วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 05:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


lock กระทู้ โดยเว็บมาสเตอร์


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
และการที่ คุณโฮฮับ ตั้งกระทู้
เรียนทางเว็บบอร์ด กรุณาตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลด้วยครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=39671
ก็ทำได้เช่นกัน ถือว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรม ทั้งไม่ได้ทำผิดกฎกติกา มารยาทฯ ด้วย

เรียนท่านเว็บมาสเตอร์ หลังจากที่ผมได้ถูกทำโทษจากท่านจนครบบริบูรณ์และ
พิจารณาแล้วว่าผมต้องมาอยู่ในสังคมอีกครั้ง ผมจึงใคร่ขอความกรุณา ทำความเข้าใจ
กับท่านเว็บมาสเตอร์ เพื่อให้สมาชิกในเว็บนี้ ไม่มองผมไปในทางรังเกียจเดียดฉันท์
ซึ่งผมว่า มันสามารถทำได้ เนื่องจากท่านเว็บมาสเตอร์เคยกล่าวเอาไว้(ตามอ้าง)

และกรุณาอย่าคิดว่าผม เป็นคนดื้อด้านไม่ยอมคน คิดเอาแต่ชนะคะคาน
ในใจผมคิดอย่างเดียวว่า ผมแสดงความเห็นไปด้วยใจที่เป็นกุศล อยากให้สมาชิก
มองความเห็นที่ต่างออกไปอีกมุม อาจมีแง่คิดบ้างไม่มากก็น้อย

ฉะนั้นกระทู้นี้ ผมเพียงอยากแสดงความเห็นต่อคำพูด ที่ใช้พิจารณา
ลงโทษผม อย่าคิดว่าผมมาเรียกร้องอะไร เพราะผมยอมรับโทษแต่โดยดี
และผมก็ได้รับโทษนั้นไปแล้ว เอาเป็นว่า ความเห็นต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนี้
มันเป็นเรื่องของกรณีศึกษาครับ


สิ่งแรกที่ผมอยากให้ท่านเว็บมาสเตอร์ พิจารณาครับว่า
ท่านเว็บมาสเตอร์เข้ามาตัดสินความในกรณีของผมกับคู่ความ
ตามหลักสากลแล้ว ท่านเว็บมาสเตอร์ก็เป็น ตุลาการศาล
ซึ่งคู่กรณีความจะต้องยอมรับทั้งสองฝ่าย แล้วอะไรที่เป็นสาเหตุ
ให้ยอมรับ ก็เพราะตุลาการย่อมต้องมีหลักจริยธรรรมคอยควบคุมอยู่

ก่อนที่จะฟ้องให้เป็นกรณีความกับคนอื่น ผมต้องยอมรับท่านเว็บมาสเตอร์
ด้วยเพราะคิดว่า ท่านจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องจริยธรรมของตุลาการเป็นอย่างดี
แต่หลังจากที่ท่านเว็บมาสเตอร์อ่านรายละเอียดที่ใช้ในการตัดสินความแล้ว
มันทำให้ผมผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยผมยอมเข้ามาในขบวนการแล้ว
มันย่อมต้องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องยอมรับโทษนั้นโดยดุษฎี

ผมจะแสดงให้เห็นเป็นเรื่องๆ ที่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของท่านเว็บมาสเตอร์
แต่อย่าลืมนะครับว่ากระทู้นี้ ไม่ใช่เป็นกระทู้สนทนา มันเป็นเพียงความเห็น
ในเชิงวิชาการ ไม่ได้มาตอบโต้ท่านเว็บมาสเตอร์หรือมาชวนสมาชิกสนทนา
ถ้าผู้ใดอดใจไม่ไหว ก็กรุณารักษามรรยาทในการสนทนา เพราะเท่าที่สังเกตุมา
ผลกรรมต่างในนี้ มันจะตกอยู่กับผู้ถูกกระทำหรือที่เรียกว่าปลายเหตุนั้นแหล่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 06:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมอยากให้ท่านเว็บมาสเตอร์ พิจารณาในหลักการของผู้ที่จะเข้ามาตัดสินความ
รวมทั้งคู่กรณีความทั้งสองฝ่ายครับว่า จะต้องยอมรับในหลักการเดียวกัน ผลของ
การตัดสินจึงจะเป็นที่ยอมรับด้วยกันทุกฝ่าย แล้วอะไรทีจะเป็นหลักการให้ทุกคนเชื่อถือ

มันก็ต้องเอาหลักการที่มีอยู่แล้ว และหลัการที่ว่ามันก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก
หลักการของตุลาการหรือศาล ซึ่งเราเรียกตามหลักสากลว่า "ขบวนการยุติธรรม"
เมื่อเราเอาขบวนการนี้มาใช้ มันย่อมต้องเอาหลักจริยธรรมมาด้วยเพราะเป็นขบวนการเดียวกัน

หมายเหตุ. ท่านเว็บมาสเตอร์หรือสมาชิกบางคน อาจจะอ้างว่า นี้เป็นเรื่องของ
เว็บบอร์ด ไม่ใช่เรื่องทางศาล สิทธิ์ขาดอยู่ที่ทางเว็บเขาตัดสิน แบบนี้ใช่ครับ
แต่อยากถามครับ แล้วมันจะได้รับการยอมรับของทุกฝ่ายมั้ยครับ อย่าลืมครับ
ทุกอย่างจะต้องมีแม่แบบในตัวของมันเอง ในสังคมประชาธิปไตยของประเทศเรา
มีแม่แบบหรือเป็นกรอบอยู่สามอย่างครับ คือ บริหาร ออกหลักเกณท์(กฎหมาย)
และยุติธรรม(ใช้กฎหมาย)


เมื่ออธิบายคราวๆแล้ว อยากชี้ให้เห็นบางจุดบางประเด็นครับ
อันแรกเป็นเรื่องของจริยธรรมของตุลาการ มันมีอยู่ข้อหนึ่งคือ
ข้อ ๙ ผู้พิพากษาพึงระลึกว่าการนำพยานหลักฐานเข้าสืบและการซักถามพยานควรเป็นหน้าที่ของคู่ความและ
ทนายความของแต่ละฝ่ายที่จะกระทำ ผู้พิพากษาพึงเรียกพยานหลักฐานหรือซักถามพยานด้วยตนเองก็ต่อเมื่อจำเป็น
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมหรือมีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ศาลเป็นผู้กระทำเอง

เครดิสครับhttp://lawclub7.blogspot.com/2011/02/2552_9825.html
นี้เป็นประกาศเรื่องจริยธรรมของตุลาการปี2552ครับ

ผมอยากชี้ให้ดูครับท่านเว็บมาสเตอร์ หลักการแห่งขบวนการยุติธรรมท่าน
กำหนดหลักเกณท์เอาไว้แบบที่ผมเอามาอ้าง แล้วเอามาเทียบกับการตัดสินความ
ทำโทษกระผม อยากให้ท่านลองกลับไปดูว่าคู่กรณีของผมกล่าวฟ้องอะไรผมบ้าง
แล้วเนื้อหาที่เว็บมาสเตอร์เอามาพิจารณามันเกินขอบเขตตามฟ้องหรือไม่

หลักเกณท์ของจริยธรรมอันนี้ข้อนี้ เป็นการกำหนดขึ้นเพื่อมิให้ตุลาการ
ไปทำหน้าที่สืบค้นกล่าวหาคู่ความเอง จะต้องพิจารณาไปตามเหตุผล
ของคู่ความเท่านั้น
แต่สิ่งที่เว็บมาสเตอร์กระทำ ผมขอโทษครับที่ต้องกล่าวว่า
ท่านทำเกินขอบเขตขบวนการยุติธรรมครับ และยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนของตัวเอง
ยิ่งทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการเข้าข้างพวกพ้องหรือลำเอียงครับ

คู่กรณีฟ้องผมในกรณีนี้และในกระทู้นี้ครับ
ชาติสยาม เขียน:
เรียน คณะผู้ดูแล
เรื่อง ขอเสนอแบนสมาชิก

สมาชิกชื่อโฮฮับ มีพฤติกรรมล่วงเกินปรามาสกล่าวร้ายครูบาอาจารย์
viewtopic.php?f=1&t=39611&p=273631#p273631

แต่ท่านเว็บมาสเตอร์ ไม่พิจารณาตัดสินไปตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง
ท่านเว็บมาสเตอร์ไปสืบค้น ค้นหาเอาผิดผมในกระทู้อื่นซึ่ง คู่ความผม
มิได้กล่าวถึง อีกทั้งไม่พิจารณาในส่วนที่ผมแก้ข้อกล่าวหา ว่าผมไม่ได้กล่าว
ถึงตัวบุคคล ผมวิจารณ์วิธีการ ซึ่งสามารถทำได้
กรุณาไปเปรียบเคียงดูครับ จากกระทู้นี้
posting.php?mode=quote&f=11&p=274507


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่ะ ท่านโฮ กลับมาแล้วเหรอ
ยินดีต้อนรับนะท่าน

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
คุณโฮฮับ : ขอ ban ๑ เดือน ด้วยเหตุผลดังนี้

(๑) กล่าวปรามาสและไม่เคารพต่อครูบาอาจารย์ ผู้ทรงศีลทรงธรรม
ซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่เคารพในสังคม
[ตัวหนังสือสีแดง]
กล่าวคือ ท่าน ว. ที่คุณแสงธรรม14 และคุณโฮฮับ กล่าวโต้ตอบกันนั้น
หากพิจารณาจากถ้อยคำและเนื้อหาที่กล่าวโต้ตอบกันโดยถี่ถ้วนแล้ว
ย่อมสื่อให้เห็นได้ว่าหมายถึง ท่าน ว.วชิรเมธี ไม่มีโอกาสจะเป็นท่านอื่นไปได้
เป็นการละเมิดกฎกติกา มารยาท ในการใช้บอร์ด ข้อที่ ๑


คำส่อเสียด คือ คำพูดยุยงให้คนทะเลาะกัน เข้าใจผิดกัน แตกแยกกัน
รวมทั้งหมายถึง คำพูดเหน็บแนม ถากถาง เย้ยหยัน กระทบกระเทียบ
ให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคืองใจ โกรธ อับอาย มีความทุกข์ ฯลฯ

[หมายเหตุ... สรุปความหมายของ “คำส่อเสียด” มาจาก ๒ แหล่ง
- หนังสือกรรมใดใครก่อ โดยพระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ
- บทความผลกรรมของคนชอบพูดส่อเสียด โดยหลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ][/color]

ผมขอทำความเข้าใจกับข้อหาแรกนี้ และขออนุญาติแสดงความเห็นนะครับ
การจะเอากฎเกณท์หรือกฎหมายมากำหนดโทษของผู้หนึ่งผู้ใด
ในหลักสากลแล้ว จะต้องมีหรือกำหนดข้อกฎหมายในไว้ก่อนที่จะมีผู้กระทำผิดครับ
การไปเอากฎข้อบังคับที่ตั้งขึ้นใหม่ แล้วมาใช้ย้อนหลัง ด้วยหลักแห่งความยุติธรรม
ไม่สามารถกระทำได้ครับ
อีกทั้งยังไปเอาคำอธิบายความของบุคคลใด อันไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชนมาใช้
ย่อมไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา เพราะถ้าทำแบบนี้ได้ ความลำเอียงอาจ
จะทำให้เลือกคำอธิบายความที่ก่อเกิดประโยชน์ต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่งครับ

อีกทั้งการนำเอาคำอธิบายความที่ ทำให้เกิดมีข้อโต้แย้ง มันยิ่งทำให้สิ่งนั้น
ไม่มีน้ำหนักในข้อกล่าวหาครับ ตัวอย่างเช่น ......
ท่านเว็บมาสเตอร์ เอาคำอธิบายความในเรื่อง คำส่อเสียดของใครก็ไม่รู้ โดยนัย
ผมไม่รู้จัก เมื่อผมได้ฟังแล้ว มันทำให้ผมเกิดข้อกังขาครับ
ในความเห็นผมที่เกี่ยวกับคำว่า"ส่อเสียด" มันไม่ได้มีความหมายแบบบุคคล
ที่ท่านเว็บมาสเตอร์นำมาอ้างครับ คำอธิบายมันกว้างมากเกินไปครับ
มันทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาครับ

ถ้าผมจะให้คำจำกัดความกับคำว่า"ส่อเสียด" เราต้องดูตัวคนที่สนทนา
และคำพูดมาประกอบกันครับ อย่างเช่นมีคนสองคนสนทนากันอยู่ แต่มีบุคคล
ที่สามที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง พูดสอดสอดแทรกขึ้นมาลอยๆในทำนองไม่เห็นด้วย
ลักษณะแบบนี้ครับ เขาเรียกคำพูดของบุคคลที่สามนั้นว่า "ส่อเสียด"


แต่การสนทนาของผมกับคุณแสงธรรม14 ปัญหามันไม่ได้เกิดจากบุคคลที่สาม
มาพูดจาสอดแทรก ปัญหามันเกิดจากการสนทนาแล้วไปหยิบยกบุคคลภายนอกมา
กล่าวอ้าง ในกรณีนี้ถ้าจะตีความมันเกี่ยวกับการพูดจาหมิ่นประมาท
ซึ่งผมได้แก้ข้อกล่าวหาไปแล้วว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงตัวบุคคล ผมพูดถึงวิธีการสอน
มันเป็นการวิจารณ์วิธีการสอนของบุคคลที่แสดงออกในที่สาธารณะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
[(๒) ใช้คำส่อเสียด เหน็บแนม เย้ยหยัน ดูหมิ่น บุคคลอื่น [ตัวหนังสือสีแดง]
[color=#0000FF]กล่าวคือ ไม่เป็นสัมมาวาจา ทั้งยังนับว่าเป็นวจีทุจริต อีกด้วย
เป็นการละเมิดกฎกติกา มารยาท ในการใช้บอร์ด ข้อที่ ๑

ส่วนข้อหานี้มันมีประเด็นอยู่สองข้อกล่าวหาคือ วจีทุจริต กับ สัมมาวาจา
ผมจะขออธิบายความในข้อ วจีทุจริตก่อนครับ หลักธรรมข้อนี้ เราๆท่านๆก็ทราบกันดีว่า
มีอยู่สี่อย่างคือ วจีทุจริตสี่ ดังนี้
1.พูดเท็จ คือพูดไม่จริง พูดตรงกันข้ามกับความจริง เพื่อให้เข้าใจผิด
2.พูดคำหยาบ คือพูดคำระคายหู คำหยาบโลน ไม่น่าฟัง ไม่เป็นคำผู้ดี
3.พูดส่อเสียด คือพูดยุยงให้คนอื่นแตกกัน ทะเลาะกัน พูดให้เขาเจ็บใจ
4.พูดเพ้อเจ้อ คือพูดพล่าม พูดเหลวไหล ไม่มีสาระ วกวนไม่รู้จบ ทำให้เสียเวลาและประโยชน์
แต่ท่านเว็บมาสเตอร์ได้หยิบยก ในข้อ3มากล่าวหาผม ซึ่งผมก็ได้อธิบายความไปแล้ว

มันแปลกครับ กับข้อหาที่ว่า ผมไม่มีสัมมาวาจา
ผมเกือบจะโต้แย้งเว็บมาสเตอร์ ด้วยบท มหาจัตตารีสกสูตร
เสียแล้ว เพราะเว็บมาสเตอร์ ว่ากล่าวผมด้วยข้อหาที่ซ้ำซ้อน

อนึ่งต้องเข้าใจด้วยว่า สัมมาวาจา มีอยู่2 คือสาสวะ
และอนาสวะ

ดังนั้นที่กล่าวว่าสัมมาวาจาคงจะเป็นสาสวะ
แต่เว็บมาสเตอร์รู้มั้ยว่า คำกล่าวที่ว่าไม่เป็นสัมมาวาจา
มันมีความหมายเดียวกันกับวจีทุจริตครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2011, 03:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ยังเน้นอันเดิมครับ

โฮฮับ เขียน:
ไอ้ลักษณะการสอนของท่านว.แหวน มันเหมาะสำหรับ
สอนเด็กนักเรียนครับ คืออาศัยพูดแบบปรัชญาเพื่อให้ดูทรงภูมิ
พูดเจ้าบทเจ้ากลอนให้ดูว่ามีความรู้
แต่ผมบอกได้คำเดียวครับ
มันคนละเรื่อง เป็นพระสอนธรรมมันต้องทำให้ศิษย์ลดการปรุงแต่ง
ไม่ใช่มาพูดจาชวนให้คิด ไหนต้องตีความในพระไตรปิฎกแล้ว ยังต้องมาตีความ
ปรัชญาภาษากลอนอีก ผมว่ามันจะไปกันใหญ่

มันหมดสมัยแล้วครับ กับการพูดจาที่ฟังดูไพเราะเพราะพริ้ง
แต่ยิ่งฟังยิ่งเกิดกิเลส เมื่อก่อนคนไม่อยากเข้าวัดก็เพราะหลวงตา
สอนบาลีล้วนๆฟังไม่รู้เรื่อง เดียวนี้หลวงพี่แกเล่นวิวัฒนาการมาเป็นปรัชญา
เป็นบทกลอนซะแล้ว



แค่นี้ก็ชัดเจนพอแล้ว
สอนแบบท่าน ว. ไม่ดีแย่อย่างนั้น แย่อย่างนี้
ทำนองว่า ต้องสอนแบบ ท่าน.โฮฮับ ถึงเลิศประเสริฐ

เถียงตะพึดตะพือ เสียเวลาเปล่าๆ ไม่เห็นว่าจะแก้ไขอะไรได้
คนอะไร กล้าทำไม่กล้ารับ เฉไฉไปเรื่อย

ข้อความนี้ เป็นหลักฐานและเป็นการยอมรับโดยปริยายว่า
ผมวิจารณ์การสอนไม่ได้ดูหมิ่นปรามาสเรื่องส่วนตัวใคร

ซึ่งตามหลักของตุลาการหรือผู้ตัดสินความจะต้องพิจารณา
แต่เฉพาะการนำเสนอของคู่ความเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2011, 04:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
[---> ขอยกคำกล่าวของคุณโฮฮับ จากเนื้อหาในกระทู้ข้างล่างนี้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=39671
โดยเชื่อมโยง กรณีท่านแรกที่โพสต์ข้อความหมิ่นเหม่เกี่ยวกับสถาบัน
ในอีกกระทู้หนึ่งข้างล่างนี้ (ข้อความเกี่ยวกับสถาบันถูกลบทิ้งไปแล้ว)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39427

mes เขียน:
โฮฮับเราเจอกัน

โฮฮับ เขียน:
พูดงี้ไม่ถูกนะครับ ต้องพูดว่า"โฮฮับมาเยี่ยมเราหน่อย"
อยู่คุกไหนก็บอกมาด้วย แต่ผมไม่ต้องรีบไปเยี่ยมก็ได้
เพราะคดีหมิ่นสถาบันนี่ติตนานครับ สงสัยแก่แล้วก็ยังมีโอกาสได้เยี่ยมคุณแน่ คุณเมส

โฮฮับ เขียน:
แล้วก็เลิกตีโพยตีพายได้แล้ว
คดีนี้คุณไม่ใช่พยานแต่เป็นจำเลย
ส่วนน้องชายคุณโดนข้อหาปล่อยปะละเลยหรือสนับสนุน
ให้เกิดการกระทำผิดครับ คุณเมส คุณไม่รอดแน่ คิดถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้เลย
แล้วผมจะซื้อโอเลี้ยงกับข้าวผัดไปเยี่ยม :b13:

ผมก็ไม่ทราบว่าท่านเว็บมาสเตอร์ พิจารณาว่า ผมไปกล่าวคำส่อเสียดคุณเมสได้ยังไง
ผมก็ได้อธิบายไปแล้วว่า ลักษณะอาการของคนที่พูดส่อเสียดเป็นอย่างไร

ไอ้ลักษณะของผมกับคุณเมส มันไม่ใช่การพูดส่อเสียดเลยครับ
แบบนี้เขาเรียก"วิวาทะ"หรืออีกนัยก็คือเถียงกัน ซึ่งตามหลักกฎหมาย
เขาตีความว่า เป็นการกระทำผิดทั้งคู่ แต่ตามหลักของธรรมะ ท่านจะดูที่สาเหตุครับ
ก็คือดูว่า ใครเป็นผู้ก่อหรือคนเริ่ม แล้วเรามาดูให้ดี คนที่เป็นผู้หาเรื่อง คือคุณเมส

คำพูดของคุณเมสที่เป็นต้นเหตุก็คือ"โฮฮับเราเจอกัน"
คำนี้ถ้าผมไม่ตอบโต้ด้วย มันจะเป็นคำกล่าวอาฆาตมาดร้ายในทันที
แต่เผอิญผมตอบโต้กลับไป มันจึงเป็นการวิวาทครับ
จุดสำคัญก็คือไม่ทราบว่า ท่านเว็บมาสเตอร์เอาประเด็นนี้
มากล่าวหาผมได้อย่างไร ความหมายคือมันไม่ตรงกับที่กล่าวหา
อีกทั้งมันผิดจริยธรรมของขบวนการยุติธรรม เพราะท่านห้ามมิให้
ผู้ตัดสินหยิบยกเกินกว่าที่คู่ความนำมาเสนอครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2011, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมขออนุญาติแนะนำท่านเว็บมาสเตอร์นะครับว่า ตุลาการจะต้องมีความละเอียดอ่อน
การพิจารณาจะต้องเอาคำของคู่สนทนามาเทียบเคียง แยกแยะสาเหตุก่อนหลัง
โดยไม่ตัดทอนเนื้อหาใดๆ

ผมจะแยกแยะความเห็นของท่านเว็บมาสเตอร์ให้ดูนะครับว่ามันมี
จุดบกพร่องตรงไหน
เว็บมาสเตอร์ เขียน:
ในเมื่อคุณโฮฮับเป็นคนบอกเองว่า ท่านแรกที่โพสต์ข้อความหมิ่นเหม่เกี่ยวกับสถาบัน
ข้อความที่เป็นปัญหามันก็ยังก่ำกึ่ง มันต้องตีความอีกว่ามันหมิ่นหรือไม่
เท่ากับบอกว่า ข้อความของท่านแรก ยังไม่แน่เลยว่าจะเป็นการหมิ่นสถาบันหรือไม่
แล้วใยไปกล่าวหาคุณ mes ซึ่งนำข้อความที่เป็นปัญหามาโพสต์ซ้ำ ล่ะค่ะว่า
ต้องติดคุกเพราะคดีหมิ่นสถาบันนานบ้าง ต้องไปนอนตะแลงแกงบ้าง เป็นจำเลยบ้าง ฯลฯ

ในเมื่อคุณโฮฮับบอกว่า ท่านแรกที่โพสต์...ยังไม่แน่เลยว่าจะเป็นการหมิ่นสถาบันหรือไม่
การโพสต์ซ้ำของคุณ mes...ก็ย่อมยังไม่แน่ว่าจะเป็นการหมิ่นสถาบันหรือไม่ ด้วยเช่นกัน

อันนี้ไงครับเว็บมาสเตอร์ ไม่พินิจพิจารณาให้ดีครับ มิหน่ำซ้ำยังแสดงความเห็น
ในลักษณะตัดทอน เสริมใหม่ในเนื้อหา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดหลักจริยธรรมอย่างร้ายแรงครับ

ถ้าเราพิจารณาให้ดีแล้ว ประเด็นมันมีอยู่สองส่วนครับ มีผู้ต้องหาสองคน
คือmuranoกับคุณเมส และมีการกระทำสองครั้ง การตัดสินความต้องแยกเป็น
กรณีๆไป ของคุณmuranoกับคุณเมส

ในกรณีของคุณmurano ก็คือ เรื่องโพสหมิ่นหรือไม่
ส่วนของคุณเมส ก็คือ การโพสข้อความซ้ำ

เรื่องที่ผมว่าคุณเมส ใจความสำคัญมันอยู่ที่แกดื้อด้านจะเป็นโจทก์
เอาผิดกับคุณmuranoให้ได้ผมเพียงต้องการชี้ให้แกรู้ว่า
ถ้าคุณmuranoผิด คุณเมสก็ผิดด้วย มันเป็นการทำร้ายตัวเองทางอ้อม
เพราะในความเป็นโจทก์ แกเป็นจำเลยไปในตัวด้วยครับ
ถ้าแกชนะคดีนี้แกย่อมแพ้อีกคดี หรือถ้าแพ้คดีนี้ แกก็แพ้คุณmuranoไปในตัว
อาจกล่าวอีกนัยว่า คุณเมสแกแพ้ เพราะความอาฆาตมาดร้ายในใจครับ
คำพูดของผมที่พูดกับคุณเมส มันเป็นลักษณะระวังกรรมสนองกรรม
ผมไม่ได้ว่าอีกคนผิดอีกคนถูก สิ่งที่คุณเมสแกทำมันเป็นกรรมใหม่
การฟ้องคุณmuranoเท่ากับว่าเป็นการฟ้องตัวเอง

ท่านเว็บมาสเตอร์ฟังคำพูดผมแล้วรู้สึกผิดปกติมั้ยครับ
จะบอกให้ครับ ความผิดปกติมันอยู่ตรงที่ แทนที่จะเป็นคำพูด
ของเว็บมาสเตอร์กล่าวเตือนคุณเมส แต่กลับเป็นผมที่ต้องไปเตือน
คนที่มีอคติกับผมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
(๓) พยายามบิดเบือนประเด็นและวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้
ให้เป็นไปในทางไม่สร้างสรรค์
เข้าข่ายเป็นการใช้คำส่อเสียดทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน
กระทบกระเทียบ เหน็บแนมให้ผู้อื่นคับแค้นใจ ขุ่นเคืองใจ
[ตัวหนังสือสีแดง]
เป็นการละเมิดกฎกติกา มารยาท ในการใช้บอร์ด ข้อที่ ๑

---> ขอยกคำกล่าวของคุณโฮฮับ จากเนื้อหาในกระทู้ข้างล่างนี้
[url]http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39693[/url

นี่ก็เป็นอีกกระทู้ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมโดนฟ้อง ประเด็นที่ผมถูกกล่าวหาคือ
การไปปรามาส ท่าน ว. มันเป็นหน้าที่ของคุณชาติสยาม ต้องอธิบายความว่า
ผมไปปรามาสท่าน ว. อย่างไร เมื่อไร ที่สำคัญหลักฐานที่จะมาเอาผิดกับผม
ต้องเอามาจากกระทู้ที่เป็นปัญหาครับ ไม่ใช่ไปขุดค้นเรื่องเก่าก่อนหน้า หรือ
เอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังตัดสินความครับ ถ้าจะเอาเรื่องผมในกระทู้ใหม่
ต้องไปฟ้องร้องใหม่ครับ มันถึงจะถูกตามครรลองครองธรรม

แล้วที่มากล่าวหาผมว่าพูดจาส่อเสียดคุณเสียงธรรมในกระทู้ ที่เว็บมาสเตอร์หยิบยกมา
มันก็ไม่ใช่เป็นการพูดส่อเสียดครับ มันจะส่อเสียดได้อย่างไรครับ ในเมื่อจขกทหรือคุณ
เสียงธรรมแกคุยอยู่กับผมแบบเปิดเผย และผมพูดผมแย้งอะไรคุณเสียงธรรม
ผมก็มีเหตุผลประกอบ พร้อมทั้งยกตัวอย่างให้ดู คนที่ไม่มีอคติและมีปัญญา
ในการพิจารณาความ ย่อมต้องรู้ครับว่า นี่เป็นการสอนธรรม
ส่วนเรื่องการใช้คำพูด มันเป็นเรื่องของตัวบุคคล สำนวนภาษามันก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว
ที่สำคัญต้องดูว่ามีเนื้อหาในสิ่งที่พูดมั้ยและผมกับคุณเสียงธรรม ไม่ใช่พึ่งคุยกันครั้งแรก
คุยกันมาจนรู้ว่าสำนวนของใครเป็นอย่างไร ดังนั้นการมากล่าวหาว่า ผมแสดงวาจาส่อเสียด
ต่อคุณเสียงธรรมแบบนี้ผมรับไม่ได้จริงๆครับ

ผมจะบอกให้ครับว่าทำไมผมถึงไปแสดงความเห็น ในกระทู้ของคุณเสียงธรรม(ตามลิ้งwm)
เป็นเพราะว่า คุณคนที่ฟ้องผมที่ชื่อชาติสยาม แกตั้งกระทู้ให้คนเข้ามาโหวตเรื่องของผมครับ
และเรื่องนี้ก็อยู่ในระหว่างการตัดสินใจของทางเว็บว่า การกระทำของผมผิดหรือถูก

การที่คุณเสียงธรรม แกมาตั้งกระทู้ในลักษณะนี้และในช่วงเวลานี้
เป็นเป็นการชี้นำอาจทำให้เกิดการหลงในเนื้อหาหลักฐานที่ต้องพิจารณาครับ
การกระทำนี้ถ้าไม่ใช่เป็นคุณเสียงธรรม แต่เป็นคนที่มีอคติกับผม มันย่อมต้อง
เกิดความไม่เป็นธรรมต่อขบวนการยุติธรรมครับ

ในความเป็นจริงผมไม่สามารถไปบังคับคุณเสียงธรรม ให้ทำหรือไม่ให้ทำได้
สิ่งที่ผมพอทำได้ก็คือ ลงไปแสดงความเห็นหักล้าง สิ่งที่ผมเห็นว่า มันจะทำให้
คุณเกิดโทษต่อผมในการตัดสินความของเว็บมาสเตอร์

แทนที่ผู้มีอำนาจในการตัดสิน จะเข้าใจในหลักการนี้ แต่เปล่าครับ
กลับไปหยิบยกในสิ่งที่ผมพยายาม เอาความเป็นธรรมมาปกป้องตัวเอง
มาเป็นโทษต่อตัวผม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 06:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
(๓) พยายามบิดเบือนประเด็นและวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้
ให้เป็นไปในทางไม่สร้างสรรค์
เข้าข่ายเป็นการใช้คำส่อเสียดทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน
กระทบกระเทียบ เหน็บแนมให้ผู้อื่นคับแค้นใจ ขุ่นเคืองใจ
[ตัวหนังสือสีแดง]
เป็นการละเมิดกฎกติกา มารยาท ในการใช้บอร์ด ข้อที่ ๑

---> ขอยกคำกล่าวของคุณโฮฮับ จากเนื้อหาในกระทู้ข้างล่างนี้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39693

เสียงธรรม เขียน:
มิตร สร้างขึ้นได้ด้วยปาก
มิตร ทำลายได้ด้วยปาก

ทำให้คนรัก พูดให้คนรัก ยากและต้องอาศัยเวลายาวนาน
ทำให้คนเกลียด พูดให้คนเกลียด ไม่ต้องใช้เวลา แค่เพียง
คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำลายมิตรภาพและสร้างศัตรูได้ในพริบตา

โฮฮับ เขียน:
ความร้ายกาจ ความเลวมันไม่ได้อยู่ที่ คำพูด
แต่มันอยู่ที่ อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้คำพูดครับ
ไอ้ที่น่ากลัวก็พวกปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
คนพวกนี้ผมเจอมาเยอะครับ เห็นพูดจาไพเราะแบบนี้
พอมีคนจี้ใจดำเข้า ออกหมดครับไอ้กิเลสที่ซุกซ่อนไว้

ผู้ปฏิบัติธรรมเขาไม่ต้องการหรอกครับ มิตรภาพเพื่อนฝูง
สิ่งที่เข้าต้องการคือกัลยาณมิตรครับ


แนะนำอีกอย่าง คนที่ชอบพูดจาทำนองนี้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า
มันก่อศัตรู เพราะฟังแล้วมันไม่ได้ส่อไปในทางดีเลยครับ
มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่น


ไม่มีใครสนใจเราหรอก ถ้าเราไม่ไปสนใจเขา

เสียงธรรม เขียน:
งั้นรบกวนขอคำแนะนำเพิ่มเติมจาก
คุณโฮฮับอีกอย่างได้มั้ยครับ

1.การพูดจาทำนองนี้ มันก่อศัตรูยังไงครับ
2.ฟังแล้วมันส่อไปในทางที่ไม่ดียังไงครับ
3.มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่นยังไงครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ผมก็ได้อธิบายกรณีใช้กระทู้คุณเสียงธรรมมากล่าวหาทำโทษผมไปแล้ว
แต่เนื่องจาก เว็บมาสเตอร์ใช้คำว่า"ส่อเสียด" มากล่าวหาผม ผมจึงใคร่อธิบาย
ความในเรื่องนี้เพิ่มเติมครับ

ท่านเว็บมาสเตอร์ครับ พวกเราบางคนที่ชอบเที่ยวว่ากล่าวคนอื่นว่า "พูดจาส่อเสียด"
ผมพิจารณาแล้ว มีผิดบางถูกบ้าง แต่โดยรวมแล้วมันผิดครับ หรือ บางที่พูดถูกหรือใช้ถูก
แต่ไม่เข้าใจถึงที่มาครับ

ท่านเว็บมาสเตอร์เคยได้ยินคำว่า"กิริยาส่อเสียด"มั้ยครับ
จะบอกให้ครับ เนื้อหาหรือถ่อยคำที่สื่อออกไป โดยไม่เอากิริยามาประกอบ
มันจะไม่เป็นคำพูด ที่ส่อเสียดหรือตีความว่าส่อเสียดไปได้เลยครับ

แล้วเราจะตีความว่ากิริยาที่ส่อเสียดเป็นอย่างไร
แบบนี้ก็ต้องดูอาการและช่วงเวลาหรืออีกนัยหนึ่งก็คือกาละเทศะครับ
สมมุติว่า มีคนสองคนสนทนากันอยู่ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม แล้วมีบุคคลที่สาม
เข้ามาพูด ในลักษณะการพูดคือพูดขึ้นมาลอยๆ ไม่ชี้เฉพาะว่า คุยกับใครในสองคนนั้น
อาการแบบนี้ครับเขาเรียกว่า "กิริยาส่อเสียด" และคำพูดทุกคำที่ออกมาจากกิริยาที่ว่า
ก็คือคำพูดที่ส่อเสียดครับ


เราลองเอากรณีของคุณเสียงธรรม มาตีความดูครับ (สมมุติว่าเป็นคนอื่น ไม่ใช่คุณเสียงธรรม)
ผมกับคุณชาติกำลังโต้เถียงหรือสนทนาในเรื่องคำพูดกันอยู่
แต่มีใครไม่รู้ไปตั้งกระทู้ เรื่องการใช้วาจา โดยไม่ได้เอยชื่อของผมหรือคุณชาติสยาม
ถ้าเราประมวลเรื่องดู มันจะเป็นอื่นไปไม่ได้เลยครับว่า กระทู้นั้นเป็นกระทู้ส่อเสียดครับ
และเป็นการส่อเสียดผม เพราะผมกำลังถูกกล่าวหาในเรื่องคำพูดอยู่ครับ
ดังนั้นผมขอกล่าวกับท่านเว็บมาสเตอร์ว่า ท่านตีความผิด ท่านขาดความเข้าใจ
กับบทบัญญัติในกฎข้อบังคับ สิ่งนี้ย่อมเป็นโทษต่อสมาชิก ที่แสดงความเห็นไป
โดยบริสุทธิ์ใจครับ

ขอเสริมครับในความเห็นอ้างอิงที่ เว็บมาสเตอร์เอามาแสดง
จะสังเกตุเห็นว่ามีคำถามอยู่สามข้อที่ถามผมไว้ เท่าที่จำได้ผมยังไม่ตอบ
และคิดว่าจะไม่ตอบแกในกระทู้ของแก เพราะเห็นว่า ถ้าผมตอบไปตามความจริง
ตามที่คุณเสียงธรรมถามมา กลัวแกจะรับไม่ได้และอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อผม

แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เพราะท่านเว็บมาสเตอร์เอาคุณเสียงธรรมมาเกี่ยวข้อง
เอากระทู้แกมาเป็นพยานหลักฐาน ผมก็ต้องแก้ข้อกล่าวหาครับว่า..

"คุณเสียงธรรมครับ คำถามทั้งสามข้อที่ถามผมมา คำตอบรวมอยู่คำตอบเดียว
ก็คือกระทู้ของคุณเสียงธรรม ดูจากช่วงเวลาและเนื้อหาในกระทู้
มันเป็นกระทู้ส่อเสียดครับ "


เรียนท่านเว็บมาสเตอร์ครับ ผมขอทำความเข้าใจและชี้แนะครับ
ว่าด้วยเรื่องกระทู้ปัจจุบันของผมนี้ มันเกิดจากที่ท่านเว็บมาสเตอร์ แสดงความเห็นว่า
กระทู้แนวนี้สามารถกระทำได้ ผมถึงได้ถือโอกาสตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา จุดประสงค์แสดง
ความบริสุทธิ์ใจ เพื่อที่จะอยู่ในสังคมของลานธรรมจักรชนิดไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ

อนึ่งถ้ามีผู้ใดคิดว่าผมเป็นคนมีทิฐิมานะ ผมก็ไปห้ามให้ท่านคิดแบบนั้นไม่ได้ครับ
แต่ถ้าท่านลองอ่านเหตุผลมาแต่เริ่มแรก ท่านก็จะรู้ครับว่า เป็นเพราะอย่างไหนอะไร
แต่ถ้ายังไม่รู้อีก พวกท่านก็จงสำเหนียกเอาเลยครับว่า ท่านกำลังจะกระทำหรือได้ทำ
ไปแล้วในเรื่องของการส่อเสียดนะครับ(ไม่ได้ว่าใคร เป็นการแสดงธรรมเฉพาะหน้าครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 05:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
คุณชาติสยาม : ขอตักเตือน
ควรตะหนักถึงภาระหน้าที่ในฐานะคณะทีมงานผู้ดูแล ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ที่มีเกียรติ
เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการช่วยกันหมุนวงล้อธรรมจักรเพื่อการเผยแผ่ธรรม
จึงควรมีคุณธรรม ข้อพึงปฏิบัติ และมารยาท ยิ่งกว่าสมาชิกทั่วไป
โดยเฉพาะในข้อ
ก) ควรมีความอดทนอดกลั้นต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ คำตำหนิติเตียน
พึงสำรวมระวังวาจาโดยควรหลีกเลี่ยงการตอบโต้โดยไม่จำเป็น
ข) ควรมีความเมตตาในการให้ธรรมทาน ให้คำอธิบาย ตอบข้อสงสัยของเพื่อนสมาชิก
ค) ควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนสมาชิก เพื่อขอความร่่วมมือในกิจต่างๆ ของเว็บ ฯลฯ

ท่านเว็บมาสเตอร์ครับ ผมพิจารณาจากความเห็นนี้ของท่านแล้ว มันสรุปได้ว่า
คุณชาติความแกก็มีความผิด

แต่การที่ทางเว็บบอกถึงรายละเอียดในความผิด ไปคนละทิศคนละทาง
มันเหมือนกับการพยายามปกปิดความชั่วของคนอื่น เบียงเบนประเด็นที่จะต้อง
อธิบายบายความว่า ผู้ที่ถูกลงโทษได้กระทำอะไรไปบ้างที่เป็นความผิด
ไม่ใช่มาสอนว่า ควรทำอะไรบ้างครับ มันผิดในเนื้อหาและหลักการ

ซึ่งผมเห็นว่า ผู้ตัดสินความหรือผู้มีอำนาจลงโทษผู้อื่น ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
ดูแล้วเหมือนเป็นการช่วยพวกพ้องหรือลำเอียงครับ

อีกเรื่องครับเป็นประเด็น ในเรื่องการลงโทษ ผมแปลกใจครับว่าทำไม
สมาชิกคนธรรมดาที่ไม่เคยถูกลงโทษมาก่อน เมื่อทำผิดครั้งแรกจะถูกตักเตือน
ด้วยการให้ใบเหลืองโชว์ประจานไว้ในล็อกอินหรือยูสเนม
แต่ของคุณชาติสยาม ที่มีโทษตักเตือนเช่นกัน แต่กลับไม่มีใบเหลือง
โชว์ประจานเหมือนคนอื่น


เรียนท่านเว็บมาสเตอร์ครับ บางครั้งการจะลงโทษ
ใครซักคน บางที่มันต้องใช้ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก อันนี้ผมเห็นใจครับ
ผมเลยถือโอกาสแนะนำท่านครับว่า ในสังคมที่เจริญแล้ว มีหลักในการอยู่ร่วมกัน
อยู่สามประการครับ คือ สิทธิ หน้าที่และการลงโทษ

ถ้าเอามาเปรียบกับในเว็บบอร์ดแห่งนี้ สมาชิกธรรมดาก็มีสิทธิแสดงความเห็น
มีหน้าที่คือคอยระวังไม่ให้ทำผิดกฎของบอร์ด ถ้าทำผิดก็ถูกลงโทษตามแต่
ที่บอร์ดกำหนด

ส่วนผู้ดูแลหรือผู้รักษาลาน ในความเป็นจริงก็คือสมาชิกของบอร์ดนี่แหล่ะครับ
เพียงแต่ทางบอร์ดเขาให้สิทธิมากขึ้น มีหน้าที่มากหน่อย โดยส่วนใหญ่เท่าที่ได้
ประสบมา ผู้ดูแลมักจะคำนึงถึงแต่สิทธิกับหน้าที่ โดยลืมนึกถึงบทลงโทษไปครับ
คือไปเข้าใจว่า บทลงโทษเข้ามีไว้แต่เฉพาะสมาชิกธรรมดา

ในความเป็นจริงแล้ว บทลงโทษเขามีไว้ใช้สำหรับทุกคนทุกหน้าที่และสถานะ
เอาเป็นว่า ผู้ดูแลหรือผู้รักษาลาน กรุณาจำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า "มีสิทธิและหน้า
มากขึ้นเท่าไร ในเรื่องของบทลงโทษก็จะมากขึ้นเป็นทวีคูณ อย่าเข้าใจผิดว่า
มีแต่สิทธิและหน้าที่ และหลงไปว่าบทสรุปคืออำนาจ"


อันนี้เข้ามาเพิ่มเติมครับเพื่อไม่ให้เปลึ้องหน้ากระทู้
มาขอทำความเข้าใจครับว่า ในกรณีที่ผมฟ้องคุณชาติสยาม
"ผมฟ้องแกในฐานะผู้ดูแลหรือผู้รักษาลานนะครับ ไม่ใช่ฟ้องแกในสถานะ
สมาชิกธรรมดา ฉะนั้นบทลงโทษจะต้องมากกว่า สมาชิกทั่วไป"

สมาชิกคนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามฟ้อง เป็นเพียงพยานหลักฐาน
ที่คู่ฟ้องเอามาอ้าง กลับถูกท่านเว็บมาสเตอร์ลงโทษ ด้วยการประจาน
แต่คู่กรณีความโดยตรงคือคุณชาติสยาม ที่เว็บฯสรุปในความเห็นว่าผิด
กลับได้รับความเมตตา สอนสั่งด้วยความเอ็นดู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบอ่านข้อความท่านโฮ และชอบยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากำลังปุจฉากับคุณ แฟนตาเซีย

อีกทั้งมี ท่านปลง14 มาคอยป่วน รู้สึกว่าเวปนี้ดูคึกคักและ มีรสมีกลิ่นที่ชวนติดตาม

ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตา

s004 :b38: :b38: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2011, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: tongue ยินดีต้อนรับ คุณโฮฮับ สู่ ลานธรรมจักร
แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร อีกครั้งหนึ่งด้วยค่ะ



:b12: กลับมาคราวนี้เข้มกว่าเดิมนะค่ะ
ขอเวลาสักพักเพื่อสะสางภาระหน้าที่ส่วนตัวให้เรียบร้อย
ทั้งขอตัวไปภาวนาให้ชุ่มชื่นใจด้วยบุญหล่อเลี้ยงก่อน
แล้วจะเข้ามาตอบกระทู้นี้ให้ค่ะ ยินดีต้อนรับอีกครั้งค่ะ

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2011, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
:b8: tongue ยินดีต้อนรับ คุณโฮฮับ สู่ ลานธรรมจักร
แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร อีกครั้งหนึ่งด้วยค่ะ

ขอบคุณครับ ต้องขอโทษนะครับที่ตั้งกระทู้แนวนี้ขึ้นมา อย่าถือสาเลยนะครับ
ถ้าอย่างไรงวดนี้ขออยู่ให้ถึงปีใหม่ก่อนนะครับ อย่าพึงแบน เอาเป็นกั๊กก็พอ
คืออยากอวยพรปีใหม่ท่านเว็บมาสเตอร์ครับ :b13:
เว็บมาสเตอร์ เขียน:
:b12: กลับมาคราวนี้เข้มกว่าเดิมนะค่ะ
ขอเวลาสักพักเพื่อสะสางภาระหน้าที่ส่วนตัวให้เรียบร้อย
ทั้งขอตัวไปภาวนาให้ชุ่มชื่นใจด้วยบุญหล่อเลี้ยงก่อน
แล้วจะเข้ามาตอบกระทู้นี้ให้ค่ะ ยินดีต้อนรับอีกครั้งค่ะ

อันที่จริงกระทู้นี้ ผมไปต้องการคำตอบหรอกครับ
เพียงแค่อยากทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ใคร
หยิบฉวยโอกาส ในประเด็นที่ผมถูกทำโทษมาทำร้ายผมครับ
(ไม่ได้หมายถึงเว็บมาสเตอร์นะครับ)

แต่ถ้าเว็บมาสเตอร์ ต้องการแสดงความเห็นก็ยินดีครับ
ผมก็ถือโอกาสถามเว็บมาสเตอร์เลยครับ ว่า
การจะมาเป็นผู้ดูแลหรือผู้รักษาลาน ทางเว็บพิจารณาเลือกจากอะไรครับ
ผมเห็นว่า พักนี้มีผู้ดูแลใหม่ๆ ซึ่งผู้ดูแลแต่ละคนผมเห็นแล้ว
พูดได้คำเดียวว่า ...สยองครับ :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทักษา เขียน:
โฮฮับ เขียน:
การจะมาเป็นผู้ดูแลหรือผู้รักษาลาน ทางเว็บพิจารณาเลือกจากอะไรครับ


เลือกจากนี่ไง

admin เขียน:
เรื่องเปิดรับสมัคร "ผู้รักษาลาน"

********
คุณสมบัติ

1. เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือของสมาชิกทั่วไป
2. มีความรู้ความชำนาญ ในเนื้อหา หรือเข้า-ออก บอร์ดนั้นๆ ประจำ
3. เป็นสมาชิกมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 1 ปี
4. สมาชิกที่เป็น "อาสาสมัคร" จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ และไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกครบ 1 ปี

admin

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=62&t=22427

"

อ้าว!แล้วเขาไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามหรือครับ
มีหลักธรรมอยู่ครับ จำเป็นต้องยึดถือเอาไว้เป็นสำคัญ "อย่าให้คนไม่ดีได้ปกครองบ้านเมือง"
ตามความเห็นผม เราต้องดูความประพฤติในอดีตด้วยมันถึงจะเหมาะ
อย่างเช่นคนที่เคยทำผิดกฎหมาย ก็ไม่สมควรมาสมัครผู้แทน เพราะต้อง
ทำหน้าที่ออกกฎหมาย
หรือในบอร์ดไม่สมควรเอาผู้ที่ทำผิดกฎของบอร์ดมาเป็น
ผู้รักษาลาน คุณทักษาว่า ผมพูดถูกมั้ยครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร