วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 13:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรณี ทักษา โพสต์ซ้ำบทลงโทษสมาชิกที่รับโทษแล้ว เป็นการประจาน ไม่ควรกระทำ

ผมอาศัยกฎการใช้บอร์ดนี้ครับ

อ้างคำพูด:
กฎการใช้บอร์ด

เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ






viewtopic.php?f=11&t=39967&p=276626#p276626

อ้างคำพูด:

เมื่อ: 30 ต.ค.2011, 12:01 pm


ทักษา
สมาชิก ระดับ 6

ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ม.ค.2011, 7:50 pm
โพสต์: 281


{ GIVEN }: { THANKS }
{ RECEIVED }: { THANKS }



หลักฐานความผิดของคุณ MES


เว็บมาสเตอร์ เขียน:
สมาชิกดังมีรายนามต่อไปนี้ : ขอตักเตือน

๑) คุณ mes

คุณ mes ได้โพสต์ข้อความด้วยโทสะ พาดพึงถึง ท่าน admin ว่า
admin อย่าโง่นักเลย (ข้อความนี้ถูกลบทิ้งไปแล้ว)
โดยโพสต์ลงในกระทู้... เสนอ BAN สมาชิกชื่อ โฮฮับ
viewtopic.php?f=11&t=39669

กรณีนี้ถือว่าเป็นการใช้คำส่อเสียด ถากถาง เย้ยหยัน
และหากอ่านตลอดทั้งกระทู้ในส่วนที่คุณ mes ได้โพสต์โดยถี่ถ้วนแล้ว
เกือบๆ จะเป็นการจงใจก่อวิวาทกับท่าน admin เลยทีเดียว
เป็นการละเมิดกฎกติกา มารยาท ในการใช้บอร์ด ข้อที่ ๑
viewtopic.php?f=11&t=39669&start=15


ซึ่งได้มีการพิจารณาโทษไปแล้ว เพราดันไปท้าวิวาทกับท่าน admin


มาดูกรณีต่อไป

.....................................................
ทุกสิ่งไม่เที่ยง สักวันก็เหลือแต่กระดูก เหลือแต่เถ้าถ่าน
เรานั้นคือผู้ที่ยังรู้น้อย ขอผู้รู้และผู้บรรลุโปรดแนะนำ

แก้ไขล่าสุดโดย ทักษา เมื่อ 30 ต.ค.2011, 12:42 pm, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง




ผมก็ได้รับโทษไปแล้ว สำเร็จเรียบร้อยแล้ว

และในกระทู้ดังกล่าวก็ไม่มีเหตุอันจำเป็นต้องอ้างถึงบทความลงโทษดังกล่าว

จึงขอเรียนมาเพื่อพิจารณาเป็นบรรทัดฐาน กฎ กติกา มารยาท อันดีในสังคม

ก็สุดแล้วแต่วิจารณญาณของท่านจะเห็นเป็นเช่นใดครับ


การอภัยทาน

ไม่ควรเยาะเย้ยกัน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 08:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อสมาชิกได้รับโทษเรียบร้อยแล้ว

ควรถือเสมือนหนึ่งพ้นโทษ

การกล่าวโทษซ้ำที่ไม่มีเหตุอันควร

ผู้กล่าวโทษซ้ำถือเป็นผู้กล่าว

เยาะเย้น ถากถาง ดูหมิ่นให้ผู้อื่นก่อเกิดความเกลียดชัง



ผมยกตัวอย่าง

เกิดวันดีคืนดี ผ่านไปสักปีสองปีสิบปี ทักษา อยากแจ้งปัญหากับadmin ก็หยิบยกเอาบทลงโทษนี้มากล่าวซ้ำๆอีก

ชีวิตผมมิต้องมีมลทินแปดเปลื้องไปตลอดชีวิตหรือครับ

อย่างนี้ไม่ยุติธรรมกับความเป็นมนุษย์

การลงโทษขอให้เป็นการตักเตือนเพือก่อเกิดการแก้ไขเพื่อสร้างสรรค์

อย่าให้เป็นตราบาปประทับในตัวตนใคร

ผู้ประทับก็ไม่ดี ผู้ถูกประทับก็อับอายเสื่อมเสีย ลดทอนความเชื่อมั่นในตัวเองได้

ผมไม่ได้ตั้งใจจะต่อความยาวสาวความยืดครับ

แต่ต้องการแสดงความเห็นที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเวป ตามที่เวปมีนโยบาย

กฎการใช้บอร์ด

เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่ทักษาแสดงออกทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า

อเสวนาจพาลนัง

ข้อความข้างต้นเสียดสีใส่ร้าย

ละเมิดผมทั้งสิ้น

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สุวิทูรสูตร ว่า

“นภญฺจ ทูเร ปวี จ ทูเร

ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร

ยโต จ เวโรจโน อพฺภุเทติ

ปภงฺกโร ยตฺถ จ อตฺถเมติ

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ

สตญฺจ ธมฺมํ อสตญฺจ ธมฺมํ

อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม

ยาวมฺปิ ติฏฺเยฺย ตเถว โหติ

ขิปฺปํ หเวติ อสตํ สมาคโม

ตสฺมา สตํ ธมฺโม อสพฺภิ อารกา

ฟ้ากับดินไกลกัน ฝั่งสมุทรก็ว่าไกลกัน ที่ ๆ ดวงอาทิตย์อุทัยกับที่ๆ ดวงอาทิตย์อัสดงก็ไกลกัน ธรรมของสัตบุรุษกับธรรมของอสัตบุรุษ ปราชญ์กล่าวว่าไกลกันยิ่งกว่านั้น การสมาคมแห่งสัตบุรุษย่อมไม่เสื่อมคลาย จะนานเท่าใดๆ ก็คงที่อยู่เช่นนั้น ส่วนสมาคมแห่งอสัตบุรุษย่อมพลันเสื่อม เพราะฉะนั้น ธรรมของสัตบุรุษจึงไกลจากอสัตบุรุษ”

หากเรารู้ว่า มีผู้ไม่ปรารถนาดี เจตนาจะประทุษร้ายเรา ให้เราหลีกเว้นเสีย เพราะเขาจะไม่คำนึงถึงเหตุผลความถูกต้อง จรรยาบรรณ หรือจริยธรรมใดๆทั้งสิ้น แม้เราจะกล่าวคำสุภาษิต มีถ้อยคำที่ดีมาอธิบายให้ฟัง เขาก็จะไม่ยอมรับ เพราะใจของเขาปิดใจของเขาคิดแต่วิธีการที่จะประทุษร้าย เบียดเบียนเราเท่านั้น ผู้รู้ท่านจึงสอนให้พยายามหลีกเว้นบุคคลประเภทนี้ให้ไกลที่สุด อย่าได้ไปทำความสนิทชิดเชื้อด้วย เพราะจะเป็นทางมาแห่งความเสื่อมเสียแก่ตัวของเราเอง

สมัยที่พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ

นอกจากนั้นท่านยังขอให้ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังนักปราชญ์บัณฑิต ขออยู่ร่วมกับผู้รู้ทั้งหลาย ท่านจะพึงพอใจในการกระทำ และเจรจาปราศรัยกับนักปราชญ์ เพราะจะได้แต่คำแนะนำที่ดีมีประโยชน์ จะไม่ถูกชักนำไปในทางเสื่อม จะทำแต่สิ่งที่มีสาระแก่นสารเป็นกรณียกิจ

คำแนะนำสิ่งดีทั้งหลายเป็นความดีของนักปราชญ์ ซึ่งเป็นคนไม่มักโกรธ ไม่ผูกโกรธ เป็นผู้มีวินัยในตนเอง การได้สมาคมคบหากับนักปราชญ์ จึงเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของบัณฑิต

ดังนั้น หากเรารู้ว่า ใครเป็นคนพาล เราควรรีบหลีกหนีให้ห่างไกล เพราะยิ่งอยู่ร่วมกันนาน จะยิ่งติดเชื้อพาล ซึ่งมีแต่จะนำความวิบัติความเสื่อมเสียมาให้ เหมือนดังเรื่องของแม่แพะ ที่พูดจาอ่อนหวาน แต่ในที่สุดก็ต้องถูกเสือจับกินเป็นอาหาร

*เรื่องมีอยู่ว่า มีเสือเหลืองตัวหนึ่งกำลังรอดักจับแพะที่ชอบเที่ยวหากินตามลำพัง มันสังเกตเห็นแม่แพะตัวหนึ่ง กินใบไม้ใบหญ้าออกห่างจากฝูง จึงคิดที่จะกินแม่แพะตัวนี้ มันรีบวิ่งไปยืนดักหน้าไว้ แทนที่แม่แพะจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในฝูง มันกลับอยากสนทนากับเสือเหลือง เพราะคิดว่า “ถ้าหากเราเจรจาไพเราะอ่อนหวาน เสือเหลืองตัวนี้อาจจะเป็นมิตร แล้วปล่อยเราไปอย่างง่ายดายก็เป็นได้”

แม่แพะจึงไม่หนีไปไหน ทำเป็นใจดีสู้เสือ ทำการปฏิสันถาร กับเสือเหลืองเป็นอย่างดี ด้วยการพูดจาปราศรัยอย่างไพเราะอ่อนหวานว่า “คุณลุง ท่านยังคงสบายดีอยู่หรือ ยังพอจะให้อัตภาพเป็นไปได้ดีอยู่ไหม มารดาของฉันได้ถามถึงทุกข์สุขของท่าน เราทั้งหลายปรารถนาให้ท่านมีความสุขเหมือนกัน” เสือเหลืองได้ฟังดังนั้น แทนที่จะชื่นใจมันกลับไม่ได้ใส่ใจกับคำเหล่านั้น คิดเพียงแต่จะต้องขย้ำแพะตัวนี้ให้ได้ อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้เกิดคำครหานินทาในภายหลัง จึงได้กุเรื่องขึ้นมาว่า

“แน่ะแม่แพะ เจ้ามารังแกเราก่อน มาเหยียบหางของเราทำไม หรือวันนี้เจ้าสำคัญว่า เจ้าแน่กว่าเรา เจ้าไม่มีทางพ้นจากความตายไปได้หรอก อย่ามาเรียกเราว่าคุณลุงเลย”

แม่แพะได้ฟังดังนั้น รีบกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านลุง ท่านนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนฉันนั่งอยู่ต่อหน้าท่าน แล้วฉันจะไปเหยียบหางของท่านซึ่งอยู่ด้านหลังได้อย่างไรกัน”

เสือเหลืองหาเรื่องต่อว่า “แน่ะแม่แพะ เจ้าพูดอะไร สถานที่ที่จะพ้นจากหางของเราไปไม่มีหรอก เพราะว่าทวีปทั้งสี่ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินหรือมหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ มีภูเขาสูงใหญ่ประมาณเท่าใด เราได้เอาหางของเราไปวางไว้ในที่นั้นหมดแล้ว เจ้าจะพ้นจากที่ที่เราเอาหางวางไว้ได้อย่างไร”

แม่แพะคิดว่า “เสือเหลืองตัวนี้ มีจิตใจหยาบช้านัก ฟังวาจาสุภาษิตแล้วไม่ซึมเข้าไปในใจเลย แถมยังตลบตะแลง มีเจตนามุ่งแต่จะทำร้ายเราอย่างเดียว”

แม่แพะจึงลองกล่าวเลี่ยงเป็นอย่างอื่นว่า “ในกาลก่อน พ่อแม่ของฉันได้บอกความเรื่องนี้แก่ฉันแล้วว่า หางของท่านนั้นยาวนัก ฉันจึงเหาะมาทางอากาศ เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะเหยียบหางของท่านเจ้าป่า”

เสือเหลืองยังหาเรื่องต่ออีกว่า “ตอนที่เจ้ามาทางอากาศ เจ้าได้ทำให้ภักษาหารของเราพินาศไป เพราะฝูงเนื้อเห็นเจ้าเหาะมา เกิดความตกใจกลัว พากันวิ่งหนีไปหมด ฉะนั้นเจ้าจึงมีความผิด โทษฐานที่ทำให้หมู่เนื้อหนีไป”

แม่แพะได้ฟังดังนั้น รู้ทันทีว่า เสือใจบาปตัวนี้คงไม่ปล่อยให้ตนรอดแน่ เมื่อไม่อาจยินยอมกันด้วยเหตุผล จึงขอร้องวิงวอนว่า “ข้าแต่ลุง เราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน อย่าได้ทำลายล้างผลาญกันเลย จะได้ไม่มีเวรต่อกัน ขอให้ท่านจงไว้ชีวิตแม่แพะแก่ๆ อย่างฉันเถิด”

แต่เสือเหลืองไม่ยอมฟังคำ มันกระโดดเข้าตะครุบแม่แพะทันที จนแม่แพะถึงแก่ความตาย ตกเป็นอาหารของเสือเหลืองในที่สุด

เพราะฉะนั้น ความปรารถนาดีไม่มีในหมู่คนพาล จะไปหาความจริงใจจากคนพาลนั้นไม่ได้เลย ไม่ว่าเราจะใช้เหตุผลอย่างไร ความจริงทั้งหลายกลับถูกบิดเบือน ทำให้คนที่บริสุทธิ์ คนที่ถูกกลายเป็นคนผิดไป แม้ความจริงจะปรากฏว่าถูกต้อง แต่คนพาลจะแกล้งกล่าวหาเรื่องที่ไม่มีมูลขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกร่ำไป ไม่รู้จักจบสิ้น ตราบใดที่เขายังเป็นพาล เพราะฉะนั้น คนโบราณจึงได้สอนเตือนใจไว้ว่า “ห่างสุนัขให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา ห่างพาลาให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์”

ตรงกันข้ามกับการคบหาบัณฑิต ซึ่งแม้เจอกันเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้ชีวิตสว่างไสว พบกับความสุขความเจริญรุ่งเรืองได้ แต่การคบคนพาลแม้ครั้งเดียวก็เสียหายแล้ว ยิ่งสมาคมกันหลายๆ ครั้ง ยิ่งเสียหายลุกลามใหญ่โตหนักขึ้น ไม่ได้ประโยชน์ ไม่มีสาระอะไร นำแต่ทุกข์แต่โทษมาให้ ผู้รู้จึงกล่าวว่า ใครคบคนเช่นไร จักเป็นเช่นนั้นแหละ คนฉลาดจึงควรคบหากับบัณฑิต มีบัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร และให้หมั่นทำความสนิทสนมกับคนดีมีคุณธรรมให้มากๆ เพราะจะเป็นเหตุให้เราพบแต่สิ่งที่ดีงาม

มีธรรมภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ท้องฟ้าและแผ่นดิน ชาวโลกถือกันว่าอยู่ไกลกัน สองฟากฝั่งแห่งมหาสมุทร เขากล่าวกันว่าอยู่ไกลกัน ส่วนธรรมของสัตบุรุษกับธรรมของอสัตบุรุษ นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า ไกลกันยิ่งกว่านั้น ราชรถอันวิจิตรตระการตา ยังมีวันเก่าคร่ำคร่า สรีระร่างกายของเราก็เช่นเดียวกัน สักวันหนึ่งจะต้องถึงความแก่ชรา แต่ธรรมะของสัตบุรุษผู้สมบูรณ์ ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีวันเก่าคร่ำคร่า

ดังนั้น ให้ทุกคนยินดีในธรรมของสัตบุรุษ หมั่นประพฤติปฏิบัติธรรมให้สม่ำเสมอทุก ๆ วัน ปฏิบัติธรรมให้ได้ทั้งครอบครัว ให้เป็นครอบครัวธรรมกาย เป็นบ้านกัลยาณมิตรที่สว่างไสวด้วยแสงธรรม บ้านแห่งสันติสุข ที่เป็นประดุจวิมานในเมืองมนุษย์ ถ้าทำกันได้อย่างนี้ คือทุกหลังคาเรือน มีการปฏิบัติธรรมร่วมกัน ความสงบสุขร่มเย็น ก็จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่ช้าสันติสุขจะ แผ่ขยายไปทั่วโลก ดังนั้นให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ดีกันทุกๆ คน

(*มก. ทีปิชาดก เล่ม ๕๙ หน้า ๕๙๖)

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


จากการใส่ร้ายของทักษาที่กระทำต่อผมในรูปแอบแฝงว่าแจ้งปัญหา

ทั้งดูหมิ่น ละเมิด

เช่น
อ้างคำพูด:
คุณ mes ไปด่า ท่าน ยิ่งลักษณ์ ว่าเป็นกาลกิณี อันนี้เรียกว่าหยาบคายได้มั้ยครับ


ถ้าผมไม่เคยกล่าวข้อความนี้ที่เวปนี้ตามที่ ทักษาใส่ร้าย

admin จะให้ความเป็นธรรมแก่ผมไหมครับ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเรียกร้องให้

ทักษาต้องแสดงหลักฐานว่าผมเขียนตามตัวอย่างนั้นจริง

ไม่ใช่โกหก ใส่ร้ายผม

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร