วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 05:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:52
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตเดิมนั้นเป็นจิตสะอาด – ผ่องใส – สว่าง แต่ไม่ฉลาด
เมื่อจิตถูกอวิชชาเข้าหนุน ก็เกิดสังขารขึ้น สังขารก็หนุนให้วิญญาณเกิดขึ้น
วิญญาณก็หนุนให้นามรูปเกิดขึ้น นามรูปก็หนุนให้เกิดอายตนะเกิดขึ้น อายตนะก็หนุนให้เกิดเวทนาขึ้น
เวทนาก็หนุนให้เกิดตัณหาขึ้น ตัณหาก็หนุนให้เกิดอุปาทานขึ้น
อุปาทานก็หนุนให้เกิดภพขึ้น ภพก็หนุนให้เกิดชาติ (การเกิด) ขึ้น
ชาติก็หนุนให้แก่ – ตาย – เศร้าโศก– คร่ำครวญ – ทุกข์ต่างๆนานาประการเกิดขึ้น
สายการเกิดของทุกข์ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันกับลูกโซ่

ทีนี้สำหรับผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาเพื่อไปสู่หนทางแห่งสันติอันประเสริฐ
จู่ๆก็จะมาคุมเค้นให้รู้จักจิตซึ่งเป็นตัวต้นเหตุเอาซะเลยทีเดียว
แบบนี้ไม่ใช่ทางและไม่ใช่ฐานะที่จะทำให้หลุดพ้นได้อย่างถูกต้องแน่นอน

ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาเพื่อจะหาทางดำรงอยู่ในสันติอันประเสริฐคือ นิพพานนั้น
ควรจะตรวจดูก่อนว่า
มีความแค้นใจเกิดขึ้นเพราะอะไร – มีความคับใจเกิดขึ้นเพราะอะไร – มีความพิไรรำพันเกิดขึ้นเพราะอะไร
มีความเศร้าโศกเพราะอะไร – มีการตายเพราะอะไร – มีการแก่เพราะอะไร – มีการเกิดเพราะอะไร
มีการหาที่เกิดเพราะอะไร – มีการยึดติดเพราะอะไร – มีความอยากเพราะอะไร
มีสุข,ทุกข์, เฉย เพราะอะไร – มีสัมผัสเพราะอะไร – มีตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,คิด เพราะอะไร
มีรูปเพราะอะไร – มีนามเพราะอะไร – มีธาตุรู้เพราะอะไร – มีคิดปรุงแต่งเพราะอะไร
มีความหลงอย่างหยาบ,อย่างเบา,อย่างละเอียด เพราะอะไร

เพราะจิตดั้งเดิมที่สะอาด – สว่าง – ผ่องใสเป็นบางกาล แต่ไม่มีความฉลาด
จิตนั้นจึงได้ถูกฝุ่นแห่งความหลงอันละเอียดเข้าเกาะติด
เมื่อถูกฝุ่นหลงอันละเอียดเข้าเกาะติดแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
เมื่อไม่รู้ตัวความหลงนั้นก็เกาะหนามากขึ้น
จนก้อนหลงอย่างเบาก็สามารถที่จะเกาะติดเข้าไปอีกได้
ความหลงจึงครอบคลุมจิตได้หนาขึ้นไปอีก
ต่อจากนั้นความหลงอย่างหยาบหนามหาศาลก็รุมเข้าเกาะติดจิตมากขึ้น

จิตดั้งเดิมนั้นก็ยังไม่รู้ตัวอีก จนมีสังขาร และร่ายยาวไปตามสายเหมือนลูกโซ่
จนถึงการเกิด – การตาย นับครั้งไม่ถ้วน
ถึงแม้จะเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย อยู่นานมากๆแล้ว จิตนั้นก็ยังไม่รู้ตัวอยู่นั่นแหละ

จนถึงบางกาลก็เกิดมีผู้อยากจะรู้จักมันขึ้นมาว่า
เรื่องราวของการเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นี้มันเป็นยังไงกันแน่ ?
จึงได้คิดค้นเพื่อหาหนทางที่จะทำให้เกิดความรู้
จนระยะกาลผ่านไปนานแสนนาน นาน น๊าน นาน นานแล้วนานอีก
นานแล้วนานอีกๆๆ จึงมีผู้รู้เกิดขึ้นมา และก็มีผู้อื่นๆอีกที่อยากจะรู้เรื่องเหมือนกัน
จึงเข้าไปหาผู้รู้นั้น เมื่อได้เรียนจากที่ผู้รู้สอนแล้ว จึงได้เกิดความรู้
และรู้อยู่อย่างนั้นอีกนานแสนนาน นานแล้วนานอีกๆๆ จึงได้มีผู้ตรัสรู้ขึ้นมา

คือ รู้ทุกสิ่งทุกอย่างและรู้แล้วปล่อยวางหมด – รู้แล้วหลุดหมด – สละหมด – ปล่อยไปหมด – ดับหมด
และก็รู้ว่าหมดโดยไม่เหลือแม้แต่จุลของจิต จึงได้นามที่เหมาะสมแก่ความเป็นผู้ตรัสรู้นั้นว่า พุทโธ
คือพระผู้รู้ – ผู้ตื่น – ผู้เบิกบาน (หมายถึง พระพุทธเจ้า)

ส่วนผู้ที่อยากจะตรัสรู้ตาม ก็ไปเรียนกับผู้ตรัสรู้นั้นเพื่อจะได้มีความรู้ให้มันชัดเจนขึ้นไปอีก
จนรู้ชัดแล้ววาง – รู้ชัดแล้วปล่อย – รู้ชัดแล้วสละ – รู้ชัดแล้วไม่เอารู้ไว้เลย
ก็กลายเป็นผู้รู้ – ผู้ตื่น – ผู้เบิกบาน – ผู้ดับสนิท เหมือนกันกับพระพุทธเจ้านั้น

ฉะนั้น กว่าจะรู้ได้ก็ไม่ง่ายนัก เป็นของยาก รู้แล้วกว่าจะหลุดได้ก็ยากอีก
หลุดแล้วกว่าจะพ้นได้ก็ยากอีก แต่เมื่อพ้นแล้วการดับนี้ไม่ยาก
เพราะหมดปัญหาแล้ว มันจะดับของมันเอง

บางคนถามว่า ดับ คืออะไร... ก็คือ
โดยไม่ไป – ไม่มา – ไม่เป็น – ไม่มี – ไม่อยู่ – ไม่มีที่อยู่ – ไม่อยู่ในที่เคยอยู่ – ไม่อยู่ในที่ไม่เคยอยู่
ก็มันดับว่ะ แล้วจะถามหาให้ตนเองเป็นบ้าไปทำไมน้อ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วนึกถึงคำพระที่ว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส สุปายาสาปิ ทุกขา หรือ

เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส. เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้. :b39:

เอาล่ะ ผมอธิบายได้แค่นี้ เพราะที่กระทู้ได้บอกไว้ชัดเจนและละเอียดแล้ว
ดีใจ :b16: ที่คุณคนขวางฯมาโพสท์บอกครับ :b40:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 10:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอาล่ะ ผมอธิบายได้แค่นี้ เพราะที่กระทู้ได้บอกไว้ชัดเจนและละเอียดแล้ว
ดีใจ :b16: ที่คุณคนขวางฯมาโพสท์บอกครับ :b40:


:b8: กับคุณคนขวางโลกและคุณอินทรีย์ 5ค่ะ ทุกคำพูดชัดเจนจนขนาดนี้แล้ว จะไปถามหาเอาอะไรกันอีกละทีนี้ถ้ายังถามอยู่ก็แสดงว่าผู้นั้น ........ปฏิบัติโดนมารหลอกเข้าแล้ว.....เพราะเคยอ่านเจอมาว่ามีเสียงมากระซิบข้าง ๆ หูว่าเธอเป็นพระโสดาบันแล้วนะ หรือ...........บอกอะไรต่าง ๆ.....โอหนอ....เรียนอยู่อนุบาลก็ให้รู้ว่าเรียนอนุบาล อย่าไปถามหาเรื่องเรียนปริญญา .....ลัดขั้นตอนในการเรียนกันขนาดนั้น อาจจะได้เป็นโสดาดัน...นะคะ.... :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 21:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนขวางโลก เขียน:
จิตเดิมนั้นเป็นจิตสะอาด – ผ่องใส – สว่าง แต่ไม่ฉลาด
เมื่อจิตถูกอวิชชาเข้าหนุน ก็เกิดสังขารขึ้น สังขารก็หนุนให้วิญญาณเกิดขึ้น..


แล้วอย่างนี้จะไม่ไปขัดกับคนที่ว่า..จิตไม่ใช่เรา..เราไม่ใช่จิต..หรือครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับความรุ้ดีๆนะค่ะ
ได้ประโยชน์มากมาย :b20: :b20:

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:32
โพสต์: 82

ที่อยู่: นครศรีธรรมราช

 ข้อมูลส่วนตัว


:b35: :b35: :b35: เห็นด้วยอย่างยิ่ง :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 21:25
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุนะค่ะ

สำหรับสิ่งดีๆที่นำมาให้อ่านคร้า



:b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ศัตรูของคนเราที่แท้จริงแล้ว คือ โลภ โกรธ หลง
ต้องแก้ด้วยมี ศีล สมาธิ ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron