วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 20:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2009, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวพอง ตัวยุบ ตัวลอย และอื่นๆ อีกมากมาย เขาว่าเป็นฌาณ 2 ปีติ...

นอนสมาธิเป็นการพ่ายแพ้กิเลสมารเหรอเนี่ย โอ้ แย่จัง... เราแพ้บ่อยเลย แต่เห็นเขาว่า ทรมานสังขารไม่เกิดประโยชน์อันใดนะจ๊ะ

เห็นจะมีข้อเสียอยู่อย่างเดียว คือหลับง่าย เข้าภวังค์เร็ว แต่เท่าที่สังเกตนะ มันจะเข้าภวังค์เร็วก็ต่อเมื่อ เราทำสมาธิจนคล่องแล้ว ใหม่ๆ ไม่ค่อยหลับหรอก ถ้าเริ่มหลับ (ภวังค์) บ่อยๆ ก็ค่อยมานั่งก็ได้
ภวังค์กับหลับนี่ ใช้คำไหนก็ได้ แต่เมื่อตื่นจากภวังค์ จะไม่รู้สึกว่าหลับไป

ข้อเสียอีกอย่างคือ ปวดหลัง เคยลองนอนคว่ำ ไม่เวิร์กแฮะ คอจะหักเอา :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 8

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะลองสังเกตุดูว่าหงายหลังจริงๆหรือแค่รู้สึกว่าหงายแต่ยังไม่หงายค่ะ ก้ยังสับสนเหมือนกันว่าง่วงหรือป่าว แต่เห็นเค้าว่าถ้าง่วงนี่จะโงกข้างหน้าค่ะ หุหุ เหมือนเป็นการฝึกวิชาเลยนะคะว่าจะผ่านขั้นที่ 1 หรือป่าว แต่พอนั่งแล้วรู้สึกดีค่ะเลยอยากนั่งให้ได้สมาธิจริงๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2009, 23:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่จริงหรอก เราเคยเห็นคนนั่งสัปหงกแบบหงายไปข้างหลัง ตลกดี :b32: :b32: :b32:

เออ... ถ้าตอนนั้นรู้สึกสลึมสะลือ ก็คงง่วงแหล่ะ ถ้ารู้สึกธรรมดาๆ ก็น่าจะเป็นปีติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 19:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


โค้ด:
  อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ

         อาการของอุปจารสมาธิคือ ปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์
จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยม ไม่เคยพบความสุข
อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต ตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุข
ร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการ
ทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
         ๑. อาการขนลุกซู่ซ่า เมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์
ใจเป็นสุข ขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจ เมื่อสมาธิ
สูงขึ้น หรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเอง อาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควร
ภูมิใจว่า เราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว  อย่ากังวลอาการของร่างกาย
         ๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ ได้แก่อาการน้ำตาไหล
         ๓. อาการของปีติขั้นที่ ๓ คือร่างกายโยกโคลง โยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง
บางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น
         ๔. อาการของปีติขั้นที่ ๔ ตามตำราท่านว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศ แต่ผลของการปฏิบัติ
ไม่แน่นัก บางรายก็เต้นเหมือนปลุกตัว บางรายก็ตัวลอยขึ้นบนอากาศ เมื่อลอยไปแล้ว ถ้าสมาธิ
คลายตัวก็กลับมาที่เดิมเอง (อย่าตกใจ)
         ๕. อาการของปีติขั้นที่ ๕ คือ มีอาการแผ่ซ่านในร่างกายซู่ซ่าเหมือนมีลมไหลออก
ในที่สุดเหมือนตัวใหญ่และสูงขึ้น หน้าใหญ่แล้วมีอาการเหมือนลมไหลออกจากกาย ในที่สุด
ก็มีความรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่ท่อนหัว
         อาการทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดขึ้นอารมณ์ใจจะมีความสุข ฉะนั้น นักปฏิบัติให้ถืออารมณ์ใจ
เป็นสำคัญ อย่าตกใจในอาการตามที่กล่าวมาแล้วนั้น พอสมาธิสูงถึงระดับฌานก็จะสลายตัว
ไปเอง ปีตินี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอารมณ์จะเป็นสุข คือถึงระดับที่สี่ ที่จะเข้าถึงปฐมฌาน ต่อไปก็
เป็นปฐมฌานเพราะอยู่ชิดกัน


