ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=23050 |
หน้า 41 จากทั้งหมด 45 |
เจ้าของ: | bbby [ 10 มี.ค. 2011, 17:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
ทานอาหารล้างพิษ |
เจ้าของ: | bbby [ 14 มี.ค. 2011, 19:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
เจ้าของ: | walaiporn [ 17 เม.ย. 2011, 18:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
หุงข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟ สัดส่วนในการหุงด้วยไมโครเวฟ ข้าวเหนียว ๑ ถ้วยตวง ที่มากับหม้อหุงข้าว ต่อน้ำ ๑ ถ้วยตวง คือ ข้าวหนึ่ง น้ำหนึ่ง เท่าๆกัน วิธีทำ นำข้าวเหนียว ๑ ถ้วย ซาวน้ำ แล้วใช้กระชอนรองข้าวเหนียว เสร็จแล้ว นำน้ำใส่ลงในข้าวเหนียว แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๑๐ นาที หรือยิ่งแช่ถึงครึ่งชม.ยิ่งดี นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ ใส่ในไมโครเวฟ กดไฟครั้งแรก ๒ นาที ๓๐ วินาที พอครบเวลา นำข้าวออกมาพลิก จากด้านบน ลงด้านล่าง สลับกัน นำใส่ไมโครเวฟอีกครั้งใช้เวลา ๒ นาที ๓๐ วินาที ครบเวลา นำออกมาพลิกอีกครั้ง เสร็จแล้วใส่ไมโครเวฟ ใช้เวลา ๑ นาที พอครบเวลา นำข้าวมากลับอีกครั้ง ใส่ไมโครเวฟอีก ใช้เวลา ๑ นาที เท่านี้ก็จะใช้ข้าวเหนียวที่สุกพอดี ใช้เวลาทั้งหมด ๗ นาที ถ้าถามว่า ทำไมต้องนำข้าวออกมากลับ ก็เพื่อให้ข้าวสุกทั่วเม็ดค่ะ ถ้าแช่ครึ่งชม. เทน้ำเก่าที่แช่ข้าวเหนียวทิ้งไปก่อน แล้วใส่น้ำใหม่ลงไปครึ่งถ้วย กดไฟครั้งแรก ใช้เวลา ๒.๓๐ นาที นำข้าวเหนียวออกมาพลิกด้าน แล้วนำไปใส่ไมโครเวฟใหม่ กดตั้งเวลา ๒.๓๐ นาที ครบเวลา นำมาพลิกด้านใหม่อีกครั้ง นำไปใส่ไมดครเวฟใหม่ ใช้เวลา ๓๐ วินาที ครบเวลา กลับข้าวเหนียวอีกครั้ง นำไปใส่ไมโครเวฟใหม่ ตั้งเวลา ๓๐ วินาที สรุปใช้เวลาทั้งหมด ๖ นาที สำหรับข้าวเหนียว ๒ ถ้วย แช่ข้าวทิ้งไว้ นานเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งค้างคืนยิ่งดี ก่อนจะนำข้าวเหนียวไปหุงด้วยไมโครเวฟ ให้เทน้ำแข่ข้าวทิ้งไปก่อน นำน้ำสะอาดใส่ลงไปใหม่ ซาวน้ำทิ้งอีกครั้ง เทน้ำทิ้งให้หมด ถ้ามีตะแกรง ให้ใช้ตะแกรงรองข้าว กันข้าวร่วงลงพื้น ตวงน้ำด้วยถ้วยตวงข้าว ให้ดูเลขข้างๆถ้วยตวงข้าว จะมีเลข ๑๒๐ ใส่น้ำให้ถึงระดับนั้น นำข้าวใส่ไมโครเวฟ ไม่ต้องปิดฝาภาชนะที่ใส่ข้าวเหนียว กดไฟใช้เวลาครั้งแรก ๕ นาที พอครบเวลา นำข้าวออกมากลับด้านบน ลงด้านล่าง แล้วนำไปใส่ไมโครเวฟใหม่ รอบใหม่ใช้เวลา ๓ นาที นำข้าวเหนียวที่สุกแล้ว ออกมาใส่ถาด แผ่ข้าวให้ทั่ว ผึ่งลมทิ้งไว้แป๊บนึง แล้วนำไปใส่ภาชนะที่จะเก็บ เท่านี้ก็จะได้ข้าวเหนียวที่จับแล้ว ไม่ติดนิ้วมือ หมายเหตุ:- ต้องการจะแนบรูปภาพ แต่ไม่สามารถกดเลือกไฟล์ได้ค่ะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 20 เม.ย. 2011, 20:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
มันห้ามจายย..ม่ายย..อยู่ ยิ่ง..มีส้มตำด้วยนะ... |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 20 เม.ย. 2011, 21:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
อ้างคำพูด: หมายเหตุ:- ต้องการจะแนบรูปภาพ แต่ไม่สามารถกดเลือกไฟล์ได้ค่ะ นั่นซิค่ะ....ทำอย่างไร?...ใครทราบ...กรุณาบอกหน่อย... อ้างคำพูด: มันห้ามจายย..ม่ายย..อยู่ ยิ่ง..มีส้มตำด้วยนะ... หลังสงกรานต์อย่างนี้ต้องแถมแกงโฮ๊ะ... ใส่อั่ว...น้ำพริกหนุ่มอีกสักชุดนะค่ะคุณน้อง |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 20 เม.ย. 2011, 21:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
..อึ้..ฮืออ.. |
เจ้าของ: | bbby [ 10 พ.ค. 2011, 22:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 1 เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 2 เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 3 |
เจ้าของ: | bbby [ 10 พ.ค. 2011, 22:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 4 |
เจ้าของ: | bbby [ 11 พ.ค. 2011, 13:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
ก๋วยเตี๋ยวแขกมังสวิรัติ ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 2 ถ้วยตวง เต้าหู้แข็งหั่น 1 ชิ้น เห็ดหูหนูหั่น 1/2 ถ้วยตวง เห็ดฟางหั่น 1/4 ถ้วยตวง ไชโป๊วสับหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ ขึ้นฉ่ายหั่นฝอย 3 ต้น ถั่วงอก 2 ถ้วยตวง น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ กะทิ 3 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ตักกะทิ 1/2 ถ้วยตวง เคี่ยวให้แตกมัน ผัดน้ำพริกแกงให้หอม ใส่เห็ดฟาง เห็ดหูหนูปรุงรส ด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วขาว เติมกะทิที่เหลือ พอเดือดยกลง 2. เวลาจัดเสิร์ฟ ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอกใส่ชาม ตักน้ำแกงราด ใส่เต้าหู้ หัวไชโป๊ว ถั่วลิสง โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย ข้อมูล...อาจารย์อมราภรณ์ วงษ์ฟัก (นิตยสาร"แม่บ้าน" ปีที่ 26 ฉบับที่ 395 เดือน เมษายน 2545) คุณน้ำค่ะเปลี่ยเป็นอาหารเจภาค3ดีมั๊ยค่ะ |
เจ้าของ: | bbby [ 11 พ.ค. 2011, 13:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
ลาซันย่า มังสวิรัติ ส่วนผสม แผ่นก๋วยเตี๋ยว (แผ่นใหญ่) 300 กรัม มะเขือเทศสับ 1/4 ถ้วยตวง เห็ดฟางสับ 1/4 ถ้วยตวง พริกหวานสับ 1/4 ถ้วยตวง มาร์การีน 3 ช้อนตวง น้ำมะเขือเทศกระป๋อง 1 ถ้วยตวง ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 ถ้วยตวง น้ำซุปผัก 1/2 ถ้วยตวง แป้งข้าวโพด 1/4 ช้อนชา เกลือ 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่มาร์การีนพอละลาย ใส่เห็ดฟางผัดให้นุ่ม ใส่มะเขือเทศ พริกหวานและน้ำเขือเทศ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ผัดให้ข้นเล็กน้อยตักขึ้นพักไว้ 2. ผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำซุป เกลือ ปั่นให้ละเอียดเข้ากันตั้งไฟ นำแป้งผสมน้ำใส่ คนพอข้น ยกลง 3. วางแผ่นก๋วยเตี๋ยวในถาด ตักส่วนผสมข้อ 1 ใส่แล้วราดด้วย ส่วนผสมข้อ 2 ทำสลับเช่นนี้จนหมด ชิ้นสุดท้ายราดด้วยส่วนผสมข้อ 2 นำเข้าอบไฟ 350 ํ F นาน 20 นาที ข้อมูล...อาจารย์อมราภรณ์ วงษ์ฟัก (นิตยสาร"แม่บ้าน" ปีที่ 26 ฉบับที่ 388 เดือนกันยายน 2544) |
เจ้าของ: | bbby [ 11 พ.ค. 2011, 13:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
ฟองเต้าหู้ห่อผัก ส่วนผสม ฟองเต้าหู้2 แผ่น เห็ดหูหนูซอย1 ถ้วย ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย แครอทหั่นฝอย1 ถ้วย ถั่วแขกหั่นเฉียง1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับผัด2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด4 ถ้วย ต้นหอม ใบผักชี ผักสำหรับตกแต่ง วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่แครอท ใส่ถั่วแขก เห็ดหูหนู ผัดพอสุก ใส่ถั่วงอก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผัดพอผักสุกทั่ว ตักใส่ถ้วยสำหรับเป็นไส้ 2. ฟองเต้าหู้พรมน้ำพอนิ่ม ตัดเป็นแผ่นขนาด 5x5 นิ้ว จำนวน 4 แผ่น ใส่ไส้ที่ทำไว้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ทาแป้งเปียกพับด้านซ้ายขวา ม้วนให้แน่น ทำจนหมด 3. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ฟองเต้าหู้ที่ห่อไว้ ทอดจนสุกเหลือง ตักวางบนกระดาษซับมัน 4. หั่นเป็นชิ้นพอคำ จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยต้นหอมและใบผักชี เสิร์ฟพร้อมซอสพริก หมายเหตุ ทำแป้งเปียกโดยผสมแป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟคนจนสุกเหนียว สรรพคุณ - เต้าหู้ เป็นอาหารที่มีโปรตีนในปริมาณและคุณ ภาพไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ จนมีผู้ให้ สมญา นามว่า เนื้อไม่มีกระดูก หรือ โปรตีนแห่งท้องทุ่ง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย นอกจากนี้ยังมีไขมันที่มี ความจำเป็นกับร่างกายอีกด้วย และไม่มีคอเลส เตอรอล และมีวิตามิน เกลือแร่ต่างๆ เช่นแคล เซียม ฟอสฟอรัส และเลซิติน ที่ช่วยลด ระดับ คอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันเกล็ด เลือด แข็งตัว ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ - เห็ดหูหนู คุณค่าทางสมุนไพร ช่วยลดความดันโลหิต มีสารต้านมะเร็ง มีวิตามินช่วยในการดูดซึม - แครอท สีส้มสดใสสว่างของแครอทช่วยดับความกลัวโรคมะเร็งได้ ใน แครอทมีเบต้า-แคโรทีนที่กำจัดสารก่อนมะเร็งที่อาจมากับควันบุหรี่ หรือแสงแดดแผดจัด สารนี้ป้องกันมะเร็งได้โดยเฉพาะมะเร็ง ในปอด ใครกินผักสด และผลไม้มากสม่ำเสมอ มีสารนี้ใน เลือดมากและใครมีมากก็ไม่ต้องเสี่ยงกับมะเร็งในปอด ลบ ความกลัวด้วยการกินแครอท ผักสดและผลไม้อื่นๆ - ผักชี แก้เจ็บคอ ริดสีดวงทวาร - ถั่วแขก บำรุงร่างกาย ดับร้อน ขับปัสสาวะ รักษาอาการบวมน้ำได้ |
เจ้าของ: | my-way [ 01 มิ.ย. 2011, 08:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
รสของอาหารเจ ต่างกับรสของเนื้อสัตว์ตรงไหนครับ |
เจ้าของ: | เสียงธรรม [ 03 มิ.ย. 2011, 12:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
ต้องถามก่อนว่าคุณเข้าใจความหมายของการกินเจว่าอย่างไร? เข้าใจแค่ไหน? คุณไม่ต้องตอบก็ได้นะ แค่อยากให้ลองกลับไปคิดดูว่าจุดประสงค์ของการกินเจ กินเพื่ออะไร? คุณอาจจะคิดไม่เหมือนผมก็ได้นะ คุณจะคิดอย่างไรผมไม่รู้หรอกครับ แต่สำหรับผมแล้ว การ กินเจไม่ใช่การรักษาศีลหรือการทำจิตใจให้บริสุทธ์ ไม่ได้หมายความว่ากินเจแล้วเป็นคนดีพอ ตายไปจะได้ไปจุติเป็นเทพ การกินเจไม่ใช่การชดใช้เวรกรรม การกินเจไม่ได้ทำให้คนกินมี ศักดิ์ศรีเหนือคนอื่นๆหรือเป็นคนดีกว่าผู้ทานเนื้อสัตว์ การกินเจไม่ใช่การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก ทำไมต้องทำกลิ่น ทำสี ปรุงแต่งรูป รส กลิ่น สี ให้เหมือนเนื้อ สัตว์มันไม่สำคัญสำหรับผม จุดประสงค์ของผมคือกินเจเพื่อละเว้นจากการเบียดเบียนชีวิตเท่านั้นเอง ส่วนคุณจะทำกลิ่น ทำสี ปรุงแต่งรูป รส กลิ่น สี ให้เหมือนเนื้อสัตว์อย่างไรมันก็ไม่ใช่เนื้อสัตว์จริงๆ อยู่วันยันค่ำ เพราะฉนั้นแค่ขอให้มันไม่ใช่เนื้อสัตว์เป็นใช้ได้ ส่วนอย่างอื่นมันไม่สำคัญ แค่รู้ว่าไม่ได้กิน เนื้อสัตว์ก็สบายใจแล้ว เพราะผมบอกแล้วว่าคุณจะกินเจอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีศักดิ์ศรีมากกว่าคนอื่น เป็นคน บริสุทธฺ์ผุดผ่อง หรือเป็นคนดีกว่าคนอื่น เพียงมีจุดดีข้อเดียวคือสงสารและไม่อยากเบียดเบียนผู้อื่น เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เท่านั้นเอง |
เจ้าของ: | bbby [ 03 มิ.ย. 2011, 12:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
คุณเสียงธรรมเขียน อ้างคำพูด: จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้ คุณคิดเหมือนเราเลยค่ะ |
เจ้าของ: | din [ 06 มิ.ย. 2011, 18:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2 |
bbby เขียน: คุณเสียงธรรมเขียน ... อ้างคำพูด: จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้ ... คุณคิดเหมือนเราเลยค่ะ ต้นเหตุผมว่าอยู่ที่ศีล ถ้าทุกคนมีศีลก็ย่อมไม่เบียดเบียนกัน เป็นการยากที่จะทำให้ทุกคนมีศีล จิตที่คุณเมตตาต่อสรรพสัตว์ นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว ส่วนเรื่องที่ต้องระวังคือเกินจากเมตตาเป็นผูกพัน เมื่อผูกผันฝ่ายหนึ่งก็ย่อมชิงชังฝ่ายหนึ่ง เมตตาโดยไร้ประมาณจึงย่อมไม่เหลือที่ให้ความชัง |
หน้า 41 จากทั้งหมด 45 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |