ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ (โอวาทธรรมหลวงปู่ชา)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=22165
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 08 พ.ค. 2009, 07:46 ]
หัวข้อกระทู้:  การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ (โอวาทธรรมหลวงปู่ชา)

โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท

อีกอันหนึ่งที่สำคัญคือ เมื่อเราหยุดทำกรรมฐานแล้ว เมื่อเราเลิกทำกรรมฐานแล้ว จิตที่ไม่ฉลาด ก็จะเลิกไปเลย ไม่มีความรู้สึกนึกคิด

ในการทำงานของเรา ความเป็นจริงนั้น เมื่อเราจะออกจากสมาธิ เรา ก็รู้จักว่าเราออก ออกมาแล้ววางเป็นปกติไว้ ให้มีความรู้สึก มีสติติดต่อกันเสมอ ไม่ใช่ว่าเรา จะทำความสงบเฉพาะเวลานั่งสมาธิ

เพราะว่าสมาธิคือ ความตั้งใจมั่น เราเดินอยู่เราก็ทำใจเราให้มั่น ให้มีอารมณ์มั่นเสมอ มีสติสัมปชัญญะอยู่ต่อไปเสมอ ออกจากที่นั่งแล้ว หูเราได้ยินเสียง ตาเห็นรูปที่เราเดินไป นั่งรถไปก็ตามเถอะให้รูสึก มีอะไรที่มันชอบใจหรือไม่ชอบใจ เกิดขึ้นมาเป็นอารมณ์ ก็มีความรู้สึกว่า อันนี้มันไม่แน่ อันนี้มันไม่เที่ยง ตลอดเวลาอย่างนั้น จิตใจจะสงบปกติ

เมื่อจิตสงบเช่นนี้แล้ว เราจะต้องเอาจิตอันนี้พิจารณาอารมณ์ เช่นว่า รูปร่างกายทั้งหมดนี้ก็ต้องพิจารณา พิจารณาเมื่อไรก็ได้ เรานั่งสมาธิก็ได้ เราอยู่บ้านก็ได้ เราทำงานอยู่ก็ได้ อะไรๆ เราก็ทำได้ เรานั่งพิจารณาอยู่เสมอ แม้เห็นต้นไม้ เห็นใบไม้ที่มันร่วงมาอย่างนี้ เราเดินไปจะเห็นใบไม้มันร่วงลงมา อย่างนี้ อันนี้มันไม่แน่เหมือนกัน ใบไม้เหมือนกับเรานั่นแหละ เมื่อมันแก่มาแล้วมันก็ร่วงไป เราก็เหมือนกันอย่างนั้น คนโน้นก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน นี่เรียกว่า ยกขึ้นสู่วิปัสสนา จะมีการพิจารณาอยู่อย่างนี้เรื่อยไป ทั้งการยืน การเดิน การนั่ง การนอน มีสติติดต่อกันเรื่อย สม่ำเสมอ นี่เรียกว่า การฝึกกรรมฐานที่ถูกต้อง เราต้องสะกดรอยติดตามอยู่เสมอ

เราทำกันอยู่บัดนี้ วันนี้หนึ่งทุ่มมาทำสมาธิกันอย่างนี้ นั่งได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วก็หยุดกัน ใจก็เลยหยุด แล้วก็ไม่พิจารณาอะไรเลย อย่างนี้ไม่ได้ การหยุดการกระทำนี้ หยุดแต่พิธีกรรมเฉยๆ แต่ความรู้ สึกติดต่อกันเสมอไปเรื่อยนะ

อาตมาเคยให้ความเห็นบ่อยว่า ถ้าทำไม่ติดต่อกันเหมือนหยดน้ำ เหมือนหยดน้ำเราทำไม่ติดต่อกัน ก็เหมือนหยดน้ำเพราะว่าเรามีสติไม่สม่ำเสมอกัน การกระทำนั้นไม่ใช่อย่างอื่นทำ จิตทำไม่ใช่ร่างกายทำ จิตเป็นผู้ทำ จิตเป็นผู้ปฏิบัติ ถ้าเราเข้าใจอย่างนั้น ไม่ต้องไปนั่งสมาธิ จิตเราก็รู้สมาธิ จิตเป็นคนทำการปฏิบัตินั้นให้เราเห็นในจิตของเราเช่นนั้น

เมื่อเห็นเช่นนั้นก็จะทำความรู้ในจิตของเราไว้สม่ำเสมอ เมื่อเราจะยืนก็ตาม จะเดิน จะนั่ง จะนอนก็ตาม ให้ความรู้สึกเรามันมีอยู่อย่างนั้น เหมือนน้ำที่มันเป็นหยดๆ อย่างนี้มันไม่ติดต่อกัน ถ้าเราทำสติให้มันติดต่อกันเช่นนั้น มีความรู้สึกอยู่อย่างนั้นมันจะเป็นสายน้ำตลอดเวลา มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้อารมณ์สม่ำเสมออยู่ทุกเมื่อ ความผิดเกิดขึ้นมาก็รู้ทุกเมื่อ ถูกเกิดขึ้นมาก็รู้ทุกเมื่อ ความสงบ เกิดขึ้นมาก็รู้อยู่ทุกเมื่อ วุ่นวายเกิดทุกอย่างก็รู้ เรียกว่ามีสติอยู่ สังวรอยู่ สำรวมอยู่สม่ำเสมออย่างนี้

จะอยู่ที่ไหนก็เป็นอยู่อย่างนั้น ถ้าทำจิตอย่างนี้ การทำภาวนานั่นจะเร็วมาก ดีมาก เกิดเร็ว

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 08 พ.ค. 2009, 09:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ(โอวาทธรรม หลวงปู่ชา )

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ariyachon [ 08 พ.ค. 2009, 09:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ(โอวาทธรรม หลวงปู่ชา )

อนุโมทนาครับ

:b16: cool :b16:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 08 พ.ค. 2009, 09:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ(โอวาทธรรม หลวงปู่ชา )

สาธุครับ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  zinza99 [ 08 พ.ค. 2009, 12:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเจริญสติให้สืบเนื่องดุจสายน้ำ(โอวาทธรรม หลวงปู่ชา )

อนุโมทนาค่ะ :b8: :b30:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/