เป็นวิธีคิดเชิงบวกถูกต้องครับ คนหนึ่งทิ้งเห็นว่าไร้ค่า แต่ก็มีค่ามากมายกับอีกคนซึ่งมองเห็นคุณค่าของมัน
ยกตัวอย่างเงาะป่า (เรื่องสังข์ทอง) คนอื่นพากันรังเกียจ แต่รจนา เห็นคุณค่าในตัวเขา
หรือแม้แต่ขยะที่คนทิ้งแล้ว แต่คนที่เห็นคุณเห็นค่าของมันคือคนเก็บขยะ



เป็นเพลงเก่าครับ แต่ก็มีที่นำมาร้องใหม่

ฟังเพลงนี้บ้างสิครับ

"ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"

http://www.imeem.com/people/-QKCDv/music/E772XBFQ/mp3/

เพลง "ท่าน้ำ" นี้ใช่ไหมครับ

อันความลำเค็ญที่เป็นท่าน้ำ
คิดดูก็กรรมสุดจะช้ำจำใจทน
ต้องรอสนองรับรองผู้คน
ให้ข้ามพ้นทางธารา
บ่ายเย็นค่ำเช้าเขามาพึ่งเรา
ก็ยามเขารอนาวา
เหยียบเราขึ้นลงพะวงอุรา
ปราถนาเพียงสบาย
เขา ลืม เลือนเรา
พอ เขาผ่านไป
มิ เคยสนใจอะไรเลย
ถึง คราว จำเป็น
จึง เห็นค่าเอย
ใช้เราเหมือนเคย คนเอยคน
แม้นมีชีวัน
เหมือนดังปวงชน
จะช้ำกี่หน กี่หนเล่าหนา
กี่หนเล่าหนา
โถใครเหมือนดังท่าน้ำ
ก็คงเป็นระกำดวงกมลเรื่อยมา
เขาเกื้อหนุนคนบนความศรัทธา
รางวัลนั่นหนาก็คือท่าน้ำเอย.

http://kateep.com/music/lyrics/lyricsso ... d-1986.htm

ขอบคุณค่ะ

เพลงเพราะมากค่ะ โดนค่ะโดน
ฟังแล้วคลิกฟังอีกหลายรอบ ตอนนี้ร้องตามได้แล้วนะ

อาทิตย์ที่แล้ว ป่วยไปหลายวันเลยค่ะ อยู่ๆก็เจ็บคอมากแล้วก็มีไข้
ไปหาหมอเอายามาทานแล้วก็ปวดท้องขึ้นมาอีก แย่ไปเลย
ไม่ได้ป่วยมากแบบนี้มานานแล้ว อย่างมากก็ปวดหัวนิดๆหน่อยๆ นอนพักวันสองวันก็หายแล้ว
แต่คราวนี้คุณหมอบอกว่าทอลซินอักเสบบวมมาก เป็นหนองด้วย
ป่วยใจแล้วยังมาป่วยกายด้วย เฮ้ออ..

แต่ตอนนี้ฟื้นแล้วค่ะ

กรัชกายก็เป็นภูมิแพ้ หมอบอกว่า รักษาไม่หายขาด ฯลฯ

แพ้อะไรไม่แพ้นะครับ แพ้อากาศ แล้วจะหนีไปไหนพ้น
หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำหลังตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำ
หมั่นฝึกจิตฝึกสมาธิเพื่อให้สุขภาพจิตแข็งแรง แล้วจิตใจที่แข็งแรงจะช่วยกายได้ระดับการเข้าถึง


ตามหลักพุทธธรรมบอกว่า โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกายและโรคทางใจ ท่านขยายความว่า
โรคทางกายบางคนเว้นเป็นปีสองปีจึงเป็น หรือน้อยมากกว่านั้น ฯลฯ
แต่โรคทางใจท่านว่ามีด้วยกันทุกคน
พึงหมั่นรักษาโรคทางใจให้ทุเลาเบาบางแล้วแล้วใจจะช่วยกายได้
ดูหลักคร่าวๆครับ


กายกับจิตสัมพันธ์กันเป็นเหตุเป็นผลกันแบ่งได้เป็น ๓ ระดับ ตามขั้นของพัฒนาการทางจิต

ขั้นต่ำสุด ผลต่อกาย กระทบจิตด้วย คือ เมื่อไม่สบายกาย จิตพลอยไม่สบายด้วย ซ้ำเติมตนเอง
ให้หนักขึ้น

ขั้นกลาง จำกัดขอบเขตของผลกระทบได้ คือ ความทุกข์ความไม่สบายมีอยู่แค่ไหน
ก็รับรู้ตามที่เป็นแค่นั้น วางใจได้ ไม่ให้ทุกข์ทับถมลุกลาม

ขั้นสูง จิตช่วยกาย คือ เมื่อร่างกายทุกข์ ไม่สบาย นอกจากไม่เก็บไปก่อทุกข์แก่ใจแล้ว
ยังสามารถใช้สมรรถภาพที่เข็มแข็งและคุณภาพที่ดีงามของจิต ส่งผลกลับมาช่วยกายได้อีกด้วย