:b42: ที่มา;http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=150 :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2009, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ชีวิตใหม่ เขียน:
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะลองสังเกตุดูว่าหงายหลังจริงๆหรือแค่รู้สึกว่าหงายแต่ยังไม่หงายค่ะ ก้ยังสับสนเหมือนกันว่าง่วงหรือป่าว แต่เห็นเค้าว่าถ้าง่วงนี่จะโงกข้างหน้าค่ะ หุหุ เหมือนเป็นการฝึกวิชาเลยนะคะว่าจะผ่านขั้นที่ 1 หรือป่าว แต่พอนั่งแล้วรู้สึกดีค่ะเลยอยากนั่งให้ได้สมาธิจริงๆๆ





สมาธิมากเกินสติค่ะ ไม่มีอะไร ให้เพิ่มการเดินจงกรม นั่งให้น้อยลง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2009, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ชีวิตใหม่ เขียน:
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะลองสังเกตุดูว่าหงายหลังจริงๆหรือแค่รู้สึกว่าหงายแต่ยังไม่หงายค่ะ ก้ยังสับสนเหมือนกันว่าง่วงหรือป่าว แต่เห็นเค้าว่าถ้าง่วงนี่จะโงกข้างหน้าค่ะ หุหุ เหมือนเป็นการฝึกวิชาเลยนะคะว่าจะผ่านขั้นที่ 1 หรือป่าว แต่พอนั่งแล้วรู้สึกดีค่ะเลยอยากนั่งให้ได้สมาธิจริงๆๆ





สมาธิมากเกินสติค่ะ ไม่มีอะไร ให้เพิ่มการเดินจงกรม นั่งให้น้อยลง




:b13: สมาธิกับสติไม่ใช่ตัวเดียวกันหรือครับ ถ้าสมาธิมากสติก็จะได้มากตามไม่ใช่หรือครับ

เท่าที่ผมสังเกตการปฏิบัติของตัวเองน่ะครับ :b16:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2009, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


moddam เขียน:
walaiporn เขียน:
ชีวิตใหม่ เขียน:
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะลองสังเกตุดูว่าหงายหลังจริงๆหรือแค่รู้สึกว่าหงายแต่ยังไม่หงายค่ะ ก้ยังสับสนเหมือนกันว่าง่วงหรือป่าว แต่เห็นเค้าว่าถ้าง่วงนี่จะโงกข้างหน้าค่ะ หุหุ เหมือนเป็นการฝึกวิชาเลยนะคะว่าจะผ่านขั้นที่ 1 หรือป่าว แต่พอนั่งแล้วรู้สึกดีค่ะเลยอยากนั่งให้ได้สมาธิจริงๆๆ





สมาธิมากเกินสติค่ะ ไม่มีอะไร ให้เพิ่มการเดินจงกรม นั่งให้น้อยลง




:b13: สมาธิกับสติไม่ใช่ตัวเดียวกันหรือครับ ถ้าสมาธิมากสติก็จะได้มากตามไม่ใช่หรือครับ

เท่าที่ผมสังเกตการปฏิบัติของตัวเองน่ะครับ :b16:




สมาธิกับสติ คนละตัวกันนะคะ .. สมาธิส่วนสมาธิ สติส่วนสติ

ไม่เกี่ยวค่ะ ที่ว่าสมาธิมากแล้วสติจะต้องมากตาม

เราจะเอาเพียงการปฏิบัติของเราเป็นตัววัดอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ

ควรศึกษาปริยัติเพิ่มเติมด้วยนะคะ ..

หาอ่านเองค่ะในบอร์ดนี้แหละ สมาธิคืออะไร สติคืออะไร

ไล่อ่านเองนะคะ แล้วจะทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การนั่งสมาธิ
1.นั่งให้ถูกวิธี ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่นภ
2.จิตว่าง ไม่กังวล ให้ปล่อยวางภารกิจทางโลก

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ.... :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การนั่งสมาธิ
1.นั่งให้ถูกวิธี ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่นภ
2.จิตว่าง ไม่กังวล ให้ปล่อยวางภารกิจทางโลก

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ.... :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 14:30
โพสต์: 13

แนวปฏิบัติ: ดูจิต และ ดูลม
สิ่งที่ชื่นชอบ: เสียดาย..คนตายไม่ได้อ่าน ของ คุณดังตฤณ
ชื่อเล่น: แมงปอ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
moddam เขียน:
walaiporn เขียน:
ชีวิตใหม่ เขียน:
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะลองสังเกตุดูว่าหงายหลังจริงๆหรือแค่รู้สึกว่าหงายแต่ยังไม่หงายค่ะ ก้ยังสับสนเหมือนกันว่าง่วงหรือป่าว แต่เห็นเค้าว่าถ้าง่วงนี่จะโงกข้างหน้าค่ะ หุหุ เหมือนเป็นการฝึกวิชาเลยนะคะว่าจะผ่านขั้นที่ 1 หรือป่าว แต่พอนั่งแล้วรู้สึกดีค่ะเลยอยากนั่งให้ได้สมาธิจริงๆๆ





สมาธิมากเกินสติค่ะ ไม่มีอะไร ให้เพิ่มการเดินจงกรม นั่งให้น้อยลง




:b13: สมาธิกับสติไม่ใช่ตัวเดียวกันหรือครับ ถ้าสมาธิมากสติก็จะได้มากตามไม่ใช่หรือครับ

เท่าที่ผมสังเกตการปฏิบัติของตัวเองน่ะครับ :b16:




สมาธิกับสติ คนละตัวกันนะคะ .. สมาธิส่วนสมาธิ สติส่วนสติ

ไม่เกี่ยวค่ะ ที่ว่าสมาธิมากแล้วสติจะต้องมากตาม

เราจะเอาเพียงการปฏิบัติของเราเป็นตัววัดอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ

ควรศึกษาปริยัติเพิ่มเติมด้วยนะคะ ..

หาอ่านเองค่ะในบอร์ดนี้แหละ สมาธิคืออะไร สติคืออะไร

ไล่อ่านเองนะคะ แล้วจะทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ :b1:


เคยได้ยินพระสอนทำนองนี้เหมือนกันนะคะ ว่าสติกับสมาธิต้องไปควบคู่กัน

และจากประสบการณ์ที่เคยนั่งสมาธิมานะคะ คือจะเป็นคนที่ นานๆ จะนั่งซักทีหนะค่ะ

พอเริ่มนั่ง จะมีความรู้สึกว่า เหมือนจะหงายหลัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกง่วง (เหมือนสัปหงก)

แต่ลองปฏิบัติไปเรื่อยๆ อาการนี้ก็ลดน้อยลงนะคะ แต่ถ้าเว้นไปนาน แล้วมานั่งอีก

ช่วงแรกของการนั่งก็จะเป็นแบบนี้อีกค่ะ เลยเข้าใจว่า ส่วนตัวนะคะน่าจะคล้ายๆ อาการสัปหงก

เหมือนนั่งแล้วเคลิ้ม คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอสติไม่กลับมารับรู้ว่ากำลังคิด มันก็จะสัปหงกเอง

ทำให้เหมือนมีสติกลับมาว่า เมื่อกี้เราเผลอไปแล้ว แบบนี้หนะค่ะ เลยเห็นด้วยกับคุณ wilaiporn

ที่บอกว่า ลองเดินจงกลมให้มากขึ้น นั่งให้น้อยลง อย่างน้อย เดินจงกลมก็หลับไม่ได้ (อิอิ)

ถ้าจะให้ดี หลวงพ่อบอกว่า ให้เดินก่อน แล้วค่อยนั่งค่ะ ลองๆ ดูนะคะ

อนุโมทนาสาธุค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร