ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม จ.เลย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48908 |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 16 มิ.ย. 2019, 12:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม จ.เลย |
(๗) เรื่อง “จดหมายจากหลวงตามหาบัวถึงหลวงปู่ลี”
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๔ หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ ท่านว่าเราพักปฏิบัติอยู่กับ “หลวงปู่ลี กุสลธโร” ที่วัดป่าสานตม ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีวันหนึ่งขณะท่านเดินจงกรมอยู่ข้างศาลา (หลังเก่า) วัดป่าสานตม มีโยมผู้ชายขับรถบรรทุกของเข้ามาในวัด โยมผู้ชายคนนี้บอกท่านว่า หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ท่านฝากจดหมายกับสิ่งของเครื่องใช้มาให้ ท่านพระอาจารย์ลี (หลวงปู่ลี กุสลธโร) หลวงพ่อสมศรีท่านเดินไปบอกหลวงปู่ลี แต่พอไปถึงกุฏิเห็นหลวงปู่ลีกำลังเดินจงกรมอยู่ ท่านก็เลยมาบอกโยมผู้ชายคนนี้ว่าพระอาจารย์ลีกำลังเดินจงกรม ท่านจะเลิกเดินจงกรมตอนฉันน้ำร้อนช่วงบ่าย โยมผู้ชายคนนี้บอกท่านว่าเขารอถึงเวลานั้นไม่ได้ เพราะกลัวจะค่ำตอนเวลาเดินทางกลับบ้านที่อุดรธานี โยมผู้ชายคนนี้เลยฝากของและจดหมายน้อย ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนถึงหลวงปู่ลี เอาไว้ให้กับหลวงพ่อสมศรี แล้วเขาก็ลากลับไป พอตรวจดูสิ่งของเครื่องใช้แล้ว หลวงพ่อสมศรีท่านก็อ่านดูหน้าซองจดหมายน้อย ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนถึงหลวงปู่ลี หลวงพ่อสมศรีว่าคำจ่าหน้าซองจดหมายน้อย ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนถึงหลวงปู่ลีนั้นคือ “ถึงท่านพระอาจารย์ธรรมลี ท่านผู้มีธรรมอันลัดทุ่ง” หลวงพ่อสมศรีว่าพอท่านอ่านเห็นคำว่า “ถึงท่านพระอาจารย์ธรรมลี ท่านผู้มีธรรมอันลัดทุ่ง” ที่องค์หลวงตามหาบัวเขียนจ่าหน้าซองถึงหลวงปู่ลี กุสลธโร ท่านนั้นถึงกับยิ้มแล้วนึกขำขึ้นมาในใจของตนเอง หลวงพ่อสมศรีท่านเล่าเป็นขำๆ ว่า “เกิดมากะจั่งสิพ้อคำจ่าหน้าซองจั่งซี้ (เกิดมาก็พึ่งจะได้เห็นคำจ่าหน้าซองแบบนี้) หลวงพ่อสมศรีพอว่าให้ฟังแบบนี้แล้วท่านก็หัวเราะขำขัน หลวงพ่อสมศรีว่าพอบ่ายหลวงปู่ลีก็เลิกจากทางจงกรม ออกมาฉันน้ำร้อนที่ศาลา ท่านก็กราบเรียนหลวงปู่ลีว่า มีโยมเขาเอาของมามอบให้พร้อมกับจดหมายน้อย ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนถึงอาจารย์ลี หลวงปู่ลีท่านก็เปิดอ่านจดหมายน้อย ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวเขียนถึงท่าน หลังอ่านจดหมายน้อยขององค์ท่านหลวงตามหาบัวแล้ว หลวงปู่ลีท่านก็ยิ้มบอกกับหลวงพ่อสมศรีว่า “พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นฝากของมาให้ผมแจก หมู่คณะอยู่สานตม กับหมู่คณะอยู่นำวัดวาอ้อมแอ้มแถวนี้” หลวงพ่อสมศรีสงสัยในคำจ่าหน้าซองจดหมาย ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนถึงหลวงปู่ลีนั้น ว่ามีความหมายมาจากเหตุอะไร หลวงปู่ลีท่านจึงบอกที่มาของคำว่า “ถึงท่านพระอาจารย์ธรรมลี ท่านผู้มีธรรมอันลัดทุ่ง” ให้พระอาจารย์ธรรมศรี (หลวงพ่อสมศรี) ทราบ หลวงปู่ลีท่านบอกหลวงพ่อสมศรีว่า ตอนหลวงตามหาบัวท่านมาสร้างวัดป่าบ้านตาดใหม่ๆ มีหมู่คณะเข้ามาขอพักปฏิบัติอยู่กับท่านหลายองค์ พอมีหมู่คณะมาขออยู่พักปฏิบัติด้วยมากๆ หลวงตามหาบัวท่านเห็นว่ามันวุ่นวาย ท่านก็เลยอยากจะแยกตัวออกไปหาเที่ยววิเวกโดยลำพังองค์เดียว หลวงตามหาบัวท่านบอกหลวงปู่ลีว่าให้อยู่บ้านตาด ช่วยดูแลวัดโดยไม่ต้องไปไหน จนกว่าท่านนั้นจะกลับมาจากเที่ยววิเวก หลวงปู่ลีท่านก็รับคำพ่อแม่ครูอาจารย์โดยที่ใจท่านนั้นก็ร่ำๆ รอนๆ อยากจะติดตามไปรับใช้อุปัฏฐาก เที่ยววิเวกกับครูบาอาจารย์ แต่เพราะครูบาอาจารย์สั่งให้อยู่เฝ้าวัด ท่านก็เลยต้องหยุดใจ ในสิ่งที่ตนเองอยากจะไปเที่ยววิเวกกับครูบาอาจารย์ หลวงปู่ลีท่านจัดบริขารให้ครูบาอาจารย์และช่วยถือบริขาร มาส่งองค์ท่านหลวงตามหาบัวที่ชายป่าวัดป่าบ้านตาด หลวงปู่ลีท่านเล่าให้หลวงพ่อสมศรีฟังว่า “เห็นพ่อแม่ครูจารย์เพิ่นออกเที่ยววิเวก ใจเจ้าของนั่นกะคึดฮ่ำฮอนนำเพิ่น (ใจตัวเองนั้นก็คิดรุ่มร้อนถึงท่าน) มานั่งคึดเค้าเม่าอยู่กุฏิเจ้าของ เฮานี่หนากะมาฝากเป็นฝากตายเอาธรรมนำเพิ่นจั่งใด๋น้อ กูสิมาอยู่เป็นลูกกำพร้าผู้เดียวบ่ มีพ่อบ่มีแม่มาฮักสานี่ คึดได้ซ่ำนี่แล้วเจ้าของกะฟ้าวแต่งบริขารจ้ำอ้าวลัดท่งนานำก้นเพิ่นเด้ ถ่าพ่อแม่ครูจารย์เพิ่นสิฮ้าย เฮากะสิบ่หนี ถ่าเพิ่นสิตี เฮากะยอม ใจเจ้าของนั่นอยากสิไปนำเพิ่นอยู่อย่างเดียว” หลังหลวงตามหาบัวท่านเดินออกจากวัดป่าบ้านตาดไปได้ประมาณชั่วโมงหนึ่ง หลวงปู่ลีท่านก็แต่งบริขารเครื่องใช้อันจำเป็นของตนเอง แล้วรีบจำอ้าวลัดทุ่งนาไปตามทางที่หลวงตามหาบัวท่านเดินไป หลวงตามหาบัวนั้นเหมือนท่านจะรู้ใจในศิษย์คชสารธรรมขององค์ท่าน หลวงพ่อสมศรีว่าพอไปถึงระหว่างกลางทุ่งนา หลวงตามหาบัวท่านก็ไปนั่งพักสูบบุหรี่อยู่ที่ห้างนาของโยมที่รู้จักกัน ซึ่งโยมเจ้าของนาผู้นี้นั้นเป็นญาติกันกับองค์ท่านหลวงตามหาบัว พอหลวงตามหาบัวท่านเห็นหลวงปู่ลีเดินแบกบาตรสะพายบริขารจ้ำอ้าวมาทางนี้ หลวงพ่อสมศรี “หลวงปู่ลีบอกพอหลวงตามหาบัวเห็น ท่านเดินแบกบาตรสะพายกลดมา หลวงตามหาบัวท่านบอกโยมว่า พ่อออกๆ...! ฟ้าวไปเบิ่งดู้ (รีบไปดูซิ) ฟ้าวไปฮับบาตรพระเพิ่นแหน่ ถามพระอาจารย์ธรรมลัดท่งเบิ่งดู้ว่าเพิ่นสิฟ้าวจ้ำนาไปทางใด๋ พ่อออกผู้นี่กะออกไปฮับเอาบาตรบริขารของหลวงปู่ลี” หลวงปู่ลีท่านเล่าให้หลวงพ่อสมศรีฟัง พ่อแม่ครูจารย์ (องค์ท่านหลวงตามหาบัว) เพิ่นฮ้าย (ท่านดุ) หือ...! ไห่เฝ้าวัดเฝ้าวาซ่ำนี่กะบ่ได้ ย้อนเล่นตายมานำอีหยังล่ะนี่ (ให้เฝ้าวัดเฝ้าวาแค่นี้ก็ไม่ได้ แล่นมาตายด้วยทำไมนี่) หลวงปู่ลีท่านกราบเรียนหลวงตาว่า ข้าน้อยอยู่บ่ได้กะเลยฟ้าวแต่งของมานำหาพ่อแม่ครูจารย์ หลวงตามหาบัวท่านว่าให้หลวงปู่ลี หือ...! คันซั่นถ่ามันสิตายแท้ๆ กะไป เฮาเสียเวลานั่งสูบยาถ่าอยู่นี่โดนแล้ว (หือ...! ยังงั้นถ้ามันจะตายจริงก็ไป เราเสียเวลานั่งสูบบุหรี่คอยอยู่นี่นานแล้ว) พักอยู่ขนำนาคุยกับโยมได้พักหนึ่ง หลวงตามหาบัวท่านก็พาหลวงปู่ลีเดินออกเที่ยววิเวก หลวงปู่ลีท่านบอกหลวงพ่อสมศรีว่า ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา เวลาว่าหยอกกันตามประสาอาจารย์ศิษย์พ่อลูก หรือเวลาที่องค์หลวงตามหาบัวท่านเขียนลิขิตธรรมใดๆ ถึงหลวงปู่ลี กุสลธโร หลวงตามหาบัวท่านก็มักจะพูดหรือเขียนคำจ่าหน้าซองจดหมาย หยอกศิษย์ “คชสารธรรม” ขององค์ท่านว่า “ท่านพระอาจารย์ธรรมลี ท่านผู้มีธรรมอันลัดทุ่ง” บันทึกโดย ครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 16 มิ.ย. 2019, 12:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม จ.เลย |
แถวหน้า จากซ้าย : หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร, หลวงปู่บัวทอง กันตปทุโม, พระอาจารย์สมัย ธัมมโฆสโก, พระอาจารย์ผจญ อสโม แถวหลัง จากซ้าย : หลวงพ่อบุญรอด อธิปุญโญ, หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ, หลวงปู่รินทร์ (กองมี) ปิยสีโล และพระอาจารย์นิสสัย กันตวีโร ในงานถวายกฐินแด่วัดป่าเวฬุวนาราม (วัดป่าผาน้อย) จ.เลย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ (ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ : คุณ Pakorn Kengpol) ----------------------------------- การจำพรรษาของหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ พรรษาที่ ๑-๒ สองพรรษาแรกที่หลวงพ่อสมศรีท่านบวชมา ท่านจำพรรษาร่วมกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พรรษาที่ ๓ ท่านได้อยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ผาง ปริปุณฺโณ หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร และสามเณรอีก ๒ รูป ที่สำนักสงฆ์บ้านซำขี้นาค ต.หินฮาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พรรษาที่ ๔ ท่านจำพรรษาที่วัดป่าอูบมุง ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พรรษาที่ ๕ ท่านมาจำพรรษาที่วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ร่วมกับหลวงปู่ผาง ปริปุณฺโณ และได้ช่วยเตรียมงานถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ พรรษาที่ ๖ ท่านได้ติดตามหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร ไปกราบนมัสการหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และได้อยู่จำพรรษา ที่วัดป่าห้วยลาด ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ร่วมกัน ๓ รูป คือ หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร และหลวงพ่อเจริญ อมโร แห่งวัดป่าภูวังทอง บ้านพรหมลิขิต ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี พรรษาที่ ๗ ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านเหล่า ต.บ้านเหล่า อ.คําชะอี จ.มุกดาหาร ร่วมกับหลวงพ่อศรีนวล ขันติธโร และหลวงพ่อบุญรอด อธิปุญโญ (ปัจจุบันหลวงพ่อทั้งสองรูปได้มรณภาพไปแล้ว) พรรษาที่ ๘ จำพรรษาที่วัดบ้านวังไฮ ต.ภูวง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร พรรษาที่ ๙ จำพรรษาที่วัดป่าสานตม ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ร่วมกับหลวงปู่ลี กุสลธโร และหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร กับสามเณรเฉลา ศรีบุรินทร์ (ปัจจุบันคือ พระอาจารย์เฉลา โกสโล เจ้าอาวาสวัดป่าสานตม) พรรษาที่ ๑๐ ก่อนเข้าพรรษาท่านได้ธุดงค์ร่วมไปกับหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร แล้วได้ไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แม่แสะ ต.โป่งเดือด อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พรรษาที่ ๑๑ หลวงปู่จันทร์เรียนพาท่านกลับมาดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสานตม ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย โดยมี หลวงพ่อขันตี ญาณวโร แห่งวัดป่าม่วงไข่ บ้านม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ร่วมจำพรรษาด้วย พรรษาที่ ๑๒ ท่านได้ติดตามหลวงปู่จันทร์เรียนธุดงค์เที่ยววิเวกไปทางภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และได้อยู่จำพรรษาด้วยกันสองรูป กับสามเณร ๑ รูป ที่สำนักสงฆ์บ้านป่าสักน้อย ต.บ้านเหล่า อ.เวียงชัย จ.เชียงราย หลังออกพรรษาท่านก็ธุดงค์กลับลงมาอุปัฏฐากหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย พรรษาที่ ๑๓ ท่านจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำผาสิงห์ ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ร่วมกับหลวงพ่อคำแปลง ปุณณชิ แห่งวัดป่าพรไพรวัลย์ บ้านดงสวรรค์ ต.ดงสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พรรษาที่ ๑๔-๒๐ หลวงพ่อสมศรีเที่ยววิเวกอยู่ที่เมืองเลย และจำพรรษาเวียนสลับอยู่ ๓ ที่ คือ วัดป่าห้วยลาด วัดป่าสวนกล้วย และวัดป่าอัมพวัน พรรษาที่ ๒๑-๒๕ หลวงพ่อสมศรีได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำสหาย บ้านทับกุง ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ร่วมกับหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร และได้อยู่ช่วยสร้างเสนาสนะภายในวัดถ้ำสหาย ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นสถานที่ธุรกันดารยิ่งนัก พรรษาที่ ๒๖ หลวงพ่อสมศรีกลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสวนกล้วย บ้านสวนกล้วย ต.กกทอง อ.เมือง จ.เลย ร่วมกับหลวงพ่อสมัย ธัมมโฆสโก แห่งวัดป่าบุญญานุสรณ์ ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พรรษาที่ ๒๗-๒๘ หลวงพ่อสมศรีกลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำสหาย จ.อุดรธานี ร่วมกับหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร พอออกพรรษาแล้วท่านจึงกลับมาอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และเป็นหัวหน้าหมู่คณะสงฆ์ที่วัดป่าโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย พรรษาที่ ๒๙ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ได้ให้หลวงพ่อสมศรี มาอยู่ที่วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นวัดเก่าที่หลวงพ่อประสิทธิ์ เคยอยู่มาก่อน หลวงพ่อสมศรีจึงอยู่จำพรรษาที่วัดป่าเวฬุวนาราม ตั้งแต่นั้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน หลวงปู่ขาน ฐานวโร - วัดป่าบ้านเหล่า หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ - วัดประสิทธิธรรม หลวงพ่อศรีนวล ขันติธโร - วัดป่านิโครธาราม หลวงพ่อขันตี ญาณวโร - วัดป่าม่วงไข่ หลวงพ่อคำแปลง ปุณณชิ - วัดป่าพรไพรวัลย์ หลวงพ่อสมัย ธัมมโฆสโก - วัดป่าบุญญานุสรณ์ ขอบพระคุณที่มาของข้อมูล : (๑) หนังสือสวดมนต์วัดป่าเวฬุวนาราม (วัดป่าผาน้อย) จ.เลย พิมพ์แจกเนื่องในโอกาสหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ มีอายุครบรอบ ๖๘ ปี (๒) งานเขียนของครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท (๓) งานเขียนของคุณทิตอุทัย พิลาชัย ร่วมกับครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท รวมคำสอน “หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=49039 ประมวลภาพ “หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=48909 |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |