักที เพราะเป็นคนหายใจเร็ว ถ้ากำหนดคำว่านั่งหนอไปด้วยแล้ว เหนื่อยมากเลยค่ะ
:b1: ตอนไปบวชพราหม์ไปถาม อาจาร์ย ท่านก็แน่ะนำว่าถ้ากำหนดไม่ได้ก็ไม่ต้องกำหนดหรอก
:b16: แต่ถ้ามาเปรียบเทียบกับเดินจะมีสมาธิมากกว่ากันน่ะค่ะ เพราะจิตเราจะมีสมาธิมากกว่า
แต่ก็อีกล่ะค่ะอันนี้แล้วแต่จริตของแต่ละบุคคลอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มีอาการใหม่อีกแล้วค่ะ

วันนี้ตอนเดินจงกรมก็ยังมีความรู้สึกว่ามีตัวเราอีกคนเดินไปพร้อมกัน 5-6 ครั้ง บางทีก็เดินไปก่อน 5-6 ครั้ง


ไม่เป็นไร ให้กำหนด “รู้หนอ” เสียก่อน แล้วตั้งสติจับเกาะร่างกายจงกรม ยกหนอ เหยียบหนอ ยกหนอ เหยียบหนอ ต่อไป


อ้างคำพูด:
มีกำหนดผิดประมาณ 5-6 ครั้ง


ธรรมดาครับ รู้สึกว่ากำหนดผิด “ผิดหนอ” เสีย แล้วตั้งสติเกาะจับกายจงกรม
ยกหนอ เหยียบหนอ ฯลฯ ต่อไป


อ้างคำพูด:
แต่บางช่วงรู้สึกว่ารอบตัวไม่มีอะไรเลย มีแต่เราเดินอยู่ค่ะ


“รู้หนอ” แล้วปล่อย ตั้งสติเกาะจับกายเดินจงกรมต่อไป


อ้างคำพูด:
ตอนนั่งก็เหมือนเมื่อวานเลยค่ะ แต่แก้ตามที่คุณบอกคือเมื่อรู้สึกง่วง กำหนด "ง่วงหนอๆ" แล้วปล่อยเลย ตอนพองยุบหาย กำหนด "นั่งหนอ" และ "ถูกหนอ" เมื่อรู้สึกตัวเอียง กำหนด "เอียงหนอๆ” แล้วปล่อย ไม่ลงนอน และกลับมาเกาะจับรูปนั่งใหม่ เมื่อพองยุบคืนแล้ว ก็พองหนอ ยุบหนอ จนหมดเวลา
ตอนง่วงคิดว่า ง่วงจริงนะคะ เพราะปวดหัวและสัปหงกด้วยค่ะ



ตอนง่วงคิดว่า ง่วงจริงนะคะ เพราะปวดหัวและสัปหงกด้วยค่ะ

เอางี้ครับ เมื่อตั้งใจว่า 20 นาทีต่อจากนี้ไป จะใช้อิริยาบถนั่งกำหนดนามรูปจนหมดเวลา 20 นาที จะปวดหัวตัวร้อน ง่วงนอนสักปานใดก็ตาม ก็จะนั่งอยู่อย่างนั้น กำหนด “ง่วงหนอๆ” “ปวดหัวหนอๆ” ตามเรื่องที่เกิด หมดเวลาแล้ว จะนอนก็นอน แต่ก็ยังคุมจิตใจให้อยู่กับกรรมฐานจนกว่าจะหลับก็ได้
หรือไม่หลับจะลุกขึ้นมาเดินจงกรมแล้วนั่งต่ออีกก็ได้


อ้างคำพูด:
พอหมดเวลานั่ง เลยนอนหลับตาเฉย ๆ ประมาณ 20 นาที ก็เคลิ้ม ๆ พอให้หายง่วง แล้วกลับมานั่งใหม่อีก ผลก็คือพองยุบไวมาก จนตามแทบไม่ทัน และ พองยุบเกิดนานด้วย พอพองยุบหาย
ส่วนใหญ่จะกำหนด "นั่งหนอ" "ถูกหนอ" รอบเดียว พองยุบก็คืน แต่เพราะพองยุบคืนไว
จึงยังกำหนด "นั่งหนอ" "ถูกหนอ" อีกตั้ง 4-5 รอบ กว่าจะรู้ตัวว่าพองยุบคืนค่ะ เป็นอย่างนี้
จนหมดเวลานั่ง ทุกครั้งที่กำหนด "พอง" เหมือนเห็นอวัยวะหนึ่ง (ตอนนี้ยังนึกชื่อไม่ออกค่ะ) เปิดให้อากาศเข้าไป เมื่อกำหนด "ยุบ" อวัยวะนั้นก็ปิด และเห็นลมหายใจเป็นสายชัดมาก และรู้สึกว่า นั่งตัวตรงและนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นในขณะปฏิบัติมาก่อน แต่ตอนกำหนด
"นั่งหนอ" "ถูกหนอ" รู้สึกว่าตัวอยู่ตรง และ นิ่งน้อยกว่าเล็กน้อย และเห็นลมหายใจเป็นสายระหว่างท้องกับก้นกบชัดเหมือนกัน ระหว่างนี้มี 3-4 ครั้ง ที่ได้ยินเสียงข้างนอกห้อง รู้สึกว่าเรากำหนด "เสียงหนอ" ได้เอง กำหนดครั้งเดียวแล้วปล่อยทั้ง ๆ ที่ยังกำหนด "พอง" "ยุบ"
หรือ "นั่งหนอ" "ถูกหนอ" อยู่ คือกำหนด 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกันค่ะ


ตามปกติ พองหนอ+ ยุบหนอ + นั่งหนอ + ถูกหนอ กำหนดเป็นชุดเดียวกัน
แต่เราพลิกแพลงได้ดังแนะนำให้ทำ เช่น ตัดหนอ เป็นต้นออกก็ได้ เมื่อลมเข้าออกเร็ว เป็นต้น
คุณสังเกตวิธีปฏิบัติด้วย ไม่ยึดติดวิธีปฏิบัติตายตัว แต่พลิกแพลงปฏิปทาตามนามรูปที่เกิดแต่ละขณะๆได้


อ้างคำพูด:
ฯลฯ ระหว่างนี้มี 3-4 ครั้ง ที่ได้ยินเสียงข้างนอกห้อง รู้สึกว่าเรากำหนด "เสียงหนอ" ได้เอง
กำหนดครั้งเดียวแล้วปล่อยทั้ง ๆ ที่ยังกำหนด "พอง" "ยุบ" หรือ "นั่งหนอ" "ถูกหนอ" อยู่
คือกำหนด 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกันค่ะ


ไม่แปลกครับ ต่อๆ ไป องค์ธรรมมีสติ เป็นต้น จะทำงานโดยอัตโนมัติ

สรุป ที่คุณรินเล่าๆมาทั้งหมด ไม่มีอะไรเสียหายครับ เพียรกำหนดนามรูปตามที่มันเป็นของมันต่อไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีคำถาม หากเปรียบเทียบกันระหว่างก่อนปฏิบัติกรรมฐาน กับ วันคืนเริ่มปฏิบัติกรรมฐานมาจนถึงวันนี้

มีความเปลี่ยนแปลงยังไงบ้างทั้งทางบวก/ทางลบ เท่าที่คุณรินรู้สึกเองได้ว่าเปลี่ยนไป :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ :b8: :b16:

วันนี้คล้าย ๆ เมื่อวานนะคะทั้งนั่งและเดิน แต่ตอนเดินมีแต่รู้สึกว่าตัวเราอีกคนเดินพร้อมกัน ไม่มีเดินไปก่อน (กำหนด "รู้หนอ" ด้วยค่ะ) และยังมีกำหนดผิดประมาณ 5-6 ครั้ง (เลยกำหนดว่า "ผิดหนอ" :b9: ) และมีตอนกำลังกำหนด "ยกหนอ" และได้ยินเสียงข้างนอกห้อง สามารถกำหนด "เสียงหนอ" พร้อม ๆ กันได้ เกือบทุกครั้ง (มี 1-2 ครั้งที่ต้องหยุดเดินก่อนแล้วค่อยกำหนดค่ะ)

ตอนนั่งก็คล้ายเมื่อวานตอนที่นั่งครั้งที่ 2 ค่ะ คือพองยุบเร็วและนาน รู้สึกว่านั่งตัวตรงและนิ่งมาก ยังเห็นลมหายใจเป็นสายชัด ยังเห็น epiglottis (ไม่แน่ใจว่าจำถูกไหม เรียนสมัยมัธยมแล้ว) เปิดปิดๆ และกำหนด "นั่ง" และ "ถูก" ไม่ทันค่ะ เป็นอย่างนี้ประมาณ 10 นาที ส่วน 10 นาทีหลัง ตัวตรงและนิ่งกว่าเดิม รู้สึกว่าพองยุบไม่คืน ก็กำหนด "นั่ง" และ "ถูก" ไป ทีแรกตกใจว่าทำไมไม่คืน แล้วคิดได้เลยกำหนด "ตกใจหนอ" และกำหนด "นั่ง" และ "ถูก" จนหมดเวลา :b1:




