วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 21:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มี.ค. 2011, 11:55
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วยลบกระทู้ที่ผมตั้งเองทีครับกระทู้ชื่อ สมควรให้อภัยมั้ยครับ กรุณาช่วยลบทีนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2011, 09:41
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าลบเลยครับ เก็บเอาไว้ให้สมาชิก และผู้ชมได้ดูได้อ่านกัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 20:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยครับ....อย่าลบเลย....มันมีแง่ดี ๆ ที่คนอื่นๆ นำไปคิดได้นะครับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


หวังว่าวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อใจสงบดีแล้ว
จขกท จะกลับมาเล่าอะไรดีๆ เช่น ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม
การเจริญสติ การเจริญปัญญา ให้กับกัลยาณมิตรที่ลานแห่งนี้ได้ฟังกันค่ะ
อนุโมทนาล่วงหน้า :b51: :b53:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 21:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 11:05
โพสต์: 223


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: ผมขอตามมาที่นี่แล้วกันนะครับ :b13:

สวัสดีครับ เป็นคำชี้แนะนะครับ

เขาได้รับโทษไปตามกฎบัญญัติทางโลกแล้ว และทางจิตวิญญาณเขาก็คงทุกข์ไม่น้อยครับ เขาถึงได้ไปบวช

ทำวิกฤตให้เป็นโอกาสให้ได้นะครับ เวลานี้หละครับเป็นเวลาสำคัญที่จะทำให้เข้าถึงสัจจธรรมได้ง่ายกว่าเวลาอื่น
ถ้าคุณอภัยให้เขาได้ไม่มีอะไรติดค้างในใจ คุณจะเป็นคนที่เข้าถึงธรรมได้ไม่ยากครับ
ความพ้นทุกข์อยู่หลังม่านแห่งความทุกข์นี่แหละครับ (ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วนำมาสั่งสอนเป็นโอสถอันเลิศ)
แค่มองดูจิตที่เคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ต่างๆ อย่างสงบ ไม่ว่าจะเกิดความรู้สึกใดๆ อารมณ์ใดๆ ขึ้นมา
ก็ให้รู้ว่ามันเกิด
และรู้ว่าไม่เที่ยง ทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก เป็นเพียงสภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว
เกิดแล้วก็ดับไป ไม่มีตัวตนใดๆ ไปยึดไปเกาะไม่ได้ ถ้าเราเข้าไปไหลตามอารมณ์ คือการขาดสติ
คือความหลงเข้าไปเล่นละครมายา ไปเป็นพญามารซะเอง

อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนพญามารในตัวเรา ที่มาหลอกล่อให้เราหลงไปตามอารมณ์
จนเกิดเป็นมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ก่อกรรมต่อไปอีกยืดยาว ทำให้หลงติดวนเวียนในวัฏฏะสงสาร
ดูพญามารแสดงละครให้ดู แล้วให้รู้เท่าทันเล่ห์ของพญามาร ไม่นานพญามารก็หลอกเราไม่ได้ครับ

อีกวิธีคือ ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยวางไปเลย ไม่ต้องอยากรู้ว่าเขาบวชแล้วจะเป็นอย่างไร
รู้ก็วางรู้ คิดก็วางคิด เห็นก็วางเห็น ไม่ต้องผูก ไม่ต้องแก้อะไร เรียกว่า วางใจ วางทุกความรู้สึกทุกอารมณ์
ปล่อยให้ผ่านไปเลย ไม่ต้องเอาจิตไปยึดเกาะกับอารมณ์ใดๆ คลายจากรู้ คลายจากเห็น คลายจากคิด
ถ้าทำได้จะโปร่งโล่งและจบเลย
คือไม่ต้องไปเริ่มและไม่ต้องไปทำให้จบ เพราะมันจบแต่แรกแล้วโดยไม่ต้องทำอะไร
อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้ครับ

:b44: :b44: :b44:

ลองฟังธรรมเรื่อง เลิกตามกรรม ดูครับ
http://onk8.net/audio/%E0%B9%84%E0%B8%9 ... D%E0%B8%99

:b44: :b44: :b44:

การเกิด-การตาย เป็นเพียงบัญญัติที่มนุษย์ตั้งขึ้นใช้เรียก การเปลี่ยนแปลงของธาตุขันธ์ จริงๆแล้วไม่มีใครเกิด-ใครตายเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงธาตุขันธ์ จากกายหนึ่งไปเกิดเป็นกายอื่นๆ ในสามโลก บางคนเรียกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นการเปลี่ยนที่ไปใช้กรรม บางคนเรียกว่าเปลี่ยนที่เล่นละคร เปลี่ยนบทบาทการแสดง
ทั้งสามโลกเปรียบห้วงน้ำมหาสมุทร หรือโรงละครโรงใหญ่ ให้พวกเราแสดงละคร ไปตามบทบาทตามกรรมที่เราทำมา จนกว่าเราจะรู้ตัวและออกจากโรงละคร หรือข้ามห้วงน้ำได้ ไม่ต้องมาเกิดอีก…นิพพาน


:b44: :b44: :b44:

สามโลก คือ ที่เวียนว่ายตายเกิด เพื่อรับกรรม ใช้กรรมของสัตว์โลกรวมทั้งหมด 31 ภพภูมิ คือ
1. กามโลก คือโลกของสัตว์ ผู้ยังชุ่มแช่อยู่ในกาม คือ ยังมีกิเลส ตัณหา อุปาทาน อยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง
กามโลกแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ โลกทุคติ มี 4 ภพภูมิ มี เปรต1 นรก1 อสุรกาย1 สัตว์เดรัจฉาน1
ส่วนอีกพวก เรียก สุคติ มี 7 ภพภูมิ ได้แก่ สวรรค์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดาและนางฟ้า 6 ภพภูมิ และมนุษย์อีก 1 ภพภูมิ
2. รูปโลก เป็นโลกของผู้ปฏิบัติธรรม สายสมถกรรมฐาน ได้ความรู้ขั้นรูปฌาน5 มี 16 ภพภูมิ
3. อรูปโลก เป็นโลกของผู้ปฏิบัติธรรมสมถกรรมฐาน ได้ถึงอรูปฌาน 4 มีอีก 4 ภพภูมิ
โลกทั้งสามนี้ไม่เที่ยง อยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)


:b44: :b44: :b44:

ปกิณกะธรรม ของท่านพุทธทาส เรื่อง ไม่มีใครเกิด-ไม่มีใครตาย

ปรัศนี: มีผู้กล่าวว่า ท่านอาจารย์สอนว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย? นั้นเป็นมิจฉาทิฎฐิ ดังนี้ ท่านอาจารย์จะว่าอย่างไรครับ?

พุทธทาส: เฮ้ย! เล่นไม่ซื่อ เล่นสกปรกแล้ว เราไม่ได้ว่าโว้ย! พระพุทธเจ้าว่านะ พระพุทธเจ้าท่านว่านะ อย่าไปพูดว่า ตายแล้วเกิด หรือ ตายแล้วไม่เกิด มันไม่มีใครเกิด มันมีแต่สังขารการปรุงแต่งตามกฎของธรรมชาติ

ทีนี้ เขาไปสมมติให้ไป เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตายเป็นเกิด มันเป็นกิริยาปรุงแต่ง เปลี่ยนแปลงของ สังขาร ธาตุ ขันธ์ อะไรนี้ ไปตามกฎของธรรมชาติ เป็นอย่างนั้นๆ แล้วชาวบ้านนั้น ก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก. เขาไปสมมติว่า กิริยาอย่างนี้เรียกว่า เกิด กิริยาอย่างนี้เรียกว่า ตาย ทีนี้ เขามีความยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน มีตัวมีตนมาก่อนแล้ว ก็เรียกว่า ตนมันเกิด ตนมันตาย เป็นความเกิด ความตายของตน ทีนี้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องนี้แล้ว ก็สอนว่านั้นมันเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติล้วนๆ สุทฺธัมฺมา ปวตฺตนฺติ ธรรมชาติล้วนๆ เท่านั้นมันเป็นไป อ้ายธรรมชาติล้วนๆ นี้ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน. ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล มันเป็นไป คือมันเปลี่ยนแปลงไปตามอำนาจของกฏอิทัปปัจจยตา เป็นต้น ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล แล้วมันก็ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเกิด

รู้พุทธศาสนาอย่างเด็กๆ ก็จะรู้ว่า มีคนตายมีคนเกิด ถ้ารู้พุทธศาสนาอย่างเป็นผู้ใหญ่พอสมควรแล้ว ก็จะเห็นตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า มันไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มันก็ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเกิด มีแต่กิริยาแห่งการเปลี่ยนแปลงของสังขาร ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามปัจจัย ที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดก็ไม่ใช่คนนะ เป็นสังขารที่กำลังดำรงอยู่ตามเหตุตามปัจจัย ที่นั่งอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่คนมันอยู่อย่างอาการที่ว่ามันปรุงแต่งกันอยู่ในลักษณะอย่างนี้ จึงนั่งอยู่อย่างนี้ ถ้ามันจะปรุงแต่งในลักษณะที่ตาย มันก็เป็นการปรุงแต่งอยู่นั่นแหละ ไม่ใช่มีคนอยู่ที่นี่ หรือมีคนตาย หรือมีคนเกิด นี่คือ หลักของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มิจฉาทิฎฐิ.

การที่บอกว่ามีแต่สังขาร ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา จึงถือว่าไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย นั่นนะไม่ใช่มิจฉาทิฎฐิ นั่นแหละ คือสัมมาทิฏฐิ เอ้ามีอะไรอีก..

คัดบางตอนจากหนังสือดอกโมกข์ ฉบับพิเศษ พุทธทาสวจนา พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๓๙ หน้า ๑๘๖-๑๘๗
http://www.buddhadasa.com/FAQ/FAQ_3.html มีธรรมเรื่องอื่นๆ ด้วยครับลองเข้าไปศึกษาดูครับ


:b44: :b44: :b44:

ไม่มีอะไรตาย และรวมเสียงธรรม (หลวงตามหาบัว)
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB ... 0339498918

:b44: :b44: :b44:

ความรู้เกี่ยวกับโลกหลังความตาย แว่วเสียงสวรรค์
ลองดาวน์โหลดไปฟังดูนะครับ อาจจะได้ความคิดอะไรดีๆ
เล่ม 1
http://d.igetweb.com/index.php?mo=3&art=109168
เล่ม 2
http://www.jozho.net/index.php?mo=3&art=340733

:b44: :b44: :b44:

เรื่องกรรม เหตุของกรรม และวิธีดับกรรม
viewtopic.php?f=4&t=37317

เจริญในธรรมครับ

:b41: :b46: :b53: :b39: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 11:05
โพสต์: 223


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: แถมให้อีกเรื่องครับ

ฉันจะฆ่าเธอ !!

จากหนังสือ "เรื่องท่านเล่า" โดยพระอาจารย์ชยสาโร - เรียบเรียงโดยคุณศรีวรา อิสสระ

รูปภาพ

เด็กวัยรุ่นมีปัญหาชาวอเมริกันคนหนึ่งอายุประมาณสิบห้าปี คบเพื่อนไม่ดี เข้ากลุ่มคนพาล ติดยาเสพติดและทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล วันหนึ่งพวกเขาไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทตีรันฟันแทง เป็นเหตุให้เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งเสียชีวิต เด็กคนนี้ถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลาหลายปี แทนการประหารเพราะอายุเขายังน้อย

ทันทีที่ศาลอ่านคำพิพากษาสิ้นสุดลง แม่ของเด็กร้องไห้โฮแล้ววิ่งไปหาเด็กคนนั้นด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางร้องว่า "I will kill you ๆ ... ฉันจะฆ่าเธอ ๆ" เธอผิดหวังที่ผู้พิพากษาไม่ตัดสินประหารเขาให้ตายตกตามลูกของเธอไป

วันเวลาผ่านไปหลายเดือน วันหนึ่งผู้คุมนักโทษเข้ามาบอกเด็กหนุ่มว่ามีแขกมาเยี่ยม เขางงมากว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เขาไม่มีพ่อไม่มีแม่ แล้วก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่ด้วย ไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเขาเลยตั้งแต่ติดคุกมา ปรากฏว่าผู้ที่มาเยี่ยมเขาคือแม่ของเด็กที่ตาย หากครั้งนี้เธอมาด้วยสีหน้าปรกติ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเขาโดยปราศจากอาการเคืองแค้นใดๆ

จากวันนั้นเป็นต้นมา ผู้หญิงคนนี้มาเยี่ยมเขาเป็นประจำ เธอให้ความรักและให้ความสนใจในเรื่องราวชีวิตของเขา เวลาผ่านไปหลายปี เขาและเธอกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีห่วงใยซึ่งกันและกัน เมื่อใกล้กำหนดจะพ้นโทษและเขาจะได้รับอิสรภาพ

แม่ของเด็กที่ตาย "เธอออกจากคุกแล้วจะไปอยู่ที่ไหน"

เด็กที่ฆ่าลูกของเธอ "ผมยังไม่ทราบเลยครับ ผมไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีบ้าน เรียนอะไรก็ไม่จบ ผมยังไม่ทราบอนาคตจริงๆ อะไรๆ ก็ยังไม่แน่นอน"

แม่ของเด็กที่ตาย "ถ้ายังงั้น... เธอมาอยู่กับฉันมั๊ยล่ะ แล้วฉันจะหาทางฝากงานให้เธอ"

เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่น นี่เป็นข้อเสนอที่เขาไม่เคยคาดว่าจะได้รับจากใครในชีวิตนี้ เมื่อออกจากคุกแล้ว เขาจึงไปอยู่กับแม่ของเด็กที่ถูกเขาฆ่าตาย เธอหางานให้เขาทำ ทั้งสองอยู่ด้วยกันเหมือนแม่ลูก เด็กคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นอย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ความคิดความอ่านนิสัยใจคอของเขาเปลี่ยนแปลงไป จากเด็กไม่ดีในอดีต กลายเป็นคนดีในปัจจุบัน

วันหนึ่ง แม่ใหม่ ของเขาถามเขาว่า "จำวันที่ศาลตัดสินแล้วแม่วิ่งเข้าไปบอกว่า "ฉันจะฆ่าเธอ" ได้มั๊ย"

เด็กหนุ่ม "ผมจำได้ครับ แล้วเดี๋ยวนี้แม่ยังคิดอย่างนั้นอยู่มั๊ยครับ"

แม่ใหม่ "แม่ได้ฆ่าเด็กคนนั้นไปแล้วล่ะ คนใจบาปที่ฆ่าลูกของแม่ได้ตายไปแล้ว ตอนนี้มีแต่เธอซึ่งเป็นคนดี เป็นลูกใหม่ที่แม่ภาคภูมิใจ"

เมื่อแรกที่ศาลตัดสินจำคุกเด็กหนุ่มเมื่อหลายปีก่อน เธอยังเต็มไปด้วยความแค้นและเสียใจ หลังจากนั้นไม่นาน เธอพิจารณาไตร่ตรองดูและคิดได้ว่า การแก้แค้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แก่ใคร เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเด็ก แต่เกิดจากเหตุปัจจัยของสภาพแวดล้อมและการขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่

เธอจึงเปลี่ยนใจ คิดจะฆ่าความชั่วของเด็กแทนที่จะฆ่าตัวเด็ก เธอวางแผนระยะยาวที่จะฆ่าความชั่วด้วยความรักความเมตตา เพราะเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้ แม้จะเคยเป็นอันธพาลฆ่าคนมาแล้วก็ยังสามารถพัฒนาตนเป็นคนดีได้ และความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

http://www.luangpordu.com/?cid=453342&f ... c_id=92117

:b41: :b46: :b53: :b42: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 21:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


narapan เขียน:
:b12: แถมให้อีกเรื่องครับ

ฉันจะฆ่าเธอ !!

จากหนังสือ "เรื่องท่านเล่า" โดยพระอาจารย์ชยสาโร - เรียบเรียงโดยคุณศรีวรา อิสสระ


:b41: :b46: :b53: :b42: :b39:


สาธุ :b8: ขอให้ จขกท.เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2011, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: ดำเนินการให้แล้วค่ะ

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร