พลิกมุมมองเปลี่ยนเป้าหมาย ให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี
คุณเคยตั้งเป้าหมายว่าวันนี้หัวหน้าจะไม่ตามหาคุณ
ลูกค้าจะไม่กวนใจ ผู้ป่วยจะมาน้อย (เฉพาะโรงพยาบาลรัฐบาล)
ไม่มีคนทิ้งขยะพื้นสะอาดสะอ้าน (เฉพาะพนักงานทำความสะอาด)
คงมีบ้างใช่ไหมครับที่เราจะรู้สึกว่า
งานที่ทำอยู่เป็นงานที่ออกจะน่ารำคาญใจ อยู่ไม่น้อย
ดังเช่น พนักงานซ่อมบำรุงคนหนึ่งบอกว่า
เขารู้สึกรำคาญใจมากเวลามีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกว่ามีงานซ่อมเลอะ ๆ อีกแล้ว
กับเป้าหมายดังกล่าวมาแล้วนี้
เชื่อได้ว่เป็นเป้าหมายที่สมหวังได้ยาก
เพราะคุณไม่สามารถ “ควบคุม” ปัจจัยต่าง ๆ ได้เลย
หัวหน้าจะตามตัวไปรับงานหรือไม่ ลูกค้าจะโทรมากวนใจ
ฝ่ายผลิตจะตามตัวไปดูเครื่องจักร ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ดูจะเกิดอยู่เสมอ
และหากไปหวังอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้ก็ย่อมผิดหวังอย่างแน่นอน
พนักงานไปรษณีย์คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าในงานบริการของเขานั้น
เขาไม่ชอบวันเสาร์ที่สุด เพราะมีลูกค้าผู้ใช้บริการมากันมากมาย
บางวันมากถึง 300 คน ซึ่งมากกว่าวันธรรมดา 2 - 3 เท่า
ทุก ๆ เช้าวันเสาร์เขาอดภาวนาไม่ได้ว่า
ขอให้วันนี้อย่ามากันเยอะนักจะได้ไม่เหนื่อยมาก
อยากให้เกลี่ยไปอยู่วันอื่นๆ บ้าง
ถามว่าที่เขา”ภาวนา”นี้มีสิทธิจะสำเร็จสมประสงหรือไม่นั้น
ก็คงตอบได้ว่ายากมาก คงต้องมีฝนตกหนักหรือมีปฏิวัติรัฐประหารนั่นแหละ
ลูกค้าในวันเสาร์ถึงจะน้อยลง เพราะใคร ๆ ก็สะดวกและว่างในวันเสาร์
ส่วนวันธรรมดานั้นจะลางานมาส่งพัสดุ หรือใช้บริการก็คงไม่ถูกใจนายจ้างแน่
ผมได้แนะนำพนักงานไปรษณีย์ท่านนี้ไปว่า
เราควรตั้งเป้าหมายว่า”ลูกค้าจะมามาก”
แล้วเขาจะสมหวัง (ฟังดูแล้วทำใจยากใช้ไหม?)
กับเรื่องการตั้งเป้าหมายนี้มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
บางครั้งเราตั้งเป้าหมายให้ไกล ทำให้เกิดความฝันแล้วก็พยายามไปให้ถึง
แต่บางครั้งคนเราก็ต้องตั้งเป้าหมายใกล้ ๆ เป็นขั้น ๆ ไป
เพราะด้วยอุปสรรคความยากของงานที่อาจทำให้ท้อใจ
กระทั่งบางครั้งเราอาจต้องตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
ในกรณีที่ควบคุมปัจจัยภายนอกได้น้อย
เคล็ดลับคืออะไร?
จากการวิจัยของด๊อกเตอร์มาติน เซลิกแมน
พบว่าพนักงานที่มีความสุขนั้นมักมองเห็นว่า งานที่ทำมีค่า
เช่นมองว่า เพราะเขาที่มาซ่อมเครื่องจักรให้นี้เองทำให้การผลิตเดินต่อไปได้
เพราะเขา (พนักงานไปรษณีย์) นั่นเอง
ที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถส่งพัสดุสำคัญไปให้ทางบ้านได้ ฯลฯ
การมองว่าสิ่งที่ตนทำนั้นมีค่าจึงเป็นกุญแจดอกแรก
การตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับการทำงานนั้นว่าเป็นสิ่งสำคัญมากประการต่อมา
แทนที่จะคิดหรือตั้งเป้าหมายให้มีลูกค้าโทรมากวนน้อย
ก็ให้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีคนโทรมากวน หรือจะมีลูกค้ามามากเป็นต้น
หากคุณมีหัวหน้าที่เฮี๊ยบมาก จนกว่าจะผ่านเรื่องไปได้สักที
ก็ต้องแก้ไขกันหลายครั้งก็อาจต้องตั้งเป้าหมาย ว่า “สัก 3 ครั้งถึงจะผ่านไปได้”
อย่าลืมว่าคุณจะทำดีที่สุด แต่จงคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปได้ครับ
แล้วเรื่องร้าย ๆ รำคาญใจก็จะกลายเป็นเรื่องดี ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกัน
คัดลอกจาก... นพ. เทอดศักดิ์ เดชคง
http://www.drterd.com/news/view.asp?id=22