กรัชกาย เขียน:
มีคำถาม หากเปรียบเทียบกันระหว่างก่อนปฏิบัติกรรมฐาน กับ วันคืนเริ่มปฏิบัติกรรมฐานมาจนถึงวันนี้

มีความเปลี่ยนแปลงยังไงบ้างทั้งทางบวก/ทางลบ เท่าที่คุณรินรู้สึกเองได้ว่าเปลี่ยนไป :b16:



คุณกรัชกายหมายถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันใช่ไหมคะ :b10:
ยังไม่ตอบได้ไหม ขอนึกก่อนนะคะ :b6:



:b37: วันนี้ครบ 1 เดือนที่เป็นสมาชิกของลานธรรมจักร........ :b8: :b16: :b31: :b39: :b45: :b41: :b55:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 18 ส.ค. 2009, 23:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พักนี้เห็นคุณไม่ค่อยโพสต์ (ไม่ว่าบอร์ดไหน) มากเท่าเมื่อก่อน

จริงครับ ทุกวันนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์มากนัก เพราะเห็นแล้วก็งั้นๆ แหละ ขนไม่ลุกเหมือน ก่อน :b1:







อยากแซวหนอๆๆๆๆ คิดหนอๆๆๆๆ :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
วันนี้คล้าย ๆ เมื่อวานนะคะทั้งนั่งและเดิน แต่ตอนเดินมีแต่รู้สึกว่าตัวเราอีกคนเดินพร้อมกัน ไม่มีเดินไปก่อน (กำหนด "รู้หนอ" ด้วยค่ะ) และยังมีกำหนดผิดประมาณ 5-6 ครั้ง (เลยกำหนดว่า "ผิดหนอ" ) และมีตอนกำลังกำหนด "ยกหนอ" และได้ยินเสียงข้างนอกห้อง สามารถกำหนด "เสียงหนอ" พร้อม ๆ กันได้ เกือบทุกครั้ง (มี 1-2 ครั้งที่ต้องหยุดเดินก่อนแล้วค่อยกำหนดค่ะ)


เพียรกำหนดนามรูปตามที่มันเป็นนั้นๆต่อไปครับ

อ้างคำพูด:
ตอนนั่งก็คล้ายเมื่อวานตอนที่นั่งครั้งที่ 2 ค่ะ คือพองยุบเร็วและนาน รู้สึกว่านั่งตัวตรงและนิ่งมาก
ยังเห็นลมหายใจเป็นสายชัด ยังเห็น epiglottis เปิดปิดๆ และกำหนด "นั่ง" และ "ถูก" ไม่ทันค่ะ
เป็นอย่างนี้ประมาณ 10 นาที ส่วน 10 นาทีหลัง ตัวตรงและนิ่งกว่าเดิม รู้สึกว่าพองยุบไม่คืน ก็กำหนด
"นั่ง" และ "ถูก" ไป ทีแรกตกใจว่าทำไมไม่คืน แล้วคิดได้เลยกำหนด "ตกใจหนอ" และกำหนด
"นั่ง" และ "ถูก" จนหมดเวลา


เมื่อพองยุบเร็ว-นาน จนกำหนด นั่ง ถูก ไม่ทัน ก็บ่เป็นหยั่ง :b16:
ตาม พอง,ยุบ พอง,ยุบ พอง,ยุบ ไปแค่นี้ก็ได้

อ้างคำพูด:
คุณกรัชกายหมายถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันใช่ไหมคะ
ยังไม่ตอบได้ไหม ขอนึกก่อนนะคะ


หมายถึงอารมณ์ความรู้สึกของคุณน่าครับ เช่นว่า การใช้ชีวิตปกติแต่ละวัน เช่น ได้เห็น ได้ยิน ฯลฯ
กระทบกับอิฏฐารมณ์อนิฏฐารมณ์แล้ว จิตใจมีความหวั่นไหว หรือ หนักแน่นมั่นคงกว่าแต่ก่อน
ระลึกรู้สึกตัวทันความคิดได้เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนไหม ประมาณเนี่ย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




f54802676.gif
f54802676.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 4632 ครั้ง ]
walaiporn เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พักนี้เห็นคุณไม่ค่อยโพสต์ (ไม่ว่าบอร์ดไหน) มากเท่าเมื่อก่อน

จริงครับ ทุกวันนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์มากนัก เพราะเห็นแล้วก็งั้นๆ แหละ ขนไม่ลุกเหมือน ก่อน :b1:


อยากแซวหนอๆๆๆๆ คิดหนอๆๆๆๆ :b32:



ใครจุดธูปอีกล่ะเนี่ย :b9: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
walaiporn เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พักนี้เห็นคุณไม่ค่อยโพสต์ (ไม่ว่าบอร์ดไหน) มากเท่าเมื่อก่อน

จริงครับ ทุกวันนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์มากนัก เพราะเห็นแล้วก็งั้นๆ แหละ ขนไม่ลุกเหมือน ก่อน :b1:


อยากแซวหนอๆๆๆๆ คิดหนอๆๆๆๆ :b32:



ใครจุดธูปอีกล่ะเนี่ย :b9: :b32:





ไม่ใช่ผีนะค๊า :b28:

แม๊!!!! อุตส่าห์มาให้กำลังใจ :b32:



http://www.youtube.com/watch?v=CeCq7IlQzdg :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายคะ กราบขออภัยค่ะ พร่งนี้หรือวันศุกร์ค่อยตอบคำถามนะคะ :b8: :b7:
กำลังเร่งพิมพ์งานส่งพรุ่งนี้อยู่ค่ะ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจดไว้แล้วค่ะ

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรินพิจารณา ๒ คห.นี้


บทบาทสติในกระบวนการกำจัดอาสวกิเลส



ลักษณะการทำงานโดยทั่วไปของสติ คือ การไม่ปล่อยใจให้เลื่อนลอย ไม่ปล่อยอารมณ์

ให้ผ่านเรื่อยเปื่อยไป หรือ ไม่ปล่อยให้ความนึกคิดฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ

แต่คอยเฝ้าระวัง เหมือนจับตาดูอารมณ์ที่ผ่านมาแต่ละอย่าง

มุ่งหน้าเข้าหาอารมณ์นั้นๆ เมื่อต้องการกำหนดอารมณ์ใดแล้ว

ก็เข้าจับดูติดๆไป ไม่ยอมให้คลาดหาย คือ นึกถึง หรือ ระลึกไว้เสมอ

ไม่ยอมให้หลงลืม

มีคำเปรียบเทียบว่า เหมือนเสาหลัก เพราะปักแน่นในอารมณ์

หรือ เหมือนนายประตู เพราะเฝ้าอายตนะต่างๆ ที่เป็นทางรับ อารมณ์ ตรวจดูอารมณ์ที่ผ่านเข้ามา


เหตุใกล้ชิดที่จะให้เกิดสติ ก็คือ สัญญา ที่มั่นคง หรือ สติปัฏฐานต่างๆ


เมื่อนำลักษณะการทำหน้าที่ของสติ ที่กล่าวแล้วนั้นมาพิจารณาประกอบ

จะมองเห็นประโยชน์ ที่มุ่งหมายของการปฏิบัติ ฝึกฝนในเรื่องสติ ดังนี้


๑. ควบคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในภาวะที่ต้องการ โดยตรวจตรากระบวนการรับรู้และกระแส

ความคิด เลือกรับสิ่งที่ต้องการ

กันออกไปซึ่งสิ่งที่ไม่ต้องการ

ตรึงกระแสความคิด ให้นิ่งเข้าที่ และทำให้จิตเป็นสมาธิได้ง่าย


๒ . ทำให้ร่างกายและจิตใจ อยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า เป็นตัวของตัวเอง เพราะมีความโปร่งเบา

ผ่อนคลาย เป็นสุขโดยสภาพของมันเอง พร้อมที่จะเผชิญความเป็นไปต่างๆ และจัดการกับสิ่งทั้งหลาย

ในโลกออย่างได้ผลดี


๓ . ในภาวะจิตที่เป็นสมาธิ อาจใช้สติเหนี่ยวนำกระบวนการรับรู้ และกระแสความคิด ทำขอบเขตการรับรู้

และความคิดให้ขยายออกไปโดยมิติต่างๆ หรือให้เป็นไปต่างๆได้


๔ . โดยการยึด หรือ จับเอาอารมณ์ที่เป็นวัตถุ แห่งการพิจารณาวางไว้ต่อหน้า จึงทำให้การ

พิจารณาสืบค้นด้วยปัญญาดำเนินไปได้ชัดเจนเต็มที่ เท่าที่เป็นพื้นฐานในการสร้างเสริม ปัญญาให้เจริญ

บริบูรณ์


๕ . ชำระพฤติกรรมต่างๆ ทุกอย่าง (ทั้ง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม) ให้บริสุทธิ์ อิสระ ไม่เกลือกกลั้ว

หรือ เป็นไปด้วยอำนาจตัณหาอุปาทาน และร่วมกับสัมปชัญญะ ทำให้พฤติกรรมเหล่านั้นเป็นไปด้วยปัญญา

หรือเหตุผลบริสุทธิ์ล้วนๆ



ประโยชน์ข้อที่ ๔ และ ๕ นับว่าเป็นจุดหมายขั้นสูง จะเข้าถึงได้ด้วยวิธีปฏิบัติที่กำหนดไว้เป็น

พิเศษ ซึ่งตามคำจำกัดความในข้อ สัมมาสติ ก็ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



อาการที่เป็นอยู่ โดยมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลาเช่นนี้ มีลักษณะสำคัญอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า

เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือ มีชีวิตอยู่ในขณะปัจจุบัน


กล่าวคือ สติกำหนดตามทันสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เป็นไปอยู่ หรือ กระทำในขณะนั้นๆ แต่ละขณะๆ

ไม่ปล่อยให้คลาดกันไป ไม่ติดข้องค้างคา หรือ อ้อยอิ่งอยู่กับอารมณ์ที่ผ่านล่วงไปแล้ว

ไม่ลอยคว้างไปข้างหน้า

เลยไปหาสิ่งที่ยังไม่มา และ ยังไม่มี

ไม่เลื่อนไหลถอยลงสู่อดีต

ไม่เลื่อนลอยไปในอนาคต


หากจะพิจารณาเรื่องราวในอดีต หรือ สิ่งที่พึงจัดทำในอนาคต ก็เอาสติกำหนดจับสิ่งนั้นมาให้ปัญญาพิจารณา

อย่างมีความมุ่งหมาย ทำให้เรื่องนั้นๆ กลายเป็นอารมณ์ปัจจุบันของจิต

ไม่มีอาการเคว้งคว้างเลื่อนลอยละห้อยเพ้อ ของความเป็นอดีตหรืออนาคต

การเป็นอยู่ในขณะปัจจุบันเช่นนี้
ก็คือการไม่ตกเป็นทาสของตัณหา ไม่ถูกตัณหาล่อไว้หรือชักจูง

ไปนั่นเอง

แต่เป็นการเป็นอยู่ด้วยปัญญา ทำให้พ้นจากอาการต่างๆ ของความทุกข์ เช่น ความเศร้าซึมเสียดาย

ความร้อนใจกลุ้มกังวล เป็นต้น

และทำให้เกิดความรู้ พร้อมทั้งความปลอดโปร่งผ่องใสเบาสบายของจิต




ตัดมาเพียงบางส่วนจาก

viewtopic.php?f=2&t=21861

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 00:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณกรัชกาย :b8:

ตอบคำถามเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากปฏิบัติกรรมฐานค่ะ


ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีดังนี้ค่ะ

1. เดี๋ยวนี้มีสติมากขึ้น (แต่ยังไม่เท่าทันทุกเรื่องนะคะ) ยกเว้นเรื่องที่เรายึดติดกับมันมาก ๆ ก็จะฟุ้งซ่านอยู่ แต่ไม่มากเท่าเดิม เช่น เคยคิดว่าการเพ้อฝันก็มีความสุขดีนี่ ก็เลยเพ้อฝันครั้งละนาน ๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังเพ้อฝันอยู่แต่น้อยลง เหมือนมีอะไรคอยต้านอยู่ แม้บางครั้งจะยังไม่มีสติรู้ทัน แรงต้านนี้ทำให้เราเพ้อฝันได้ไม่นานหรือไม่มากเท่าเดิม และเวลาร้องไห้หรือเสียใจ ถ้าร้องไห้หรือเสียใจเพราะมีปัญหาหนัก ๆ จะไม่ร้องไห้ฟูมฟายมากหรือนานเท่ากับเมื่อก่อน บางทีจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออกก็มีค่ะ หรือกำลังร้องอยู่ก็จะมีแว่บความคิดผุดขึ้นมาว่า “ฟูมฟาย” แบบนี้หยุดร้องไห้เลย ทั้งนี้รวมถึงอารมณ์อื่น ๆ ด้วยค่ะ เช่น โกรธ ดีใจ หงุดหงิด จะไม่นานและมากเท่าเมื่อก่อน และถ้ารู้ทันอารมณ์หรือความคิดและกำหนดตาม 1-3 ครั้งอารมณ์หรือความคิดนั้นก็หายไปค่ะ


2. ช่วงก่อนที่จะปฏิบัติยอมรับว่าอยากถึงนิพพานค่ะ เพราะเคยมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เราทุกข์มาก แต่ตอนนี้จะถึงหรือไม่ถึงนิพพานก็ได้ ถึงยังไงก็จะปฏิบัติต่อไปเรื่อย ๆ (เพราะรู้สึกว่าเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งค่ะ)


3. เวลาเดินไปไหนซึ่งกำหนด “ขวา” “ซ้าย” ในใจไปด้วย แล้วได้ยินเสียงอะไรหรือเห็นอะไร บางครั้งจะเกิดการกำหนดว่า “เสียงหนอ” หรือ “เห็นหนอ” ซ้อนขึ้นมาได้ หรือบางทีใจลอยหรือมัวดูอะไรเพลินไป (ไม่ได้กำหนด “ขวา” “ซ้าย”) จะยังรู้อยู่ว่ากำลังเดิน คือจิตยังอยู่ที่เท้าที่ก้าวเดินไป หรือไม่บางทีกำลังจะเดิน แต่ยังไม่เดิน คือยังไม่ได้ก้าวเท้า เช่น เท้าขวา เป็นต้น จะมีแว่บความคิดผุดขึ้นมาว่า “ขวา”

เวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน จะมีสมาธินานกว่าเมื่อก่อน ถ้าได้ยินเสียงอะไรก็จะไม่รำคาญ หรืออาจไม่ได้ยินเสียงเลย ยกเว้นถ้าเสียงดังมาก ๆ จะตกใจค่ะ

ที่จริงเวลาทำอย่างอื่นก็เป็นเหมือนกัน แต่เวลาเดิน และอ่านหนังสือทำการบ้านจะเห็นชัดที่สุดค่ะ


4. การนึกถึงคนที่เคยผูกใจเจ็บน้อยลง (ที่เคยเจอคือสร้างความเดือดร้อนให้เรา และไม่รู้จักเกรงใจทั้งที่อายุน้อยกว่าและไม่สนิทสนมกัน) น่าจะเป็นผลของการปฏิบัตินะคะ เพราะถ้ารู้สึกตัวความคิดก็ดับ แต่บางทีก็ยังปรุงแต่งต่อ แต่ไม่มากและไม่นานเท่าเดิม


5. โดยรวมรู้สึกว่าตัวเราเบาสบาย ใจก็สบายกว่าเดิมค่ะ เคยมีคนทักว่าหน้าตาสดใสขึ้นด้วยค่ะ แต่ไม่ได้บอกเขาว่าเป็นเพราะอะไร กลัวเป็นการอวดอ้างตัวเองค่ะ เพราะยังทำได้แค่นี้อยู่เลย

ความจริงยังมีอีกข้อหนึ่งนะคะ กำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าหรือไม่เล่าดีค่ะ :b1:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 02:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อตอนเย็น ตอนเดินจงกรมยังเหมือนเดิมค่ะ คือกำหนดผิด 4-5 ครั้ง (กำหนด “ผิดหนอ”) แต่ไม่มีความรู้สึกว่ามีตัวเราอีกคนเดินตามหรือเดินไปพร้อมกัน


พอถึงตอนนั่งครั้งแรกแทบจะไม่สามารถกำหนดพองยุบได้เลย เลยเหมือนนั่งอยู่เฉย ๆ แต่ตัวตรงนิ่ง และไม่ได้ฟุ้งซ่านค่ะ กว่าความพยามยามกำหนดจะสัมฤทธิ์ผลก็เหลืออีกประมาณ 5 นาทีจะหมดเวลา พอหมดเวลาจึงนั่งต่ออีก 20 นาที แบบนี้เป็นเพราะไม่ได้ปฏิบัติมา 2 วันหรือเปล่าคะ

วันนี้กำหนด พอง+ยุบ แค่ 2 อย่าง ไม่ว่าพองยุบจะชัดหรือไม่ชัด และทั้งรู้สึกและไม่รู้สึกว่าหายใจ แรก ๆ พองยุบยังไม่ค่อยชัด (กำหนดประมาณ 3-6 ครั้ง) ต่อมาค่อย ๆ ชัดขึ้น ๆ (กำหนดประมาณ 7-10 ครั้ง) แล้วค่อย ๆ หายไป (กำหนดประมาณ 3-5 ครั้ง) ภาวนาทั้งที่ไม่มีพองยุบ 1-3 ครั้ง พองยุบก็กลับมาใหม่ แล้วชัดขึ้นจนหายไป วนเวียนอยู่อย่างนี้จนหมดเวลา ตอนที่พองยุบชัดขึ้นก็จะหายใจเร็วและแรงและเสียงหายใจดังขึ้น พอพองยุบค่อย ๆ หายไป ลมหายใจก็ค่อย ๆ ผ่อนลงจนเหมือนไม่หายใจ และไม่ได้ยินเสียงหายใจ วนเวียนอยู่อย่างนี้ ระหว่างนี้หัวใจจะเต้นแรงมาก บางครั้งก็เต้นอยู่ที่ฝ่าเท้าบ้าง ที่ท้องบ้าง (ความจริงความรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงนี่เกิดขึ้นประมาณ 5 วันแล้ว แต่ลืมเล่าค่ะ) ตอนที่พองยุบชัดและหายใจเร็วแรงและเสียงดังจะเหมือนมีกระดานหกกระดกขึ้นลงอย่างรวดเร็วอยู่ในตัวเราด้วย ระหว่างที่นั่งถ้าได้ยินเสียงจะมีตัวเราอีกคนกำหนดว่า “เสียงหนอ” บางครั้งถ้าไม่มีอะไรเข้ามาแทรกจะรู้สึกว่าตัวเราจริง ๆ อยู่เฉย ๆ แต่มีตัวเราอีกคนต่างหากที่กำหนดพองยุบตามดูลมหายใจ เมื่อเป็นอย่างนี้หลาย ๆ ครั้ง (เพราะพองยุบกับลมหายใจชัดขึ้นและหายไปหลายรอบ) ก็แว่บคิดขึ้นมาว่า “ลมหายใจไม่ใช่ของเรา” การรู้ว่าลมหายใจไม่ใช่ของเราเป็นอย่างนี้เหรอคะ

สมมติว่าวันหนึ่งหนูต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ไม่มีใครคอยแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือมีแต่มีไสยศาสตร์ปน ถ้ายังอยากปฏิบัติต่อต้องทำยังไงคะ

ผู้ปฏิบัติแล้วนอนไม่หลับมีอาการยังไงบ้างคะ ไปอ่านดูกระทู้ของคนอื่นแล้วยังงง ๆ อยู่ ไม่แน่ใจว่าตัวเองก็เป็นหรือเปล่าน่ะค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ tongue

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ความจริงยังมีอีกข้อหนึ่งนะคะ กำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าหรือไม่เล่าดีค่ะ



ข้อนี้ส่งหลังไมค์ก็ได้ขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เมื่อตอนเย็น ตอนเดินจงกรมยังเหมือนเดิมค่ะ คือกำหนดผิด 4-5 ครั้ง (กำหนด “ผิดหนอ”) แต่ไม่มีความรู้สึกว่ามีตัวเราอีกคนเดินตามหรือเดินไปพร้อมกัน




กุศลธรรมเจริญขึ้นเรื่อยๆ เดินระยะที่ ๒ อีกซัก ๒-๓ วัน แล้วจะขยับเป็นระยะที่ ๓ ต่อให้


อ้างคำพูด:
พอถึงตอนนั่งครั้งแรกแทบจะไม่สามารถกำหนดพองยุบได้เลย เลยเหมือนนั่งอยู่เฉย ๆ แต่ตัวตรงนิ่ง และไม่ได้ฟุ้งซ่านค่ะ กว่าความพยามยามกำหนดจะสัมฤทธิ์ผลก็เหลืออีกประมาณ 5 นาทีจะหมดเวลา พอหมดเวลาจึงนั่งต่ออีก 20 นาที แบบนี้เป็นเพราะไม่ได้ปฏิบัติมา 2 วันหรือเปล่าคะ



ไม่ใช่เพราะการหยุดปฏิบัติ ๒ วันครับ

มีอาการยังไงจึงกำหนดพองยุบไม่ได้ขอรับ

เอางี้ครับ คือเมื่อกำหนดพองยุบไม่ได้ ให้กำหนด นั่งหนอ ถูกหนอ (นิ่งหนอ เมื่อรู้สึกนิ่ง)
จนกว่าจะกำหนดพองยุบได้ - (นี่คือวิธีที่คุณรินจะใช้พลิกแพลงอุบายกำหนดนามรูปครั้งต่อๆ ไป เมื่อกำหนดพองยุบเป็นต้นไม่ได้คราวต่อไปวันหน้า)


อ้างคำพูด:
วันนี้กำหนด พอง+ยุบ แค่ 2 อย่าง ไม่ว่าพองยุบจะชัดหรือไม่ชัด และทั้งรู้สึกและไม่รู้สึกว่าหายใจ แรก ๆ พองยุบยังไม่ค่อยชัด (กำหนดประมาณ 3-6 ครั้ง) ต่อมาค่อย ๆ ชัดขึ้น ๆ (กำหนดประมาณ 7-10 ครั้ง) แล้วค่อย ๆ หายไป (กำหนดประมาณ 3-5 ครั้ง) ภาวนาทั้งที่ไม่มีพองยุบ 1-3 ครั้ง พองยุบก็กลับมาใหม่ แล้วชัดขึ้นจนหายไป วนเวียนอยู่อย่างนี้จนหมดเวลา



คุณตามดูรู้ทันสภาวธรรม (กายใจ) ดังเล่านั้นเรื่อยๆ ไป เป็นยังไงก็รู้ยังงั้น คือ กายใจเป็นยังไง ตนเองก็รู้ยังงั้น ตามที่มันเป็น (ทำความเข้าใจคำพูดนี้)


อ้างคำพูด:
ตอนที่พองยุบชัดขึ้นก็จะหายใจเร็วและแรงและเสียงหายใจดังขึ้น พอพองยุบค่อย ๆ หายไป
ลมหายใจก็ค่อย ๆ ผ่อนลงจนเหมือนไม่หายใจ และไม่ได้ยินเสียงหายใจ วนเวียนอยู่อย่างนี้

ระหว่างนี้หัวใจจะเต้นแรงมาก บางครั้งก็เต้นอยู่ที่ฝ่าเท้าบ้าง ที่ท้องบ้าง (ความจริงความรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงนี่เกิดขึ้นประมาณ 5 วันแล้ว แต่ลืมเล่าค่ะ)


ธรรมดาครับไม่มีอะไรผิดปกติ รู้ตามที่มันเป็น หากมีรู้สึกอึดอัดบ้าง “อึดอัดหนอๆๆ”


ตอนที่พองยุบชัดและหายใจเร็วแรงและเสียงดัง จะเหมือนมีกระดานหกกระดกขึ้นลงอย่างรวดเร็วอยู่ในตัวเราด้วย ระหว่างที่นั่ง ถ้าได้ยินเสียงจะมีตัวเราอีกคนกำหนดว่า “เสียงหนอ”
บางครั้งถ้าไม่มีอะไรเข้ามาแทรก จะรู้สึกว่า ตัวเราจริง ๆ อยู่เฉย ๆ แต่มีตัวเราอีกคนต่างหากที่กำหนดพองยุบตามดูลมหายใจ


ไม่มีอะไรเสียครับ กำหนดความรู้สึกนั้นๆเสียด้วย

เคยบอกคุณก่อนหน้าว่าปกติแล้วเรา กำหนดรู้ พองหนอ +ยุบหนอ+นั่งหนอ+ ถูกหนอ ตามนั้นเป็นชุดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น พองหนอ +ยุบหนอ (ยุบ) หนอแล้ว นึกแวบดูรูปที่นั่ง กับจุดที่ถูกแวบเดียว แล้วก็ พองหนอ +ยุบหนอ+นั่งหนอ+ ถูกหนอ ไปใหม่ (หรือจะ พองหนอ +ยุบหนอ+นั่งหนอ นานๆ ถูกหนอ สักทีก็ได้ดูความเป็นไปได้ในขณะนั้นเอาเอง)


อ้างคำพูด:
เมื่อเป็นอย่างนี้หลาย ๆ ครั้ง (เพราะพองยุบกับลมหายใจชัดขึ้นและหายไปหลายรอบ) ก็แว่บคิดขึ้นมาว่า “ลมหายใจไม่ใช่ของเรา” การรู้ว่าลมหายใจไม่ใช่ของเราเป็นอย่างนี้เหรอคะ



การรู้ว่าลมหายใจไม่ใช่ของเราเป็นอย่างนี้เหรอคะ


เป็นความคิดอีกขณะหนึ่งครับ เราจะต้องกำหนความคิด (นาม) นั้นด้วย

เช่นว่า “ลมหายใจไม่ใช่ของเรา” เป็นต้น มันคิดยังไงก็กำหนดรู้ยังงั้น (จิตนานุปัสสนาสติปัฏฐาน)
รู้ตามนั้นแล้วก็ตามพองยุบต่อ

พองยุบ (รูป) กับความคิด (นาม) เนื่องกันสัมพันธ์กัน สังเกตนิ่งๆ เงียบๆ
แต่ทั้งหมดก็เกิดดับ เกิดดับ เกิดดับ ไปด้วยกัน เป็นเหตุปัจจัยกันและกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร