วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 19:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 90 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้เพิ่งเริ่มฝึกทำสมาธิด้วยการหาหนังสือมาอ่านแล้วฝึกปฏิบัติตาม แต่พออ่านหนังสือของครูบาอาจารย์บางท่าน รวมทั้งอ่านในเว็บธรรมะ (ตอนแรกคิดว่าอ่านมาก ๆ ก็จะรู้มาก) แต่จริง ๆ แล้วกลับทำให้สับสนค่ะ เลยอยากขอคำแนะนำว่าควรจะอ่านหนังสือหรือปฏิบัติตามแนวทางของครูบาอารย์ท่านใดท่านหนึ่งไปเลยจะดีมั้ยคะ และน่าจะอ่านของท่านใดที่สอนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นไปจนถึงขั้นสูงสุดอย่างละเอียด คือไม่สะดวกไปสถานปฏิบัติธรรมค่ะ รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิมีอยู่หลายระดับ จะเอาถึงระดับใหนละครับ หนังสือที่หามาอ่านเขาว่าไว้อย่างไรบ้าง แล้วจะฝึกไปเพื่ออะไรครับ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




norththailand.jpg
norththailand.jpg [ 86.26 KiB | เปิดดู 5681 ครั้ง ]
Supareak Mulpong เขียน:
สมาธิมีอยู่หลายระดับ จะเอาถึงระดับใหนละครับ หนังสือที่หามาอ่านเขาว่าไว้อย่างไรบ้าง แล้วจะฝึกไปเพื่ออะไรครับ


คุณ Suparek แนะนำคุณรินรสเป็นวิทยาทานทีสิขอรับ มีระดับใดบ้าง แนะนำทุกระดับขั้นตามที่

คุณรู้มา แล้วบอกอานิสงส์แต่ละขั้นๆด้วย เพื่อที่คุณรินรสจะได้เลือกทำตามสติกำลังของตน :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ต.ค. 2009, 20:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


เกรงว่าคงไม่ได้ การฝึกสมาธิมีทั้งคุณทั้งโทษ หากไม่ได้ฝึกกับครูบาอาจารย์หรือไม่เข้าใจกระบวนการ นอกจากจะไม่ได้ความตามประสงค์แล้ว รังแต่จะเกิดโทษ ไปนรกเหมือนจับไปวาง ถ้าจะถามว่าไปที่ใหน ก็ไปที่เดียวกับคนนั่งตกปลานั่นแหละ

นอกจากจะเป็นสมาธิที่ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น (ขณิกกะ) ที่พอจะฝึกกันเองได้

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
สมาธิมีอยู่หลายระดับ จะเอาถึงระดับใหนละครับ หนังสือที่หามาอ่านเขาว่าไว้อย่างไรบ้าง แล้วจะฝึกไปเพื่ออะไรครับ


จะฝึกเพื่อทำให้ใจสงบค่ะ ปกติเป็นคนคิดมาก ฟุ้งซ่าน ทำอะไรเลยไม่ค่อยมีสมาธิค่ะ ปกติเป็นคนไม่โกรธง่าย แต่ถ้าโกรธแล้วจะโกรธนานค่ะ รู้สึกเลยว่าหัวใจเต้นแรงมาก

หนังสือที่อ่านก็คือฝึกดูจิตตามแนวสติปัฏฐาน 4 ค่ะ
คืออยากทราบทุกระดับเลยค่ะ ถึงแม้ว่าอาจจะปฏิบัติได้ไม่ถึงขั้นสูง แต่ก็จะได้รู้เอาไว้

ตอนนี้กำลังสับสนอย่างที่บอกค่ะ เนื้อหาวิธีปฏิบัติมีทางเดียว แต่คงเป็นเพราะวิธีการอธิบายของแต่ละท่านไม่เหมือนกันมั้งคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 11:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Supareak Mulpong เขียน:
สมาธิมีอยู่หลายระดับ จะเอาถึงระดับใหนละครับ หนังสือที่หามาอ่านเขาว่าไว้อย่างไรบ้าง แล้วจะฝึกไปเพื่ออะไรครับ


คุณ Suparek แนะนำคุณรินรสเป็นวิทยาทานทีสิขอรับ มีระดับใดบ้าง แนะนำทุกระดับขั้นตามที่คุณรู้มา แล้วบอกอานิสงส์แต่ละขั้นๆด้วย เพื่อที่คุณรินรสจะได้เลือกทำตามสติกำลังของตน :b8:


ขอบพระคุณกรัชกายค่ะ แล้วคุณกรัชกายจะไม่แนะนำหนูหน่อยเหรอคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


และยังสงสัยว่า เวลาทำอะไรก็ตามควรภาวนา "พุท" และ "โธ"" ไม่ว่าจะทำอะไร หรือภาวนาตามสิ่งที่กำลังทำอยู่ เช่น กำลังเดินไปไหนก็ภาวนาว่า "ซ้ายหนอ" "ขวาหนอ" คะ ควรเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งเหรอคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


บริกรรม "พุทธโท" นี่เป็นพุทธาอนุสสติ คือ ให้ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า ส่วนหันไปหันมา แล้วบอกตัวเอง เป็นการเจริญสติ หรือฝึกสติ พวกนี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำๆ ต่อๆ กันมา

"พุทธโท" นี่มีเรื่องเล่าในครั้งพุทธกาลว่า มีชายผู้หนึ่งยากจนแล้วอ่านหนังสือไม่ออก สวดมนต์ก็ไม่ได้ แต่ไม่อยากตกนรก วันๆ ก็เอาแต่เรียกชื่อพระพุทธเจ้า ก็คือท่อง "พุทธโทๆๆๆ" ไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าพ้นนรกไปเกิดเป็นเทวดา

เรื่องราวของสมาธิมีเผยแพร่กันมาก และเหมือนๆ กันหมด ส่วนการปฏิบัตินั้น แล้วแต่อัญชาสัย ขอถามต่ออีกหน่อย อยากจะแก้อาการขี้โมโหแบบถาวรหรือแบบชั่วคราวละครับ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แก้ไขล่าสุดโดย Supareak Mulpong เมื่อ 19 ก.ค. 2009, 12:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอถามต่ออีกหน่อย อยากจะแก้อาการขี้โมโหแบบถาวรหรือแบบชั่วคราวละครับ



คุณ Supareak บอกวิธีแก้โมโหแก่คุณรินรสทั้งชั่วคราวและถาวรเลย เช่น ชั่วคราวต้องทำยังไง ถาวรต้องทำยังไง บอกให้หมดเลยขอรับ เผื่อคนอื่นได้ประโยชน์ด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอถามต่ออีกหน่อย อยากจะแก้อาการขี้โมโหแบบถาวรหรือแบบชั่วคราวละครับ



คุณ Supareak บอกวิธีแก้โมโหแก่คุณรินรสทั้งชั่วคราวและถาวรเลย เช่น ชั่วคราวต้องทำยังไง ถาวรต้องทำยังไง บอกให้หมดเลยขอรับ เผื่อคนอื่นได้ประโยชน์ด้วย


ค่ะ ทั้งชั่วคราวและถาวรค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


มันต้องเลือกนะครับ เพราะวิธีการแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เอาเป็นว่าผมจะเปรียบเทียบอย่างนี้ก็แล้วกัน

สมมุตติว่าคุณเป็นโรคกระเพาะแบบเรื้อรัง การรักษาแบบชั่วคราวก็คืออการกินยาแก้ปวด หรือยาเคลือบกระเพาะ ปวดก็กิน พอยาหมดฤทธิ์ก็ต้องกลับมาปวดอีก หรืออาการปวดรุนแรงขึ้น ยาเอาไม่อยู่ คุณก็ต้องหายาแรงขึ้น อีกวิธีหนึ่งก็คือต้องไปรักษาที่ต้นเหตุ คือทำให้แผลในกระเพาะหาย ถารู้จักโรคกระเพาะแบบเรื้อรังดีถึงจะรู้ว่ารักษาให้หายถาวรนั้นไม่ได้ง่าย ต้องมีวินัยที่ดีเอามากๆใช้ระยะเวลลาพอสมควร

การใช้สมาธิระงับความโมโหเหมือนกินยาแก้ปวดนะครับ คือ เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าโมโห คุณก็จะต้องตั้งสติเริ่มทำสมาธิ เป็นลักษณะของอาการข่มไว้หรือกดไว้ เหมือนกินยาเมื่อเริ่มปวดนั่นแหละครับ ถ้าทำไม่ทัน หรือมีเหตุให้โมโหมากๆ จริงๆ สมาธิก็อาจจะเอาไม่อยู่ หรือแค่ลดความรุนแรงลงได้บ้างเท่านั้น ที่สำคัญสมาธิไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้แบบถาวรนะครับ และก็เสื่อมง่าย คือต้องรื้อฟื้นบ่อยๆ เหมือนเล่นดนตรี

ถ้าจะรักษาแบบถาวร จะต้องปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ใช้เวลานาน ค่อยๆ หาย เรื่องนี้อธิบายยาว เอาเป็นว่าต้องเลือกแล้วละครับ

ก่อนอื่น ให้ถือปฏิบัติเรื่อง "ทาน ศีล" ก่อน ไม่ว่าจะทำแนวใหน นี่เป็นแนวที่พระพุทธองค์วางไว้ให้ ตามหลักของเหตุปัจจัย อยากให้อะไรดีๆ เกิดก็ต้องสร้างเหตุดีๆ ไว้ และก็อย่าสร้างเหตุที่ไมดี

ทานที่มีอานิสงค์มากที่ผมปฏิบัติ คือ การใส่บาตรพระตอนเช้า เพราะคนให้ก็ตั้งหน้าตั้งตาให้ ผู้รับก็ตั้งหน้าตั้งตามารับ เวลาเราไปถวายสังฆทานอานิสงค์ยังน้อยกว่าเพราะบางทีพระก็ไม่ได้พร้อมจะรับทาน ข้อปฏิบัติสำหรับการใส่บาตรมีอย่างเดียวคือ ก่อนทำ ระหว่างทำ หลังทำ อย่าให้มีใจฝ่ายไม่ดี หรืออกุศลเกิดเป็นอันขาด (ห้ามขอหวย)

กุศลที่ได้จากการใส่บาตรมี 2 แบบคือ กุศล และมหากุศล ถ้าอยากปฏิบัติธรรมต้องยังจิตให้เป็นมหากุศลเท่านั้น คือให้อธิฐานว่า ขอให้กิเกส โมหะ โทสะ โลภะ ของเราลดลง ขอให้พุทธศาสนามีอายุยืนยาว ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมเหมือนกับที่พระอริยะสาวกทั้งหลายได้เห็น หรือคิดว่าพระพุทธองค์ให้พระเรียนกับปฏิบัติธรรมเท่านั้น ถ้าเราไม่ใส่บาตรพระสงฆ์คงสืบต่อศาสนาไปไม่ได้ เป็นต้น

ถ้าสะสมบุญไว้ไม่ถึง ทั้งวิปัสสนาหรือสมาธิทำไปไม่ว่าวิธีการใหนก็ไม่มีทางได้หรอกครับ ต่อให้เป็นสุดยอดปรามาจารย์ที่ใหนก็ช่วยคุณไม่ได้

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พุทธโท" นี่มีเรื่องเล่าในครั้งพุทธกาลว่า มีชายผู้หนึ่งยากจนแล้วอ่านหนังสือไม่ออก สวดมนต์ก็ไม่ได้ แต่ไม่อยากตกนรก วันๆ ก็เอาแต่เรียกชื่อพระพุทธเจ้า ก็คือท่อง "พุทธโทๆๆๆ" ไปเรื่อยๆ
ปรากฎว่าพ้นนรกไปเกิดเป็นเทวดา


หรอขอรับท่องพุทโธๆๆ พ้นนรกไปเกิดเป็นเทวดเลยหรอขอรับ
แบบนี้ คุณ Supareak ก็ใช้พุทโธ แน่ๆ เพราะอยากไปเกิดเป็นเทวดา ไม่อยากตกนรก หรือว่าไง
ขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


อันที่จริงสวรรค์ก็ไม่อยากไปหรอกครับ เมาอยู่กับกามคุณห้ารู้ตัวอีกทีก็ต้องจุตติมาเกิดเป็นอะไรใหม่ก็ไม่รู้ พรหมณก็ไม่อยากเป็น สงบอย่างไรก็ต้องกลับมาเกิดอยู่ดี อยากอยู่แบบไม่ต้องตายๆ เกิดๆ นะครับ

ถ้าอยากปิดทางลงนรกก็ไปให้ถึงโสดาบันบุคคลสิครับ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทานที่มีอานิสงค์มากที่ผมปฏิบัติ คือ การใส่บาตรพระตอนเช้า



คุณ Supareak พูดไว่ก่อนหน้าว่า ประเทศไทยมีพระประมาณสามแสนรูป มีพระสุปฏิปันโน
ประมาณ 100 รูป ซึ่งเป็นสมมุติสงฆ์

เมื่อคุณจะใส่บาตร คุณเลือกพระยังไงว่ารูปไหนมีศีล ไม่มีศีล บวชถูกบวชผิดธรรมวินัย


พูดไว้ที่นี่

อ้างคำพูด:
จำนวนพระภิกษุในประเทศไทย ประมาณ สามแสนรูป มีพระสุปฏิปันโนจริงๆ ประมาณ 100 รูป ซึ่งล้วนเป็นสมมุติสงฆ์ นอกจากนั้นบวชผิดธรรมวินัย รักศาศีล 4 ไม่ครบ


viewtopic.php?f=1&t=23877&p=126212#p126212

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อยากอยู่แบบไม่ต้องตายๆ เกิดๆ นะครับ


โลกไหนขอรับ ที่ไม่ต้องตายๆเกิดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 90 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร