วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 22:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2008, 02:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ธ.ค. 2008, 02:27
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


เวลานั่งสมาธิแล้วจิตฟุ้งซ่านจังเลยคะ คิดไปโน่นนี่ตลอด ตอนนี้กำลังฝึกนั่ง เพราะเป็นโรคเครียด และชอบคิดมาก อารมณ์เสียบ่อย เลยตอนนี้ชอบเรื่อง สมาธิมาก และ ธรรมะด้วยนะคะ
++ แต่นั่งแล้วฟุ้งซ่าน คิดไปโน่นนี่ บางทีก็หายใจไม่ถูก งงๆ นะคะ
++ บางที นั่งไปก็เหมือนตัวลอยๆ เบาๆ เหมือนจะหลับ
++ แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นั่ง ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่เข้าถึงนะคะ
++ ใครพอจำมีเทคนิคแนะนำบ้างใหมค่ะ
++ บางทีนั่งไป ก็กลัวการที่คนอื่นๆ ชอบเห็น นิมิตนะคะ กลัวเห็นแลว้ ไม่คืนกลับ ++ :b12: :b16: :b48: :b48: :b48: :b48: :b36: :b36: :b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2008, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนา ด้วยค่ะคุณ meepanda (หมีแพนด้า)
คนเรานี่เวลามีทุกข์จึงหันหาธรรมนะคะ หุ หุ คือจะบอกว่าคล้ายๆกันค่ะ ตอนแมวขาวมณีฝึกนั่งใหม่(ถึงนั่งเก่าแล้วบางครั้ง)ก็มีความฟุ้งซ่านแบบนี้แหละค่ะ หาทางสยบเจ้าความฟุ้งซ่านตามที่มีผู้เมตตาแนะนำมาอย่างหลากหลาย จะมี 1 หรือ 2 วิธีที่เอามันอยู่ค่ะ
อย่างแมวฯทำแล้วได้ผล คือ สวดมนต์ก่อน ตั้งใจสวดนะคะ (ไม่ใช่ขยับปากสวดปาวๆแต่จิตคิดไปโน้นนี่อีก) ชอบบทไหน เริ่มยังไงว่าไปเลยค่ะ แต่ต้องตั้งใจสวด สมาธิอยู่ที่คำสวดนั้นทุกคำ ถ้ายังดื้อ ก็สะกดคำแบบอ่านบทสวดเลยค่ะ สักพักเดียวจิตจะคลายลง เบาลง แล้วก็เริ่ม อาราธนากรรมฐานค่ะ
ลองดูนะคะ เอาใจช่วยค่ะ :b4: :b4: :b4:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2008, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ธ.ค. 2008, 02:27
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ฝึกอยู่ :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2009, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท. เพิ่งสมัครเป็นสมาชิก แล้วเข้าสู่พุทธธรรมทางประตูการปฏิบัติกรรมฐาน (ประตูใจ) โดยตรง
กรัชกายจึงนำข้อความสั้นๆ แต่ให้แง่คิดได้มุมมองครอบคลุมเกี่ยวกับการเผยแผ่หลักธรรมของ
พระพุทธเจ้า ให้ จขกท.พิจารณาก่อนสนทนากันหากยังติดตามอยู่
เป็นต้นว่า


พระพุทธองค์ทรงสอนพุทธธรรม โดยปริยายต่างๆ เป็นอันมาก มีคำสอนหลายระดับทั้งสำหรับ
ผู้ครองเรือน
ผู้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคม
ผู้สละเรือนแล้ว
ทั้งคำสอนเพื่อประโยชน์ทางวัตถุ
และ
เพื่อประโยชน์ลึกซึ้งทางจิตใจ
เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากพุทธธรรมทั่วถึงกัน สิ่งที่จะพึงรู้ได้ด้วยคำพูด ทรงแนะนำด้วยคำพูด สิ่งที่จะพึงรู้ด้วยการเห็น ทรงให้เขาดู มิใช่ให้ดูสิ่งที่จะต้องเห็นด้วยคำพูด

viewtopic.php?f=2&t=19015&p=91071#p91071

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2009, 14:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.พ. 2009, 03:05
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


meepanda เขียน:
เวลานั่งสมาธิแล้วจิตฟุ้งซ่านจังเลยคะ คิดไปโน่นนี่ตลอด ตอนนี้กำลังฝึกนั่ง เพราะเป็นโรคเครียด และชอบคิดมาก อารมณ์เสียบ่อย เลยตอนนี้ชอบเรื่อง สมาธิมาก และ ธรรมะด้วยนะคะ
++ แต่นั่งแล้วฟุ้งซ่าน คิดไปโน่นนี่ บางทีก็หายใจไม่ถูก งงๆ นะคะ
++ บางที นั่งไปก็เหมือนตัวลอยๆ เบาๆ เหมือนจะหลับ
++ แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นั่ง ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่เข้าถึงนะคะ
++ ใครพอจำมีเทคนิคแนะนำบ้างใหมค่ะ
++ บางทีนั่งไป ก็กลัวการที่คนอื่นๆ ชอบเห็น นิมิตนะคะ กลัวเห็นแลว้ ไม่คืนกลับ ++ :b12: :b16: :b48: :b48: :b48: :b48: :b36: :b36: :b36:


การนั่งสมาธิแล้วมีอาการฟุ้นซ่านนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาครับ......บุคคลที่ไม่มีความฟุ้งซ่านแห่งจิตเลยคือพระอรหันต์...เท่านั้น....

อาการหายใจไม่ถูกนี่...เป็นอาการที่รู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยออก หรือเหมือนไม่หายใจหรือเปล่า.....อาการนี้จะเกิดหลังจากที่คุณผ่านอารมณ์ที่ว่าตัวลอยไปแล้วใช่ไมครับ.....และภาพนิมิตที่จะเกิดจะเกิดขึ้นก่อนพวกเลยใช่หรือเปล่า.........

แนะนำนะครับ.....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น(ทางกาย)....ไม่ต้องไปสนใจนะ.....อย่าให้ขาดจากองค์กรรมฐานของเราเป็นอันขาด....ไม่งั้นสมาธิจะไม่ก้าวหน้า....อย่าตกใจนะครับ....อาการพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ปฏิบัติต้องเจอนะ.......

แนะนำให้อ่านกระทู้ที่ผมเพิ่งจะโพสเพิ่มเติมนะครับ.....จะเป็นผลดีต่อคุณมากนะ...
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=20760


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2009, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44:
ผมขอแนะนำครับ
คุณหมีแพนด้าเวลานั่งสมาธิแล้วจิตฟุ้งซ่านก็ให้รู้ทันความฟุ้งซ่านครับ
(หยุดอยู่แค่การรู้ทันเท่านั้น ไม่เอาจิตไปปรุงแต่งต่อ)ไม่ว่าอาการอะไร
จะเกิดในระหว่างที่คุณหมีแพนด้ากำลังนั่งสมาธิอยู่ก้อแล้วแต่ เช่น ตัวโคลง
ตัวเบา เมื่อน คัน เผลอไปคิดนู่นคิดนี่ ก็ให้รู้ทันคับ การรู้ทัน คือ แค่รู้ว่าเรา
รู้สึกคัน เมื่อย หรือว่าให้รู้ว่าเรากำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่แค่นั้นเอง ความคิดทั้งหลาย
ก็จะดับไปในทันทีเลยครับ :b12:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 07:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มี.ค. 2009, 18:08
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ขอมาแนะนำซักนิดน่ะครับ การที่เราจะทำกรรมฐานหรือนั่งสมาธิแล้วรุ่ง เราต้อง
1.ตัดกังวลก่อนครับ ห่วงนู้นห่วงนี้ ตัดให้หมดครับ ตั้งใจว่าเราจะทำกรรมฐานนี้ให้มีผล แต่ไม่ต้องเครียดน่ะครับ แต่ขอให้ทำบ่อยๆ คิดว่าสรรพสิ่งในโลก ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ วันนี้เจอกันดีๆ พรุ่งนี้ตายจากกันไป ไม่ห่วงอะไรอีกแม้แต่ชีวิตตัวเอง
2.ศีลต้องบริสุทธิ์ คือข้อนี้สำคัญครับ ถ้าไม่มีศีลเป็นฐานแล้ว ทำสมาธิยังไงก็ไม่รุ่งครับ
3.ตัดนิวรณ์ 5 ครับ อันมี
1.กามฉันทะ
คือหลงในรูป รสกลิ่น เสียง ผัสสะ อันสวยงามและก่อให้เกิดสุข ผมไว้อธิบายทีหลังน่ะครับ ต่อแล้วยาว
2.ความง่วง
(ถีมินทะ(ช่ายป่าวหว่า)) ตัวง่วงนี้ ผมจะใช้วิธี การเดินจงกรมครับ **ผมแนะนำน่ะครับ ใครออกกำลังกายได้ก็ออกครับ มันทำให้เราต่อเวลาของร่างกายได้ครับ ทำให้เรานั่งได้นานขึ้นครับ แต่ไม่ใช่ออกกำลังกายแล้วมานั่งน่ะครับ คือเราแบ่งเวลาไว้น่ะครับ ***
3.ความขุ่นเคืองใจ (ปติฆะ(ลืมบาลีแล้วคับ)) เรื่องความโกรธ ความเคืองนี้เอาเป็นว่าเราใช้ธรรม คือเมตตา-กรุณา ครับ ผมจะแน่ะเพิ่มน่ะครับ
4.อารมณ์ ฟุ้งครับ ต่อข้างล่างเลยครับ....................
***ฟุ้งซ่านหรอครับ ถ้าฟุ้งนี้เราาต้องมานั่งดูครับ เอาอย่างนี้ครับ***
Tip!:อย่างแรกแก้ฟุ้ง ก็มานับคู่ลมหายใจครับ สัญญากับตัวเองไว้ว่าระหว่างนับนี้จะไม่ให้มีเรื่องใดๆ แทรกเข้ามาในจิต จิตจดจ่ออยู่กับการนับ คือ หายใจเข้า-ออก นับ 1 และเข้า-ออก นับ 2 ไปเรื่อยๆ ถ้าจิตไปคิดเรื่องอื่น ก็เริ่มใหม่
Tip!:มีอีกวีธีนึงครับ จิตนั้นมันคิดมากใช่มั้ยครับ เอาอย่างนี้เลยครับ ปล่อยให้มันคิดครับ ไอ้ที่ปล่อยนี้เราไม่ลงไปวิ่งเล่นหรือไปคิดกับมันน่ะครับ เราดูอยู่ห่างๆ คล้ายการดูจิตน่ะแหละครับ จะจับลมหายใจไปด้วยก็ดีครับ ไม่ต้องภาวนาพุท-โท น่ะครับ เมื่อจิตหยุดคิดปุ้บ! จิตจะรวมตัวเป็นฌาณเลยครับ :b4:
5.ความสงสัยในผลของการปฏิบัติ อันนี้ก็สำคัญครับ สงสัยก็ให้รู้ว่าสงสัยครับแล้วทำต่อ ถ้าเรามานั่งสงสัยอยู่น่ะครับ ไม่ได้กินหรอกครับ ทำไปเรือยๆครับ ไม่เครียคแล้วจะถึงเองครับ

เอาเป็นว่าเบื้องต้นก็ประมาณนั้นครับ :b32:

.....................................................
จะไม่พูดว่าตนดี เมื่อไรที่ว่าตนดีแปลว่า เราเองนั้นเลวสุดๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 12:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างอิง:บางทีก็หายใจไม่ถูก งงๆ นะคะ

ให้ทำอย่างที่ k วีรวิชญ์ บอก ก็คือดูลมหายใจเข้าออกเป็นคู่ๆของมัน :b39:
หายใจเข้า-ออก นับ 1
หายใจเข้า-ออก นับ 2
หายใจเข้า-ออก นับ 3
และหายใจเข้า-ออก นับ.... ไปเรื่อยๆ เราจะนับได้เป็นคู่ๆ ในแต่ละครั้งที่หายใจ
แต่เมื่อสติและสมาธิมีมากพอ เช่นได้นับไปจนถึง10หรือ20 ไม่หลงอะไรเลย รู้สึกตัวตลอด ความกังวล
หายไปแล้ว ก็ให้จดจ่ออยู่แค่ลมหายใจเข้า-ออกพอ จะได้ไม่ต้องนับให้เมื่อยหรือหลงนับอีก


(จนครบเวลาที่ตั้งไว้...ควรจะกำหนดเวลานั่งด้วย===> การหายใจสัมพันธ์กันกับเวลาที่เรานั่ง) :b40:

ปล. ก่อนนั่งสมาธิ ควรจะทำให้ความเครียดกับความฟุ้งซ่าน ขจัดให้หมดไปจากใจเสียก่อน และต้องสวดมนต์บทสั้นๆก่อนจะนั่งด้วยเพื่อให้บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองตัวเรา :b8:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2009, 22:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1855

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: THAILAND

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะสวัสดี ท่านหมีแพนด้า

:b27: ดีใจจัง หมีแพนด้า ก็ใฝ่ธรรมะด้วย (ล้อเล่นนะ อย่าโกรธ เห็นชื่อน่ารักดี)
ขออนุโมทนา และยินดีกับท่านด้วย ที่หันมาหาธรรมะและสนใจการนั่งสมาธิ
ถือว่าเป็นบุญ เป็นกุศลของผู้ใฝ่หา อย่าทอดทิ้งเสียก่อนจะสำเร็จล่ะท่าน
แม้จะมีอุปสรรค ก็อย่าได้ท้อเป็นอันขาด เป็นกำลังใจจ้า

ขอให้เจริญในธรรม สาธุ

.....................................................
[สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย]
[ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2008, 22:28
โพสต์: 14

ที่อยู่: สุพรรณบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b3: เป็นเหมือนกันเลยค่ะ มีคนเคยแนะนำว่าทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ฟุ้งซ่านตามถนัด อย่างเราจะไม่ค่อยหลับตาทำสมาธิค่ะ บางทีก็มองรูปพระพุทธรูปก็สงบเป็นสมาธิดี แต่ไม่แน่ใจนะค่ะว่าสิ่งที่ทำถูกต้องหรือป่าว ยังไงก็ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยนะค่ะ อนุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ สาธุ ^^~

.....................................................
... สุ ข อื่ น ยิ่ งก ว่ า "ค ว า ม ส ง บ" ไ ม่ มี ... (^-^*)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุ สาธุ :b8: :b8: :b8:

ตามที่เพื่อนๆข้างบนแนะนำมาล้วนแต่เป็นวิธีที่ดีทั้งนั้นเลยค่ะ ลองเลือกปฏิบัติดูว่าแบบไหนที่ถูกจริตกับเราก็ใช้วิธีนั้นดูค่ะ

ลองสวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิดูก่อนนะคะ ลองบทไม่ยาวก่อนเพื่อรวมจิตเป็นสมาธิ อย่าลืมอาราธนาศีล 5 ด้วยนะคะ อยากให้สวดอิติปิโสฯเท่าอายุ+1 ด้วยดีมากๆ บทอื่นค่อยๆเพิ่ม สวดทีเดียวเลยกลัวจะพาลล้าไปซะก่อน

:b48: ก่อนนั่งสมาธิก็หายใจเข้าลึกๆแบบจะขาดใจ และหายใจออกยาวๆเหมือนจะขาดใจ สัก 3 รอบ จะทำให้นั่งได้นานขึ้น ลองดูว่าถูกจริตเราไหม

คำภาวนาก็ลองเลือกทำแบบที่เราชอบ
จะนับเลข 1 2 3 ไปเรื่อยๆก็ดี จิตจะอยู่กับตัวเรา (หลวงลุงเราสอนกรรมฐานก็สอนแบบนี้แต่เราไม่ชอบ มันกังวล)

:b12: เราใช้ภาวนา พุทโธ หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ จับอาการลมหายใจเอา (เราถนัดแบบนี้)

:b12: อีกอันนึงที่เราใช้ แต่จะใช้เฉพาะเวลาฝึกมโนมยิทธิ คือ นะมะพะทะ หายใจเข้า นะมะ หายใจออก พะทะ ลมหายใจอยู่ที่ผ่อนลมออกมาระหว่างปลายจมูกและริมฝีปาก (ถ้าไม่ถนัดไม่แนะนำ)

หรือ แบบของหลวงพ่อจรัญฯ ก็ ยุบหนอ พองหนอ ก็ดีมากๆค่ะ :b27:

ไม่มีแบบไหนยากสำหรับผู้ฝึกใหม่เลย ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจค่ะ
ขอให้ตั้งใจ และขยันหมั่นเพียรนะคะ แล้วจะพบดวงตาเห็นธรรม อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

คุณ meepanda แค่ฟุ้งซ่านครับยังพอแก้ใขได้

สำหรับผมพอนั่งที่ไรเป็นต้องง่วงทุกทีเลยครับ
ผมลองเอาวิธีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงแนะนำให้พระโมคคัลลานะปฏิบัติ มาใช้ดู
สงสัยว่าผมเป็นคนบาป มันถึงไม่ได้ผล
ท่านใดมียาแก้ง่วงได้ดี ช่วยแนะนำด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณวรานนท์คะของเราช่วงแรกๆก็ง่วงนะคะ :b48:

:b1: แต่พอทำประจำก็หายไปเอง แรกๆอย่าสวดมนต์เยอะมากมันจะเพลีย
ค่อยๆเพิ่มบทที่อยากสวดเข้าไปและพยายามอย่านั่งสมาธิดึกมากเกิน
แต่ของเรานั่งเที่ยงคืนถึงตี 1 กว่าๆ ตอนนี้ไม่ง่วงเลย เราเป็นคนที่จะมีสมาธิตอนดึกๆน่ะ :b31:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2009, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


อาการที่คิดไปโน่น ไปนี่ ตลอดเวลานั้นมันเป็นธรรมชาติครับ เพราะหากไม่คิดไปอย่างนั้นแล้วก็คงไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอย่างนี้ มันเป็นอาการของจิตครับ หรือที่เรียกกันว่า เจตสิก หรือก็คือจิตสังขาร ที่มันฟุ้งซ่านก็เพราะเราไม่ทันจิตสังขารนี่แหละครับ... :b32:

อุปมาดังว่า
เราถูกลากด้วยม้าที่วิ่งด้วยความเร็ว...เราวิ่งไม่ทัน ม้ามันก็ลากเราไปกับพื้น ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาน
เราถูกลากด้วยม้าที่วิ่งด้วยความเร็ว...เราวิ่งทันบ้างไม่ทันบ้าง ม้ามันก็ลากเราไปกับพื้นบ้าง เราลุกขึ้นวิ่งตามทันบ้าง เราก็เลยเจ็บบ้าง เหนื่อยบ้าง
เราถูกลากด้วยม้าที่วิ่งด้วยความเร็ว...เราวิ่งไล่ทันด้วยความเร็วที่พอๆกันกับม้า เราก็ไม่ต้องถูกลากให้เจ็บ แต่เหนื่อย
เราถูกลากด้วยม้าที่วิ่งด้วยความเร็ว...เราวิ่งไล่ทันและเร็วกว่า เราก็สามารถกระโดดขึ้นไปขี่ม้าตัวนั้นได้ เราก็ไม่ต้องเจ็บและเหนื่อยกับการวิ่งไล่ม้าอีก

:b13: :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2009, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ต้องหายใจถูกหลอก มันเป็นไปเองแหละ อยู่ที่กำหนดจิต จะกำหนดอะไรก็ได้ที่เราถนัด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร