วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 84 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 15:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว




PraAj_Vor_06.jpg
PraAj_Vor_06.jpg [ 100.9 KiB | เปิดดู 4980 ครั้ง ]
.. :b42: :b42: :b42: ..

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาคะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

7 มหัศจรรย์แห่งชีวิต และ 7 หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี

7 หลักคิดในเชิงบวก ที่สามารถหยิบมาเป็นยาชูกำลังใจในยามท้อแท้ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยใน 7 หลักคิด มีข้อคิดดีๆ อีก 7 ข้อ เป็นพลังมหัศจรรย์ของ 7x7


รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


1. ความคิดดีๆ เป็นที่มาแห่งความสุข แน่นอนว่าเมื่อเรามีความคิดดีๆ โลกก็จะดีตามอย่างที่เราคิด
ดังที่ท่านว่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า “โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลก
หากมองโลกในแง่ดี ชีวิตมีแต่สิ่งรื่นรมย์ หากมองโลกในแง่ร้าย ชีวิตมีแต่ความวุ่นวายและทุกข์ระทม”

รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


2. ปัญญาดีย่อมมีความสุข คนมีปัญญาย่อมใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาเพื่อให้พ้นทุกข์
ดังนั้น สำหรับคนมีปัญญา วิกฤตอยู่ไหน ปัญญาอยู่นั่น ส่วนคนด้อยปัญญา โอกาสอยู่ไหน
วิกฤตอยู่นั่น จงเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา เปลี่ยนอุปสรรคเป็นอุปกรณ์


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


3. ชีวิตของคนดีคือชีวิตที่มีความสุข
ดังท่านว่า ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่มนุษย์หอมได้ทุกคน หากเขาเป็นคนดี
กลิ่นดอกไม้แม้หอมขนาดไหน ก็หอมได้แต่ตามลมเท่านั้น
ส่วนกลิ่นความดีของคนดีนั้น หอมหวนทวนลม ฟุ้งกระจายไปในทิศทั้งสี่
ดอกไม้ผลิบานแล้วไม่นานก็ร่วงโรย
แต่ความดีของคนนั้น สถิตเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 03 พ.ค. 2010, 17:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 17:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


4. ปฏิสัมพันธ์ดีก็มีความสุข ซึ่งเป็นการเลือกคบมิตร
โลกนี้มีมิตรอยู่ 3 ประเภทคือ
1. ปาปมิตร เพื่อนชั่ว จงอย่าคบ
2. กัลยาณมิตร เพื่อนดี จงคบ
3. พันธมิตร เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ จงระวัง

รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 17:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


5. ทำงานดีก็มีความสุข ท่านว่าไว้
คนจำนวนมากเป็นทุกข์ขณะทำงาน แต่เบิกบานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
โดยหารู้ไม่ว่า ในหนึ่งสัปดาห์มีเสาร์-อาทิตย์แค่สองวัน
จงเป็นสุขขณะทำงาน จงเบิกบานขณะหายใจ


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 03 พ.ค. 2010, 17:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


6. มองโลกในแง่ดี ชีวิตมีความสุข ดังผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า
“ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด
ใครทำความเข้าใจคำกล่าวนี้ได้อย่างลึกซึ้ง คนนั้นจะไม่ทุกข์ และเขาจะไม่หวั่นไหว
ในความผันแปรของชีวิต สิ่งใดเกิดขึ้นมาเขาจะอุทานอยู่เสมอว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”

รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


7. ครอบครัวดีทวีความสุข ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของชีวิต
บุตรธิดาคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่
หากลูกเป็นคนดี อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็งดงาม
หากลูกเลวทราม อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็อัปลักษณ์


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

วชิรเมธี เร่งเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก ล่าสุดเปิดโรงเรียนเตรียมสามเณรหวังปั้น “ยอดคน” และ “พระธรรมทูตรุ่นใหม่” ให้เป็น “ยอดครู” เพื่อช่วยจรรโลง สังคม มีเป้าหมายว่า 10 ปี ประชาชนชาวไทยจะได้เห็นพระที่มีความรู้พร้อมทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างเป็น รูปธรรม

รูปภาพ
ข้อกังขาในเรื่องการปฏิบัติย่อหย่อนจนถึงขั้นการประพฤติผิดตามบท บัญญัติในพระพุทธศาสนาของพระสงฆ์บางส่วนที่ตกเป็นข่าวสู่สังคมในยุคปัจจุบัน จนเป็นที่ห่วงใยของพุทธศาสนานิกชนที่ต้องการคำตอบอยู่หลายประการ ขณะที่พระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบท่านก็ยังดำเนินการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี พระสงฆ์ซึ่งเป็นนักคิด นักเขียน นักพัฒนา ผู้มีภูมิรู้สูงถึงระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค ได้ใช้การสื่อสารทั้งการเขียน การบรรยายกระตุ้น ความคิดและแนะวิถีปฏิบัติที่ดีแก่ผู้คนร่วมสมัย
ข้อเขียนทั้งบทความ และหนังสือเชิงธรรมที่ใช้นาม ปากกา “ว.วชิรเมธี” ที่เผยแพร่อย่างกว้างขวางเป็นที่ชื่นชอบและศรัทธาของสังคมอย่างกว้างขวาง

รูปภาพ
ขณะนี้แผนยุทธศาสตร์การสร้างกำลังพลผู้ใฝ่ธรรมพร้อมแล้วที่จะขับ เคลื่อนเพื่อฟื้นฟูสังคมคุณธรรม

• ประยุกต์คำสอนเพื่อยกระดับคนร่วมสมัย
“วิมุตตยาลัย”ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน เพื่อเป็นสถาบันเพื่อเคลื่อนสันติภาพโลกและการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเชิงรุก หรือ Apply Buddhism
“เพราะธรรมะถ้าไม่ประยุกต์มันตามโลกไม่ทัน เช่นสมมติพระสอนเรื่องการคอร์รัปชั่น เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วตัวอย่างที่มีในพระไตรปิฏก คือ นาย ก.ไปขโมยกล้วย นาย ข. 1 ผล นี่คือการละเมิดศีลข้อ 2 คืออทินนาทาน พระจะหยิบเอาเรื่องนี้มาอธิบายในยุคทุกวันนี้ ว่านาย ก. ไปขโมยกล้วย นาย ข. ฉะนั้นก็ผิดศีลข้อ 2 ก็จะเป็นตัวอย่างที่เร่อร่าล้าสมัยมาก ซึ่งคนรุ่นใหม่เขาคงไม่ฟังกัน”
แต่ถ้าเรานำเอาศีล 5 ข้อมาอธิบายเชิงประยุกต์ใหม่ในรูปแบบพระพุทธศาสนาเชิงประยุกต์ และอาตมาเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะฟังแล้วเข้าใจได้ง่ายคือ
ศีลข้อที่ 1 หมายถึงการไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ เพราะเจตนารมณ์ของศีลข้อที่ 1 คือห้ามเบียด เบียนสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
ศีลข้อที่ 2 หมายถึงการไม่ละเมิดกรรมสิทธิ์หรือลิขสิทธิ์ทางปัญญาทั้งหมดหรือการครอบครอง ในสิ่งที่ตัวเองไม่มีสิทธ์ที่จะครอบครองทั้งหมด
ศีลข้อที่ 3 คือการไม่ละเมิดจริยธรรมทางเพศและการละเมิดจริยธรรมของคู่ชีวิตทั้งหมด
ศีลข้อที่ 4 คือการไม่ละเมิดในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอันเป็นจริงหรือการมอมเมาประชาชน จากข้อมูลอันเป็นเท็จจัดอยู่ในศีลข้อที่ 4 ทั้งหมด
ศีลข้อที่ 5 คือการมอมเมาประชาชนด้วยสุรา ยาเสพติดทั้งหมดเลย
“นี่คือพระพุทธศาสนาฉบับประยุกต์ใหม่แล้ว เป็นคำอธิบายที่คนรุ่นนี้ฟังแล้วรู้เรื่อง ฉะนั้นถ้าเราไม่ประยุกต์เราจะไม่สามารถขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาให้ตอบโจทย์คน ร่วมยุคร่วมสมัยได้เลย”

รูปภาพ

• “วิมุตตยาลัย” พระพุทธศาสนาเชิงรุก
พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) จัดตั้งสถาบันนี้ขึ้นเพื่อใช้ขับเคลื่อนสันติภาพโลกและการเผยแผ่พระพุทธ ศาสนา เชิงธรรมประยุกต์(Apply Buddhism)โดยมีภารกิจที่สำคัญ 4 ประการคือ การศึกษา การเผยแผ่ การพัฒนาสังคม และการสร้างสันติภาพโลก
ภารกิจที่หนึ่งด้านการศึกษานั้น จะเน้นการส่งเสริมการศึกษาในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังได้มีการสร้างโรงเรียนเตรียมสามเณรขึ้นที่วัดครึ่งใต้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างพระธรรมทูตรุ่นใหม่ที่มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอวดสายตาชาวโลกได้
โครงการด้านการศึกษานี้จะส่งเสริมให้ภิกษุสามเณรสามารถศึกษาได้ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไปจนถึงระดับปริญญาเอก โดยจะเรียนทั้งทางโลกคือหลัก สูตรสามัญของกระทรวงศึกษาธิการ และหลักสูตรของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ส่วนระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ได้รับความร่วมมือจากสถาบันราชภัฏเชียงราย เพื่อรองรับพระภิกษุที่จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมสามเณรไปศึกษาต่อ ในระดับปริญญานี้จะได้รับปริญญาศึกษาศาสตร์บัณฑิต นั่นคือจบมาแล้วจะต้องเป็นครูที่มีคุณ ภาพของคนในสังคมต่อไป
“สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ท่านก็ทรงพอพระราชหฤทัยมากมีรับสั่งว่า โรงเรียนเตรียมแพทย์ เตรียม ทหาร เตรียมครู มีหมด ทำไมไม่มีใครทำโรงเรียนเตรียมพระดีๆให้กับสังคมไทย อยากจะให้พระอาจารย์ทำโรง-เรียนนี้ให้เป็นโรงเรียนเตรียมสามเณร แล้วพระองค์ท่านก็ทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ ทรงส่งปัจจัยไปถวายทุกภาคการศึกษา และสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับภิกษุสามเณรอย่างต่อเนื่อง”
ภารกิจที่สองคือภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในทุกรูปแบบ ซึ่งมีทั้งการเผยแผ่ ด้วยการเทศน์ การสอน การเสวนา การปาฐกถา การบรรยาย การเขียนหนังสือ เป็นคอลัมนิสต์ การจัดรายการวิทยุ การทำเว็บไซต์ธรรมะ ทำรายการโทรทัศน์ การจัดหลักสูตรอบรม วิปัสนากรรมฐาน
ล่าสุดมีการสร้างวัดป่าชานเมือง ในพื้นที่ 80 ไร่ บริเวณคลอง 14 รังสิต จะมีการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 9 เดือน 9 ปีนี้
ภารกิจที่สามคือ งานด้านการพัฒนาสังคม เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องความยากจน การหลงผิด เช่น ทุกวันนี้สังคมไทยกำลังหลงผิดเอาวัตถุนิยมมาเป็นศาสดาองค์ใหม่แทนพระ พุทธเจ้า
“การที่สังคมไทยหมิ่นเหม่ที่จะเกิดความรุนแรงหลายครั้งอาตมาก็ นิมนต์พระสงฆ์ชั้นนำไปขอบิณฑบาตความรุนแรง หรือกรณีที่สังคมไทยมีทัศนคติที่มีความวิปริตผิดพลาด เช่นเรื่องการตัดเวรตัดกรรมซึ่งมันนอกรีตนอกรอยไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฏก”
ปรากฏการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ต้องทำงานเชิงรุกโดยไปออกรายการทีวีแสดงความคิดความเห็นที่ถูกต้องว่าพระ พุทธเจ้าท่านว่าอย่างนี้ นะ ไม่ใช่ทำแบบนั้น เราต้องมีความมั่นคงเชื่อมั่นในคำสั่งสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ นี่ก็คือส่วนงานพัฒนาสังคมที่เราต้องเร่งทำให้คนไทยได้รู้หลักจริงๆ
ภารกิจสุดท้ายคืองานสร้างสรรค์สันติภาพโลก โดยการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก หรือที่เรียกกันว่าวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งทุกวันนี้พระอาจารย์ได้เดินสายบรรยายธรรมและนำการปฏิบัติธรรมทั้งในและ ต่างประเทศเพราะมีความเชื่อมั่นว่า สันติภาพสากลขึ้นอยู่กับสันติภาพส่วนบุคคลเป็นหลัก คือกล่าวอย่างหนึ่งว่าสันติภาพส่วนบุคคลคือสันติภาพสากลที่แท้จริง
“อาตมาไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าสันติภาพเกิดขึ้นบนโต๊ะเจรจา เพราะนั่นไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง แต่เป็นเพียงการชะลอสงครามชั่วคราว โดยต่างฝ่ายต่างก็คุกคามซึ่งกันและกัน หรือบางทีก็กีดกันในเรื่องของการลงทุน การทำมาค้าขาย แม้ต่างฝ่ายต่างก็ลุกขึ้นมาประนีประนอมกัน เพื่อรอมชอมผลประโยชน์ แต่วันไหนที่ผลประโยชน์ขัดแย้งกันก็พร้อมที่จะปะทุเป็นสงครามได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นสันติภาพที่แท้จริงมันเกิดขึ้นได้เพราะการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเท่า นั้น”

• ตั้งโรงเรียนเตรียมสามเณรผลิต “ยอดคน”
ด้วยแนวคิดการประยุกต์พระพุทธศาสนาให้ทันต่อโลกยุคดิจิตอล จะเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ต้องสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน
พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี อธิบายว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกต้องอาศัยบุคลากรที่เป็น “ยอดคน” คือพระที่เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม เพื่อให้เราสามารถขับเคลื่อนการทำงานได้เป็นรูปธรรม ดังนั้นท่านจึงได้ริเริ่มสร้างโรงเรียนเตรียมสามเณรที่วัดครึ่งใต้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ขึ้นมา เพื่อผลิตบุคคลากรที่จบมาแล้วสามารถทำงานเป็นพระธรรมทูตชั้นนำให้กับประเทศ ไทย ได้ ผู้ที่จะเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ต้องบวชเพื่อเรียนอย่างเดียว เมื่อจบออกมาก็จะไปเป็นพระธรรมทูตที่ต้องทำงานให้กับคณะสงฆ์และชาวโลก
ลูกศิษย์ของที่นี่จะเป็นผู้ที่มีความรู้ทางธรรมและทางโลกดีเยี่ยม พร้อมกับมีความรู้ทางวิปัสสนากรรมฐานดีเยี่ยม นอกจากนี้พระของเราจะต้องสามารถเทศน์ได้อย่างน้อย 2 ภาษา ซึ่งปัจจุบันมีผู้เรียน 120 รูป ส่วนรุ่นต่อไปจะเปิดรับสมัครในปีการศึกษา 2553
“อาตมาตั้งเป้ารับสามเณรแค่ 120 รูปเพราะอยากให้โครงการนี้เป็นลักษณะ “จิ๋วแต่แจ๋ว” หรือ “เล็กแต่ลึก” และหวังว่าภายใน 10 ปีเราจะมีพระที่เป็นปัญญาชนคนรุ่นใหม่ก้าวสู่สังคมไทยและนำพระพุทธศาสนาที่ แท้จริงออกเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รู้ว่า พระพุทธศาสนาที่แท้จริงเป็นพระพุทธศาสนาที่ make sense
เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่เข้าถึง ยาก บางครั้งเห็นแล้วส่ายหน้า เพราะมีพระที่เป็นสาวกของพระพุทธองค์ ทำทุกอย่างตรงข้ามกับที่พระพุทธเจ้าสอน เช่นพระพุทธเจ้าสอนให้พึ่งตัวเอง ก็หันมาพึ่งเทพ พระพุทธเจ้าสอนให้ใช้ปัญญากลับหันไปใช้ความงมงาย พระพุทธเจ้าสอนให้เป็นไทแก่ตัวก็กลับไปขึ้นกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เมื่อพระไม่เป็นตัวของตัวเองพึ่งตัวเองก็ไม่ได้ นี่คือปัญหาที่มีคนถามว่าทำไมพระพุทธศาสนาจึง “สาละวันเตี้ยลง”
การแก้ปัญหานั้นเอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากจะทำให้ตัว เราเองดูดี แต่การลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการสร้างโรงเรียนพระชั้นนำขึ้นมา นั่นจะทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไข”

• สนับสนุนเรียนชั้นสูงสุด
การเข้าโรงเรียนเตรียมสามเณรเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่า นั้นเพราะพระอาจารย์ ว.วชิรเมธีได้รับการสนับสนุนจาก ญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาและมองเห็นความสำคัญของการศึกษาเข้ามาร่วมมือเพื่อ ช่วยงานสร้างพระธรรมทูตรุ่นใหม่ออกมาให้ความรู้แก่พุทธศาสนิกชนอย่างถูกต้อง
เนื่องจากโครงการนี้จะทำอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีโครง การพ่อแม่บุญธรรม เพื่อชักชวนชาวพุทธทั่วประเทศให้ร่วมกันเป็นพ่อแม่บุญธรรมของสามเณรทั้ง 120 รูป ด้วยการถวายทุนการศึกษากับภิกษุสามเณรแล้วแต่ความสมัครใจ โดยอาจจะถวายเป็นรายเดือน เดือนละ 500 บาทต่อรูป หรือจะถวายรายสะดวกหรืออาจจะถวายทีเดียวเป็นก้อนตามกำลังศรัทธา โดยปัจจัยทั้งหมดจะนำไปเป็นทุนการศึกษาของภิกษุสามเณรตั้งแต่ระดับมัธยม ศึกษาตอนต้นเป็นต้นไป
หากผู้สนใจก็ติดต่อได้ที่สถาบันวิมุตตยาลัย โทร.02-422 9132 หรือ 087-0807779 087-0110737 โทรสาร 02-422 9128
อย่างไรก็ดีหากผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกหลานบวชเรียนในโรงเรียน เตรียมสามเณร ต้องพร้อมที่จะให้ลูกมาบวชเรียน และอยู่ในโครงการนี้ต่อเนื่อง 6 ปีคือตั้งแต่ ม.1-ม.6 และเรียนนักธรรมตรีถึงนักธรรมชั้นเอก ซึ่งเป็นหลักสูตรบังคับต้องเรียน จากนั้นหากเณรรูปใดต้องการเรียนในชั้นสูงต่อไปก็จะสามารถเรียนต่อในระดับ ปริญญา ตรีได้ทันที
“ตอนนี้เราได้เปิดเรียนถึงระดับปริญญาตรีถึงเอกแล้ว และมีญาติโยมได้มาให้ทุนการศึกษาในระดับปริญญาเอกไว้แล้ว 8 ทุน ซึ่งหากมีพระรูปใดมีกำลังปัญญาเรียนจะมีคนอุปถัมภ์เรื่องทุนการศึกษาทันที ซึ่งในอนาคตพระเณรที่อำเภอเชียงของและอำเภอใกล้เคียงสามารถเรียนได้ตั้งแต่ ชั้น ม.1 ถึงปริญญาเอกได้โดยไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ โดยการศึกษาภาคบังคับใช้พระสอนการศึกษาในระดับมัธยมใช้ครูบาอาจารย์ทั่วไป สอน ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายรับผิดชอบ”
นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติม 3 หลักสูตรคือหลักสูตรสมบัติผู้ดีสำหรับภิกษุสามเณรหรือหลักสูตรพัฒนา บุคลิกภาพสำหรับพระภิกษุสามเณร เพื่อสร้างเสริมศรัทธาเบื้องต้น
หลักสูตรที่สองคือหลักสูตรยุวประพันธกร คือหลัก สูตรนักเขียนน้อย ที่เน้นฝึกเขียนเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรูปแบบของหนังสือธรรมะ ส่วนหลักสูตรที่สามคือหลักสูตรยุวธรรมทูตคือหลักสูตรพระธรรมทูตน้อย

• ใช้เครือข่าย-พระธรรมทูตร่วมทำงาน
แม้ความหวังที่จะผลิต “ยอดพระ” ออกสู่สังคมจะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 10 ปีในระหว่างนี้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยท่านหวังว่าเครือข่าย “อาสาสมัครธรรมะภาคี” หรือโพธิสัตวภาคี จะเป็นฐานรองรับชั้นเยี่ยมกับการผลิตพระชั้นยอดในอนาคต
พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เล่าว่า ทุกวันนี้สถาบันวิมุตตาลัย เป็นแหล่งขับเคลื่อนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก มีคนทำงานประจำแค่ 6 คน แต่จะใช้ทำงานเป็นเครือข่ายที่กว้างขวางและเชื่อมโยง โดยอาสาสมัครของเรามีตั้งแต่ เชื้อพระวงศ์ลงมา ถึงเศรษฐี ดารา ซุปเปอร์ สตาร์ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนเหล่านี้อุทิศตนมาช่วยงานของสถาบัน โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนแต่เขาเหล่านี้จะได้รู้จักคุณค่าของตัวเองมากยิ่ง ขึ้น
“อาตมาเห็นว่าเราได้สร้างพระอิฐพระปูนกันมามากแล้ว วันนี้ถึงเวลาที่เราจะมาสร้าง “พระพูดได้” บ้างเพราะอาตมามีความเชื่อมั่นว่าพระธรรมทูตเพียงหนึ่งองค์ที่มีความรู้ความ สามารถทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างดีเยี่ยมจะสามารถดำรงพระศาสนาได้นานนับพัน ปีเลยทีเดียว”

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 106 กันยายน 2552 โดยพิมพ์ศุจี)

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมบุตร เมื่อ 03 พ.ค. 2010, 19:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 03:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีอยู่กับคนที่เราไม่ชอบ (ว.วชิรเมธี)


รู้ไหมว่า...เรามีเวลา อยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี

ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีก
จะ ตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
ถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัว หลับๆ ตื่นๆ
อยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลง
หมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้
ริษยาเจ้านาย ใส่ไคล้ลูกน้อง
ปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)
คนรุ่นใหม่หลงใหลเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่า
อะไร คือ สิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริง
คิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน

ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า
'“น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง
ใบไม้ ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน
ฆ่าชีวา คือ พร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด”'
คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัว ปล่อยใจ
ให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก
เพราะถ้าเราวิ่งตาม กิเลส
กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ
กิเลสไม่ เคยเหนื่อย
แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า

ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมา
เพื่อที่จะชอบ หรือไม่ชอบใคร
หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบ หรือมาชัง
แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้
เพื่อทำใน สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ
เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้น
หันกลับมามองตัวเองดีกว่า
ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่ เป็นแก่นสาร
มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ
นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออก ไปอีกว่า
เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง
คนทุกคนนั้นต่าง ก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง
ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา
จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้

เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจ ด้านไม่ดีของคนอื่น
ก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า
บางที่ คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น
เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกัน กับเราเลย
เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียว
ด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย
วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้
ไม่เคยทำให้ ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย

ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า
คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อม
หรือเลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก
เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี
ประเดี๋ยว เดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม
อะไร ที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง
ความโกรธ ความเกลียดนั้น

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 03:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนธรรมดาทำบุญก็อยากได้บุญ
คนมีปัญญาทำบุญหวังจะเกิดในภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม
แต่ชาวพุทธแท้ทำบุญเพื่อการปล่อยวางกิเลสอย่างสิ้นเชิง

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมบุตร เมื่อ 04 พ.ค. 2010, 04:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 84 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร