http://www.antiwimutti.net/forum/index. ... 445.0.html



แอบไปดูลานธรรมจักรมา หน้าเก่าลานธรรมไปที่นั่นหลายอยู่
แล้วก็ไปกล่าวปรามาสท่านพุทธทาสอีกแล้ว ไม่รู้กล่าวว่าหลวงปู่มั่นอีกหรือเปล่า
เขาเคยกล่าวว่า นิพพานในแบบพระอาจารย์มั่น และท่านพุทธทาสเป็นอัตตโนมติท่านเอง
ตรงนี้ไม่ต้องวิจารณ์ต่อนะคะ แค่้ต้องการยกให้เห็นว่า ก่อนเกิดเรื่อง ลพ ปราโมทย์
ลานธรรมเคยปล่อยให้มีการโพสต์อย่างนี้ได้ โดยโทษเบามาก
ต่างกับเรื่องป่าละอู ฯลฯ อย่างชัดเจน...แล้วก็มาบอกว่า
"จะสนับสนุนให้คุยธรรมะ โดยไม่พาดพิงตัวบุคคล.."

เราเอง(ความรู้สึกส่วนตัวนะ) รู้สึกว่า รู้ตัวเมื่อสายไปหรือเปล่า
ก่อนหน้านี้ปล่อยให้มีการโพสต์กันขนาดนั้น แต่เนื่องจากไม่ใช่อาจารย์ตัว
จึงไม่ได้เดือดร้อน แล้วพอเป็นอาจารย์ตัว ก็อย่างที่ทราบๆ กันอยู่
สำหรับเรา ถ้าเค้าจะเปลี่ยนจริงๆ คงขอให้เค้าทำให้เห็นจริงๆ เสียก่อน
ถึงจะพอเชื่อได้ เพราะที่ผ่านมามันช่างมีอะไรมากมาย จนเราไม่รู้สึกว่า
เจตนาดีๆ ที่ลานธรรมบอก มันเป็นอย่างที่เขาว่าจริง เพราะการกระทำมันตรงกันข้าม

นอกจากนี้ ถึงแม้ช่วงหลังที่ลานธรรมเปิดให้คุยธรรมะได้กว้างขึ้น ต่างจากจุดประสงค์เดิม
ที่ตั้งขึ้นเพื่อพูดคุยในกลุ่มเดียวกัน แม้จะกล่าวว่า คุยแนวไหนก็ได้ (ที่ถูกต้อง)
แต่ถ้าติดตามไป จะพบว่า เขาก็จะวกกลับไปที่แนว ลพ ปราโมทย์
ถ้าใครพูดถึงแนวอื่นขึ้นมา โดยเฉพาะพูดเรื่องการทำสมถะ ทำสมาธิ
ก็จะมีคนมาเขียนทำนองว่า กลับไปดูกายดูใจ เดี๋ยวสติมาเอง
ทำสมถะจะเนิ่นช้า, ทำแบบอื่นจะเพ่ง, จะไปกำหนด, ไปจงใจดู ฯลฯ
สุดท้ายถ้าจะคุยกับพวกเขาก็ต้องคุยแบบที่พวกเขาคุย มีอะไรๆ เกิดขึ้นก็ให้ไปส่งการบ้าน
ไปให้หลวงพ่อดูให้ ฯลฯ จนหลังๆ เรารู้สึกว่า แบบนี้มันเปิดกว้างยังไงหว่า ??

ก็บ่นไปตามประสาคนเคยเล่นเวปโน้นน่ะ เผื่อบางคนไม่่ค่อยได้เล่นหรือได้เข้าไป
จะพอได้ฟังเค้าความเดิมบ้าง (ก็ไม่เดิมมาก เป็นช่วงสองสามปีที่ผ่านมา)

เรียน คุณ mes

“สาวิกาน้อย” พยายามเข้าไปสมัครสมาชิก
ที่บอร์ดของเว็บ http://www.antiwimutti.net/
ตั้งหลายต่อหลายครั้ง ปรากฏว่าไม่สำเร็จเลยค่ะ

คืออยากเข้าไปตอบกระทู้ในบอร์ดเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริืง
http://www.antiwimutti.net/forum/index. ... 445.0.html
ที่มีเพื่อนๆ สมาชิกที่เว็บดังกล่าวหลายท่านตั้งข้อสงสัยว่า
ลานธรรมจักรเป็นเครือข่ายลานธรรมหรือเปล่า ???

อาทิเช่น





เลยขอโอกาสชี้แจงไขข้อสงสัย...ในกระทู้นี้เลยนะค่ะ

“เว็บธรรมจักร” http://www.dhammajak.net/ ได้ก่อตั้งขึ้นมา
เพื่อการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนอันเป็นสัมมาทิฏฐิทางพระพุทธศาสนา
ณ เวลานี้ก็ครบรอบ ๗ ปีแห่งการถือกำเนิดก่อร่างสร้างตัวแล้วค่ะ

โดยที่ “เว็บธรรมจักร” เป็นเว็บไซต์ที่มีความเป็นอิสระในนามของตนเอง
ไม่ได้เป็นเครือข่ายของเว็บลานธรรม http://www.larndham.org/ แต่อย่างใด

อีกทั้ง คณะทีมงานของเว็บก็มีความศรัทธาในหลากหลายครูบาอาจารย์
ไม่ใช่ มีเฉพาะศรัทธาในหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เท่านั้นค่ะ
http://www.dhammajak.net/forums/memberlist.php?mode=group&g=2

นอกจากนี้แล้ว กฎกติกาของเว็บ ข้อหนึ่งมีความว่า...
กรุณางดเว้นเรื่องการเมือง, การกล่าวโจมตีสำนักปฏิบัติ
ครูบาอาจารย์ วิธีปฏิบัติ เป็นเหตุสร้างความแตกแยก
และหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมในลานสนทนาธรรม

ทาง “เว็บธรรมจักร” จึงมีจุดยืนที่ไม่ประสงค์จะเข้าไปเกี่ยวข้อง
กับกรณีความขัดแย้ง หรือการกล่าวโจมตีต่อต้านกัน
ระหว่างหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช, หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต,
หลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ฯลฯ แต่ประการใด

แต่หากว่าเป็นการโพสต์กระทู้ที่มีเนื้อหาเพื่อเผยแผ่หลักธรรมคำสอน
ของครูบาอาจารย์แต่ละท่านดังกล่าวนั้น ก็สามารถกระทำได้ตามปกติค่ะ

หากเพื่อนๆ ท่านใดมีข้อสงสัย มีข้อไม่เข้าใจ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับเว็บธรรมจักร
ขอให้สอบถามมาได้ตลอดเวลาเลยนะค่ะ ทางทีมงานของเว็บยินดีให้ความกระจ่างในทุกเรื่องค่ะ

เพื่อนๆ ท่านใดมีความเห็นต่าง หรือมีความเห็นเพิ่มเติมอย่างไร
ก็ขอเชิญแสดงความเห็นได้เลยค่ะ ขอบุญรักษาทุกท่านค่ะ

โดยส่วนตัว จะไม่ค่อยได้เข้า หรือไม่เข้าเลย ในหน้าที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องธรรมะต่างๆ
ทั้งนี้ เพราะ มีแนวคิดที่เป็นของตัวเองแล้ว และไม่ได้ต้องการไปถึงในนิพพาน

แค่ทุกวันนี้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
เป็นพ่อ ก็เป็นพ่อที่ดี ดูแลลูกๆและภรรยา ให้มีความสุขตามอัตภาพ
เป็นลูก ก็เคารพเชื่อฟังพ่อแม่ ดูแลท่านอย่างเต็มที่ ซื้อหาของกิน ของใช้ที่ท่านชอบให้ตามอัตภาพ
เป็นคนไทย ก็รักประเทศ รักในหลวง แสดงออกด้วยความเคารพ
เป็นลูกจ้าง ก็ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ให้นายจ้างรู้สึกว่า เราไม่ได้เอาเปรียบบริษัท ช่วยงานเท่าที่ทำได้
เป็นนายจ้างเอง ก็ทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เอาเปรียบลูกค้า
เป็นคนไทยที่นับถือ ศาสนาพุทธ ก็ทำบุญบ้าง ตามโอกาส สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ และภาวนา ถ้าทำได้ แม้จะได้แค่นานๆครั้ง
เป็นนักโหราศาสตร์ ก็ทำนายพื้นดวงให้คนด้วยความจริง จากหลักวิชา แนะนำ ชี้แนะในสิ่งที่ควรและไม่ควร คนเราพื้นดวงในแต่ละจังหวะ ย่อมมีขึ้นและก็มีลงทุกคนไป ให้รู้ว่าช่วงนี้เราอยู่ในตำแหน่งไหน ใช้ชีวิตด้วยความรอบคอบ
เป็นอาจารย์ดูฮวงจุ้ย ก็ตั้งมั่นในความจริง ตามหลักวิชา แนะนำ ปรับปรุง ชี้แจง และสุดท้าย ก็แนะนำว่า ฮวงจุ้ยดีหรือไม่ดียังไง กรรมที่เรากระทำในทุกๆวัน ทุกๆลมหายใจ มีความหมายและอานุภาพเหนือกว่าหลักฮวงจุ้ยมากมายนัก
เป็นอาจารย์สอน หรือไปบรรยายในที่ต่างๆ ก็ให้ความรู้เต็มกำลังความสามารถ และไม่ลืมที่จะชวนลูกศิษย์หรือผู้ฟังทั้งหลาย ทำกรรมดีเยอะๆ
เป็นคนเล่นเว็บ ก็เปิดทำนายดวงให้คนฟรีๆ ชวนเพื่อนๆมาพิมพ์หนังสือธรรมะร่วมกัน และพิมพ์หนังสือแจกเองตามกำลังทรัพย์ ไม่เบียดเบียนใคร ทำได้เท่าที่เราทำได้

ด้วยเวลาที่ใช้ไปในแต่ละวัน ก็คงทำได้แค่นี้เหละ เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้าห้องดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลง....ถ้าเป็นไปใน...ทางที่ดี

ก็ไม่ควรลังเล แต่กลับต่อรีบทำโดยไม่เนิ่นช้า

และที่สำคัญ....ไม่ต้องเกรงกลัวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์

เพราะ พาลบุคคล กับ กัลยาณบุคคล
ย่อมแสดงออกต่อ...ความดี....ของท่าน....แตกต่างกัน

พระพุทธองค์สอนว่า อย่าเสวนากับ "พาล" นั้น...

ผมเห็นว่า ควรหมายถึง ไม่ควรเก็บเอา

.....วจีทุจริต ของเหล่า "พาล" มาเป็นปรุงแต่งด้วย

ขออนุโมทนาครับ

ไม่สนับสนุนให้เว็บนี้เป็นศาลเตี้ยครับ

ไม่ว่าใครจะกล่าวหาอะไร ไม่ว่าทางโลกทางธรรม
ก็มีกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ทางโลก(ศาล) ทางธรรม(ระบบและประเพณีของสงฆ์)เช่นกัน
ใครคิดว่าบริสุทธิ์ใจ ให้พากันไปออกทางนั้น
คนกล่าวหาก้มีตัวตน ผู้ถูกกล่าวหาก็มีโอกาสอย่างยุติธรรมในการชี้แจง
กระบวนการกล่าวหาก็จะได้เป็นไปโดยยุติธรรม

นี่มีแต่ไอ้โม่งนินจา พากันรู้ดีไปหมดว่าใครมีมรรคมีผลจริงหรือไม่จริง
พากันมาถอดพระ ตั้งพระ กลางตลาดแบบนี้ ใครเขาทำกัน
ขนาดโจรค้ายาบ้า ตำรวจยังต้องพาไปศึกตามประเพณีก่อน
นี่เราต้องรักษาระบบ รักษาประเพณี อย่ามาทำตามอำเภอใจ

นี่ประชาทัณฑ์สุ่มสี่สุ่มห้า
ถอดพระตั้งพระกันสนุกปาก
คัดพระอรหันต์กันจนน้ำลายแตกฟอง
บอกตรงๆ ดูแล้วมันทุเรศมาก

ผมขอไว้สักเว็บเถอะครับ
ที่ไม่ตั้องไปยุ่งกับมรรคกับผลของใครเขา
เอาแค่ฝ่ายเหตุก็พอ ทาน ศีล ภาวนา เราเน้นตรงนั้น

คนสมัยนี้ต้องการธรรมเยียวยาสังคมอย่างมาก หนีร้อนมาพึ่งเย็น
มาถึงแล้วมาเจอผู้ทรงธรรม ฟัดกันอย่างกับอะไรดี

สถานที่สำหรับฟัดกัน ก้มีมากอยู่แล้ว
ถึงกับเปิดเว็บกันหลายเว้บ ทุ่มเงินไปมหาศาลในการทำลายกัน
มีพื้นที่และสรรพกำลังมากพอแล้ว
ใครเขามีอัธยาศัยเดียวกัน เขาคงไหลไปหาเอง

ท่านชาติสยาม

ผมขอประทานโทษที่ไม่ตั้งใจแต่ไปกระทบล่วงเกินท่านชาติสยาม

รวมทั้งท่านอื่นๆด้วย

จุดประสงค์ผมเพียงแต่ต้องการติงการล่วงเกินพระสงฆ์เท่านั้น

ซึ่งผมคงไม่ติดใจอีกแล้วเช่นกัน


ผมขอกราบอภัยทุกท่านจริงๆครับ

ขอถือวิสาสะ นำข้อความของพี่โยมอุปัฏฐาก มาโพสต์ลงในนี้ ถึงคุณชาติสยาม และผู้ดูแลเว็บธรรมจักรทุกๆท่านนะครับ จะลบหรือไม่ลบ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ดูแลแล้วครับ แต่พึงเห็นว่า ผู้โพสต์นี้ หวังดีกับพวกท่านจริงๆ
........................
ถ้าจะวางตัวแบบเอาหูไปนา เอาตาไปไร่
ปล่อยให้ธรรมจอมปลอมถูกเผยแพร่ แต่ธรรมแท้ถูกบิดเบือนและทำลาย
ทำได้ง่าย และได้รับการยกย่องว่ามีภูมิธรรมสูงส่ง รู้จักวางอุเบกขา ไม่ส่งจิตออกนอกไปเรื่องของคนอื่น
พี่โยมก็เคยคิดจะวางตัวแบบนี้เหมือนกัน มันสบายดี ภาพพจน์ดี

พี่โยมมีเพื่อนพี่น้องในลานธรรมมากมาย ทุกคนต่างยกย่องพี่โยม เพราะพี่โยมวางตัวเป็นกลาง
ไม่สนใจชาวแอนตี้ พวกต่อต้าน............... เพราะไม่เกี่ยวกับพี่โยมแต่อย่างใด
พี่โยมไม่เคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ............ ไม่รูตื้นลึกหนาบางอะไร ไม่เคยเสียเวลาหรือหลงทาง
กับการภาวนาเพราะท่าน
พอพี่โยมออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อนพี่น้องหายเรียบ พี่โยมถูกด่าอีกต่างหาก
แต่ก็ปลง ว่าโลกนี้ตกอยู่ในโลกธรรม 8 ดีเหมือนกัน
เราก็จะได้เห็นน้ำใจของเพื่อน ว่าใครคือเพื่อนแท้ ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาไว้
แต่ทำไมพี่โยมจึงไม่นิ่งดูดายในเรื่องนี้


เหตุผล คือ พี่โยมเป็นห่วงพระพุทธศาสนา หลังจากฟังหลวงพ่อมนตรีเทศน์ ในหลายวาระทางเนตที่เพื่อนพี่น้องเอามาลง
ให้อ่าน ประกาศจากสวนพุทธธรรมป่าละอู
ขอถามว่า แล้วทำไมหลวงพ่อมนตรีจึงมาประกาศ ท่านอยู่เฉยๆไม่ดีกว่าหรือ
คำตอบคือท่านเมตตาพุทธศาสนิกชน ไม่ให้เดินทางผิด ท่านสงสาร
และยังมีหลวงพ่อสงบออกมาเทศน์เรื่องคำสอนของหลวงพ่อ.............ว่าสอนผิด ยังชัดเจนไม่เพียงพออีกหรือ

หลวงตาพระมหาบัวท่านกล่าวชมหลวงพ่อสงบหลายครั้งหลายครา ว่าเป็นหลักได้เรื่องการภาวนา
ทำไมเราไม่เชื่อหลวงตา หรือจะเลือกเชื่อเฉพาะที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนและพวกพ้อง
ลานธรรมจะปิดหรือเปิด พี่โยมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร
เพราะที่เข้ามาก็เข้ามาคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ
ไม่เคยเรี่ยไรใครในลานธรรม นอกจากบอกเรื่องมีการทำบุญตึกสงฆ์อาพาธที่นั่นที่นี่
ก็จะคอยดูน้ำใจของผู้ดูแลลานธรรม ว่าท่านจะเลือกที่จะซื่อตรงต่อพระพุทธเจ้าสมกับที่ชอบยกพระไตรปิฎกมาอ้างบ่อยๆ
หรือจะเลือกข้างเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องตนที่ตนเองนับถือ

ท่านจะเลือกข้างกับสิ่งที่ถูกต้องตรงธรรม หรือจะเลือกสิ่งที่ผิดธรรม


ผู้ดูแลแต่ละท่าน เคยคิดจะไปไต่ถามความจริง จากครูบาอาจารย์บ้างมั้ยครับ?

ระวังจะโดนบอมแบบลานธรรมนะครับ
อิอิ

ผมถามกลับบ้างนะ

แล้วทำไม
1. ในข้อหาทางโลก ถึงไม่มีใครเอาผิดตามกระบวนการยุติธรรม

2. ข้อหาในทางธรรมวินัย ทำไม ไม่มีความพยามอันใดเลยที่จะนำไปสู่กระบวนการชำระตามพระธรรมวินัย

ทำไมครับ หรือว่าเก่งกว่าศาล
หรือว่าถึงขั้นถือว่าตัวเองเหนือพระธรรมวินัยกันหมดแล้ว


อีกคำถามหนึ่งเถอะครับ ต่อให้หลวงพ่อสอนผิดนะครับ
ทำไมพวกคุณถึงทำราวกับว่าท่านชั่วช้าสามานย์อะไรขนาดนั้น

ในประเทศไทยนี่นะครับ พระ 100 รูป
สอนไม่ได้เรื่องเสีย 90 รูป ว่ากันตรงๆ
ทั้งทานทั้งศีล เลอะเทอะไปหมด หนักเข้าก็พากันทำเดรัจฉานวิชา
ผมถามหน่อยเถอะ พวกเปรตหิวบุญทั้งหลาย
ทำไมไม่พากันหาวิธีปกป้องพระศาสนา
ต่อมความดี ต่อมศีลธรรมอะไรพวกคุณทำไมมันไม่ทำงานครับ
ทำไม ต่อมเหล่าัน้นถึงมาทำงานจน"เกินปกติ" กับหลวงพ่อปราโมช

ตามเว็บไซต์ ผู้คนเดือดเนื้อร้อนใจ
ผมก็ไม่ใคร่จะเห็นพวกนัก(บ้า)บุญ อย่างพวกคุณ
ได้ใช้สติปัญญาทางธรรมอันเลอเลิศของพวกคุณ ในการเอาธรรมะมาช่วยเขาเลยครับ
พากันแตกฉานในทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค กันหมด
แตกแฉนกันจนแตกฟองเป็นฟ่อนๆ
รู้อริยสัจกันหมด แต่แยกข้อเท้จจริง กับ ความจริง ไม่ออก
พวกคุณไม่อาย แต่ผมอายแทนชาวพุทธ

อีกสักคำถามเถอะครับ
มีใครจะตอบได้ไหม ผู้รู้ดีเรื่องอริยสัจทั้งหลาย ป่านี้แล้ว
ไม่เคยมีใครตอบผมได้เลย ผมถามก็ออกจะง่าย

"ลมพัดประตู เสียงประตูดังปัีง เราตกใจ"
ถามว่า - ความตกใจนี้ จงใจ หรือไม่จงใจ
เอาแค่นี้แหละครับ ถามง่ายๆแค่นี้ ลองดูซิว่าใครจะกล้าตอบ
ถ้าตอบว่า ไม่จงใจ ก้เท่ากับยอมรับว่าหลวงพ่อปราโมทย์สอนถูกในประเด็นนี้
ถ้าตอบว่า จงใจ ก็เท่ากับค้านความเป็นจริง ว่าคุรจงใจที่จะตกใจ ซึ่งเด็กอมมือมันยังรู้ความจริงข้อนี้เลย

มิได้รู้จักหลวงพ่อปราโมช
ไม่เคยรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว
แต่ได้อ่านข้อความจากแต่ละบุคคลที่พยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกคนได้อ่าน
ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับข้อคิดเห็นต่างๆที่นำมาแสดงกัน

แต่ตรงนี้ขอแสดงข้อคิดเห็นในฐานะผู้ปฏิบัติแบบคนทั่วๆไปคนหนึ่งที่พึงแสดงได้
นี่คือ ข้อความเต็มๆ จากกระทู้นี้ ในข้อคิดเห็นที่ได้แสดงไว้
แต่ตอนนี้ได้มีการแก้ไขเป็นบางส่วน เนื่องจากว่า เห็นว่า อาจจะมีข้อความบางส่วน
ไปเบียดเบียนแนวทางการปฏิบัติอื่นๆ โดยมีการยึดมั่นถือมั่นในรูปแบบ
จึงได้มาทำการแก้ไขข้อความ ดังข้อความที่เห็นในกระทู้นี้

viewtopic.php?f=4&t=24490&start=15

ส่วนข้อความข้างล่างนี้ เป็นข้อความเก่าที่เคยโพสเอาไว้ ก่อนที่จะทำการแก้ไข

ขออนุญาติลบข้อความเก่าที่เคยโพสไว้
ตอนนั้นที่โพส เนื่องจากว่า คุณเฉลิมศักดิ์ ได้นำข้อความมากล่าวเพ่งโทษหลวงพ่อพุทธทาส
ข้อความที่ตัวเองได้โพสไปนั้น ไม่ได้เจาะจงถึงเรื่องในกระทู้ที่ตั้งขึ้นมา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน
เพียงแต่เขียนตามความเป็นจริง ให้คนที่ชอบเพ่งโทษนอกตัวได้อ่าน

เมื่อมาเห็นอีกที ข้อความของคุณเฉลิมศักดิ์ ได้ถูกลบทิ้งออกไปแล้ว
ตอนแรกก็ว่าจะลบข้อความที่โพสไว้ออก พอดีมาเห็นคุณกบได้โพสต่อไว้แล้ว และมีชื่อคุณเฉลิมศักดิ์อยู่
หมายถึงว่า คุณกบได้อ่านข้อความทั้งหมดที่คุณเฉลิมศักดิ์ได้นำมาโพสไว้ ก่อนที่จะถูกลบออกไป
ตัวเองก็เลยไม่ได้ลบข้อความที่โพสไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่เป็นไร

ไม่คิดว่า จะมีคนมาอาศัยข้อความเก่าในการสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น
โดยคงอนุมานเอาเองจากการอ่านข้อความ ที่มีเหลืออยู่

บอกได้เลยว่า ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรยังไง นั่นเรื่องของแต่ละคน
ที่มาโพสแค่เจาะจงเรื่องที่คุณเฉลิมศักดิ์นำมาโพส เรื่องอื่นๆไม่เกี่ยว

ใครทำอะไร เจตนาอย่างไร เขาย่อมรับผลที่เขาทำตามนั้น
เราจะไปว่าคนนั้นถูกคนนี้ผิด มันไม่ใช่

เรื่องการปฏิบัติก็เหมือนกัน ได้เข้าไปอ่านแล้วในลิงค์ที่มีคนนำมาให้อ่าน
ตรงนี้ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ

ทุกอย่าง เหตุมี ผลย่อมมี
จริงๆแล้ว ถ้าคนที่นำลิงค์นี้มาแจมในวัดป่า
ถ้าเราเจอตัวเขานะ จะบอกกับเขาเลยว่า เขาควรกราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมชแบบงามๆ
เพราะอย่างน้อย พระท่านก็ไม่ได้สอนให้ไปเป็นขโมยหรอทำผิดศิลเสียที่ไหนกัน
อย่างน้อยตัวผู้ปฏิบัติเองก็ยังได้สร้างเหตุดี ไม่ใช่ไปสร้างอกุศลซะที่ไหนกันล่ะนั่น

การที่นำๆไปพูดกันว่าพระท่านสอนผิดน่ะ ก็อยากจะถามเหมือนกันว่า ผิดตรงไหนเหรอ
ท่านสอนผิดตรงไหน ช่วยชี้แจงให้มันชัดๆกันหน่อย แล้วคนที่คิดว่าตัวเองสอนถูกน่ะ
เมตตากันหน่อยได้ไหม บอกให้ชัดๆทีว่า ที่บอกว่าสอนแบบนั้น แบบนี้ถูกน่ะ สอนแบบไหน
สำนักโน้นก็สอนให้อยู่กับปัจจุบัน สำนักนี้ก็สอนให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วมันผิดตรงไหน

ท่านทำแบบไหน ท่านก็ย่อมสอนแบบที่ท่านทำในแบบของท่าน แล้วท่านสอนผิดตรงไหน
ท่านไม่ได้มีความแตกต่างจากพระอาจารย์ท่านอื่นๆที่สอนเลย จริงไหมล่ะ
พระอาจารย์ท่านอื่นๆ ท่านทำได้แบบไหน ท่านก็สอนแบบที่ท่านทำได้
คนที่ไปหาท่าน ไปปฏิบัติกับท่าน ล้วนเคยสร้างเหตุมาร่วมกับท่าน
ส่วนจะมากหรือน้อย ก็ตามเวลาที่ได้ปฏิบัติกับท่าน หมดเหตุต่อกัน ก็มีเหตุให้ต้องจากกันไป

คนส่วนมากชอบกล่าวโทษนอกตัวเพราะความไม่รู้ โทษโน่น โทษนี่ แต่ไม่เคยย้อนกลับมาดูตัวเองกัน
ใครทำให้ชีวิตเป็นแบบนั้นล่ะ ตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนมาทำให้เกิดเป็นแบบนั้นเลย
สร้างเหตุอย่างไรไว้ ก็ต้องรับผลไปตามนั้น แล้วก็สร้างเหตุใหม่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ

พอมีเรื่องอีก ก็กล่าวโทษนอกตัวต่อไปอีก เพราะคนนั้น คนนี้ ที่ดีคือตัวเองคนเดียว
ดีจริงๆ ดีที่สุด คนอื่นเลวหมด คนอื่นไม่ดี เพราะคนอื่นทำ จึงทำให้ตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้

เคยคิดพิจรณากันบ้างไหม ทำแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว โทษแต่นอกตัว สร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นเนืองๆ
ภพชาติถึงได้ยืดยาวออกไปเรื่อยๆ เพราะความไม่รู้ตัวเดียวนี่แหละ อุปทาน นั่นไม่ดี นี่ไม่ดี
ตัวเองทำไม่ดีเอาไว้ ไม่เคยโทษเลย คนเรานะถ้าโกหกตัวเองได้ กับคนอื่นๆนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย

งั้นดูนะ มีไหม ทำแบบพุทโธแล้วไปสอนแบบพองหนอยุบหนอหรือแบบอื่นๆได้น่ะ
หรือทำแบบพองหนอยุบหนอแล้วไปสอนแบบพุทโธหรือสอนแบบอื่นๆได้น่ะ
หาได้ยากจริงไหม มีแต่จะให้เปลี่ยนรูปแบบที่สำนักนั้นๆปฏิบัติกันอยู่

มีแต่คนที่เจริญสติปัฏฐาน ๔ เท่านั้น ที่แนะนำได้ทุกรูปแบบ
ลองไปสิ มีให้ลองหลายๆที่ ไปใกล้ที่สุดเลยนะ วัดป่าเจริญราชน่ะ

พระอาจารย์ วีระนนท์ วีรนฺนโท ท่านมาจากพุทโธเหมือนกัน
ท่านได้เขียนหนังสือไว้เยอะ เคยได้อ่านเรื่องราวที่ท่านเขียน
ท่านสามารถแนะนำได้ทุกรูปแบบการปฏิบัติ แต่พื้นฐานหลักๆที่วัดใช้คือ พองหนอยุบหนอ

http://watpacharoenrat.webs.com/luangphro.htm


ใครเชื่อใคร ใครไม่เชื่อใคร ล้วนมีเหตุทั้ง



ส่วนข้อความที่คุณผู้หวังดี บอกว่าหวังดีแล้วนำมาแสดงนั้น ดังที่อ้างอิงมา






อ่านข้อความที่เหยียดยาวมาทั้งหมด จับใจความทั้งหมดได้คือ
เป็นการคาดเดาเอาเองของผู้เขียนเรื่องราวมาทั้งหมด

เพราะผู้ที่เข้าใจถึงเหตุที่กระทำและผลที่ได้รับ ย่อมไม่นำมากล่าวเช่นนี้
พระพุทธเจ้าก็ทรงมีหลักแสดงไว้ซึ่งบทกาลามสูตร แล้วจะต้องเดือดร้อนไปทำไม
ในเรื่องของใครเชื่อใคร ใครไม่เชื่อใคร เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ

แล้วอะไรล่ะที่ว่าถูกต้องตรงธรรมหรือสิ่งที่ผิดธรรม
มีแต่ถูกต้องในความคิดของแต่ละคนทั้งนั้นเลย

ตราบใดที่ยังมีกิเลสกันอยู่ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย
เรื่องธรรมดามากๆเลยนะ ย่อมเอาถูกใจตัวเองไว้ก่อน

อ่านแล้วตรงไหนถูกใจตัวเอง ย่อมคิดเข้าข้างตัวเองว่าถูกต้อง
แต่ยังไม่ใช่ถุกต้องตามความเป็นจริงแต่อย่างใด

การปฏิบัติ เขาให้หมั่นทบทวนสภาวะ หมั่นดูกิเลสในใจของตัวเอง
นี่ที่ต้องมาแก้ไขข้อความ ก็เพราะเห็นว่า ข้อคิดเห็นของตัวเองนั้น ไปเบียดเบียนแนวทางการปฏิบัติอื่นๆ
จึงต้องเข้ามาแก้ไข เพราะการเบียดเบียน ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ล้วนส่งผล
การแก้ไข จะได้ผลหรือไม่ได้ผล แต่ขอแก้ไขก็ยังดีกว่าไม่ได้แก้

ส่วนการกระทำ ตามความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ
ตรงนั้นน่ากลัวกว่ามากๆ เพราะไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้
กรรมตรงนั้นส่งผลรุนแรงกว่าแค่การโพสตัวหนังสือ
แต่ขึ้นชื่อว่ากรรมที่กระทำแล้ว เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ควรทำเสียเลยจะดีกว่า

ไม่ได้ประจบสอพลอหรือคิดหยิบยื่นกิเลสความชอบใจให้เกิดขึ้นแก่ใครๆ
แต่พูดตามความจริงว่า บอร์ดธรรมจักรแห่งนี้ เป็นทางหนึ่งที่ทำให้เห็นสภาวะกิเลสได้ชัดเจนมากกว่า
ในการใช้ชีวิตปกติ เพราะมันมีข้อความโชว์ตัวกิเลสที่ได้แสดงในข้อคิดเห็นโชว์เอาไว้

เมื่อตัวเองได้ย้อนกลับมาอ่าน ทำให้เห็นสิ่งที่โพสเอาไว้
ต้องกลับมาพิจรณาตัวเองใหม่ว่า นี่ทำผิดพลาดอีกแล้ว

ทุกๆการผิดพลาด ทำให้เริ่มระมัดระวังตัวเองในการโพสมากขึ้น
ทำให้มีการผิดพลาดในเรื่องกล่าวเพ่งโทษผู้อื่น โดยไม่ได้เจตนาลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

ตราบใดที่ยังมีกิเลส ทุกคน เวลากล่าวอะไร ย่อมเข้าข้างตัวเอง ว่าตัวเองนั้นถูกต้องเสมอ
จะยกข้อความมาตัดแปะ ก็ย่อมคิดว่า นั่นคือ สิ่งที่ถูกต้องเสมอในความคิดของตัวเอง
เพราะถ้าหมดกิเลสแล้ว ย่อมไม่เข้ามาที่เว็บบอร์ดนี้

สำหรับตัวเองนั้น การที่ยังเข้าในบอร์ดนี้อยู่ นั่นคือมาเข้ามาเล่นกับกิเลส
เพื่อสนองกิเลสของตัวเองที่มีอยู่ พร้อมๆกับตรวจสอบหาข้อบกพร่องในตัวเองไปด้วย

การปฏิบัติ จะให้ได้ผล ต้องดูตามความเป็นจริงของสภาวะตัวเองที่เกิดขึ้น
และยอมรับตามความเป็นจริงที่ตัวเองนั้นเป็นอยู่ ไม่ใช่คอยปกปิดหรือปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่

การยอมรับตามความเป็นจริง สักวัน ย่อมเห็นตามความเป็นจริงได้
เหตุที่เกิดขึ้นใหม่ ย่อมสั้นลงไปเรื่อยๆ ผลย่อมน้อยลงไปเรื่อยๆ
โดยไม่ต้องไปนั่งคาดเดาหรือคาดหวังผลตอบกลับมาแต่อย่างใดเลย
เหตุมี ผลย่อมมี เหตุไม่มี ผลย่อมไม่มี

คนมีกิเลส..หากเขาจำเป็นต้องเลือก..ก็เลือกด้วย..โลภ..โกรธ..หลง..ทั้งนั้น
เมื่อเลือกด้วยกิเลส..อย่างนี้แล้ว..จะเชื่อถือสิ่งที่เลือกแล้วว่า..ดี..ตรงธรรม..นั้นจะถูกต้องแล้วหรือ??

แม้ข้างที่เลือก..จะถูกตรงธรรม..แต่คนเลือก..กลับผิด..ข้อนี้คุณTestament พอจะทราบนัยนี้บ้างไหม??

แม้หลวงพ่อท่านเทศน์..ก็เทศน์เพื่อแก้ไข..ท่านทำตามธรรมของท่าน

แต่ที่มา...ให้เขาเลือกข้างอยู่นี้...ทำตามธรรมของกิเลสตัวหรือเปล่า??

กระผมเคารพต่อหลวงพ่อมนตรี..หลวงพ่อสงบ..และ..

กระผมก็มีข้าง..แต่..ไม่คิดจะต้องให้ใครเลือกข้าง..คงไม่ผิดธรรมกระมั้งครับ

ดูแลจิตใจของตัวให้มาก..เฝ้าระวัง..รักษาใจ..อย่าให้จิตใจใหว..ไปตาม..โลกธรรม 8..หลงขันธ์ 5..เวทนา..ตัณหา..นี้ต่างหากที่เป็นงานที่ปุถุชน..ต้องเร่งทำ

เรื่องของหลวงพ่อปราโมทย์นั้น

เรื่องส่วนตัว
ในส่วนที่กล่าวว่าท่านในเรื่องส่วนตัวในบางเวบ ก็รู้สึกว่ามันดูแรงเกินไป คนที่บวชเป็นพระ ท่านก็ต้องรักษาศีลของพระ จะไม่มีความละอายหรือ ที่สำคัญมันมองไม่เห็นสิ่งที่ท่านทำจริงๆ เราเห็นแต่ที่มาเขียนกัน ไม่มีหลักฐานชัดเจน

ถ้าเป็นเรื่องจริง มันก็ไม่เหมาะ ที่จะเอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นมากล่าวโจมตีล้อเลียนแบบในบางกระทู้ มีคำพูดที่เราอ่านแล้ว ต่อให้คนที่โดนกล่าวถึง ไม่ใช่หลวงพ่อแต่เป็นคนอื่น มันก็ไม่ดี ศีลของเรา การสำรวมวาจาใจของเราก็แย่ไปด้วย ใครทำอะไรไม่ดีเขาก็ย่อมได้รับผลกรรมเอง

แต่บางเรื่องก็ไม่อาจปฏิเสธได้นะว่ามันดูขัดกันเองระหว่างแถลงการณ์จากสวนสันติธรรมและคำเทศน์ของหลวงพ่อรวมถึงข้อเขียนที่หลวงพ่อเคยเขียนทั้งสมัยที่ท่านเป็นสันตินันท์หรือหลังจากที่ท่านบวช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหลวงพ่อมนตรี เรื่องการพยากรณ์

คำสอนของหลวงพ่อ
สิ่งที่เราว่ามันสำคัญและน่าเป็นห่วงคือเรื่องคำสอนของหลวงพ่อที่ท่านกล่าวว่าเป็นวิธีการดูจิตแบบหลวงปู่ดูลย์ แล้วจริงๆเป็นการภาวนาแบบหลวงปู่ดูลย์จริงหรือ?

1) เรื่องนี้ เราสามารถคุยกันด้วยเหตุผล อยู่บนฐานของความถูกต้องทางธรรม เพราะมันมีข้อมูลจริง มากมาย ทั้ง หนังสือ เสียงเทศน์ บทความ ของหลวงปู่ดูลย์ หลวงพ่อปราโมทย์ คำสอนของครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ

2) ถ้าอ่านในหนังสือแก่นธรรมคำสอนหลวงปู่ดูลย์ ที่เขียนโดยหลวงพ่อปราโมทย์ , คำสอนหลวงปู่ดูลย์, ข้อเขียนที่หลวงปู่เทสก์เขียนถึงหลวงปู่ดูลย์ในหนังสืออุตโลรำลึก , และคำสอนเรื่องจิตตภาวนาของครูบาอาจารย์ มันเห็นความแตกต่างชัดเจน ทั้งเรื่อง จิตส่งออกนอกเป็นสมุทัย เรืองตัวจิต-อาการจิต เรื่องความสำคัญขององค์สมาธิที่ถ้าหากต้องการดูให้ถึงจิตถึงใจแล้วจิตมันต้องตั้งมั่นแค่ไหน สมาธิแค่ไหนมันถึงจะเอามาเจริญปัญญาเป็นวิปัสสนาจริงๆ

จิตส่งออกนอกเป็นสมุทัย หลวงปู่ดูลย์ท่านกล่าวคลาดเคลื่อนหรือ
หลวงปู่ดูลย์นั้นท่านถึงที่สุดแห่งทุกข์แน่นอน คำพูดที่ออกมาจากท่าน จากพระอรหันต์ จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สละเป็นสละตายกับการปฏิบัติ จะเป็นคำพูดที่เลอะเลือนคลาดเคลื่อนได้หรือ ในบทสนทนาตอบคำถามจิตตภาวนาของท่านกับลูกศิษย์ หลวงปู่ก็กล่าวย้ำเมื่อลูกศิษย์ถามท่านถึงเรื่องอริยสัจนี้ (~ นาทีที่ 18:50) , หลวงปู่เทสก์ท่านก็กล่าวรับรองเรื่องนี้ในหนังสืออุตโลรำลึก

>>file เสียงหลวงปู่ดุลย์ตอบคำถามจิตภาวนา
http://www.4shared.com/audio/QFcY1iti/d-interview-1.html

>>หลวงปู่เทสก์กล่าวรับรองเรื่องจิตส่งออกนอกเป็นสมุทัยในหนังสืออุตโลรำลึก
http://www.4shared.com/document/I4-gJT2t/LpThes-LpDule_from_Uttalo2528.html

>>แก่นธรรมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล โดย หลวงพ่อปราโมทย์
http://www.phuttha.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B0/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A5

ในเมื่อหลวงพ่อปราโมทย์ท่านบอกว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ สืบทอดคำสอนของหลวงปู่ แล้วแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ที่ท่านเขียนถึงคำสอนหลวงปู่ดูลย์ว่าคลาดเคลื่อนแบบนั้น

เราไม่ปฏิเสธว่าวิธีการปฏิบัติของหลวงพ่อปราโมทย์ทำให้คนดีขึ้น ดีกว่าคนอีกหลายคนที่อาศัยผ้าเหลืองมาหากินใบ้หวยสอนให้คนงมงายตื่นมงคล แต่มันใช่วิธีภาวนาแบบหลวงปู่ดูลย์จริงๆหรือ

ครูบาอาจารย์่ท่านก็ออกมาเตือนด้วยเรื่องที่คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ถูกตีความใ้ห้ต่างจากหลักของหลวงปู่ดูลย์จริงๆ

เราภาวนากัน ก็เพื่อรื้อถอนซักฟอกกิเลสกำจัดความโง่ในจิตในใจ แล้วเรื่องนี้จะไม่สำคัญ จะปล่อยไปได้หรือ ในเมื่อมันเป็นเรื่องแก่นของการภาวนา

เห็นด้วยทุกอย่างเลยครับ

แต่ถามว่า

แล้วที่พากันทำสิ่งที่เรียกว่า "แก้ไข" หรือ "รักษาพระสัทธรรม" เนียะครับ
พากันทำยังไงล่ะครับทุกวันนี้ คิดว่าทำอย่างนี้ถูกแล้วหรือ
มันเป็นการพูดถึงอรรถถึงธรรมจริงหรือเปล่า

พากันจะมาสอนเรื่องอริสัจ แล้วแต่ละคนจริตอย่างกับสัตว์ อย่างกับเปรต
จะมาสอนอริยสัจ มันไม่เกินไปหน่อยหรือครับ

ถ้าทุกคนพากันพูดรู้เรื่องได้ครึ่งของคุณ "sukcharo" มันจะดีกว่านี้มาก

นี่เอาเปรต เอาเดรัจฉาน ริอ่านจะมารักษาพระสัทธรรม
อย่างเว็บวัดป่านี่ อุจาดหูอุจาดตามาก โพลแต่ละอันก็อุบาทว์
กระทู้แต่ละอย่างก็สุดพรรณา
antiwimutti อีก หามนุสไม่เจอเลย

แต่ว่าเว็บนี้เราไม่ต้องการให้มารักษาพระสัทธรรมด้วยวิธีการอย่างที่ทำๆอยู่


ผมเรียกร้องเสมอ แต่ไม่เคยมีคนไหนเลยจะตอบได้
ว่าทำไม ในกรณีทางโลก ไม่พากันไปแจ้งความเสีย ว่าเสพเมถุน หรืออะไรต่อมิอะไร

ในกรณีทางธรรม ว่าสอนผิดอย่างนั้นอย่างนี้
ทำไมไม่พากันใช้เครื่องมือทางพระธรรมวินัย ทาง พรบ คณะสงฆ์

ทำไมพากันมาอวดเขี้ยวอวดงา น้ำลายแตกฟองไปวันๆ

แล้วคุณ "sukcharo" ช่วยตอบผมหน่อยว่า
ถ้าตัวคุณเอง เป็นหลวงพ่อปราโมทย์ แล้วมาถูกกล่าวหาโจมตีต่างๆนาๆแบบนี้นะ
คุณคิดว่าสิ่งที่พากันทำกับหลวงพ่อปราโมชนี้ เรียกว่า "เป็นธรรม" แล้วหรือ
ถ้าเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะเรียกว่า "ความเป็นธรรม" หรือเปล่า
ปฏิบัติธรรมกันมานาน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราหรือเปล่า
จะกล่าวหาก็ไม่กล่าวหาให้เป้นเรื่องเป็นราว เป็นแอบด่า แอบตี เป็นอีแอบกันหมด
บอกว่าเขาสอนผิด ก็ไม่พากันส่งเสริมให้พระเขาชำระอธิกรณ์กัน
ผมก็ไม่รู้ว่าพวกคุณนี่ตรรกะวิปลาสกันหมดแล้วหรือยังไง

ต่อให้เลยนะ
ต่อให้พวกคุณเอาหลวงพ่อปราโมชจนตายคาตีนสมใจคุณนะ
โลกนี้ไม่มีหลวงพ่อปราโมชอีก ถามว่าแล้วคุณจะจัดการยังไงกับคนที่คุณคิดว่า "สอนผิด" ที่เหลือ
ถ้ากะจะเอาแต่หลวงพ่อปราโมชตายคาตีนคนเดียว ที่เหลือไม่ยอมทำอะไร
นี่ผมก็บอกได้เลยว่านี่มันเจตนาทำลายบุคคลเท่านั้นเอง ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น
แกล้งปั้นหน้าเป็นคนดีจะมารักษาพระสัทธรรม อ้างแง่หาช่อง พอได้แก้แค้นเอาคืนไปเท่านั้นเอง

คนสอนผิดเต็มบ้านเต้มเมือง สอนยิ่งกว่าผิดอีก ไม่หือไม่อือ
นี่พากันต่อมคนดีแตกเอาแต่กับเรื่องหลวงพ่ออยู่คนเดียว
ถึงกับตั้งเว็บ ล้มเว็บ ถึงกับลงทุนกันขนาดนี้ มันไม่เรียกว่าแค้นส่วนตัว มันจะเรียกว่าอะไร

เอาล่ะ ผมจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีกแล้วนะ
ใครอยากทำอะไรทำไป ผมไม่แตะเรื่องนี้อีกแล้ว
ถ้าวันไหนกรรมมันย้อนกลับเข้าตัว วันไหนรู้สึกไม่ได้รับความเป้นธรรมในชีวิต
ก้ขอให้นึกย้อนตรวจดูว่าเราได้มอบความอยุติธรรมให้ใครหรือเปล่า
นึกขึ้นได้แล้วก็อย่าโอดโอย เลือกเอง ทำเอง โง่เอง อย่าร้อง

ถึงคุณชาติสยาม ในเรื่องการกระทำของคนอื่น เราคงไม่สามารถไปบังคับกำหนดใครได้ และเราไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้

มีพระทำิผิดศีลสอนผิดมากมาย ถามว่าทำไมถึงมาเพ่งที่หลวงพ่อปราโมทย์
สำหรับเรา เราไม่ได้ออกมาแสดงจุดยืนเรื่องความไม่ชอบธรรมในการตีความคำสอนหลวงปู่ดูลย์โดยหลวงพ่อปราโมทย์ด้วยความเกลียดชังส่วนตัว แต่ออกมาเผยแพร่สิ่งที่ครูบา่จารย์ท่านสอนจริงๆ เพราะเราสำนึกในบุูญคุณของหลวงปู่ดูลย์,ครูบา่จารย์ที่ท่านถึงธรรมจริงและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ธรรมะของครูบาอาจารย์ท่านปฏิบัติเรียกว่าเอาชีวิตเข้าแลก ในวัยชราที่ถ้าเป็นคนทั่วไปคงนอนคงพักผ่อนแล้วแต่ท่านก็ยังฝืนธาตุขันธ์ให้ธรรมะแก่ญาติโยม ธรรมะเหล่านั้นสืบทอดมาให้พวกเราไ้ด้อ่านได้ฟังไ้ด้นำไปปฏิบัติ แล้วถ้ามีคนบางคนนำธรรมแท้ของครูบา่จารย์มาแปลงจนแก่นของมันผิดจากความจริง ถ้ารู้แล้วนิ่งเฉยไม่ออกมาเผยแพร่ธรรมะจริงแท้ของครูบา่จารย์ ปกปิดธรรมจริงไม่ให้คนอื่นรู้ ก็ต้องเรียกว่าไม่รู้จักบุญคุณแล้ว เราเชื่อว่ามีคนอีกมากที่รู้สึกไม่ต่างจากเรา

ของปลอมมีจนเกลื่อน ธรรมจริงกว่าจะมีขึ้นมาได้ยากแสนยาก จะไม่ช่วยกันรักษาหรือ ประโยชน์ก้เพื่อพระศาสนาเพื่อคนอีกมากที่แสวงหาพระสัทธรรม

สิ่งที่ทำได้คือ บอกกล่าวถึงธรรมแท้ด้วยจิตเมตตาด้วยความเป็นกัลยาณมิตร ให้ผู้ี่ยังไม่รู้ได้รู้ แต่เขาจะเข้าใจถูกหรือไม่ ก็ต้องอุเบกขา ทุกคนมีกรรมเป็นของตน เราได้ทำในสิ่งสมควรทำแล้ว

จากประสบการณ์ส่วนตัว แม้ว่าจะไม่สำเร็จโดยง่ายแต่ความพยายามดีไม่สูญเปล่า