วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 11:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 108 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2009, 19:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




jasmin.jpg
jasmin.jpg [ 33.97 KiB | เปิดดู 6922 ครั้ง ]
เรื่องของ "ดอกมะลิ"/ Jasmin Story

ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีกับดอกไม้ไทยๆอย่างดอกมะลินะคะแต่แท้จริงแล้ว
ดอกมะลิต้นกำเนิดของมันมาจากที่เมืองอินเดียโน่น มะลิมีมากกว่า 200 สายพันธุ์
ลำต้นมีทั้งแบบพุ่มและเป็นแบบเถาไม้เลื้อยยาวเหยียดส่วนดอกมีอยู่ หลายสี
สีเหลืองจะหาได้ยากที่สุดแต่ดอกมะลิสีขาวเป็นดอกที่นิยมและมีมากที่สุดค่ะ
และใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในงานพิธีทางศาสนา และพิธีต่างๆ(โดยเฉพาะที่อินเดีย)
ผสมในเครื่องดื่มเช่นชาดอกมะลิกลิ่นหอม

นอกจากนั้นเชื่อว่ากลิ่นหอมของดอกมะลิจะรักษารักษาโรคประสาท
ทำให้จิตใจสงบและนํ้ามันของดอกมะลิ (jasmin essential oil) สามารถรักษาพิษงูได้
ส่วนใบของดอกมะลิใช้รักษาโรคตาบางชนิดได้อีกด้วยแต่บางตำราบอกว่าดอกมะลิ
มีต้นกำเนิดจากทางเปอร์เชียและแคชเมียร์ (จริงๆ แล้วแคชเมียร์เป็นของอินเดีย มาก่อน)
ต่อมานำเข้าไปในยุโรบผ่านทางเสปญ(Spain)เมื่อศตวรรษที่17นี่เองค่ะ
ความหมายของดอกมะลในอินเดียมักจะหมายถึงความหวังที่สูงส่งอาจเป็นเพราะว่า ใช้บูชาพระ
ทำพิธีกรรมทางศาสนางานแต่งงานก็เป็นได้ ส่วนในประเทศจีนหมายถึงหญิงสาวสวยรวยเสน่ห์
ทางศาสนาฮินดูและศาสนามุสลิมจะ หมายถึงกลิ่นหอมหวานแห่งความรักค่ะ

ในบางแห่งจะมองว่ากลิ่นหอมของดอกมะลิ มักจะก่อให้เกิดความเย้ายวนความใกล้ชิดเสน่หาความรัก
ทางร่างกาย คงเป็น เพราะกลิ่นหอมของดอกมะลิจะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งคลายเครียด
ถ้าจิตใจสบายเรื่องอื่นๆก็พลอยดีไปด้ว ดอกมะลิมีหลายชื่อค่ะ จัสมิน มัลลิกา มาลาตี มุลลา มาลลี
และแซมปากิตา มะลิมีกลิ่นหอมหวานนุ่มนวล และเย้ายวนในทีเป็นกลิ่นที่ไม่มีพิษภัยใดๆ
เมื่อได้กลิ่นหอมของดอกมะลิจะรู้สึกสดชื่นมีความสุข ถ้าเปรียบเทียบทางบทกวี แล้วกลิ่นดอกมะลิมักจะถูกเปรียบว่าเป็นผู้หญิง แต่เมื่อเป็นหัวนํ้าหอม หรือกลั่นเป็นหัวนํ้ามันหอมจะเรียกว่า king of essential oils
เช่นเดียวกับดอกกุหลาบจะถือว่าเป็นราชินีของหัวนํ้ามันหอมหรือqueen of essential oils
เหตุที่เรียกว่าหัวนํ้ามันหอมของดอกจัสมิน ว่าเป็นราชาของหัวนํ้ามันหอม
เพราะว่ากลิ่นดอกมะลิมักจะใช้ได้กับทั้งสองเพศคือชาย-หญิงแต่ถ้าเป็นกลิ่นหอม
ของดอกกุหลาบคนที่ชอบหรือใช้นํ้าหอมกลิ่นกุหลาบมักจะหมายถึงผู้หญิงมากกว่า ผู้ชายค่ะ

ดอกมะลิถึงว่าจะมีมากมายหลายพันธุ์แต่ไม่ใช่ทุกพันธุ์จะนํามากลั่นเป็นหัว นํ้ามันหอมหรือ essential oil
ได้มีแค่สองชนิดเองที่นำมาใช้ในอุตสาหกร รมนํ้าหอมคือ Jasminum Glandiflorum กับ Jasminum Officinale มะลิสองชนิดนี้มีส่วนประกอบทางเคมีธรรมชาติคล้ายกันค่ะ
ส่วนดอกมะลิจีนคือ Jasmin sambac จะนําไปใช้กับอุตสาหกรรมชา
คือชากลิ่นมะลิหรือ จัสมิน ที นั่นเอง Jasmin Tea

ในหัวนํ้าหอมกลิ่นมะลิมักจะมีส่วนประกอบทางเคมีเป็นร้อยชนิดหัวนํ้าหอมเกรด
ชั้นหนึ่งมักจะมาจากดอกมะลิจากอินเดีย จากอียิปต์ปัจจุบันมีความต้องการสูงไม่เพียงพอ
จึงมีการผลิตที่ โมร็อคโค อัลจีเรียอิตาลีและฝรั่งเศสที่เมืองกราสส
ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการผลิตหัวนํ้ามันหอมต่างๆมาก่อน ดอกมะลิจำนวน7.6ล้าน
ดอกจะผลิตหัวนํ้าหอมได้เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น และดอกมะลิจะต้องเก็บในเวลากลางคืน
จนถึงเช้าเท่านั้นเพราะว่าตอนกลางวันแสงแดดจะทำให้กลินดอกมะลิหายไปค่ะ
มะลิจึงได้ชื่อว่า ราชินี ยามราตรี หรือ queen of the night

คุณสมบัติของดอกมะลิยังเหมาะสมในการรักษาโรคทางกายด้วยคือ
รักษาอาการเกร็งของท่อปัสสาวะ ทำให้ฮอร์โมนสมดุลย์ รักษาโรคผิวแห้ง แตกเป็นสะเก็ด อาการแพ้ที่ผิวหนัง
ถ้าเอานํ้ามันหอมของดอกมะลิ ถ้านําไปผสมกับนํ้ามันหอมของดอกกุหลาบกับนํ้ามันของดอกส้ม
จะเป็นนํ้ามัน บำรุงผิวได้ดีมีคุณภาพ
เนื่องจากกลิ่นหอมหวานเย็นของดอกมะลิกลิ่นมักจะเป็นส่วนผสมของนํ้าหอม หรือ ใช้ในอุตสาหกรรม
เครื่องหอมและอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์เสมอ จนพูดได้ว่านํ้าหอมทุกกลิ่นที่ผลิตออกมาขาย
จะต้องมีส่วนผสมของกลิ่นดอกมะลิเสมอ

กลิ่นหอมของดอกมะลิมักจะเตือนให้นึกถึงสายลมอ่อนๆในฤดูร้อนที่โชยผ่านกลิ่นหอมของมัน
จะทำให้จิตใจสงบเบาสบาย ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายจึงนิยมนำไปใช้การรักษาแบบอโรมาเธอราปี
รักษาโรคเครียดทางอารมณ์ที่มีผลร้ายมาถึงทางร่างกาย

Dogstarเชิญอ่านกลอนเกี่ยวกับความทรงจำที่แสนวิเศษเกี่ยวกับดอกมะลิ
ซึ่งผู้ประพันธ์เป็นนักประพันธ์เอกของโลกชาวอินเดียที่พวกเรารู้จักกัน
และเพียงแต่อยากจะแบ่งความรู้สึกเมื่อได้อ่านกวีบทนี้แล้วมองเห็นภาพและได้
บรรยากาศจนได้กลิ่นดอกมะลิและนึกถึงยาย นึกถึงดอกมะลิที่คนทางเชียงไหม่ใช้ถวายพระพุทธรูป
ใช้ในงานรดนํ้าดำหัวผู้ใหญ่และใช้คล้องคอในเทศกาลสงกรานต์กันค่ะ
หิ้งพระเล็กๆที่ในห้องนอนมักจะนำดอกมะลิวางไว้ที่พระหัตถ์ ของพระพุทธรูปเช่นกัน

รูปภาพ

The First Jasmines
by Rabindranath Tagore

AH, these jasmines, these white jasmines!
เจ้าดอกมะลิสีขาวบริสุทธุ์ดอกน้อยนิด
I seem to remember the first day when I filled my hands
ทำให้ระลึกถึงครั้งแรกที่รู้จักถึงดอกไม้แสนหอมนี้
with these jasmines, these white jasmines.
ดอกไม้ดอกน้อยสีขาว ดอกมะลิที่หอมหวาน
I have loved the sunlight, the sky and the green earth;
ทำใหัระลึกถึงแดดสีทอง ท้องฟ้าสวยและต้นไม้เขียวชะอุ่มสดชื่น
I have heard the liquid murmur of the river
ฉันได้ยินเสียงสายธารไหลกระซิบผ่านโขดหินผา
through the darkness of midnight;
ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี
Autumn sunsets have come to me at the bend of the road
แสงอาทิตย์ในฤดูไบไม้ร่วงสาดกระทบ
in the lonely waste, like a bride raising her veil
เหมือนเวลาเจ้าสาวเปิดผ้าคลุมหน้า
to accept her lover.
เพื่อต้อนรับเจ้าบ่าวในพิธีแต่งงาน
Yet my memory is still sweet with the first white jasmines
ฉันยังจำได้ดีถึงดอกมะลิสีขาวดอกแรกที่แสนหอมหวาน
that I held in my hands when I was a child.
ที่ฉันถือไว้ในอุ้งมือเมื่อยังเป็นเด็ก
Many a glad day has come in my life,
วันชื่นคืนสุขได้ผ่านมาหลายครั้งและยังจำได้ดี
and I have laughed with merrymakers on festival nights.
ฉันเคยหัวเราะกับเหล่าพ่อสื่อแม่สื่อในงานเทศกาลจับคู่
On grey mornings of rain
และหัวเราะให้กับสายฝนที่กระหนํ่าในยามเช้า
I have crooned many an idle song.
ฉันเคยร้องเพลงรักและตกอยู่ในห้วงรัก
I have worn round my neck the evening wreath of
ฉันยังจำได้ถึงผ้าพันคอที่แสนอบอุ่นในยามพลบคํ่า
BAKULAS woven by the hand of love.
ผ้าบาคูลัสที่ถักทอด้วยความรักของคนที่รักฉัน
Yet my heart is sweet with the memory of the first fresh jasmines
หัวใจฉันแช่มชื่นยินดีเมื่อถึงดอกมะลิดอกแรกในความทรงจำ
that filled my hands when I was a child.
ที่บานสพรั่งอยู่ในอุ้งมือของฉันในวัยเยาว์/

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2009, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สาวร้อยผัว/สามสิบ

สาวร้อยผัว ชื่อนี้มาจากภาษาฮินดีว่า "Shatavari" แปลว่า Hundred Husbands
ซึ่งในประเทศอินเดีย สาวร้อยผัวถือเป็นสมุนไพรครอบจักวารเลยทีเดียว
ส่วนชื่อที่เรียกๆ กันของสาวร้อยผัว ก็คือ Wild Asparagus
เพราะว่ามีหน้าตาเหมือนกับ Asparagus หรือหน่อไม้ฝรั่งนั่นเอง
เป็นไม้วงศ์หน่้อไม้ฝรั่ง ASPARAGACEAE
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Asparagus racemosus

สาวร้อยผัว เป็นสมุนไพรที่ดังมากเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อโรงพยาบาลเจ้าพะยาอภัยภูเบศร
ได้ปลุกกระแสขึ้นมาต่อจากน้ำลูกยอ และกวาวเครือขาว/แดง
สรรพคุณของสาวร้อยผัวนับว่ามหัศจรรย์ที่เดียว "สาวร้อยผัว"
คนภาคกลางเรียก "สาวร้อยปี" "สาวพันปี" "รากสามสิบ" หรือ "สามร้อยราก"
คนภาคอีสานเรียก "ผักชีช้าง" หรือ "เชียง" ใช้รับประทานเป็นผักได้
โดยยอดอ่อน ผลอ่อนรับประทานสดๆ และยังนำมาต้มหรือแกงอ่อมก็ได้เช่นกัน
ทำให้มีกลิ่นหอมคล้ายผักชีลาว

คนภาคเหนือเรียกสมุนไพรชนิดนี้ ว่า "ม้าสามต๋อน" หรือ "พอควายเมาะ"
ใช้เป็นยาดอง ยาบำรุง สำหรับเพศชาย เพราะกินแล้วทำให้คึกคักเหมือนม้า 3 ตัวรวมกัน
หรือแข็งแรงเหมือนควายถึก

ภาคใต้เรียก "ผักหนาม" เพราะลำต้นมีตุ่มๆหนามเกี่ยวเล็กๆ ใช้รับประทานเป็นผักกับน้ำพริก
เช่นเดียวกับทางภาคอีสาน

นอกจากเรื่องของการนำ มารับประทานแล้ว รากของสมุนไพรชนิดนี้ยังสามารถนำมาทุบ
หรือขูดกับน้ำ ทำเป็นน้ำสบู่ซักเสื้อผ้าได้อีกด้วย
หมอยาโบราณส่วนใหญ่จะรู้ว่าสาวร้อยผัวเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี จึงมีชื่อว่า "สาวร้อยผัว"
กล่าวคือไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้

วิธีการนำมาใช้นั้น
นำรากมาต้มกิน หรือนำรากไปตากแห้งแล้วบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง
หรือทำเป็นของหวานคือ "รากสามสิบแช่อิ่ม" เป็นยาบำรุงในผู้หญิง
ในการทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาว (female rejuvenation)
ภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก ตกขาว ภาวะหมดอารมณ์ทางเพศ
ภาวะหมดประจำเดือน (menopause) บำรุงน้ำนม บำรุงครรภ์ ป้องกันการแท้ง (habitual abortion)
ใช้ยับยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ
ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง
ขับน้ำนม ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ

เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงห้ามใช้ในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
เช่น ผู้ป่วยโรค uterine fibrosis หรือ เนื้องอกในมดลูกและรังไข่

การทดลองทางคลินิก คือการใช้ในการรักษาโรคกระเพาะ โดยการให้รับประทานผงแห้งของราก
พบว่าได้ผลดีในการรักษาแผลที่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก และลดภาวะกรดเกินในกระเพาะ

สำหรับการปลูกสาวร้อยผัวนั้น จะใช้เมล็ดและรากในการปลูก เป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนแล้ง
เพราะออกแบบมาเป็นไม้ทนแล้ง มีรากขนาดใหญ่สำหรับกักเก็บน้ำ และใบที่ลดรูปเป็นเกล็ดเล็กๆ
ที่มองไม่เห็น ส่วนที่เป็นใบเส้นๆนั้น เป็นส่วนของกิ่งที่ยื่นออกมาทำหน้าที่แทนใบ แต่จะไม่มีปากใบ
จึงไม่ค่อยมีการสูญเสียน้ำ

สาวร้อยผัวชอบดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี แต่ก็ขึ้นได้แทบทุกสภาพดินและสภาพอากาศ
ให้ดอกในช่วงฤดูฝน เมื่อให้ดอกติดเมล็ดแล้ว ควรตัดลำต้นทิ้งเพื่อให้แตกใหม่
จะทำให้มีลำต้นที่สมบูรณ์แข็งแรงมากกว่า

สาวร้อยผัวควรปลูกลงดิน ไม่ควรปลูกในกระถาง เพราะมีรากขนาดใหญ่แบบเดียวกับกระชาย
หรือหนอนตายอยาก แต่ขนาดใหญ่กว่ามาก อาจยาวเป็นเมตร ไม่เหมาะกับการปลูกในกระถางขนาดเล็ก
แต่ตรงกันข้ามกับรากขนาดยักษ์ สาวร้อยผัวมีลำต้นเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กๆเท่านั้นเอง

รูปภาพ

1/. แกงลูกสาวร้อยผัว
ส่วนผสม
1. เนื้ออกไก่ 250 กรัม 1 ชิ้นหรือ กุ้งสด 250 กรัม
2. น้ำพริกแกงเผ็ดใส่กระชาย 1/4 ถ้วย
3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. หัวกะทิ 1 ถ้วย
6. กะทิ 2 ถ้วย
7. เกลือป่น 3 ช้อนชา
8. ลูกสาวร้อยผัว 300 กรัม
9. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ

วิธีทำ
1. ล้างเนื้ออกไก่ หั่นเป็นชิ้นพอคำาใส่จาน พักไว้ หรือถ้าเป็นกุงปลอกเปลือกกุ้งออก พักไว้
2. เคี่ยวหัวกะทิ ถ้วย ในกระทะด้วยไฟอ่อนจนกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกลงผัดจนมีกลิ่นหอม
และมีมันสีส้ม ลอยหน้าเล็กน้อย จึงใส่กะทิและหัวกะทิที่เหลือ คนให้เข้ากัน
3.พอเดือดใส่เนื้อไก่ที่หั่นไว้ ใส่ลูกสามสิบ
4.ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และน้ำตาล คนให้ทั่ว ตามด้วยใบมะกรูด

2/. ลูกสาวร้อยผัวแกงกระทิใส่กุ้ง ลูกสาวร้อยผัวผลอ่อน ผลกลมเล็กสีเขียว ชุ่มน้ำ รสขมอมหวาน
ผลอ่อนสีเขียวรสขม นำไปแกงกับกะทิ ใส่กุ้ง น้ำแกงมีกลิ่นหอมกระชายแบบนำ้ำยาขนมจีน
รสขมของลูกสามสิบจะลดน้อยลง จึงทำาให้ได้รสขมมันที่อร่อยลงตัว
ส่วนผลอ่อนสดๆ กับยอดอ่อนก็นำมากินเป็นผักสดหรือจะนำไปลวกจิ้มน้ำพริกชนิดต่างๆ ก็ได้

3/. แกงกะทิลูกสาวร้อยผัวกับปลาทูย่าง เป็นอาหารพื้นบ้านของชะอำ นำผลอ่อนมาแกงกะทิกับปลาทูย่าง

4/. ไข่เจียวสาวร้อยผัว นำใบอ่อนสาวร้อยผัว หั่นฝอย ใส่ไข่เจียวทานกับน้ำพริก

5/. ผัดหน่อไม้ฝรั่งสาวร้อยผัว เก็บยอดอ่อนๆ ของต้นสาวร้อยผัวมาหั่นเป็นชิ้น
นำมาผัดใส่กุ้ง ใส่หมูเหมือนผัดหน่อไม้ฝรั่ง

6/. แกงปลาร้อยผัว
ส่วนผสม
ลูกสาวร้อยผัว 11/2 ถ้วย น้ำพริกแกง ¼ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อปลาช่อนย่าง ½ ถ้วย
กะทิ 3 ถ้วย กุ้งชีแฮ้ ( ตัวละ25-30 กรัม ) แกะเปลือกไม่ผ่าหลัง 5 ตัว น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ +
# เครื่องแกง พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออก แช่น้ำให้นิ่ม 5 เม็ด เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด 5 เม็ด รากผักชีหั่น 2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
2. ล้างลูกสาวร้อยผัวให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
3. โขลกน้ำพริกแกงที่โขลกกับเนื้อปลาย่าง เข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
4. เคียวกะทิ ½ ถ้วย ในกระทะด้วยไฟอ่อนจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงที่โขลงลงผัดจนมีกลิ่นหอม
และมีมันสีแดงลอยหน้า ใส่กะทิ 1 ถ้วย ผัดให้ทั่ว ใส่กุ้ง พอกุ้งสุก
5.ตักใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ใส่กะทิที่เหลือ คนให้ทั่วพอเดือด ใส่ลูกสาวร้อยผัว
แกงลูกสาวร้อยผัว
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2012, 00:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus1000129.jpg
Lotus1000129.jpg [ 96.1 KiB | เปิดดู 6010 ครั้ง ]
ณ วันพรุ่ง รุ่งตะวัน ก็บรรเจิด
งามระเหิด ก็แห้งโหย โรยใช่ไหม
หลงรูปงาม กาลก็ล่วง ทวงคืนไป
แท้นั้นไซร้ คือความดี ที่นิรันดร์


:b48: กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 108 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร