วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 08:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ


วัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด)
ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม



๏ อัตโนประวัติ

“หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่ามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคอีสานเมื่อร้อยปีที่ผ่านมา ร่วมสมัยกับ “หลวงปู่ศรีธรรมศาสน์” แห่งวัดใต้โกสุม ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และ “หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ” แห่งวัดบ้านเสือโก้ก ตำบลเสือโก้ก อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

ในปัจจุบันวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนของทั้ง 3 ท่าน มีราคาเช่าหาในท้องถิ่นหลักพันกลางๆ ส่วนการสืบค้นประวัติของหลวงปู่ป้อ จากปากคำของพระอาจารย์สุข พลลาภ อดีตพระที่เคยปนนิบัติหลวงปู่ป้อ ก็ได้ข้อมูลพอสังเขปเท่านั้น เนื่องเพราะอัตโนประวัติของท่านไม่มีการบันทึกไว้แต่อย่างใด ทราบเพียงว่า หลวงปู่มีพี่สาว 2 คนคือ นางพันและนางจันทร์ โดยหลวงปู่ป้อเป็นบุตรคนสุดท้อง ส่วนโยมบิดา-โยมมารดาไม่ทราบชื่อ เพราะบรรดาญาติๆ ต่างเสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเป็นชั้นเหลน

หลวงปู่ป้อ เกิดประมาณเดือนมกราคม ปี พ.ศ.2415 ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายบ้านเรือนออกไปอยู่บ้านโนนสะพัง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งใหม่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเอียดเท่าใดนัก ครอบครัวหลวงปู่มีอาชีพทำไร่ทำนาเหมือนชาวอีสานทั่วๆ ไป เมื่อสมัยยังเล็กๆ ท่านก็ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง

รูปภาพ
หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ


๏ การบรรพชาและอุปสมบท

พออายุกว่าสิบปี โยมบิดา-โยมมารดาได้นำไปบรรพชาเป็นสามเณร และเมื่ออายุ 20 ปี ในปี พ.ศ.2435 จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดในหมู่บ้าน แต่ไม่ทราบว่าพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นผู้ใด


๏ ออกธุดงควัตรและศึกษาด้านไสยเวท

หลังจากอุปสมบท ท่านได้จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความขยันขันแข็งอยู่วัดบ้านเอียด มาโดยตลอด ท่านเป็นพระที่เคร่งพระธรรมวินัยมากที่สุดในยุคนั้น แต่ด้วยความที่หลวงปู่ชมชอบความสงบวิเวกช่วงหลังออกพรรษาแทบทุกปี หลวงปู่จะออกธุดงควัตรไปแสวงหาความหลุดพ้นตามป่าเขาลำเนาไพรตามป่าในภาคอีสาน

และยังได้ศึกษาเล่าเรียนไสยเวท โดยสันนิษฐานว่า น่าจะศึกษาจากสำนักพระอาจารย์โสภาวดี วัดฟ้าเหลื่อม อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพระเกจิสายอีสานยุคนั้นมักจะไปเล่าเรียนที่วัดแห่งนี้แทบทั้งสิ้น ความเข้มขลังของท่านเป็นที่เลื่องลือมากในยุคนั้น ท่านเก่งทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีกันบ้านกันเมือง

หลวงปู่ป้อเป็นพระที่แม่นพระธรรมวินัย จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระวินัยธร และแม่นกฎหมาย อาจารย์พรหมา รักษาเกณฑ์ อดีตเคยเป็นครูสอนอยู่บ้านเอียด ปัจจุบันอายุเกือบ 80 ปี เล่าว่า เมื่อกว่า 60 ปีที่ผ่านมา มีนายตำรวจคนหนึ่งยศร้อยตำรวจโท ออกตรวจพื้นที่มาพบหลวงปู่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และพูดจาทำนองดูถูกว่าหลวงปู่เป็นพระแก่ จึงเกิดมีปากเสียงกัน นายตำรวจท่านนั้นจับท่านไปโรงพัก

หลวงปู่ก็ถามว่าจะเอากฎหมายมาตราไหนมาจับท่าน ตำรวจไม่สามารถจะแจ้งข้อหาอะไรได้จึงต้องปล่อยหลวงปู่ๆ จึงเทศน์สั่งสอนให้ตำรวจดูตราที่หน้าหมวกที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานมา มีข้อความว่าอย่างไร สุดท้ายนายตำรวจท่านนั้นเกิดสำนึกผิด จึงได้กราบขอขมาท่านซึ่งหลวงปู่ก็เมตตาให้อภัย

รูปภาพ
หลวงปู่มหานนท์ พรหฺมสีโล


๏ พระนักพัฒนา

หลวงปู่ป้อยังเป็นพระนักพัฒนา ท่านได้พัฒนาวัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลาการเปรียญ นอกจากนั้น ท่านยังเป็นหัวแรงใหญ่ชักชวนชาวบ้านก่อสร้างโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นในหมู่บ้าน จนเป็นผลสำเร็จปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน

ในยุคนั้น ด้วยบารมีของหลวงปู่ป้อท่านทำให้มีผู้แสวงบุญมากราบนมัสการ และฟังธรรมที่วัดบ้านเอียดอย่างล้นหลาม ด้วยกิตติศัพท์ที่เลืองลือในเรื่องความเข้มขลังด้านไสยเวท ด้านยาสมุนไพร จึงมีพระภิกษุ สามเณร และฆราวาส จากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบกรานขอฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่ป้อจำนวนมาก เช่น หลวงปู่เสาร์ วัดศรีสุข, หลวงปู่มหานนท์ พรหฺมสีโล เป็นต้น นอกจากนั้น วัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ยังเป็นสำนักเรียนที่มีเชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีพระภิกษุสามเณรจากทั้งใกล้และไกล มาศึกษาเล่าเรียนกับหลวงปู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านจะเคร่งครัดมาก หากไม่ตั้งใจศึกษาท่านจะไม่ให้อยู่ที่วัดอย่างเด็ดขาด

รูปภาพ
รูปหล่อหลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ


๏ การมรณภาพ

ล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัยด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงปู่มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง แต่ด้วยความที่ท่านปลงอนิจจังสังเวชเห็นว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดาของสัตว์โลก ท่านจึงไม่ยอมฉันยาใดๆ ทั้งสิ้น สุดท้ายท่านได้มรณภาพทิ้งสังขารลง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 สิริอายุรวมได้ 87 พรรษา 67 หลังเก็บสังขารท่านไว้จนถึงปี พ.ศ.2503 จึงมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ แม้หลวงปู่ป้อจะละสังขารไปนานกว่า 40 ปีแล้ว แต่คุณความดีของท่ายังปรากฏอยู่ในจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสานตราบจนกระทั่งปัจจุบัน

รูปภาพ
หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ



.............................................................

คัดลอกมาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เชิด ขันตี ณ พล
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5582

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร