วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 01:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ก า ร มี ส ติ ร ะ ลึ ก รู้ อ กุ ศ ล....คื อ ก า ร ล ะ อ กุ ศ ล ?
พระครูเกษมธรรมทัต (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรํสี)
สำนักปฏิบัติกรรมฐาน วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา


• ปุ จ ฉ า

ถ้ามีความคิดอกุศลเกิดขึ้น
แล้วตามรู้โดยไม่ว่าอะไรจะเป็นบาปไหม

เพราะความคิดอกุศลจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งจะขัดกับคำสอนที่ให้เพียรละอกุศล


• วิ สั ช น า

เป็นคำถามที่น่าสงสัยใช่ไหม
ว่าให้ละอกุศลแล้วทำไมให้ระลึกรู้อกุศลเฉยๆ ไม่ทำมันหายไป

ความจริง การระลึกรู้อกุศลด้วยการปล่อยวาง
วางเฉยก็เป็นการละอยู่ในตัวแล้ว


เวลาใดเจริญกุศลให้เกิดขึ้น
ขณะนั้นก็เป็นการละอกุศลในตัว
เวลาที่มีสติระลึกรู้อกุศลที่เกิดขึ้น
เวลานั้นก็เกิดเป็นกุศลสลับมา


เพราะสติเป็นกุศล
เมื่อมีสติระลึกรู้ ระลึกรู้กุศลก็เกิดขึ้น เกิดขึ้น

แต่อกุศลที่กำลังเกิดอยู่
เช่น ความโกรธ ความไม่สบายใจ ฟุ้งซ่าน
ยังมีแรงผลัก คือมีเหตุปัจจัยสืบต่อ

ความจริงแล้วธรรมชาติมีการเกิดดับอยู่
อกุศลก็เกิดดับ เกิดดับอย่างสืบต่อ

เมื่อมีสติระลึก สติก็เข้าไปแทรกสลับฉาก สลับฉาก
ถ้าเรามีสติต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
แรงอกุศลที่สืบต่อก็จะหมดกำลัง
จะพบว่า อกุศลกรรมเหลานั้นจางลง คลายลง หรือหายไป

ถ้าฝึกอย่างถูกต้อง ปล่อยวางอย่างพอดีๆ
มันจะเป็นสติที่สมบูรณ์ ไม่มีอกุศลเข้ามาเสริม


ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราระลึกอย่างไม่ชอบ
อยากจะสงบอยากจะหาย เท่ากับเรามีกิเลสเข้าไปเสริม


อุปมากิเลสอกุศลเหมือนกับๆ ไฟที่กำลังลุกไหม้
สติสัมปชัญญะ เหมือนกับน้ำที่จะเข้าไปดับ
ถ้าเราจะดับไฟแต่เราไม่ใช้น้ำอย่างเดียว
เราเติมน้ำมันเข้าไดด้วย ดับได้ง่ายไหม ดับไหม
ฉีดน้ำบ้าง ฉีดน้ำมันบ้าง

การที่เรามีสติเหมือนน้ำ
แต่ถ้าเรามีอภิชฌาและโทมนัสเข้าไปแทรก
เท่ากับเรามีเชื้อเพลิงเข้าไปด้วย
เพราะฉะนั้นให้ระลึกอย่างไม่มีตัณหา อภิชฌาเข้าไป


ระลึกอย่างไม่ว่าอะไร
เราจะพบได้ว่ากิเลสนั้นจะดับจะคลี่คลายไปได้เอง
ยิ่งเราฝึกดีดีต่อไป พอระลึกรู้ปุ๊ป มันจะดับให้เห็น
แม้แต่ความโกรธ พอระลึกรู้มันก็ดับไปทันที

ถ้าสติมีกำลัง มีความคมที่ฝึกมามากๆ ขึ้น ก็จะดับไปทันที

ใหม่ๆ ก็สังเกตเห็นความโปร่งเบา
ความเบาสบายที่แทรกสลับเข้ามา
ถ้าพิจาณาให้แยบคายก็จะเห็นได้ด้วยตัวเอง


:b8: :b8: :b8:

(คัดลอกบางตอนมาจาก : “พระอาจารย์ตอบปัญหาธรรม”
ใน รวมรสบทธรรม : จากงานแสดงธรรมเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ,
พิมพ์ครั้งที่ ๑, พ.ศ.๒๕๔๙, โดย ชมรมกัลยาณธรรม, หน้า ๓๖-๓๘)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2009, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


ภิกษุ ท.! ค ว า ม เพีย ร ช อ บ เป็น อ ย่างไร ?

ภิกษุ ท.! ภิก ษุในกรณีนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันลามก ที่ยังไม่ได้บังเกิด; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันลามกที่บังเกิดขึ้นแล้ว;

ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย ที่ยังไม่ได้บังเกิด; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือนความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นแล้ว.

ภิกษุ ท.! นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ
- มหา. ที. ๑๐/๓๔๐-๓๕๐/๒๙๔-๒๙๙.
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร